SN-ตอนที่ 10 เนโครแมนเซอร์
อัลดิช รู้สึกเหมือนกับอยู่ในความฝัน เขามีสติแต่ไม่ได้ครอบคลุมทั้งหมด เพราะมันได้ล่องลอยไปในพื้นที่ทะเลแห่งความมืดมิดอันไร้ขอบเขตเหล่านี้ โดยมีตัวอักษรสีทองที่แวววับ Elden World ที่เขาจดจ่ออยู่ มันยากมากที่เขาจะจดจ่อกับสิ่งเหล่านั้น ราวกับว่า เขากำลังสูญเสียสมาธิและจิตใจของเขาก็ล่องลอยไปในความว่างเปล่าอย่างไม่รู้จบ
อัลดิช ไม่ได้คิดอย่างมีสติมากนักเพราะเขาได้ตอบสนองต่อสัญชาตญาณของเขา เมื่อเขาเห็นข้อความที่คุ้นเคยของ Elden World เขาก็ทำในสิ่งที่เขาทำเพื่อเริ่มเกมเหมือนเมื่อหลายปีก่อน
เขาได้เลือกอาชีพของเขา
[คลาส : เนโครแมนเซอร์ได้ถูกเลือก]
[ในฐานะเนโครแมนเซอร์ ความตายจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ มันได้คืบคลานไปตามเงาของคุณ แฝงตัวเข้าไปอยู่ในส่วนลึกของตัวตนของคุณ และ หล่อหลอมกลายเป็นตัวคุณ แต่แตกต่างจากคนที่ต้องเผชิญหน้ากับความตายและการแหลกสลายภายใต้การจ้องมองที่ล้ำลึกของมัน เพราะคุณจะเป็นฝ่ายจ้องมองมันและควบคุมมันแทน]
[การใช้พลังงานด้านลบเป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตแต่สามารถหล่อเลี้ยงคนตาย โดยคุณได้ยอมจำนนต่อความมืดมิดเพื่อเข้าใกล้ความตายที่ไม่มีที่สิ้นสุด หรือบางที สำหรับคุณ ความตายอาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้น]
[ระดมกองทัพอันเดด เรียกสัตว์ประหลาดที่เน่าเปื่อยและกระดูกเปล่า กระจายความน่าสะพรึงกลัวและเยือกเย็นของพวกมันภายใต้คำสั่งของคุณ]
[นี่คือคลาสที่คุณต้องการเลือกใช่หรือไม่?]
“ใช่”อัลดิช ได้กล่าวออกมา แต่ในความมืดมิดเสียงของเขาไม่ได้ปรากฏ แต่มันเป็นความคิดของเขาแทน
นี่คืออาชีพที่เขาคุ้นเคยมากที่สุด เป็นสิ่งที่เขาโหยหาแม้แต่ในความฝัน
[คลาส : เนโครแมนเซอร์ ได้รับการยืนยัน]
[เวทย์มนตร์คือศิลปะที่แผ่ขยายเป็นวงกว้าง ขณะที่ความมืดมิดครอบงำตอนพระอาทิตย์ตกดวงวิญญาณที่ไม่สงบก็ได้ถูกปลุกขึ้น โปรดเลือกเวทย์มนตร์ของคุณ และ สิ่งต่อจากนี้จะเป็นตัวกำหนดประเภทเวทย์มนตร์ที่คุณจะฝึกฝน]
[-อาถรรพ์ของกระดูกที่แตกสลาย]
[คุณได้ปล่อยให้พลังงานด้านลบไหลผ่านร่างกายของคุณ โดยการควบคุมพลังงานเหล่านี้เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย ในขณะเดียวกัน คุณก็สามารถรักษาร่างกายที่หลงเหลือแต่กระดูกของคุณเอาไว้ได้]
[คุณไม่ได้รับการประกาศความตายจากการรักษาร่างกายที่หลงเหลือแต่กระดูกเอาไว้ และ ด้วยอาวุธที่เป็นกระดูกภายใต้เงื้อมมือของคุณ พวกมันสามารถดัดแปลงศักยภาพให้มีความยอดเยี่ยม หรือ ผสานการโจมตีบางอย่างเพื่อสร้างการโจมตีที่น่าสะพรึงกลัวขึ้นมาได้]
[สถิติความสัมพันธ์ : ความแข็งแกร่ง/ความอึด/เวทย์มนตร์]
[-อาถรรพ์ของความเยือกเย็น]
[ความตายนั้นเย็นชา และ ไร้ความปราณี และ หลังจากตายความเยือกเย็นจะยังคงอยู่เสมอ]
