SN-ตอนที่ 9 จุดจบ...และจุดเริ่มต้น
30/10/2117—1 ปีต่อมา
“เกมนี้มันยากเกินไป!”อดัมบ่นในขณะที่เขานั่งอยู่หน้าวงแหวนเกมของ อัลดิช และ สวมหมวก VR ที่สมจริงบนศีรษะของเขาขณะที่เขาเล่น Elden World
อดัม ได้เลือกอาชีพ เบอร์เซิร์กเกอร์ มาเล่น แต่แม้กระทั่งทักษะง่าย ๆ ของนักรบก็ทำให้เขาสับสน สิ่งนี้มันทำให้เขาตายไปพร้อมกับ กลุ่ม โทรลล์เลเวล 20
“นายต้องเพิ่มความระวังเอาไว้”อัลดิช กล่าวขณะมองจากเตียงในหอพักเล็ก ๆ ของเขา“และนายจะต้องแน่ใจว่านายได้ใส่ดาบของนายไว้ใน Flame Oil ก่อนจะต่อสู้กับ โทรลล์ มิฉะนั้นการฟื้นฟูของพวกมันจะยากเกินกว่าที่จะรับมือได้”
“แต่ทำไมตัวละครของนายถึงแสดง ‘บูม’ แล้วพวกมันก็ตายกันหมด?”อดัม กล่าวถาม
“นั่นก็เพราะฉันเป็นเนโครแมนเซอร์ ฉันได้ใช้เวทย์มนตร์แห่งความตาย และ เนื่องจาก โทรลล์เหล่านี้มีเลเวลที่ต่ำดังนั้นพวกมันจึงตายจากการใช้ทักษะ [Anti-Life Shell] ของฉันในทันที”อัลดิช กล่าวออกมา
“เห้อ นี่มันสุดยอดเกินไป บางทีฉันน่าจะเลือกอาชีพเดียวกับนาย”อดัม กล่าวออกมา
“นายยังสับสนกับการใช้ทักษะพื้นฐาน 5 อย่างอยู่เลย นายคิดว่านายจะสามารถจัดการบริหารหน่วยมานาขนาดเล็กได้งั้นหรือไม่?”อัลดิช ได้หัวเราะออกมาเล็กน้อย
“มันก็ถูกของนาย”อดัมหยุดเล่นเกมและถอดหมวก VR ออกก่อนที่จะหมุนเก้าอี้ไปทาง อัลดิช
เอเลเน่ ก็อยู่ที่นี่ด้วย ที่ปลายเตียง เธอกำลังอ่านอะไรบางอย่างเหมือนกับที่เธอมักจะอ่านบน Eye-Phone ของเธอ แต่บางครั้งเธอก็เงยหน้าขึ้นมองเพื่อตรวจสอบความคืบหน้าของอดัมในเกม
เอเลเน่ ไม่ได้เล่น Elden World เพราะมีอุปกรณ์เดียวและมันไม่เพียงพอที่จะแบ่งปันระหว่างทั้ง 3 คน แต่แน่นอนว่าเธอเองก็เป็นนักเล่นเกมตัวยง โดยเธอได้นำเกมของเธอมาเองและเล่นเกมอื่น ๆ กับ อัลดิช ซึ่งเธอสามารถเอาชนะเขาได้อย่างสม่ำเสมอไม่ว่าจะเป็นเกมต่อสู้ กลยุทธ์แบบเรียลไทม์ หรือ RPG
อัลดิช เชื่ออย่างเต็มที่ว่าถ้า เอเลเน่ เล่น Elden World อย่างจริงจัง เธอจะสามารถเอาชนะเขาได้อย่างง่ายดายในด้านการใช้ความสามารถของตัวละคร
“1 ปีผ่านไปแล้วไวชะมัด”อดัม กล่าวพูด“ไม่น่าเชื่อว่าเวลาจะผ่านไปไวมาก และ เราก็ผ่านการฝึกฝนในครั้งแรกเช่นเดียวกัน แม้ว่าจะผ่านแบบชุ่ย ๆ ก็ตาม”
อัลดิช พยักหน้า มันเป็นความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมของพวกเขา เพราะหน่วยงานผู้วิวัฒได้กำหนดให้สถาบันฮีโร่ทุกแห่งจัดสอบภาคปฏิบัติทุกปีเพื่อให้แน่ใจว่านักเรียนเหล่านี้มีคุณสมบัติครบถ้วน และ ทำให้ผู้ที่ทำได้ไม่ดีถูกคัดออกจากสถาบัน
โดยทั่วไปแล้ว การฝึกภาคปฏิบัติเหล่านี้ไม่ได้ยากเกินไปนัก เพราะมันมักจะเกี่ยวข้องกับการฝึกฝนและการกู้ภัยขั้นพื้นฐาน แต่นั่นก็มีไว้สำหรับผู้มีพลังพิเศษเท่านั้น
