ตอนที่ 176

ตอนที่ 176

มีคนมากมายเกินไปบนถนนสายนี้ ที่จอดรถจึงเต็มทุกที่ ดังนั้นหลี่เหวินซวนจึงหาที่จอดรถในบริเวณใกล้เคียงแทน

หลังจากจอดรถแล้วพวกเขาจึงเดินมาที่ฟิฟท์อเวนิว

ฟิฟท์อเวนิวควรแก่การเป็นถนนการค้าชั้นนำในรายการสินค้าฟุ่มเฟือยของโลก ทุกคนรู้ว่าที่นี่ขายของฟุ่มเฟือยแต่ก็ยังเต็มไปด้วยผู้คน แม้ในสภาพอากาศร้อนก็ไม่ได้หยุดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกได้เลย

หลังจากมาถึง หลี่เหวินซวนดูเหมือนจะบินได้ เธอจับมือหลิวหมิงอวี่เข้าและออกร้านนั้นร้านนี้จนเขาเวียนหัวไปหมด

ในสายตาของคนอื่นๆ ทั้งสองดูเหมือนเป็นคู่รักตัวน้อยที่มีความสุข

ชายชุดดำสองคนที่เดินตามหลังพวกเขาไม่คิดอย่างนั้น เมื่อเห็นหลี่เหวินซวนเริ่มจับมือหลิวหมิงอวี่พวกเขารู้สึกว่าสมองของพวกเขากำลังจะระเบิด

นายท่านให้ความสำคัญเด็กคนนี้มาก เธอได้รับการเอาอกเอาใจมาโดยตลอด และเขาก็ไม่ได้ต้องการให้เธอมีแฟน เพราะตอนนี้เธออายุเพียง 18 ปีเท่านั้น

ใช่ ชายชุดดำสองคนรู้สึกว่าข้อมูลสำคัญที่พวกเขาพบ ควรได้รับการบอกกล่าวแก่นายท่านอย่างทันท่วงที

อะไร?

คงไม่ใช่แฟนเพิ่งเจอวันนี้ใช่ไหม?

คุยกัน หัวเราะ กินข้าว จูงมือกันไปช๊อป แบบนี้ต้องเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอ?

ไหนบอกว่าไม่เคยเจอกันมาก่อน จนวันนี้?

แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่ามันต่างกันอย่างไร?

หรือชายคนนี้ยังไม่เป็นแฟนของคุณหนู

เป็นไม่เป็นก็ต้องรายงานนายท่านก่อน

ชายชุดดำคนหนึ่งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหมายเลขทันที

จากนั้นมีเสียงคงที่จากอีกด้านหนึ่ง “หูจื่อ เจอลูกสาวฉันหรือยัง?”

เสียงรอบข้างดังเกินไป เขาต้องเพิ่มเสียงของเขาและพูดว่า “นายท่าน ผมพบตัวคุณหนูแล้ว แต่เธอกำลังซื้อของที่ ฟิฟท์อเวนิวกับนายน้อยครับ”

“โอ้ ถ้าเจอกันแล้ว พวกนายสองคนก็คอยดูอยู่ใกล้ ๆ ปกป้องเธอให้ เด็กหนุ่มคนนั้นด้วย”

“รับทราบครับนายท่าน” หูจื่อตอบเสียงดัง

เขาออกคำสั่งอีกครั้ง: “ให้คุณหนูกลับมาที่บ้านหลังจากช้อปปิ้ง วันนี้เป็นวันเกิดของเธอ วันนี้จะมีการจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้เธอที่บ้าน อย่าลืมพาเด็กคนนั้นมาด้วย”

“รับทราบครับนายท่าน”

หูจื่อตอบอีกครั้ง

หลังจากวางสายแล้ว เพื่อนที่อยู่ข้างๆ ก็ถามว่า “พี่หูนายท่านว่าไงนะ?”

หูจื่อกล่าวว่า “ปกป้องคุณหนูกับนายน้อยให้ดี และพาพวกเขากลับบ้านหลังจากช๊อปปิ้งเสร็จ”

“นายน้อย นายน้อยคนไหน?”

หูจื่อชี้ไปที่หลิวหมิงอวี่และพูดว่า “โง่จริงๆ จะเป็นใครได้อีก แน่นอนว่าแฟนของคุณหนู”

“โอ้”

เมื่อเห็นหลี่เหวินซวนดึงหลิวหมิงอวี่ออกจากร้าน ทั้งสองก็เดินตามไปอย่างรวดเร็ว

หลิวหมิงอวี่ไม่สนใจคนทั้งสองที่คอยติดตามอยู่ข้างหลังมากนักสิ่งที่ทำให้หลิวหมิงอวี่ใส่ใจคือหลี่เหวินซวน ที่ถูกชวนให้มาซื้อของขวัญในตอนแรก ตอนนี้เธอกลายเป็นนักช้อปที่พยายามหาสินค้าใหม่ๆ ในร้านอยู่เสมอ

แน่นอนว่าผู้หญิงทุกคนไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็น่ากลัวอย่างยิ่งเมื่อซื้อของ ราวกับว่าเธอใช้พลังงานที่ไม่สิ้นสุด

อันนี้แพงเกินไป หรืออันนั้นถูกเกินไป หรือตัดเย็บไม่ดี กล่าวโดยรวมคือหลี่เหวินซวนสามารถตรวจพบปัญหาได้แม้เพียงเล็กน้อย