[ด้วยเวทย์มนตร์อันนี้ คุณจะมีความชำนาญอย่างมากในการทำดาเมจแห่งความตาย ด้วยเวทย์มนตร์แห่งความตายเพียงอย่างเดียว คุณจะต้องเลือกสิ่งมีชีวิตที่ไม่คู่ควร และ โบกมือ หลังจากนั้นคุณจะสร้างหมอกที่เย็นชาขึ้นมาเพื่อดูดพลังชีวิตของคนผู้นั้นทั้งเป็น เพียงแค่คุณสัมผัสก็จะสามารถถ่ายทอด โรคภัยไข้เจ็บหรือคำสาปเน่าเปื่อยจนก่อให้เกิดความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานมากมายนับไม่ถ้วน]
[สถิติความสัมพันธ์ : เวทย์มนตร์/ความคล่องตัว/ความสอดคล้อง]
[-อาถรรพ์ปลุกชีพความตาย]
[ความตายนั้นไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยการใช้เวทย์มนตร์นี้ คุณสามารถมั่นใจได้ว่าผู้ที่ล้มลงจะมีโอกาสครั้งที่ 2 เสมอ โดยโอกาสครั้งที่ 2 นี้จะทำงานรับใช้ภายใต้การควบคุมของคุณ]
[คุณสามารถนำซากศพที่ว่างเปล่าและไร้ชีวิตมาเพื่ออัดพลังงานด้านลบเข้าไปได้ สิ่งนี้จะทำให้มันกลายเป็นอันเดดที่คอยต่อสู้อยู่เคียงข้างคุณ คุณมีอำนาจในการเสริมกำลังให้กับคคนตาย ซ่อมแซมเนื้อที่เน่าเปื่อย หรือ เสริมสร้างกระดูกของพวกเขา นอกจากนี้ คุณสามารถเรียกพวกเขาเข้าไปใน โลกใต้พิภพ และ อัญเชิญอันเดดผู้ยิ่งใหญ่ขึ้นมาตลอดจนไปถึงสิ่งมีชีวิตที่มีวิญญาณสูงส่งหรือแม้แต่เทพเจ้า]
[คุณไม่ได้ต่อสู้เพียงคนเดียว เพราะการต่อสู้ใด ๆ ที่คุณทำ จะมีพลังแห่งความตายเหล่านี้คอยสนับสนุนคุณ]
[คุณคือผู้ปลุกเสกความตาย]
[สถิติความสัมพันธ์ : เวทย์มนตร์/ความสอดคล้อง/ความอึด]
อัลดิช ได้เลือก [อาถรรพ์ปลุกชีพความตาย] และ ยืนยันมันโดยไม่ลังเล นี่คือคลาสเนโครแมนเซอร์ของเขาภายในเกม และ มันคือสิ่งที่เขาวาดฝันเอาไว้
[การเลือกทั้งหมดได้รับการสรุปแล้ว…]
[เนโครแมนเซอร์ผู้ปลุกชีพความตาย การผจญภัยของคุณได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ขอให้—]
ข้อความได้ถูกตัดออกในตอนท้าย แต่ อัลดิช แทบจะไม่มีเวลามัวให้สับสนก่อนที่ความมืดรอบตัวของเขาจะหายไป เขาพบว่าตัวเอง ได้นอนอยู่ใต้ต้นไม้ และ เมื่อเขามองขึ้นไปก็พบร่มเงาของต้นไม้ด้านบน
นอกเหนือจากต้นไม้แล้ว อัลดิช ยังเห็น ดาว 2-3 ดวง และ พระจันทร์เต็มดวงขนาดใหญ่ที่ปรากฏขึ้น
อัลดิช ได้ลุกขึ้นนั่ง เขายังรู้สึกมึนงงอยู่ และ รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังอยู่ในความฝัน แต่ไม่นาน เขาก็จำทุกสิ่งอย่างก่อนหน้านี้ได้
มันเป็นความทรงจำเกี่ยวกับการตายของเขา เป็นความทรงจำของ เซ็ท โซลาร์ ที่ฆ่า เพื่อนทั้ง 2 คนที่เขามี
อย่างไรก็ตาม อัลดิช ยังคงมีชีวิตอยู่ และ ตราบเท่าที่เขายังมีลมหายใจ เขาจะไม่มีวันปล่อยให้พวกสารเลวพวกนั้นมีชีวิตอยู่อย่างแน่นอน
อัลดิช ได้กำหมัดแน่น ใบไม้ที่อยู่ในมือได้แตกหักคามือของเขา ราวกับว่ามันได้สูญเสียพลังชีวิตทั้งหมดไป
หืม?
