Ep.281 - สงครามในทุ่งหญ้ายาโนฟาร์

2/3

Ep.281 - สงครามในทุ่งหญ้ายาโนฟาร์

ทุกคนเดินผ่านประตูแสงและเข้ามาในหอคอยเขตแดน

มันให้ความรู้สึกเหมือนการเดินผ่านห้วงมิติและเวลา ก้าวเข้าสู่โลกใบใหม่

ภายในหอคอยเขตแดนไม่ได้มีแค่แสงสลัวเท่านั้น แต่ยังปกคลุมไปด้วยชั้นหมอกละออง ทำให้มองเห็นสถานการณ์โดยรอบค่อนข้างยาก

ทันใดนั้นมีคนร้องขึ้น “ประตูหายไปแล้ว!”

เจียงหนานหันมอง แล้วใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป “มันหายไปจริงๆด้วย!”

หลังจากทุกคนเดินเข้ามา ประตูแสงก็หดเล็กลง และในที่สุดก็หายวับไปอย่างสมบูรณ์

จ้าวหมิงขมวดคิ้วแล้วเอ่ยว่า “ดูเหมือนพวกเราจะถูกขัง”

หวังเอ๋อกระดิกหาง “ฮ่ง ที่นี่แปลกมาก นอกจากพวกเราแล้ว เปิ่นหวังไม่ได้กลิ่นอายอะไรเลย”

เมื่อเห็นว่าทีมกำลังตื่นตระหนก ฉูเทียนหัวตะโกนเสียงดังว่า “พวกนายกลัวอะไรกัน อยู่นิ่งๆซะ แล้วรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น!”

ทุกคนติดอยู่ในพื้นที่แปลกๆ และทางออกหายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ จะวิตกกังวลก็ไม่แปลก

แต่ในตอนนั้นเอง เสียงเบาๆที่ฟังดูสงบพลันดังขึ้นในใจของทุกคน “ยินดีต้อนรับนักผจญภัยทั้งหลาย!”

เฉินหยูตกใจ “ใครเป็นคนพูด? ใช่เจ้าของเสียงน่าเกรงขามรึเปล่า?”

ไม่น่าใช่เจ้าของเสียงน่าเกรงขาม

เพราะปกติแล้ว น้ำเสียงของคนผู้นั้นปราศจากอารมณ์ความรู้สึกใดๆ

ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเอ่ยอย่างสุภาพว่า “ยินดีต้อนรับ”

เสียงในหอคอยยังคงก้องกังวาน “ข้าคือวิญญาณหอคอย และจะตื่นขึ้นก็ต่อเมื่อนักผจญภัยปรากฏตัวเท่านั้น ข้ารับผิดชอบในการปกป้องทางออกต่างๆของป่าแห่งการเริ่มต้น และมอบบททดสอบสุดท้ายแก่นักผจญภัย”

ฮังอวี่พอจะรู้ว่าเรื่องราวมันเป็นมายังไง

ในทุกๆสองสามร้อยปีหรือหลักพันปี โลกวิญญาณจะดูดซับสายพันธุ์ใหม่เข้ามา เวลาไม่ค่อยแน่นอน แต่ทุกครั้งที่สายพันธุ์ใหม่มาถึง และเข้าสู่ป่าแห่งการเริ่มต้น วิญญาณหอคอยจะตื่นขึ้น

ภารกิจของวิญญาณหอคอยนั้นง่ายมาก

มันจะปิดป่าแห่งการเริ่มต้นเป็นช่วงระยะเวลาหนึ่ง สร้างสภาพแวดล้อมปิดตายสำหรับนักผจญภัยหน้าใหม่ เพื่อให้พวกเขาค่อยๆปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมภายในโลกวิญญาณ

ซึ่งนี่คือเหตุผล

ที่มนุษย์หลายพันล้านคนแม้ปรากฏตัวในโลกวิญญาณมานานกว่าหนึ่งเดือนแล้ว

แต่ในโลกวิญญาณ พวกเขากลับแทบไม่มีโอกาสพบอารยธรรมพื้นเมืองเลย

นี่เป็นเพราะขีดจำกัดสูงสุดที่ป่าแห่งการเริ่มต้นกำหนดไว้ ไม่ว่าการดำรงอยู่จะแก่กล้าหรือทรงพลังเพียงใด ตราบใดที่เข้าสู่ป่าแห่งการเริ่มต้น เลเวลจะลดต่ำลงไม่เกิน 10 ดังนั้นไม่มีชาวโลกวิญญาณในอาณาจักรเบื้องบนตนใดอยากเข้ามาที่นี่

