ตอนที่แล้วตอนที่ 135 กำไรมากกว่า 2 พันล้าน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 137 คนเบื้องหลัง

ตอนที่ 136 งานตรุษจีนของตระกูลซู


นี่คือพ่อมดแห่งวงการนี้ เขาเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีน เขาเป็นมหาเศรษฐีแห่งเอเชียโดยที่ไม่ต้องมีบ่อน้ำมันสักแห่ง

ในอนาคตถ้ามีการจัดอันดับบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ชายคนนี้ก็มักจะติดอันดับอยู่เสมอ

เขาได้ครอบครองตำแหน่งบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกมาหลายสิบปี ปัจจุบันยังแทบไม่มีใครที่ยังจะก้าวข้ามเขาได้

ระหว่างที่ซูข่านกำลังคิดเรื่องนี้ เขารู้สึกด้วยว่าระยะห่างของหลี่เจียเฉิงกำลังจะใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

บางทีในเวลาไม่กี่ปีซูข่านอาจะก้าวข้ามเหนือชายคนนี้ก็ได้

ซูข่านได้ขย้ำกระดาษที่เขียนไว้จนเป็นลูกบอลกลม จากนั้นเขาก็ได้โยนมันลงถังขยะ

เวลาผ่านไปรวดเร็ว เดือนมกราคมก็มาถึง

ในยุคนี้ผู้คนมักจะไม่ค่อยสนใจวันสิ้นปีกันอยู่แล้ว และแน่นอนมันไม่มีเทศกาลนับถอยหลังสู่วันขึ้นปีใหม่

ในประเทศจีนพวกเขาจะให้ความสำคัญกับวันตรุษจีนมากกว่า ซึ่งมันก็มักจะอยู่ในฤดูใบไม้ผลิที่อยู่ห่างออกไปเกือบหนึ่งเดือน

เวลาผ่านไปรวดเร็วอย่างกับโกหก

ตอนนี้ได้ถึงฤดูใบไม้ผลิตแล้ว เทศกาลตรุษจีนก็มาถึง

ซูข่านรู้สึกได้ถึงเทศกาลปีใหม่ของจีน เมื่อก่อนเด็กๆมักจะนำเงินที่ผู้ใหญ่ให้มาซื้อประทัดจุดเล่น

ในสมัยก่อนประทัดยังไม่ได้ข้อห้ามเยอะเหมือนกับปัจจุบัน

บางครอบครัวก็มักที่จะนำเงินไปซื้อเสื้อผ้าฉลองตรุษจีนใส่กันทั้งครอบครัว พวกเขาเชื่อว่ามันจะนำพาสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต

เสื้อผ้าพวกนี้จะขายที่เทศกาลตรุษจีนเท่านั้น มีโอกาสแค่เพียงครั้งเดียวในหนึ่งปี

ในคืนวันตรุษจีน ซูข่านก็ได้กลับมาที่บ้านของเขา เขาได้เจอกับพ่อและแม่

จากนั้นทั้งสามคนก็ได้นั่งรถออกไปที่บ้านของตระกูลซู

เมื่อมาถึงบ้านของตระกูล ซูข่านก็ได้มองรอบๆและก็ยิ้มเบาๆ เขาได้เห็นกับผู้คนโดยรอบของบ้านหลังนี้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วพวกเขาจะเป็นคนแก่ๆที่ใช้ชีวิตมาเกือบร้อยปี

น่าจะเป็นเพื่อนกับปู่ของเขา

พ่อของซูข่านได้เข้าไปในบ้าน ขณะนี้ลุงของเขาและลูกชายของลุงก็ได้มาถึงบ้านหลังนี้แล้วเช่นกัน

ในหนึ่งปี นี่จะเป็นการรวมตัวของตระกูลซูที่จะมีคนมาเยอะที่สุดแล้ว

ซูข่านได้เจอหน้าปู่ของเขา ดูเหมือนว่าใบหน้าของปู่จะมีสีแดงเล็กน้อย น่าจะดื่มกันเล็กน้อยก่อนซูข่านมาถึง

"ไม่เจอกันนานเลยนะครับคุณปู่"

ซูข่านพูดด้วยรอยยิ้ม

คุณปู่ยิ้มและมองดูซูข่านด้วยสายตาที่ชื่นชม

"มานี่ มานั่งกับปู่นี่"

เมื่อซูเหวินได้ยินเขาก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ครั้งนี้ปู่ดูใจดีกับซูข่านเป็นพิเศษ ซูเหวินรู้สึกอิจฉาซูข่านอยู่ภายในใจ

ซูเจียงจุนลุงของซูข่าน เขาเห็นแบบนี้ก็รู้สึกประหลาดใจไม่น้อยไปกว่าลูกชายของเขา เขาได้เพียงแต่นั่งมองดูซูข่านเดินไปนั่งข้างกับพ่อของเขา ปกติตำแหน่งนี้จะต้องเป็นของซูเหวิน

แต่ทำไมตอนนี้ถึงได้เปลี่ยนไปเป็นซูข่านแล้ว

"เจ้าลิงตัวน้อย หลานทำได้ดีมากช่วงนี้"

หลังจากที่ซูข่านได้เดินมานั่ง คุณปู่ก็ได้พูดกับเขา และเอามือมาตบที่ไหล่ของซูข่าน

ซูข่านมองที่ใบหน้าของคุณปู่ เขาเห็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความยินดี ดูเหมือนว่าในใจของตาเฒ่านี่ได้เปลี่ยนไปแล้ว