พวกผู้ผิดปกติอย่าง อัลดิช,อดัม และ เอเลเน่ จะต้องทำงานให้หนักขึ้นอย่างน้อย 50 เท่าถึงจะผ่านการทดสอบพื้นฐานแบบเดียวกันแม้ว่าภาคปฏิบัติจะมีความยากที่ต่ำก็ตาม
ระบบคลาสของ แบล็ควอเตอร์ ได้รับการออกแบบมาอย่างเข้มงวดเพื่อให้นักเรียน ผู้วิวัฒส่วนใหญ่ได้รับการฝึกอบรมอย่างเหมาะสม เฉพาะผู้ที่อยู่คลาส A ถึง B เท่านั้นที่ได้รับสิ่งที่คล้ายกับการฝึกที่เหมาะสม สำหรับ คลาส C ลงไป พวกเขาแทบจะไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย ดังนั้นช่องว่างระหว่างด้านบนและด้านล่างจึงเพิ่มขึ้นเมื่อเวลานั้นผ่านไป
แต่สิ่งนี้สามารถมั่นใจได้เลยว่า แบล็ควอเตอร์ ได้พิจารณาและให้ความใส่ใจอย่างเต็มที่กับนักเรียนที่ดีที่สุด และ ในขณะเดียวกัน ก็โยนความทุกข์ทุกอย่างเอาไว้ให้กับพวกคลาสระดับล่าง
เนื่องจาก อัลดิช และ พวกผู้ผิดปกติคนอื่น อยู่ในคลาส F พวกเขาจึงไม่ได้รับอนุญาติให้เข้าร่วมคลาสที่มีประโยชน์หรือแทบทุกการฝึก ดังนั้น พวกเขาจึงเป็นฮีโร่ที่เรียนรู้ด้วยตัวเองอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็น การต่อสู้หรือขั้นตอนการช่วยเหลือที่เหมาะสม และ การเพิ่มความแข็งแกร่งของเฟรม สิ่งนี้ล้วนมาจากการวิจัยออนไลน์และการผสมผสานความรู้ของตัวเอง
จริงอยู่ที่ว่ามีแผนกเทคโนโลยีคอยซ่อมเฟรมให้ แต่การขอให้พวกเขาอัพเกรดหรือติดตั้งอาวุธให้นั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย พวกช่างฝีมือเหล่านี้ ได้มองไปที่ อัลดิช และ ผู้ผิดปกติ และ บอกให้พวกเขาล้มเลิกซะ ส่วนการซ่อมแซมชุดเฟรมของพวกเขาเป็นสิ่งที่พวกเขาสมควรได้รับอยู่แล้ว
อย่างดีที่สุด อัลดิช และ เอเลเน่ ก็สามารถแบล็กเมล์พวกคนจากแผนกเทคโนโลยีได้ โดยพวกเขาได้รับการอนุญาติให้ดูอะไหล่บางส่วนเพื่ออัพเกรด แต่จริง ๆ แล้วการติดตั้งพวกมันก็ทำได้โดยประสบการณ์ของอดัมในฐานะช่างเครือง
อัลดิช ได้ขอให้ ช่างฝีมือทั้ง 6 คนนี้ช่วยเหลือ เพราะการขายยา แก่นักเรียนหลายคน ทำให้พวกเขามีความผิด และ แบล็ควอเตอร์ ก็มีกฏที่เข้มงวด โดย อัลดิช ข่มขู่ว่าจะยุติอาชีพของพวกเขาและส่งพวกเขาเข้าคุก
สิ่งนี้ทำให้พวกช่างฝีมือเหล่านั้นยอมทำตามเพราะมันจะดีกว่าหากพวกเขาปกป้องสถานะที่มีอยู่นี้เอาไว้ได้ เพราะมันดีกว่าการเข้าคุกเป็นไหน ๆ
ในบรรดาผู้วิวัฒภายในสถาบันศึกษาแห่งนี้ นักเรียนที่โดดเด่นที่สุดก็คือ เซ็ท โซลาร์ แต่นอกเหนือจากเขาแล้ว ในบรรดา นักเรียน 25 คน จากคลาส A 10 คนในนั้นมาจากตระกูลชนชั้นสูงที่เป็นที่ยอมรับ และ ที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือ ไม่มีใครที่เป็นทายาทสายตรงหรือได้รับความสนใจจากครอบครัว
