ตอนที่ 135 กำไรมากกว่า 2 พันล้าน
2-3 วันต่อมาซูข่านก็ได้กลับมาที่บ้านของเขา หลังจากธุระของในเจียงหนานหมดลง เขาก็รีบเดินทางกลับมาหนานจิงทันที เขาใช้เวลาอยู่บนรถไฟหลายวันในการเดินทาง
สูเจิ้งเหมายังมีงานของเขาต่อในเจียงหนาน เขาได้เดินทางไปยังโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าต่างๆและมอบคำสั่งซื้อจำนวนมากให้กับพวกเขา
บางโรงงานก็ได้ถูกรวมกับเข้ากลุ่มอุตสาหกรรมว่านเซี่ยงของซูข่าน
ในเวลา 2-3 วันที่ได้อยู่ที่เจียงหนาน ซูข่านได้ไปเที่ยวชมเมืองซูโจวและหางโจว
หลายครอบครัวที่นี่ก็ไม่แตกต่างกับที่หนานจิงมาก ผู้คนยังคงตั้งหน้าตั้งตาทำงานหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ดูเหมือนแต่ก็แตกต่างอยู่ไม่น้อย
ขณะเดียวกัน KFC สาขาที่ 2 ของหนานจิงก็ได้เปิดทำการ รายได้ของสาขาแรกไม่ได้ลดลงตามที่ซูข่านคาดไว้ แต่กลับเพิ่มสูงขึ้นไปอีก
ยอดขายต่อวันของ 2 สาขาตอนนี้เกิน 10,000 หยวนเข้าไปแล้ว ตัวเลขจำนวนนี้ดูน่ากลัวมากสำหรับยุคนี้
ชื่อของหวางเอ๋อได้ดังเพิ่มขึ้นไปอีกในหนานจิง จากการเปิดร้านสาขาที่ 2
ซูข่านกลับมารับรู้เรื่องราวพวกนี้ได้ทันเวลาพอดี
"ฤดูหนาวแล้วสินะ"
ซูข่านมองดูต้นไม้ใหญ่หน้าบ้าน ใบไม้ได้ร่วงหมดต้นแล้ว ตอนนี้เป็นเดือนธันวาคม
เวลาได้ผ่านไปอย่างช้าๆ และรวดเร็วสลับช่วงกัน เหมือนม้าที่ได้เดินบนสะพานและได้วิ่งบนทุ่งหญ้า
หลังจากที่ซูข่านได้เกิดใหม่ เขาก็ได้ใช้ชีวิตมาแล้วกว่าครึ่งปี
เร็วอะไรอย่างนี้!!
ซูข่านประหลาดใจ
ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ซูข่านได้สร้างสรรค์อะไรต่างๆออกมามากมาย บางอย่างก็มีผลลัพธ์ให้เห็นได้ทันที บางอย่างก็ต้องใช้เวลาอีกหลายปีถึงจะเห็นผลลัพธ์
อีกไม่นานก็จะก้าวเข้าสู้ปี 1980 แล้ว
ซูข่านรู้สึกใจหายเล็กน้อยที่เวลาได้ผ่านไปเร็วมาก
ไม่กี่วันต่อมาซูข่านก็ได้ข่าวจากเซียงเจียง ข่าวครั้งนี้ทำให้ซูข่านประหลาดใจขึ้นไปอีก
ราคาน้ำมันโลกตอนนี้ได้เพิ่มขึ้นกว่าเดิมอีกมาก
โดยประมาณแล้วตอนนี้ราคาน้ำมันสูงกว่าเดิมถึง 5 ดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 30%
เท่ากับว่าตอนนี้เงินที่ซูข่านได้ลงไปกับฟิวเจอร์น้ำมันและเลเวอเรจ
กำไรของเขาตอนนี้สูงกว่า 2,000 ล้านแล้ว
นี่เป็นการได้กำไรที่เยอะที่สุดของเขาแล้วหลังจากได้กลับมาเกิดใหม่
บริษัทว่านเซี่ยงได้กำไรสูงกว่า 2,000 ล้านหลังจากที่ได้กำไรครั้งล่าสุดคือจากหุ้นใน HSBC
จางหม่านที่อยู่แสนไกลจากหนานจิง
เธอกำลังจ้องไปที่ตัวเลขด้วยดวงตาที่โตของเธอ เธอคำนวนกำไรที่ได้ตามสถิติล่าสุด
2,000 ล้าน!!