อัลดิช ได้ยกมือขึ้นและพบว่ามือของเขาขาวซีดราวกับร่างของศพ จากนั้นผิวของเขาก็รู้สึกเย็นจนเกือบชื้น เขาได้สัมผัสหน้าท้องของเขาและรู้สึกได้ถึงรูขนาดเท่ากำปั้นที่มาจากฝีมือของ เซ็ท โซลาร์
สถานที่ที่กระดูกสันหลังและอวัยวะของเขาควรจะอยู่ กลับพบแต่ความว่างเปล่า
ทว่าเขากลับมีชีวิตอยู่
อัลดิช ได้กระพริบตาหลายครั้ง และ กำลังประมวลผลสิ่งที่เกิดขึ้น เขาจำได้ถึงช่วงเวลาแห่งความมืดมิดที่เขากำลังเลือกคลาสใน Elden World เขาเกือบคิดว่านั่นเป็นเพียงความฝัน แต่ … ทั้งหมดนั่นเป็นเรื่องจริงงั้นหรือไม่?
ราวกับว่า อัลดิช ต้องการยืนยันความคิดของตัวเอง เขาได้เรียกหน้าต่างสถานะในทันที
สถานะปัจจุบัน : ไม่มีสัมภาระ [+5 ความคล่องตัว]
ชื่อ : อัลดิช หยาง
เผ่าพันธุ์ : อันเดด
คลาส : เนโครแมนเซอร์ (ผู้ปลุกชีพความตาย)
เลเวล : 1
HP : 18/18
มานา : 15/15
สถิติ—
ความแข็งแกร่ง : 6
ความคล่องตัว : 8 (13)
ความอึด : 6
เวทย์มนตร์ : 5
ความสอดคล้อง : 5
ความเข้าใจ : 8
สกิล-ไม่มี
พาสซีฟ-
ร่างที่ไม่ตาย
ระดับ : N/A
โฮสต์ได้กลายเป็นอันเดด ดังนั้นจึงไม่จำเป็นจะต้องกินอาหาร นอน หรือพักผ่อน ความอึดของโฮสต์แทบจะไร้ขีดจำกัด บาดแผลใด ๆ นอกเหนือจากการบาดเจ็บที่ศีรษะขั้นวิกฤติจะไม่ส่งผลกระทบต่อความคล่องตัวหรือการทำงานของร่างกายของโฮสต์ แต่ ความเสียหายก็ยังคงได้รับการบันทึกไปยังกลุ่ม HP ทั้งหมดของโฮสต์ อย่างไรก็ตาม โฮสต์จะไม่ได้รับความเสียหายเพิ่มเติมจากการถูกโจมตีในตำแหน่งอื่นนอกเหนือจากที่ศีรษะ
-ความตาย/พลังงานด้านลบทั้งหมดจะถูกแปลงเป็นค่าการฮีล
-การรักษาจะถูกแปลงค่าเป็นความเสียหาย
-ภูมิคุ้มกันโรคภัยไข้เจ็บ
-ภูมิคุ้มกันต่อความเสียหายทางจิต
-ภูมิคุ้มกันต่อความเสียหายจากพิษ
-ต้านทานความเย็น -50%
-ต้านทานคำสาป -50%
-ต้านทานความเสียหายทะลุทะลวง -90% เว้นแต่จะโดนที่ศีรษะ
-ต้านทานความเสียหายประเภทเจ็บปวด -50% เว้นแต่จะโดนที่ศีรษะ
-ได้รับความเสียหายเพิ่มเติมจากอาวุธประเภททุบตีสองเท่า
-ได้รับความเสียหายเพิ่มเติมจากการโจมตีประเภทธาตุไฟเพิ่มขึ้นสองเท่า
อุปกรณ์-
ส่วนหัว [ไม่มี]
ร่างกาย [ไม่มี]
เอว [ไม่มี]
แขน [ไม่มี]
ขา [ไม่มี]
อุปกรณ์เสริม [ไม่มี]
>>>