แต่ อัลดิช เชื่อว่า นักเรียนที่มีอิทธิพลสูงเหล่านี้ ต่างก็ได้รับการปกป้องเป็นอย่างดี
ไม่ว่า อัลดิช , อดัม และ เอเลเน่ จะสามารถอดทนในฐานะนักเรียนเดอะเฟรมได้ดีแค่ไหน หลังจากที่ แฟรงค์และเจคออกจากสถานพยาบาลไปเนื่องจากอาการบาดเจ็บ
แต่การกลั่นแกล้งจากนักเรียนผู้วิวัฒก็เป็นปัญหาร้ายแรงเช่นเดียวกัน แต่หลังจากช่วง 2-3 เดือนแรก ส่วนใหญ่ก็ได้หยุดมือ เนื่องจากพวก ผู้วิวัฒ ต้องมุ่งเน้นไปที่การแสดงความสามารถของตัวเองเพื่อให้เข้าร่วมคลาส A หรือ B เพื่อยกระดับจากชั้นล่างขึ้นมา
กล่าวคือพวกเขาไม่มีเวลามาสนใจพวกขยะไร้ค่าอย่างนักเรียนเดอะเฟรม
และแน่นอนว่ามันมีบ่อยครั้งที่ เซ็ท และ กลุ่มของเขามักจะมาระบายความโกรธกับสิ่งที่ผิดพลาดของพวกเขาโดยการเอาชนะ อดัม อย่างเลือดเย็นเพราะเขามักจะพูดตอบโต้ และ เขาก็พยายามต่อสู้กับ อัลดิช ทำให้เขาพ่ายแพ้ในช่วง 2-3 ครั้งแรก แต่เนื่องจากเขาไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใด ๆ ต่อพวกเขา ทำให้พวกเขาหมดความสนใจในตัวเขาอย่างรวดเร็ว โดยระบุว่าเขาเป็นพวกโรคจิตที่อดทนต่อความเจ็บปวดได้
“อีกแค่ 3 ปี พวกเราก็จะได้ออกไปจากที่นี่”อดัม กล่าวขณะที่เขาดูรอยฟกช้ำบนใบหน้าของเขาจากการทุบตีอีกครั้งที่มาจากกลุ่มของเซ็ท“หลังจากออกไปฉันก็จะได้กินเบอร์เกอร์ ส่วนเอเลเน่ เธอก็จะสามารถดูแลชายชราที่เป็นผู้มีพระคุณของเธอได้”
“ใช่ ฉันหวังว่าเขาจะยังอยู่แถว ๆ นั้น”เอเลเน่ พยักหน้าพร้อมกับถอนหายใจออกมา ที่ปลายเตียง อัลดิช และ เธอ กำลังนั่งดูบทความเกี่ยวกับซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ของ ชุดเฟรม บน Eye-Phone ของเธอ “บางครั้งเมื่อฉันเรียกเขา เขาก็มีปัญหาเกี่ยวกับการจำเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งมันทำให้เขาทำงานได้ไม่ราบรื่นนัก ฉันเองก็ได้ร้องขอให้เขามองหาผู้ช่วยคนใหม่ แต่เขาดื้อมากและบอกกับฉันว่าไม่มีใครที่ดีเท่าฉัน”
“นั่นก็เพราะความสามารถของเธอในด้านนั้นค่อนข้างดีมาก”อัลดิช กล่าวออกมา “มันดีจนถึงขนาดที่ว่าเธอสามารถแข่งขันกับพวกช่างฝีมือที่เป็นเทคนอสเหล่านั้นด้วยพรสวรรค์ตามธรรมชาติเพียงอย่างเดียว”
“ใช่ เธอฉลาดเป็นอย่างมาก”อดัม กล่าวออกมา
เอเลเน่ รู้สึกหน้าแดง “พวกนายสองคนก็ชมเกินไป ฉันไม่ได้เก่งถึงขนาดนั้น”
จากนั้น เอเลเน่ ก็เงยหน้าขึ้นมอง Eye-Phone ดวงตาสีเขียวของเธอได้เบิกกว้างขณะกล่าวออกมา “พวกนายสองคนก็น่าทึ่งเหมือนกัน อัลดิช ฉันไม่เคยเจอใครที่สามารถรักษาความเยือกเย็นเอาไว้ได้เหมือนกับนายมาก่อน แม้แต่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด ก็ดูเหมือนว่านายจะสามารถคิดหาทางออกจากสิ่งต่าง ๆ ไปได้เสมอ”