ในทางกลับกัน เป็นเพราะทางผ่านหอคอยเขตแดนถูกปิดชั่วคราว

ดังนั้นคนข้างบนจึงไม่สามารถลงมาได้ต่อให้พวกเขาต้องการ

เรื่องนี้สามารถตีความได้ว่าเป็นมาตรการคุ้มครองนักผจญภัยหน้าใหม่

หลังจากต่อสู้ดิ้นรนมานานกว่าหนึ่งเดือน ฮังอวี่และคนอื่นๆมีคุณสมบัติมากพอที่จะออกจากหมู่บ้านนักผจญภัยหน้าใหม่แล้ว แต่เงื่อนไขคือพวกเขาต้องผ่านการพิจารณาจากวิญญาณหอคอยก่อน

“ฮ่ง เจ้านาย มีบางอย่างผิดปกติ หมอกกำลังเปลี่ยนไป!”

หมอกละอองหนาทึบที่ปกคลุมฝูงชนจากทุกทิศทางเริ่มไหลเวียนด้วยความเร็วสูง

อันดับแรก พวกเขาเกาะกลุ่มกันอย่างรวดเร็ว และสุดท้าย ใช้เวลาราวๆ 10 วินาทีหมอกก็จางหายไป

วิสัยทัศน์ของทุกคนเปิดกว้างอีกครั้ง ผู้คนกว่า 100 พบว่าสภาพแวดล้อมรอบตัวเปลี่ยนไป มันไม่ใช่หอคอยหรือป้อมปราการอีกแล้ว แต่ถูกแทนที่ด้วยหุบเขาทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่

ข้อความแวบเข้ามาในหัวของทุกคน

[บททดสอบหอคอยเขตแดนได้เริ่มขึ้นแล้ว!]

[ชื่อเขตแดนลับแห่งนี้ : การต่อสู้บนทุ่งหญ้ายาโนฟาร์]

[คำอธิบายคร่าวๆ : ในปี 1214 ของปฏิทินอาณาจักรมังกรโลกา ชนเผ่าทุ่งหญ้ายาโนฟาร์ซึ่งเคยเป็นเมืองขึ้นของเมืองมังกรไม่พอใจกับกฏอันโหดร้ายของมังกรคลั่งเฮสการ์ ในที่สุดตัดสินใจก่อกบฏภายใต้การนำของเจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ‘เขาทมิฬไคโร’ ราชามังกรคลั่งโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก และส่งหนึ่งในสามแม่ทัพมังกรพายุ ‘บารุต’ มายุติการก่อกบฏ]

[คำอธิบายภารกิจ : ผู้ทดสอบจะปรากฏตัวในสนามรบบนทุ่งหญ้ายาโนฟาร์ โปรดหาทางออกจากที่นี่ภายใน 6 ชั่วโมง หากคุณทำภารกิจไม่สำเร็จในเวลาที่กำหนดหรือตายยกกลุ่ม การทดสอบถือว่าล้มเหลว]

[บทลงโทษสำหรับความล้มเหลว : ไม่สามารถท้าทายหอคอยเขตแดนเป็นระยะเวลา 7 วัน]

[รางวัลความสำเร็จ : แต้มวิญญาณ]

“...”

จางเสี่ยวเฉียงกล่าวว่า “นี่มันเหมือนกับเกมจำลองเลยไม่ใช่หรอ?”

ก็จริง สถานการณ์ตอนนี้มันค่อนข้างเหมือเกมจำลอง

มอนสเตอร์ทุกตัวที่ผ่านๆมา มักปรากฏในรูปแบบมอนสเตอร์ป่าทั้งสิ้น นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาอยู่ในสถานะจำลอง ทั้งยังมีโครงเรื่องเล็กๆน้อยๆ

อีกไม่นาน สถานที่แห่งนี้จะเกิดสงครามใหญ่ขึ้น

ทั้งสองฝ่ายเป็นขุมกำลังชาวโลกวิญญาณ

ทางหนึ่งเป็นกองกำลังกบฏที่นำโดยชนเผ่าเขาทมิฬ ซึ่งมีหัวหน้าเป็นเจ้าถิ่นชั้นสูงที่เรียกว่า ‘ไคโร’ อีกด้านหนึ่งคือกองกำลังต่อต้านความไม่สงบที่มังกรคลั่งเฮสการ์ส่งมา ดูเหมือนผู้นำทัพจะเรียกว่า ‘แม่ทัพมังกรพายุบารุต’

“ทุกคน ดูนั่น!”

“เหมือนว่าจะมีกองกำลังทหาร!”

เนื่องจากสถานที่แห่งนี้คือทุ่งหญ้าโล่ง พื้นที่การมองเห็นค่อนข้างกว้าง แม้ทุกคนอยู่ในระยะไกล แต่ก็สามารถสังเกตเห็นกองทหารได้ในทันที

และขนาดของกองทหารบอกเลยว่าใหญ่มาก!

