ตอนที่ 136 งานตรุษจีนของตระกูลซู
นี่คือพ่อมดแห่งวงการนี้ เขาเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีน เขาเป็นมหาเศรษฐีแห่งเอเชียโดยที่ไม่ต้องมีบ่อน้ำมันสักแห่ง
ในอนาคตถ้ามีการจัดอันดับบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ชายคนนี้ก็มักจะติดอันดับอยู่เสมอ
เขาได้ครอบครองตำแหน่งบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกมาหลายสิบปี ปัจจุบันยังแทบไม่มีใครที่ยังจะก้าวข้ามเขาได้
ระหว่างที่ซูข่านกำลังคิดเรื่องนี้ เขารู้สึกด้วยว่าระยะห่างของหลี่เจียเฉิงกำลังจะใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
บางทีในเวลาไม่กี่ปีซูข่านอาจะก้าวข้ามเหนือชายคนนี้ก็ได้
ซูข่านได้ขย้ำกระดาษที่เขียนไว้จนเป็นลูกบอลกลม จากนั้นเขาก็ได้โยนมันลงถังขยะ
เวลาผ่านไปรวดเร็ว เดือนมกราคมก็มาถึง
ในยุคนี้ผู้คนมักจะไม่ค่อยสนใจวันสิ้นปีกันอยู่แล้ว และแน่นอนมันไม่มีเทศกาลนับถอยหลังสู่วันขึ้นปีใหม่
ในประเทศจีนพวกเขาจะให้ความสำคัญกับวันตรุษจีนมากกว่า ซึ่งมันก็มักจะอยู่ในฤดูใบไม้ผลิที่อยู่ห่างออกไปเกือบหนึ่งเดือน
เวลาผ่านไปรวดเร็วอย่างกับโกหก
ตอนนี้ได้ถึงฤดูใบไม้ผลิตแล้ว เทศกาลตรุษจีนก็มาถึง
ซูข่านรู้สึกได้ถึงเทศกาลปีใหม่ของจีน เมื่อก่อนเด็กๆมักจะนำเงินที่ผู้ใหญ่ให้มาซื้อประทัดจุดเล่น
ในสมัยก่อนประทัดยังไม่ได้ข้อห้ามเยอะเหมือนกับปัจจุบัน
บางครอบครัวก็มักที่จะนำเงินไปซื้อเสื้อผ้าฉลองตรุษจีนใส่กันทั้งครอบครัว พวกเขาเชื่อว่ามันจะนำพาสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต
เสื้อผ้าพวกนี้จะขายที่เทศกาลตรุษจีนเท่านั้น มีโอกาสแค่เพียงครั้งเดียวในหนึ่งปี
ในคืนวันตรุษจีน ซูข่านก็ได้กลับมาที่บ้านของเขา เขาได้เจอกับพ่อและแม่
จากนั้นทั้งสามคนก็ได้นั่งรถออกไปที่บ้านของตระกูลซู
เมื่อมาถึงบ้านของตระกูล ซูข่านก็ได้มองรอบๆและก็ยิ้มเบาๆ เขาได้เห็นกับผู้คนโดยรอบของบ้านหลังนี้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วพวกเขาจะเป็นคนแก่ๆที่ใช้ชีวิตมาเกือบร้อยปี
น่าจะเป็นเพื่อนกับปู่ของเขา
พ่อของซูข่านได้เข้าไปในบ้าน ขณะนี้ลุงของเขาและลูกชายของลุงก็ได้มาถึงบ้านหลังนี้แล้วเช่นกัน
ในหนึ่งปี นี่จะเป็นการรวมตัวของตระกูลซูที่จะมีคนมาเยอะที่สุดแล้ว
ซูข่านได้เจอหน้าปู่ของเขา ดูเหมือนว่าใบหน้าของปู่จะมีสีแดงเล็กน้อย น่าจะดื่มกันเล็กน้อยก่อนซูข่านมาถึง
"ไม่เจอกันนานเลยนะครับคุณปู่"
ซูข่านพูดด้วยรอยยิ้ม
คุณปู่ยิ้มและมองดูซูข่านด้วยสายตาที่ชื่นชม
"มานี่ มานั่งกับปู่นี่"
เมื่อซูเหวินได้ยินเขาก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ครั้งนี้ปู่ดูใจดีกับซูข่านเป็นพิเศษ ซูเหวินรู้สึกอิจฉาซูข่านอยู่ภายในใจ
ซูเจียงจุนลุงของซูข่าน เขาเห็นแบบนี้ก็รู้สึกประหลาดใจไม่น้อยไปกว่าลูกชายของเขา เขาได้เพียงแต่นั่งมองดูซูข่านเดินไปนั่งข้างกับพ่อของเขา ปกติตำแหน่งนี้จะต้องเป็นของซูเหวิน
แต่ทำไมตอนนี้ถึงได้เปลี่ยนไปเป็นซูข่านแล้ว
"เจ้าลิงตัวน้อย หลานทำได้ดีมากช่วงนี้"
หลังจากที่ซูข่านได้เดินมานั่ง คุณปู่ก็ได้พูดกับเขา และเอามือมาตบที่ไหล่ของซูข่าน
ซูข่านมองที่ใบหน้าของคุณปู่ เขาเห็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความยินดี ดูเหมือนว่าในใจของตาเฒ่านี่ได้เปลี่ยนไปแล้ว
"ผมคิดไว้แล้วว่าปู่ต้องรู้เรื่องของผม"
ซูข่านยกไหล่ของเขาและหัวเราะออกมา เขาทำเหมือนกับว่าโดนปู่จับได้ซะแล้ว
ตาเฒ่านี่คงรู้เรื่องที่เขาทำแค่ในหนานจิงเท่านั้น น่าจะเห็นจากจางเฉียงและหวางเอ๋อ
แต่ซิงซี กรุ๊ป กับ ว่านเซี่ยง กรุ๊ป ยังคงเป็นความลับอยู่
หากว่าตาเฒ่านี้รู้เข้าละก็…คนที่เป็นทหารมาทั้งชีวิตแบบเขา อาจจะอาละวาดยกใหญ่แน่ๆ
หลานชายของตัวเอง 6 เดือน เขาสามารถทำอะไรต่อมิอะไรได้มากมายกว่าที่ตระกูลซูทำมาทั้งชีวิตอีก
"ซูข่าน แกยังไม่ได้มีงานทะ…."