“และอดัม ฉันก็ไม่เคยเจอใครเก่งกาจเท่ากับนาย หมายถึง สามารถทนมือทนเท้าได้เป็นอย่างดี”
อดัม ได้บ่นออกมา “ใช่ เมื่อเทียบ กับ อัลดี้ ฉันมันเป็นเพียงแค่คนโง่ที่มักจะโดนทุบตีตลอดเวลา ฉันเองก็รำคาญปากตัวเองเหมือนกัน เป็นเพราะมันฉันเลยต้องโดนทุบตีอยู่บ่อยครั้ง”
“บางทีนั่นอาจจะเป็นพรสวรรค์ของนายก็ได้”เอเลเน่ กล่าวออกมา“แม้ว่านายจะถูกทุบตีไปเยอะ นายก็ยังสามารถกลับมาได้เสมอ”
“ใช่ นายมีพรสวรรค์ที่ทำให้ผู้คนรู้สึกไม่พอใจได้ หากเปรียบเทียบความสามารถนี้กับการโจมตีมันก็คล้ายกับการโจมตีแบบ AoE ที่ทำให้ศัตรูให้ความสนใจ”อัลดิช หัวเราะเล็กน้อย
“หึ่ม อย่างน้อยฉันก็คิดว่าฉันมีดีในด้านนี้”อดัม ได้ยักไหล่“รู้อะไรมั้ย บางครั้งฉันก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นโง่และไร้ความสามารถเกินกว่าที่จะเป็นฮีโร่ได้ ฉันไม่ได้ฉลาดเท่ากับพวกนาย และ การคิดในแง่ดีเป็นสิ่งเดียวที่ฉันมี”
“นายก็ดูถูกตัวเองเกินไป”อัลดิช กล่าวพูดออกมา จากนั้นเขาก็วางมือบนไหล่ของอดัม“แต่สิ่งที่ฉันบอกได้เลยเมื่อเทียบกับนักเรียนทุกคนในสถาบันนี้ นายมีหัวใจที่กล้าหาญมากที่สุด และ นายสามารถลุกขึ้นมาได้ทุกครั้งที่เผชิญหน้ากับปัญหาต่าง ๆ อยู่เสมอ”
พูดตามตรง อัลดิช อิจฉา อดัม เล็กน้อย สำหรับเรื่องนี้ อดัม ได้รับความทุกข์ทรมานเป็นอย่างมากในชีวิต แต่จิตใจของเขาก็ยังคงมองโลกในแง่ดี อัลดิช รู้ดีว่ามันไม่ใช่ สิ่งชั่วร้ายแต่อย่างใด แต่ลึก ๆ แล้วเขาต่างหากที่ไม่เหมาะสมกับการเป็นฮีโร่ที่แท้จริง
“ขอบคุณนะ”อดัม กล่าวออกมา“เอาล่ะ มาดูกันว่าฉันจะเอาชนะพวกโทรลล์พวกนี้ได้ยังไง—”
ทันใดนั้น ประตูห้องพักของอัลดิชก็เปิดออกหากพูดให้ถูกมันถูกพังเข้ามา
จากนั้น เซ็ท โซลาร์ ก็ปรากฏตัวขึ้น ลูกบิดประตูของเขาราวกับแผ่นกระดาษที่ถูกบดขยี้ และ ข้างหลังก็คือ ลูกน้องของเขา ในหมู่พวกเขา มี โกสต์ ตามมาด้วย นอกจากนี้ ทั่วร่างของพวกเขายังปล่อยกลิ่นเหล้าที่ฉุนออกมา และ คน 2-3 คนนั้นก็ถือขวดเหล้ามากมายไว้ในมือ
ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดเป็นนักเรียนคลาส A แม้ว่าจะมีเพียง เซ็ท คนเดียวที่สมควรได้รับตำแหน่ง คลาส A อย่างแท้จริง แต่ เนื่องจาก เซ็ท มีญาติที่เป็นหัวหน้าสถาบันศึกษา ทำให้ พวกเขาทั้ง 4 คน เข้าสู่คลาส A ได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร
และเนื่องจากพวกเขาอยู่ในคลาส A พวกเขาจึงได้รับค่าจ้างและวันหยุดมากมาย เพื่อไปเที่ยว เมืองฮาเว่น ที่อยู่ใกล้เคียง พวกเขาได้ใช้เงินไปกับ เครื่องดื่ม ยาเสพติด และ ผู้หญิง
แต่ทำไมพวกเขาถึงมาที่นี่?