หลิวหมิงอวี่เลือกน้ำหอมมาขวดหนึ่ง เมื่อหลี่เหวินซวนเห็นน้ำหอมขวดนี้จึงถูกปฏิเสธ หลิวหมิงอวี่พูดอย่างช่วยไม่ได้ “นี่มันก็โอเคแล้ว”

หลี่เหวินซวนดูไร้เดียงสาและพูดว่า “ฉันแค่ให้คำแนะนำไม่ใช่เหรอ ไน้ำหอมขวดนี้ไม่ดีจริงๆ กลิ่นอ่อนเกินไป ฉันไม่ชอบเลย”

“นี่ไม่ใช่สำหรับคุณ แต่สำหรับแฟนของฉัน” ใบหน้าของหลิวหมิงอวี่เป็นสีดำ และเขามักจะรู้สึกว่าการชวนหลี่เหวินซวนมาช่วยเลือกนั้นไม่ดีอย่างที่คิด

หลี่เหวินซวนยิ้มและตบไหล่หลิวหมิงอวี่แล้วพูดว่า “โอ้ มีแฟนแล้ว ฉันคิดว่าคุณโสด แต่คุณรู้หรือเปล่าว่าแฟนของคุณชอบน้ำหอมอะไร”

น้ำหอมแบบไหน?

ดูเหมือนว่าหวงอวี้จะไม่เคยฉีดน้ำหอมมาก่อน?

หรือใช่?

หลิวหมิงอวี่ไม่สามารถเข้าใจได้ด้วยตัวเองและส่ายหัวอย่างไม่เต็มใจ

“ฉันก็ไม่รู้ แต่ก็ไม่ผิดที่จะซื้อน้ำหอมให้เธอสักหน่อย”

“เฮ้ เป็นแฟนกันได้ยังไง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแฟนคุณชอบน้ำหอมแบบไหน ถ้าอย่างนั้นคุณก็เลือกได้ตามที่ชอบเลย เมื่อถึงเวลานั้นแฟนของคุณจะชอบมันอย่างแน่นอน” หลี่เหวินซวนวางน้ำหอมและเครื่องสำอางไว้ในมือของหลิวหมิงอวี่

หลิวหมิงอวี่ส่ายหัวอย่างลับๆ การเลือกของใช้ผู้หญิงเป็นเรื่องยากจริงๆ เขาอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านและพูดว่า “ด้วยวิธีนี้ เลือกตามความเห็นของคุณ แต่คุณต้องเร่งมือ ไม่เช่นนั้นจะมืดเสียก่อน”

หลี่เหวินซวนกล่าวว่า “ก่อนที่ฉันจะช่วยคุณ ให้ฉันพูดถึงมาตรฐานราคาของขวัญของคุณก่อนไหม?”

หลิวหมิงอวี่โกรธมากจนแทบกระอักลือด สิ่งที่เขาบอกเธอไปก่อนหน้านี้ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง หลังจากเดินซื้อของมาหนึ่งชั่วโมง เธอไม่ได้ช่วยฉันเลือกเลย

เขาพูดอีกครั้งอย่างช่วยไม่ได้ว่า “ของขวัญมูลค่าไม่เกินครึ่งล้านเหรียญ รวมทั้งของขวัญของแฟนฉัน พ่อแม่และน้องสาวของฉัน บวกกับของขวัญที่ถูกกว่าบางอย่าง อาจจะต้องมอบให้กับเพื่อน เพื่อนผู้ชาย และเพื่อนผู้หญิง”

สำหรับครึ่งล้านเหรียญ การซื้อแบรนด์ระดับไฮเอนด์อาจเป็นแค่น้ำหอมหนึ่งขวด หรืออาจจะซื้อน้ำหอมไม่ได้ด้วยซ้ำ

หลิวหมิงอวี่ร่ำรวยในตอนนี้ แต่เขายังมีเงินมากกว่า 2 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีเหรียญจีนมากกว่า 60 ล้านเหรียญ ของขวัญยังคงอยู่ในความสามารถของเขา

หลี่เหวินซวนพยักหน้าและพูดว่า “เข้าใจแล้ว ตอนนี้ฉันจะช่วยคุณเลือกของขวัญ”เอง”

หลิวหมิงอวี่มองหลี่เหวินซวนด้วยสายตาพินิจพิเคราะห์และสงสัยว่าอีกฝ่ายจะเลือกของขวัญที่เหมาะสมได้หรือไม่ มันเป็นไปไม่ได้จริงๆ หลังจากที่เขาแยกจากอีกฝ่ายหนึ่งแล้ว เขาก็แค่หยิบมันขึ้นมาอีกครั้ง

สำหรับพ่อแม่ ไม่สำคัญหรอกว่าจะเป็นของขวัญยี่ห้ออะไร ที่สำคัญคือน้ำใจของลูกชาย

ในเวลาต่อมา ในที่สุดหลี่เหวินซวนก็เลือกของขวัญมาจนครบ

แม้ว่าหลี่เหวินซวนจะถูกขอให้เลือกของขวัญ แต่ของขวัญที่เขามอบให้กับครอบครัวของเขานั้น เขาเลือกด้วยตัวเองย่อมมีความหมายมากกว่า