ตอนที่ 30 ลูกพี่เสียหน้ากับการต่อสู้
“เราไม่ได้เอาอะไรไปเลยนะ ไม่ได้แตะต้องอะไรด้วย เราแค่เล่นกันแล้วเผลอเข้ามา ตอนนี้คงได้เวลาต้องไปแล้วจริงไหม?”
เมื่อเจอคำถามของชายหนุ่มคนนี้ จ้าวเจ๋อจึงแสดงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์และพูดด้วยรอยยิ้ม
ด้วยประสบการณ์หลายปีในการดูคน เขามั่นใจมากว่าเด็กที่อยู่ข้างหน้าเขาเป็นผู้เล่น
จ้าวเจ๋อเป็นแค่ผู้เล่นเลเวล10 ใครก็ตามที่ไม่ใช่ผู้เล่นมือใหม่ก็ชนะเขาได้ทั้งนั้น
ตอนนี้เขาอยากออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด
หลิงอี้ที่ได้ยินจ้าวเจ๋อพูดแบบนั้นจึงมองด้วยแววตาสงสัย
เขาคงปล่อยพวกเขาไปไม่ได้เพราะคำพูดแค่ฝ่ายเดียว หลิงอี้โทรหาหลินซูโหรวต่อหน้าชายทั้งสองคน
ลองถามดูก่อน!
จ้าวเจ๋อขมวดคิ้วและพุ่งเข้าไปหาหลิงอี้ด้วยแววตาดุร้าย
“สกิล3ดาว เร่งความเร็ว!”
เขาตะโกนออกมาขณะที่วิ่งเข้าใส่ แสงสีฟ้าสว่างขึ้นบนผิวจ้าวเจ๋อและความเร็วของเขาเพิ่มขึ้น!
เขามาปรากฏตรงหน้าหลิงอี้ในเวลาไม่ถึงครึ่งวินาที นิ้วทั้งห้าของเขาชิดกันจนเหมือนมีดคมและแทงไปที่คอ
หลิงอี้ที่เตรียมตัวรออยู่แล้วหลบไปด้านข้างได้อย่างรวดเร็ว
จ้าวเจ๋อไม่ได้โจมตีต่อเมื่อโจมตีพลาด เขาวิ่งหนีไปทางประตูเหล็กขนาดใหญ่แทน!
“หืม!? คิดจะหนีเหรอ?”
พอเห็นว่าจ้าวเจ๋อไม่ได้เร็วขนาดนั้น หลิงอี้จึงวิ่งไล่ตามและใช้เท้าขัดขาเขา
แม้ว่าจ้าวเจ๋อจะล้มลง แต่ด้วยประสบการณ์ต่อสู้ของเขาจึงทำให้เขาพลิกตัวกระโดดไปด้านข้างได้อย่างรวดเร็ว
เขาลุกขึ้นและใช้มือตั้งการ์ดเผชิญหน้ากับหลิงด้วยความระวัง
“อ่า ฉันคงไปไม่ได้สินะถ้าไม่จัดการนายก่อน”
เขาเริ่มมองหลิงอี้ด้วยแววตาโหดเหี้ยม
ตอนนั้นเองหลิงอี้ก็เรียกดาบธาตุออกมา—ยังคงเหมือนเดิม มันปรากฏตรงหน้าเขาในรูปแบบธาตุแสง
“ดาบธาตุแสง!?” จ้าวเจ๋อขมวดคิ้วแน่นและคิดว่าตัวเองโชคไม่ดีซะแล้ว
การมีสกิลสนับสนุนหมายความว่าผู้ชายฝั่งตรงข้ามอย่างน้อยต้องมีเลเวล10
เขายังไม่มั่นใจเลยด้วยซ้ำว่าจะชนะผู้เล่นเลเวล10ที่มีสกิลดาบธาตุ ดังนั้นไม่ต้องพูดเลยถ้าอีกฝ่ายมีเลเวลสูงกว่านั้น
แต่เมื่อชายหนุ่มเอาจับด้ามดาบ ตาของจ้าวเจ๋อก็แทบหลุดออกมาเมื่อเห็นไฟลุกโชนจากด้ามจับ!
“อะไรน่ะ!!?”