อัลดิช,อดัม และ เอเลเน่ ได้ลุกขึ้นยืนทันที แต่พวกเขารู้สึกเหมือนกับหนูที่กำลังถูกแมวต้อน ในตอนนี้ พวกเขาไม่มีชุดเฟรม แม้จะมีชุดเฟรม พวกเขาก็เป็นได้แค่เหยื่อของคนกลุ่มนี้อยู่ดี
“เล่นวิดีโอเกมกันงั้นเหรอ พวกแกคิดว่าตัวเองสมควรได้รับสิ่งเหล่านี้งั้นหรือไม่ พวกขยะ”เซ็ท พูดขณะที่เขาจ้องไปที่จอมอนิเตอร์ดกมของ อัลดิช จากนั้นเขาก็เดินไปทางนั้นและกระแทกกำปั้นทะลุผ่านหน้าจอไปทันที มันได้ทำลายอุปกรณ์จนเกิดประกายไฟ ทำให้ เศษพลาสติกเหล็กและแก้วแตกออกมา
“นายทำบ้าอะไรของนายกัน!”อดัมพูดขณะที่เหวี่ยงแขนไปทาง เซ็ท
เซ็ทได้ง้างมือกลับมาและตบอดัมจนปลิวไปติดกำแพงข้างหลังทันที
อดัมได้ร้องคร่ำครวญออกมาและคุกเข่าลงเพื่อฟื้นฟูลมหายใจ
“วันนี้เป็นวันที่แย่มาก ฉันแนะนำให้พวกแกนั่งอยู่นิ่ง ๆ และ ทำตามที่พวกเราบอก”เซ็ท กล่าวออกมา
อัลดิช ได้ช่วยอดัมลุกขึ้น และ อดัม ก็ปากเลือดจากริมฝีปากของเขาก่อนที่จะยิ้มให้กับเซ็ท
“เงียบเลย”อัลดิช กระซิบข้างหูเขา“พวกเขาเมามากแล้ว นายไม่รู้หรอกว่าพวกเขาจะทำอะไรบ้าง”
“ฉันไม่สน ไอ้พวกสารเลวพวกนี้มันกล้าทำลายอุปกรณ์เล่นเกมของนาย ของสิ่งนั้นเป็น 1 ในสิ่งสุดท้ายที่พ่อแม่ของนายซื้อให้-ฉันจะไม่ยอมปล่อยพวกมันไปง่าย ๆ แน่”อดัม ได้หันไปทางเซ็ท“ทำไมพวกนายถึงมาที่นี่ หรือเป็นเพราะว่าเมื่อวานเพิ่งถูกเตะตูดร่วงลงมาจึงทำให้ตอนนี้รู้สึกไม่พอใจ?”
อดัม กำลังกล่าวอ้างอิงเรื่องที่ เซ็ท เคยเป็นนักเรียนอันดับ 1 ใน แบล็ควอเตอร์ แต่แล้วเขาก็ได้ตกลงมาเป็นอันดับ 2 หลังจากที่ ผู้วิวัฒที่ไม่เป็นที่รู้จักอย่าง เมล เอาชนะเขาได้อย่างง่ายดายในการต่อสู้เพียงครั้งเดียว และ ที่เลวร้ายที่สุด เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ เมล ได้เอาชนะ เซ็ท อย่างเป็นทางการ และ ขึ้นเป็น อันดับ 1 แทนเขา
เธอเริ่มต้นจาก คลาส C แต่หลังจากฝึกฝนอย่างบ้าคลั่ง เธอก็ตระหนักได้ว่าตัวเองมีศักยภาพในการเติบโตที่ไม่ธรรมดา และ ในไม่ช้า เธอก็แซงหน้า เซ็ท ที่ลำพองใจ เพราะคิดว่าพลังที่ติดตัวเขามาตั้งแต่เกิดนั้นไร้เทียมทานที่สุด
เซ็ท ได้สูดลมหายใจเข้าอย่างรุนแรง ราวกับว่าความโกรธของเขากำลังปะทุออกมา ทว่าแต่แล้วเขาก็ยิ้ม “แกจะไปรู้อะไร นอกจากนี้ ฉันว่าฉันให้โอกาสเธอแล้วนะ เหตุผลที่ฉันไม่จัดการเธอก็เพราะว่าฉันถูกใจเธอ”
จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่เอเลเน่“พาเธอไปที่ค่ายทหาร เราจะแสดงให้เธอเห็นเองว่าเธอกำลังเสียเวลากับไอ้โง่พวกนี้แค่ไหน ไม่ว่าเธอจะต้องการมันหรือไม่ก็ตาม”
โกสต์เลียริมฝีปากของเขาและก้าวไปข้างหน้า “ไม่เอาน่า พวกนายดื่มไปมากแล้วฉันเกรงว่า ของลับของพวกนายมันจะไม่แข็งเอา”