อัลดิช มองดูค่าสถานะนี้ด้วยความประหลาดใจในตอนแรก แต่หลังจากนั้นเขาก็สงบลงอย่างรวดเร็ว และ เริ่มวิเคราะห์ทันที มันมีบางอย่างในตัวของเขาที่ทำให้เขาเข้าใจว่าสิ่งนี้ไม่ใช่ความฝันแต่เป็นความจริง
อัลดิช ไม่จำเป็นจะต้องพึ่งพาโครงการพัฒนาการต่อสู้เดอะเฟรมอีกต่อไป เพราะนั่นเป็นโครงการสำหรับนักเรียนที่ไร้พลังเพื่อย้ำเตือนว่าพวกเขานั้นอ่อนแอและไร้ค่าเพียงใด โดยโปรแกรมนี้ก็ไม่ต่างไปจากการเป็นที่รองมือรองเท้าของนักเรียนผู้วิวัฒ
ในที่สุด อัลดิช ก็มีพลังที่เขาเคยฝันถึง พลังที่เป็นของเขาเท่านั้น
พลังที่อัลดิชจะใช้เพื่อการล้างแค้น
อันดับแรก เขาจะต้อง จัดการ เซ็ท โซลาร์ และ หลังจากนั้น ก็เป็น องค์กรไทรเด้น
อัลดิช ได้ยินเสียงกรอบแกรบรอบตัวเขา และ สิ่งนี้ทำให้เขาเกร็งในทันทีเพราะเขารู้ว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตราย เขารู้ว่า เซ็ท โซลาร์ ได้ทิ้งเขาไว้ในป่าโดยรอบ แบล็ควอเตอร์ ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเสียงกรอบแกรบนี้เป็นเสียงที่มาจากภัยคุกคามเพียงอย่างเดียว
วาแลน!
อัลดิช เห็นดวงตาสีเหลืองที่เป็นประกายสองคู่ที่จ้องมองมาที่เขาจากความมืดในส่วนลึกของป่า
จากนั้นเสียงคำรามต่ำก็ดังขึ้น
หากเป็นก่อนหน้านี้ อัลดิช คงเลือกที่จะหนีทันทีหลังจากที่เห็น ไม่ใช่เพราะเขากลัว แต่เพราะเขารู้ว่าตัวเองไม่มีทางที่จะต่อสู้กับ วาแลน ได้ด้วยความแข็งแกร่งพื้นฐานของมนุษย์
แม้ว่า วาแลน ที่เป็นตัวแปรที่ยังไม่ถึงระดับ D นี้ จะอ่อนแอในแง่ของภัยคุกคาม แต่มันก็ไม่ใช่ศัตรูที่เขาจะเอาชนะได้
แต่นั่นคือตอนที่อัลดิชยังไม่มีพลัง
ก่อนที่เขาจะเป็น เนโครแมนเซอร์ ทว่าหลังจากเขากลายเป็นแล้ว อัลดิช ก็รู้ดี แม้ว่าเขาจะ เลเวล 1 แต่เขาก็รู้ว่าความสามารถของเขาอยู่ในระดับไหน และ จะได้รับเวทย์มนตร์อะไร ในระดับไหน รวมถึงต่อสู้อย่างไร
ในขณะเดียวกัน ก็ไม่มีใครในโลกนี้รู้ว่า อัลดิช สามารถทำอะไรได้บ้าง เพราะเขาเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวในโลกที่เปลี่ยนแปลงเหล่านี้
อัลดิช ได้สูดลมหายใจเข้าลึก และ รู้สึกว่าร่างกายของเขานั้นเบาและรวดเร็วเพียงใด สิ่งนี้ทำให้เขามั่นใจมากยิ่งขึ้น โดยเขาได้จ้องมองกลับไปที่ดวงตาสีเหลืองอันมหึมาเหล่านั้นที่จ้องมองมาที่เขา ดูเหมือนว่าสิ่งนี้จะกลายเป็นอันเดดตัวแรกภายใต้การบัญชาของเขา