จากเป็นนักต้มตุ๋นหลอกลวงคนอื่นไปวันๆ ตอนนี้เธอกลายเป็นประธานหม่านที่รับผิดชอบในการดูแลเงินหลายพันล้านแล้ว
เธอหยิกแก้มของเธออีกครั้ง เธอยังคิดว่าเรื่องตอนนี้เป็นเพียงแค่ฝันเท่านั้น
จางหม่านได้มองไปที่หลู่เฉียนซานอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง ราคาน้ำมันเป็นไปตามที่หลู่เฉียนซานทำนายไว้จริงๆ เจ้านายก็ได้ทำนายแบบเดียวกับเธอ
จากนั้นจางหม่านก็ได้ยิ้มและพูดกับหลู่เฉียนซานว่า
"จากที่ฉันได้คุยกับเจ้านายล่าสุด เขาต้องการให้คุณต้องทีมการเงินขึ้นมา"
"ค่ะ"
หลู่เฉียนซานพยักหน้า
"ฉันมีเพื่อนที่เคยเรียนแผนกการเงินด้วยกัน พวกเขาน่าจะอยากมาทำงานร่วมกับพวกเรา"
นับตั้งแต่บริษัทว่านเซี่ยงได้ก่อตั้งมา ตอนนี้พวกเขาสามารถทำกำไรได้มากกว่า 2,000 ล้านแล้ว
แม้แค่ธนาคารระดับโลกบางแห่งยังไม่สามารถทำได้แบบนี้
ถึงตอนนี้จะยังไม่ได้เงินก้อนนั้นมาจริงๆ แต่ก็ถือว่าเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในบริษัทตอนนี้
หลู่เฉียนซานรู้สึกว่าเพื่อนของเธอจะต้องสนใจบริษัทที่น่าอัศจรยย์แบบนี้แน่นอน
"คุณสามารถจัดการทีมของคุณได้อย่างเต็มที่ เจ้านายบอกว่าแผนกการเงินของคุณ จะให้คุณเป็นคนจัดการทั้งหมด ในอนาคตเราจะก้าวเข้าสู้ตลาดการเงินในฮ่องกง"
หลังจากที่ได้คุยกับเจ้านายล่าสุด ซูข่านได้บอกกับจางหม่านว่า ถ้าราคาน้ำมันขึ้น 5 ดอลล่าห์ให้เธอสั่งหลู่เฉียนซานจัดตั้งทีมแผนกการเงินขึ้นมา
บริษัท ว่านเซี่ยง กรุ๊ป จะแบ่งย่อยลงไปอีกในอนาคต ตอนนี้บริษัทเพิ่งก่อตั้งได้ไม่นาน แม้ว่าจะมีเงินเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะแบ่งบริษัทไปทำอย่างอื่นได้
ในอนาคตซูข่านวางแผนว่าจะให้บริษัทว่านเซี่ยง มีเครือย่อยเป็นบริษัทต่างๆที่เป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะทางสูง
ตอนนี้เขากำลังจะให้หลู่เฉียนซานจัดตั้งทีมการเงินขึ้นมาก่อน
ทั้งหลู่เฉียนซานและจางหม่าน ทั้งสองคนไม่คิดเลยว่าแผนกการเงินที่พวกเธอกำลังจะตั้งขึ้นมา ในอนาคตจะมีชื่อเสียงในตลาดการเงินระหว่างประเทศมากแค่ไหน
เทพเจ้าแห่งหุ้นอย่างบัฟเฟตต์จะต้องสั่นสะท้านแน่นอน มีคู่แข่งในประเทศจีนขึ้นมาต่อสู้กับพวกเขา
นี่คงจะเป็นสงครามในวงการหุ้นที่น่าสนุกที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมา
ในเวลาเดียวกันซูข่านที่อยู่ในหนานจิง เขาก็ได้ย้ายโต๊ะและเก้าอี้ตัวโปรดของเขาไปไว้ในบ้าน
เขากำลังเขียนอะไรบางอย่างอยู่บนโต๊ะในบ้าน มีการวาดวงกลมและเขียนชื่อลงไป มีการลากเส้นต่างๆเชื่อมโยงและเขียนจำนวนปีไว้กำกับ
ตัวอย่างที่ซูข่านได้เขียนลงไปก็มีพวก อุตสาหกรรมว่านเซี่ยง,หลักทรัพย์ว่านเซี่ยง,อสังหาว่านเซี่ยง เป็นต้น
ในกระดาษที่เขียนชื่อลงไปมากมาย ซูข่านได้เน้นให้กับอสังหาว่านเซี่ยงมากที่สุด
"เฮ้อ"
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วที่ซูข่านได้หายใจเร็วแบนี้
ดวงตาของเขาจ้องไปที่ชื่ออสังหาว่านเซี่ยงโดยไม่กระพริบ
นอกจากการทีมการเงินที่จะมาทำเกี่ยวกับหลักทรัพย์แล้ว ซูข่านคิดว่าเขาจะตั้งบริษัทที่จัดทำอสังหาริมทรัพย์เร็วๆนี้
อีกไม่กี่สิบวันก็จะเป็นวันปีใหม่แล้ว ในตอนนั้นราคาของที่ดินในเซียงเจียงคงจะเริ่มผันผวนอย่างมาก
ราคาบ้านจะตกลงจากจุดสูงสุด ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนได้ล้มละลายเพราะเหตุนี้ แต่พวกที่ซื้อหุ้นอสังหานี่น่าสงสารยิ่งกว่า
นอกจากจะหมดตัวแล้ว พวกเขายังจะเป็นหนี้อีกหลายล้าน บางบริษัทอาจเป็นหนี้ถึงร้อยล้าน
มันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่เกิดขึ้นในเซียงเจียง
ไม่ว่าจะพยายามแก้ยังไงเรื่องนี้จะต้องเกิดขึ้น ไม่มีใครที่จะสามารถหยุดเรื่องนี้ได้
ซูข่านกำลังเล็งเห็นถึงประโยชน์จากสถานการณ์นี้ เขาต้องการให้กลุ่มอสังหาว่านเซี่ยงของเขาทำการซื้อที่ดินที่ราคาถูกจำนวนมากมาเก็บไว้
ระหว่างที่คิดเรื่องนี้ซูข่านก็ได้คิดถึงคนๆหนึ่ง
คนจากตระกูลหลี่
ไม่น่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์หริอว่าจะเป็นราคาน้ำมัน ชายคนนี้เป็นคนที่สามารถเอาผลประโยชน์มาใส่ตัวเองได้มากที่สุดคนหนึ่ง
เรียกได้ว่าเป็นซูเปอร์แมนของวงการนี้เลยก็ได้ ภายใต้สถานการณ์ที่ยากลำบาก เขาได้ใช้ประโยชน์จากตรงนี้ตั้งตัวขึ้นมาเป็นใหญ่
ท้ายที่สุดแล้วชายคนนั้นก็จะเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดคนหนึ่งของประเทศจีน
ซูข่านมองไปที่ชื่อบริษัทอสังหาว่านเซี่ยงของเขา ปากกาในมือของซูข่านก็ได้เขียนอักษรธรรมดา 3 คำ แต่อักษรพวกนั้นกลับมีพลังบางอย่างส่งออกมาให้กับซูข่าน
"หลี่ เจีย เฉิง"