“ฉันบันทึกสิ่งที่เกิดขึ้นไว้หมดแล้ว”เอเลเน่ ได้ยก Eye-Phone ขึ้น “ถ้าพวกนายกล้าแตะต้องฉัน ฉันจะปล่อยคลิปนี้ไปยังเน็ต และทำให้ตระกูล โซลาร์ ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ตอนนี้ทุกอย่างถูกบันทึกไว้ในเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวของฉัน เมื่อ ฉันกดปุ่มเดียว ทุกอย่างก็จะหายไป”
โกสต์และอีก 3 คน หยุด ก่อนที่จะมองไปที่ เซ็ท
“ตอนนี้ฉันไม่สนใจมันหรอก”เซ็ท กล่าวออกมา และ โบกมือให้พวกเขาก้าวไปข้างหน้า“ไปเอาตัวเธอมาซะ”
ณ จุดนี้ อัลดิช เริ่มคิดหาวิธีที่จะออกจากที่แห่งนี้โดยการใช้บันทึกของ เอเลเน่ แต่ทว่า อดัม ก็ได้ตอบโต้ก่อน
อดัม ชกไปที่ใบหน้าของ เซ็ท ราวกับว่าเขากำลังชกกำแพงอิฐ เซ็ท ไม่แม้แต่จะขยับร่างกายของเขาโดยปล่อยให้อดัม ชกเขาอย่างเจ็บปวด
“ไอ้พวกหนอนแมลง หลบไปให้พ้นทางฉันซะ”เซ็ท พูดขณะที่เขาฟาดไปที่ศีรษะของอดัมจนทำให้เขาลอยตรงไป
การตบในครั้งนี้มาพร้อมกับความไม่พอใจ จนทำให้ อดัม ทรุดตัวลงบนพื้นอย่างรุนแรง ศีรษะของเขาได้บิดเบี้ยวจนเป็นมุมที่ไม่เป็นธรรมชาติ
ความคิดของ อัลดิช ได้หยุดลงอย่างสมบูรณ์ เมื่อเขาเห็น อดัม ทรุดตัวลงกับพื้น ดวงตาของเขาได้เบิกกว้าง และ ครางออกมาจากลำคอของเขา นั่นไม่ใช่การโจมตีที่เขาจะสามารถลุกขึ้นมาได้
อดัม ตายแล้ว
“อะ—อดัม?”เอเลเน่ ได้พูดขณะที่เธอคุกเข่าที่ข้างอดัมทันที เธอได้ดึงศีรษะของเขาเข้าไปใกล้เธอ ขณะที่มองมาที่เธอด้วยตาเปล่า จากนั้นเธอก็เริ่มหายใจอย่างหอบหนักและกล่าวออกมาด้วยความสับสน และ ความกลัวในใจ “อดัม พูดกับฉันหน่อย ได้โปรดบอกฉันทีว่านายไม่เป็นอะไร?”
“หึ่ม!”เซ็ท ได้คำรามออกมา “ขยะ! ทำไมถึงเปราะบางเช่นนี้!”
ในช่วงเวลาแห่งความว่างเปล่า อัลดิช ก็ตกใจจนถึงสุดขีดเมื่อเขาเห็นเพื่อนเพียงคนเดียวของเขา เพื่อนที่ลุกขึ้นมาได้เสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ได้ล้มลงกับพื้นอย่างสมบูรณ์ สิ่งนี้ทำให้เขาหันหน้าไปทางเซ็ทด้วยความรู้สึกที่โกรธจัด
เอเลเน่ ยังคงอยู่บนพื้นด้วยดวงตาที่เบิกกว้างและสิ้นหวัง มือของเธอได้จับไปที่คอของอดัม และ ตรวจสอบชีพจรอีกครั้ง แม้ว่าสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าจะตัดสินอย่างชัดเจนว่าอดัมตายแล้ว แต่เธอก็ยังมีความหวังในใจอยู่
อย่างไรก็ตาม อัลดิช ได้พยายามสงบลง ไม่ใช่ว่าเขาไม่สนใจเกี่ยวกับอดัม แต่เขากำลังคิดเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยของตัวเขาและเอเลเน่ให้รอด
การตายของอดัมไม่ได้หมายความว่า อัลดิช และ เอเลเน่ จะต้องทนทุกข์ไปกับความตายด้วย
พวกเขาสามารถคร่ำครวญถึงเขาได้ภายหลัง แต่สำหรับตอนนี้พวกเขาจำเป็นจะต้องมีชีวิตอยู่
“นายเป็น 1 ในทายาทของตระกูลโซลาร์แต่นายกลับฆ่าเขา”อัลดิช กล่าวออกมา“นายรู้ไหมว่าสถานการณ์นี้มันร้ายแรงแค่ไหน?”