จากการประเมินด้วยสายตาของฮังอวี่ พบว่าจำนวนของพวกมันมีมากเกินหมื่น!

โดยทั่วไปแล้วในกองทัพประกอบไปด้วยมิโนทอร์ มนุษย์หมูป่า และมนุษย์หมาป่า ดูกระจัดกระจายเหมือนกองกำลังผสม

แน่นอน

แม้จำนวนจะมาก

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าจะมีสายพันธุ์ทรงภูมิปัญญาเพียงร้อยกว่าตนเท่านั้น ที่เหลือเป็นสายพันธุ์ย่อย แม้จะกล่าวเช่นนั้น แต่ก็ยังเป็นกองกำลังที่ยอดเยี่ยม ส่วนใหญ่แล้วมีเลเวล 8 9 และสัดส่วนพวกที่เป็นชนชั้นยอดมีสูงมาก

เจียงหนานอุทานด้วยความตกใจ “พวกเขามีเยอะมากจริงๆ!”

“นั่นสมควรเป็นกองทัพกบฏ ไม่นึกเลยว่าจะมีจำนวนมากขนาดนี้” จ้าวหมิงพูดด้วยสีหน้าหดหู่ “น่ากลัวว่าพวกเราหลักร้อยคนจะไม่พอยัดเข้าซี่ฟันของพวกมันด้วยซ้ำ”

เฉินหยูพูดด้วยความกังวล “สงครามใหญ่กำลังจะปะทุขึ้น พวกเราอยู่ที่นี่คงไม่รอดแน่ๆ รีบหาทางออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเถอะ”

ฉูเทียนหัวใบหน้าจริงจัง กล่าวเสียงขรึมว่า “มันไม่ง่ายแบบนั้นน่ะสิ ตั้งแต่ที่พวกเราถูกส่งมากลางทุ่งหญ้าแบบนี้ คงไม่สามารถหลีกเลี่ยงการต่อสู้ได้ ตอนนี้พวกเราอยู่คั่นกลางระหว่างสองขุมกำลัง ถึงจะรู้ว่าทางออกอยู่ตรงไหน ก็ฝ่าไปไม่ได้อยู่ดี”

“เหล่าฉูพูดถูก ในตำแหน่งของเรา มันยากที่จะไม่โดนลูกหลงจากสนามรบ” ฮังอวี่มองไปอีกทางหนึ่ง “แม่ทัพมังกรพายุบารุตน่าจะมาถึงเร็วๆนี้”

จมูกของหวังเอ๋อได้กลิ่น ตอนนี้มันขดตัวด้วยความหวาดกลัว

สั่นสะท้านไปทั้งตัว

เจ้าพวกนี้แข็งแกร่งเกินไป!

ฉูเทียนหัวกล่าว “ดูเหมือนพวกเราต้องตัดสินใจเลือก”

เจียงหนานงง “ตัดสินใจเลือกอะไร?”

จ้าวหมิงเอ่ยว่า “พลังรบของทั้งสองกองทัพไม่ใช่อะไรที่พวกเราสามารถต่อกรได้ สุดท้ายคงถูกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งบดขยี้ แต่เนื่องจากนี่คือบททดสอบ ดังนั้นต้องมีทางแก้ ไม่งั้นการทดสอบคงไม่มีความหมาย”

ฮังอวี่พยักหน้าและพูดว่า “เหล่าฉู เหล่าจ้าวคิดถูกแล้ว พวกเราต้องตัดสินใจเข้าร่วมกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในระยะเวลาที่จำกัด จากนั้นก็หาโอกาสเอาชนะอีกฝ่าย”

เฉินหยูเอ่ยถาม “แล้วพวกเราควรเลือกฝ่ายไหน?”

ทุกคนสามารถคิดได้

ว่าการเลือกข้างนี้ไม่ใช่อะไรเรียบง่าย

หากเลือกผิด พวกเขาคงตายอย่างไม่ต้องสงสัย

ในเวลานั้นเอง เสียงแตรและกลองศึกดังขึ้นมาจากทางทิศตะวันออก

แรงกดดันทะมึนเคลื่อนพลเข้าสู่ทุ่งหญ้า กองกำลังนี้ค่อนข้างเป็นระเบียบทางการ เพราะเกือบทั้งหมดประกอบไปด้วยมนุษ์ยมังกร

แม้จะน้อยกว่าในแง่จำนวน

แต่ทรงพลังกว่าอย่างเห็นได้ชัด

คุณสามารถสัมผัสได้จากกลิ่นอายและแรงกดดันของพวกมัน

จิตสังหารของเหล่ามนุษย์มังกรโหมกระหน่ำเหมือนเมฆทะมึนที่กำลังเข้าปกคลุมทุ่งหญ้า