“ดาบธาตุคู่!?”
จ้าวเจ๋ออุทานด้วยความประหลาดใจ
เขาคิดไม่ถึงว่าดาบธาตุคู่ที่มีแค่ไม่กี่คนในโลกนี้จะมาปรากฏตรงหน้าเขา!
เขาเป็นแค่ผู้เล่นเลเวล15
แล้วเขาจะสู้กับ‘ความแข็งแกร่งทรงพลัง’ที่มีชื่อเสียงระดับโลกได้ยังไง?
จ้าวเจ๋อเบิกตากว้างและหวังว่าสิ่งที่เขาเห็นจะเป็นแค่ภาพลวงตา
นี่มันแย่จริงๆ
ไม่ว่าจะดูยังไงก็ยังเห็นไฟลุกบนดาบแสง
ขณะที่เขากำลังแปลกใจ หัวใจของเขาก็จมดิ่งเช่นกัน
'ห้ามโดนเด็ดขาด! โดนทีมีหวังได้ตายแน่!’
แม้ว่าจ้าวเจ๋อไม่เคยสู้กับคนที่ใช้ดาบธาตุคู่ แต่ผู้มีชื่อเสียงและผู้แข็งแกร่งระดับโลกต่างบอกว่าไม่ควรโดนมัน
อีกด้านหนึ่ง
หลิงอี้ไม่รู้ว่าทำไมจ้าวเจ๋อถึงระวังมากขนาดนี้ แต่ท่าทางของอีกฝ่ายทำให้เขาบอกได้ว่าดาบธาตุคู่ของเขาเป็นสิ่งที่หาได้ยาก
เขาเหวี่ยงดาบที่อยู่ตรงหน้าแล้วพึมพำกับตัวเอง “มันเท่ดีอยู่หรอก แต่ไม่รู้ว่ามันรุนแรงแค่ไหนนี่สิ”
“ใช้โอกาสนี้ลองเลยแล้วกัน...”
ก่อนจะพูดจบเขาก็ได้ยินเสียงที่เต็มไปด้วยจิตสังหารจากด้านหลัง!
“สกิล4ดาว พิษแทงหลัง!”
หลิงอี้ตกใจเล็กน้อยและถามตัวเองว่าชายคนนี้วิ่งมาข้างหลังเขาตั้งแต่เมื่อไหร่?
เขาหันหลังกลับมาและเห็นว่าชายคนนั้นถือมีดสีเขียวที่คลุมด้วยอากาศสีเขียว
มีดเจาะเข้าไปในม่านแสงสีน้ำตาลและติดอยู่ในนั้นราวกับว่าเสียบอยู่บนดิน
เจาะเข้ายากและดึงออกยาก
หลิงอี้จะทิ้งโอกาสดีๆแบบนี้ไปได้ยังไง?
เขาฟันดาบใส่จ้าวเจ๋อทันที—เป็นการฟันที่เรียบง่ายโดยไม่มีสกิล
แม้ว่าจะเป็นการฟันที่เรียบง่าย แต่มันทำให้จ้าวเจ๋อกลัวเป็นอย่างมาก
เขาทิ้งมีดทันทีแล้วถอยหนีด้วยใบหน้าสยดสยอง
น่าเสียดายที่เขาเร็วไม่เท่าหลิงอี้ ดาบแสงเพลิงจึงฟันใส่เอวของเขา!
ในตอนนั้นเอง!
มันรู้สึกเหมือนโดนเลื่อยไฟฟ้าเฉือนที่เอว ความเจ็บปวดที่เกินขีดจำกัดของจ้าวเจ๋อได้แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายทันที
จ้าวเจ๋อหมดสติในชั่วพริบตา!
แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ร่างของเขาที่โดนฟันจนกระเด็นไปหลายสิบเมตรเท่านั้น แต่เขายังโดนไฟเผาอย่างไร้ปราณีด้วย
ร่างกายของเขาโดนเผาอยู่ในพื้นที่โล่ง
หลิงอี้แปลกใจมากเมื่อเห็นพลังที่รุนแรงแบบนั้น
“แรงกว่าที่ฉันคิดไว้ซะอีก”
ตอนแรกเขาคิดว่าแค่ดาบเล่นนี้สร้างความเสียหายให้ศัตรูได้ก็ดีมากแล้ว
แต่คิดไม่ถึงว่ามันจะล้มศัตรูได้ง่ายขนาดนี้!