หากเขาจัดการกับเอเลเน่ บางทีเขาอาจจะสามารถจ้างทนายความที่เก่งกาจและขอให้บริษัทประชาสัมพันธ์พยายามทำให้ภาพลักษณ์ของเขาชัดเจนได้ และ ในขณะเดียวกัน ก็ขอให้ บริษัท Globe-Net พยายามขัดขวางการเผยแพร่ของเธอ และ ลือว่าเธอกำลังโกหกได้
แต่น่าเสียดายที่สิ่งที่เขาทำคือการ ฆาตกรรม
“ทางเรามีบันทึกและหลักฐานทั้งหมด แม้ว่าโครงการพัฒนาการต่อสู้เดอะเฟรมนี้จะเป็นบางสิ่งที่ไร้สาระ แต่ทางรัฐบาลก็เป็นผู้จัดตั้งโครงการนี้โดยหวังว่าจะมีผู้ผิดปกติจำนวนมากมาเข้าร่วมอย่างเต็มใจ”
“แต่นายคิดว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่ข่าวรั่วไหลออกไปว่า เซ็ท โซลาร์ ไม่เพียงแต่ข่มขู่ว่าจะทำอนาจารย์ทางเพศ แต่ยังก่ออาชญากรรมอย่างเลือดเย็นอีก? นายอาจคิดว่าเงินของนายสามารถครอบคลุมการทารุณทางเพศได้ แต่การฆาตกรรมล่ะ?อีกทั้งยังเป็นการฆาตกรรมที่มีหลักฐานแบบนี้? สิ่งนี้มันไม่จบง่าย ๆ แน่โดยเฉพาะเมื่อนายเป็นทายาทของตระกูลโซลาร์ด้วยแล้ว”
“เว้นแต่นายจะปล่อยพวกเราไป”
จิตใจของ อัลดิช ได้เต้นระรัว เขาได้นึกถึงวิธีการจำนวนมากเพื่อโน้มน้าวใจ เซ็ทและกลุ่มของเขา เพื่อที่จะทำให้มั่นใจว่าพวกเขาจะไม่ถูกจัดการไปพร้อมกัน
เซ็ท ได้นิ่งเงียบไปเป็นเวลา 10 วินาที ใบหน้าของเขาแข็งกระด้าง จนทำให้ กลุ่มของเขาเริ่มลังเล
“พวกเราจะทำยังไงกันดี เซ็ท?”โกสต์ได้กล่าวถาม“ไอ้โง่นั่นพูดถูก หากเราล้อเล่นกับผู้หญิงคนนั้น พวกเราก็ยังสามารถปกปิดมันได้ แต่การฆาตกรรม แม้ว่ากฏหมายอาจจะไม่ให้ค่ากับผู้ผิดปกติพวกนี้มากนัก แต่การฆาตกรรม ก็อาจจะทำให้ชื่อเสียงของพวกเราป่นปี้ได้และถูกประณามจากคนอื่นได้อยู่ดี”
การฆาตกรรมเป็นอาชญากรรมที่สมควรถูกลงโทษอย่างหนักตลอดระยะเวลาเกือบทั้งหมดในประวัติศาสตร์ และ แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องตลกที่จะก่ออาชญากรรมแม้กระทั่งตอนนี้
สังคมยังให้ค่ากับชีวิตอยู่ดี แม้ว่า พวกผู้ผิดปกติจะไร้ค่ามากในโลกนี้ แต่การสู้ศึกสงครามกับพวก วาแลน ก็ยังจำเป็นจะต้องพึ่งพาชีวิตของพวกเขาเหมือนกัน
แม้แต่คนโง่ ก็ยังได้รับสิทธิพื้นฐานและการปกป้องขั้นพื้นฐาน และ การฆาตกรรมก็เป็นสิ่งเดียวที่พวกเขาไม่ต้องกังวล อย่างน้อย ก็ไม่ใช่กับผู้วิวัฒที่เป็นคนร้ายโดยตรง
“ไม่”เซ็ท กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเยือกเย็น“ฉันจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น”
เซ็ทได้หายตัวไปในทันทีและปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้าเอเลเน่ จากนั้นหมัดของเขาก็กระแทกเข้าไปที่หน้าอกของเธอและทำลายหัวใจของเธอโดยตรง
ดวงตาของ เอเลเน่ ได้เบิกกว้าง ขณะที่มองไปที่หน้าอกของเธอที่เต็มไปด้วยเลือดและกำปั้นที่ทะลุ จากนั้น เลือดก็พุ่งออกมาจากปากของเธอ ดวงตาของเธอได้กะพริบครั้งนึงก่อนที่ชีวิตของเธอจะหายไป
เซ็ต ได้ดึงแขนที่เปื้อนไปด้วยเลือดออกมาและปล่อยให้เธอล้มลงกับพื้นข้างศพอดัม
“อะไร?”ดวงตาของโกสต์ได้เบิกกว้างและหน้าซีดแม้แต่คนอื่นในกลุ่มของเซ็ทก็ยังมีปฏิกิริยาที่ประหลาดใจเช่นเดียวกัน
“เราต้องฆ่าพวกเขา”เซ็ท กล่าวพูดอย่างเรียบง่าย ขณะที่เลือดได้สาดกระเซ็นไปทั่วชุดสีดำของเขา นัยนต์ของเขาได้กวาดผ่านไปทั่วอย่างเยือกเย็นในเวลานี้“เราต้องฆ่าพวกมันก่อนที่พวกมันจะได้ทันปริปากอะไร”
ก่อนที่ อัลดิช จะตอบสนอง เซ็ท ก็เร่งหมัดของเขาไปที่ช่องท้องของเขา
อัลดิช รู้สึกว่าการมองเห็นของเขาได้พร่ามัวในขณะที่เขาทรุดตัวลงกับพื้น เลือดของเขาได้ไหลออกมาจากรูที่หน้าอกของเขาขณะที่เซ็ทได้ยืนอยู่เหนือเขา
จากนั้น อัลดิช ก็ทรุดตัวลง และ มองไปที่ ช่องท้องที่เปื้อนไปด้วยเลือด เขาได้เอามือปิดรูและพยายามไม้ให้เลือดพวกนี้ทะลักออกมา
เวรเอ้ย!