ซูเหวินพูดจากอีกมุมหนึ่งของโต๊ะ
"พวกเรารีบกินข้าวกันเถอะ"
เมื่อคุณปู่ได้ยินของซูเหวิน เขาก็ให้สัญญาณกับคนใช้ของเขา
ไม่นานอาหารก็ถูกยกมาเสริฟเต็มโต๊ะ
ส่วนใหญ่ก็เป็นเนื้อสัตว์ซะส่วนมาก มีผักเพียงไม่กี่จานเท่านั้น
ในหนานจิงมีเพียงไม่กี่ครอบครัวเท่านั้นที่จะมีมื้ออาหารที่พิเศษแบบนี้
แต่อาหารแต่ละอย่างไม่ได้ทำมาจนเป็นจานใหญ่ แต่จานทำออกมาได้…เรียกได้ว่าแทบจะพอดีสำหรับทุกคน
มันคงเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพวกเขาถูกปลูกฝังมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ในสมัยก่อนพวกเขาก็ไม่ได้มีเงินมากเท่าตอนนี้ คนแก่ก็มักจะประหยัดในเรื่องที่เขาทำได้
"เอ่อ"
ซูเจียงจุนได้ยินเขาก็ขมวดคิ้วและมองไปที่ซูข่าน เขารู้สึกถึงบางอย่างที่แปลกออกไป นี่เป็นครั้งแรกที่พ่อของเขาได้ขัดจังหวะการพูดของซูเหวิน
เมื่อก่อนนี้ซูเหวินคือความภาคภูมิใจของตระกูลซู พ่อมักชอบพูดถึงซูเหวินอยู่บ่อยครั้ง เขามักจพชวนซูเหวินไปพูดคุยเป็นการส่วนตัวอยู่เรื่อยๆ แต่ทำไมถึงได้ขัดคำพูดของซูเหวิน
หลานชายไปทำอะไรกับพ่อของเขา ทำไมพ่อถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้
ซูเจียงจุนสงสัยในตัวของซูข่านอย่างมาก
ซูข่านไม่ได้พูดอะไรตอบ เขายิ้มอย่างมีความสุขที่ได้เห็นตาเฒ่านั่นได้พูดขัดจังหวะลูกพี่ลูกน้องของเขา
ดูเหมือนว่าภายในใจของตาเฒ่าจะเห็นซูข่านเป็นคนสำคัญของตระกูลแล้ว
คนในครอบครัวตระกูลซูก็ตะลึงที่เห็นฉากนี้ มีเสียงซุบซิบไปทั่วโต๊ะ
"เกิดอะไรขึ้น ทำไมคุณซูถึงปกป้องซูข่านล่ะ"
"ซูเหวินทำไมไม่ไปนั่งข้างเขา"
"ทุกปีซูเหวินต้องไปนั่งกับเขาไม่ใช่เหรอ ทำไมปีนี้ถึงเป็นซูข่าน"
"เกิดอะไรขึ้นภายในตระกูลซูกันแน่"
"ฉันตาฟาดไปรึเปล่าเนี่ย"
ในวันตรุษจีนคนในตระกูลซูที่แยกย้ายกันไปทำงานก็ได้กลับมาที่บ้านของตระกูลเพื่อเฉลิมฉลอง แต่พวกเขาดูเหมือนจะตกใจกับภาพที่ได้เห็นตรงหน้า
ซูข่านมองไปรอบๆก็เห็นหลายคนเอามือปิดปากและหันไปพูดกับคนข้างๆ
"ซูข่านนั่งตรงนี้แล้วใช่ไหม อืม อืม"
ชายชราได้หันหน้ามามองซูข่านแล้วพูดกับตัวเอง
"มานี่ มานั่งตรงนี้"
จากนั้นชายชราก็ได้หันไปมองที่ซูเหวินที่กำลังตกตะลึงอยู่ เขาชี้ไปที่เก้าอี้ข้างซ้าย
ซูข่านเห็นภาพนี้ก็เข้าใจความคิดของตาเฒ่านี่ทันที
แม้ว่าตาเฒ่านี้จะภูมิใจในตัวของเขามากแค่ไหน
แต่เขาก็ยังหวังให้สถานการณ์ภายในครอบครัวไม่ร้าวฉานไปมากกว่านี้แน่ๆ เขาต้องพยายามที่จะเอาใจทั้งสองฝ่ายให้เท่ากัน
ซูข่านยิ้มให้กับความคิดของตัวเอง