หลิงอี้มองผู้เล่นที่กำลังโดนไฟเผาห่างออกไปสิบเมตร
เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเก็บดาบแล้วเดินเข้าไป
เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นยังไงบ้าง แต่ด้วยสกิล[โล่ดิน]เขาเลยไม่ต้องกังวลมากนัก โล่สีน้ำตาลที่มีดพิษแทงเมื่อกี้ก็คือโล่ดิน!
[โล่ดิน (B)]: ใช้งานได้เมื่อยืนอยู่บนพื้นเท่านั้น, เมื่อเผชิญกับการโจมตีภายนอกที่หลีกเลี่ยงได้ยากจะสร้างม่านแสงรอบๆตัวอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันการโจมตี, แสดงผล30ครั้งต่อวัน
ระดับของสกิลสนับสนุนจะเหมือนระดับของไอเทมคือระดับEต่ำสุดและระดับSสูงสุด
ว่ากันว่าโล่ดินระดับSสามารถแสดงผล100ครั้งต่อวัน!
มันเป็นสกิลช่วยชีวิตที่ดีมาก
แต่สกิลสนับสนุนนี้มีข้อเสียเช่นกัน
ข้อแรกคือมันไม่ทำงานตอนอยู่ลอยบนอากาศ
ข้อสองคือการโจมตีที่หลีกเลี่ยงได้ยากไม่ว่าจะรุนแรงหรืออ่อนแอ มันจะใช้จำนวนครั้งในการป้องกัน ถ้าเป็นการโจมตีอ่อนแอจะทำให้สูญเสียจำนวนครั้งโดยเปล่าประโยชน์
กลับมาปัจจุบัน
เมื่อเขาอยู่ห่างจากเป้าหมายไม่กี่เมตร พื้นที่ด้านหน้าก็เกิดความผันผวน
หลิงอี้ขมวดคิ้วแล้วหยุดเดิน
วินาทีถัดมา
ผู้ชายร่างกำยำสวมชุดสูทสีดำอายุประมาณ30ปีสูง1.9เมตรปรากฏตัวตรงจุดนั้น
เขามองหลิงอี้อย่างรวดเร็วแล้วค่อยหันไปมองผู้ชายที่กำลังโดนไฟเผา
“โอ้ มันนี่เอง”
ผู้ชายคนนี้แสดงสีหน้าไม่แปลกใจเท่าไหร่
นั่นแสดงให้เห็นว่าเขารู้จักที่มาของผู้ชายบนพื้น
“คุณเป็นใคร?” หลิงอี้แอบระวังอยู่ในใจและถามตามปกติ
“ฉันชื่อฟางเฉิง เป็นผู้เล่นของพันธมิตรเสินที่ดูแลความปลอดภัยของพื้นที่นี้ ฉันเพิ่งได้รับแจ้งว่ามีคนกำลังสู้กันที่นี่” นี่เป็นคำตอบตามสูตรของฟางเฉิง
ในเวลาเดียวกันเขาก็หยิบบัตรประจำตัวพันธมิตรเสินที่มีขอบสีเงินบนพื้นหลังสีขาวแสดงให้หลิงอี้ดู
มีรูปเขาอยู่บนนั้นและมีข้อมูลสามบรรทัดด้านล่างรูป
[ชื่อ: ฟางเฉิง]
[ตำแหน่ง: พันธมิตรเสิน นครเชียนเจียง เมืองอึ๋งหั่ว- ผู้พิทักษ์พื้นที่]
[เลเวล: 65]
หลังจากเก็บบัตรประจำตัว เขาชี้ที่จ้าวเจ๋อ “ชายคนนี้ชื่อจ้าวเจ๋อ เป็นอันธพาลของเมืองถัดไป เขามักโดนจับในข้อหาก่อกวนประชาชน”
ฟางเฉิงมองประตูเหล็กที่เปิดกว้างและถามว่า “เขาบุกเข้าบ้านคุณด้วยหรือเปล่า?”
“ใช่”
หลิงอี้พยักหน้า