นี่เขากำลังจะตาย
ทุก ๆ อย่างที่เขาทำมาตลอดหลายปีนั้น การตายของพ่อแม่ของเขา การตายของเพื่อนของเขา
ทั้งหมดนี้เขาทำไปเพื่ออะไร?
ทุกอย่างได้มลายหายไปจากการโจมตีเพียงหมัดเดียว และ ทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นจาก ผู้วิวัฒที่มีสิทธิพิเศษเหล่านี้
เรื่องนี้มันไม่ยุติธรรมเลยสักนิด
หลังจากที่เขาเห็นพ่อแม่ของเขาถูกเชือดราวกับสัตว์ มันก็ทำให้เขาสูญเสียความสามารถในการรับรู้ที่รุนแรงไป และ หลงเหลือเพียงแต่อารมณ์ที่เกลียดชังบางอย่าง แต่แน่นอนว่าเขาได้ข่มพวกมันเอาไว้ในตัวของเขามาตลอดหลายปีและพยายามไม่เปิดเผยมันออกมา จนกระทั่งเขาไม่คิดเลยว่าตัวเองจะมีวันนี้
“แก…ไอ้ตัวน่าสมเพช”อัลดิช พูดพลางกระอักเลือดออกมา มันเป็นความน่าอัศจรรย์ที่เขาสามารถพูดได้โดยที่ยังไม่เสียชีวิตไปในทันที เขาได้ยกมือขี้นและชี้ไปที่ เซ็ท โซลาร์ และ กลุ่มของเขา
“แก…ไม่สมควร…ที่จะมีชีวิตอยู่ พวกแกทุกคน…พวกแก…ฉันสาบานเลยว่าจะทำให้พวกแกต้องทนทุกข์ทรมานจนถึงที่สุด”ลมหายใจของ อัลดิช ได้ส่งเสียงฮืด ๆ ออกมา และ เขาก็เริ่มคลานไปข้างหน้า ด้วยดวงตาที่แดงก่ำและดุร้าย
ทุกคนในกลุ่มยกเว้น เซ็ท โซลาร์ ได้ก้มหน้าลงโดยสัญชาตญาณ แม้ว่า อัลดิช จะเป็นเพียงคนตายที่เดินได้ แต่พลังงานความเกลียดชังที่เขาปล่อยออกมา มันก็แทงเสียดกระดูกของพวกเขา
“ฉันขอสาบาน…ไม่ว่าฉันจะต้องถูกส่งไปนรกขุมไหน ฉันก็จะคลานออกมา จากนั้นฉันจะลากพวกแกทั้งหมดลงมาและทำให้พวกแกต้องทุกทรมานยิ่งกว่าการตกนรกทั้งเป็น”
อัลดิช จ้องมองไปที่ เซ็ท โซลาร์ ด้วยความเกลียดชัง และ เซ็ท โซลาร์ ก็จ้องมองมาที่เขาด้วยดวงตาที่เย็นชาและไม่สนใจ
สุดท้าย ชีวิตของ อัลดิช ก็ได้จบลง เขาได้ทรุดตัวลงท่ามกลางแอ่งเลือดและความกล้าหาญของเขาเอง การจ้องมองของเขา ทำให้กลุ่มของ เซ็ท รู้สึกพูดไม่ออก โดยเสียงของอีกฝ่ายยังคงสะท้อนอยู่โดยรอบ
“เลิกยืนโง่ได้แล้วพวกแกทั้งหมดลากพวกขยะพวกนี้ไปและทำความสะอาดที่นี่ซะ”เซ็ท โซลาร์ ได้กล่าวออกมา “โยนศพของพวกมันไปทิ้งในป่า และ ปล่อยข่าวลือว่าพวกมันพยายามที่จะหลบหนี จนทำให้ วาแลน ได้กินพวกมัน”
“เกี่ยวกับอุปกรณ์เทคโนโลยีทั้งหมดที่นี่ให้ล้างข้อมูลพวกมันทั้งหมดและทำลายทิ้ง…”
ความรู้สึกของ อัลดิช ได้จมลงสู่ความมืดมิดอย่างสมบูรณ์
…
…
…
แต่ในขณะนั้นเอง ไม่รู้ว่าหลังจากนั้นนานแค่ไหน เขามองเห็นตัวอักษรสีขาวที่กำลังส่องสว่างท่ามกลางความมืดมิดล้อมรอบตัวเขา
[...]
[ระบบ…กำลังเริ่มต้น]
[...]
แบบตัวอักษรได้เปลี่ยนไปเป็นสีทองและตกแต่งด้วยกรอบเส้นโครงที่ประดับประดามากยิ่งขึ้น ซึ่งมันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังเล่นเกมแฟนตาซีอยู่
[ยินดีต้อนรับสู่ Elden World]
[ยินดีต้อนรับผู้เล่น]
[โปรดเลือกคลาสของคุณ]