"ผมคิดไว้แล้วว่าปู่ต้องรู้เรื่องของผม"

ซูข่านยกไหล่ของเขาและหัวเราะออกมา เขาทำเหมือนกับว่าโดนปู่จับได้ซะแล้ว

ตาเฒ่านี่คงรู้เรื่องที่เขาทำแค่ในหนานจิงเท่านั้น น่าจะเห็นจากจางเฉียงและหวางเอ๋อ

แต่ซิงซี กรุ๊ป กับ ว่านเซี่ยง กรุ๊ป ยังคงเป็นความลับอยู่

หากว่าตาเฒ่านี้รู้เข้าละก็…คนที่เป็นทหารมาทั้งชีวิตแบบเขา อาจจะอาละวาดยกใหญ่แน่ๆ

หลานชายของตัวเอง 6 เดือน เขาสามารถทำอะไรต่อมิอะไรได้มากมายกว่าที่ตระกูลซูทำมาทั้งชีวิตอีก

"ซูข่าน แกยังไม่ได้มีงานทะ…."

ซูเหวินพูดจากอีกมุมหนึ่งของโต๊ะ

"พวกเรารีบกินข้าวกันเถอะ"

เมื่อคุณปู่ได้ยินของซูเหวิน เขาก็ให้สัญญาณกับคนใช้ของเขา

ไม่นานอาหารก็ถูกยกมาเสริฟเต็มโต๊ะ

ส่วนใหญ่ก็เป็นเนื้อสัตว์ซะส่วนมาก มีผักเพียงไม่กี่จานเท่านั้น

ในหนานจิงมีเพียงไม่กี่ครอบครัวเท่านั้นที่จะมีมื้ออาหารที่พิเศษแบบนี้

แต่อาหารแต่ละอย่างไม่ได้ทำมาจนเป็นจานใหญ่ แต่จานทำออกมาได้…เรียกได้ว่าแทบจะพอดีสำหรับทุกคน

มันคงเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพวกเขาถูกปลูกฝังมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ในสมัยก่อนพวกเขาก็ไม่ได้มีเงินมากเท่าตอนนี้ คนแก่ก็มักจะประหยัดในเรื่องที่เขาทำได้

"เอ่อ"

ซูเจียงจุนได้ยินเขาก็ขมวดคิ้วและมองไปที่ซูข่าน เขารู้สึกถึงบางอย่างที่แปลกออกไป นี่เป็นครั้งแรกที่พ่อของเขาได้ขัดจังหวะการพูดของซูเหวิน

เมื่อก่อนนี้ซูเหวินคือความภาคภูมิใจของตระกูลซู พ่อมักชอบพูดถึงซูเหวินอยู่บ่อยครั้ง เขามักจพชวนซูเหวินไปพูดคุยเป็นการส่วนตัวอยู่เรื่อยๆ แต่ทำไมถึงได้ขัดคำพูดของซูเหวิน

หลานชายไปทำอะไรกับพ่อของเขา ทำไมพ่อถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้

ซูเจียงจุนสงสัยในตัวของซูข่านอย่างมาก

ซูข่านไม่ได้พูดอะไรตอบ เขายิ้มอย่างมีความสุขที่ได้เห็นตาเฒ่านั่นได้พูดขัดจังหวะลูกพี่ลูกน้องของเขา

ดูเหมือนว่าภายในใจของตาเฒ่าจะเห็นซูข่านเป็นคนสำคัญของตระกูลแล้ว

คนในครอบครัวตระกูลซูก็ตะลึงที่เห็นฉากนี้ มีเสียงซุบซิบไปทั่วโต๊ะ

"เกิดอะไรขึ้น ทำไมคุณซูถึงปกป้องซูข่านล่ะ"

"ซูเหวินทำไมไม่ไปนั่งข้างเขา"

"ทุกปีซูเหวินต้องไปนั่งกับเขาไม่ใช่เหรอ ทำไมปีนี้ถึงเป็นซูข่าน"

"เกิดอะไรขึ้นภายในตระกูลซูกันแน่"

"ฉันตาฟาดไปรึเปล่าเนี่ย"

ในวันตรุษจีนคนในตระกูลซูที่แยกย้ายกันไปทำงานก็ได้กลับมาที่บ้านของตระกูลเพื่อเฉลิมฉลอง แต่พวกเขาดูเหมือนจะตกใจกับภาพที่ได้เห็นตรงหน้า

ซูข่านมองไปรอบๆก็เห็นหลายคนเอามือปิดปากและหันไปพูดกับคนข้างๆ

"ซูข่านนั่งตรงนี้แล้วใช่ไหม อืม อืม"

ชายชราได้หันหน้ามามองซูข่านแล้วพูดกับตัวเอง

"มานี่ มานั่งตรงนี้"

จากนั้นชายชราก็ได้หันไปมองที่ซูเหวินที่กำลังตกตะลึงอยู่ เขาชี้ไปที่เก้าอี้ข้างซ้าย

ซูข่านเห็นภาพนี้ก็เข้าใจความคิดของตาเฒ่านี่ทันที

แม้ว่าตาเฒ่านี้จะภูมิใจในตัวของเขามากแค่ไหน

แต่เขาก็ยังหวังให้สถานการณ์ภายในครอบครัวไม่ร้าวฉานไปมากกว่านี้แน่ๆ เขาต้องพยายามที่จะเอาใจทั้งสองฝ่ายให้เท่ากัน

ซูข่านยิ้มให้กับความคิดของตัวเอง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด