ตอนที่ 29 ผู้บุกรุก
ตรงข้ามสาขาพันธมิตรเสิน หลังตึกของเหยื่อ
บริเวณนี้เป็นพื้นที่ปลอดภัยในเมืองอึ๋งหั่ว
หลินซูโหรวที่อยู่ที่นี่จึงปลอดภัยและไม่เคยถูกบุกรุก
แม้ว่าหลิงอี้จะบอกว่ามีสนามป้องกัน แต่เธอไม่คิดว่าจะได้ใช้มันในเวลาอันใกล้นี้
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่
ขณะที่หลินซูโหรวดูละครทีวีเรื่อง‘เกมเมอร์เอาแต่ใจตกหลุมรักฉัน’ กริ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้น
กริ๊งงง~
กริ๊งงง~
กริ๊งงง~
กริ่งถูกกดติดกันสามครั้ง
“หืม?”
หลินซูโหรวหยุดดูทีวีและหันไปมองนาฬิกาแขวนบนผนัง
07:36
เธอจำได้ว่าเพิ่งเธอเปิดทีวีตอน31นาที
“ผ่านไป5นาทีเอง หลิงอี้กลับมาแล้วเหรอ?”
หลินซูโหรวรู้แค่ว่าหลิงอี้เป็นผู้เล่นที่เข้าเสินลู่เมื่อวาน
เธอไม่รู้ว่าเขาเพิ่มคุณสมบัติอะไรหรือมีสกิลอะไรบ้าง
นั่นจึงบอกได้ยากว่าเขาจะสามารถกลับภายใน5นาทีได้หรือเปล่า
ขณะที่เธอลังเลว่าจะเปิดประตูดีไหม เสียงก็ดังขึ้นจากนอกประตู
“มีใครอยู่ไหม? เปิดประตูหน่อย”
เป็นเสียงดุร้ายของผู้ชาย
เมื่อได้ยินแบบนั้นหลินซูโหรวเลยตื่นตระหนกและตัดสินว่าคนคนนั้นเป็นคนไม่ดีทันที
ประตูเหล็กขนาดใหญ่นอกลานบ้านเธอยังคงปิดอยู่!
ไม่มีคนธรรมดาคนไหนข้ามประตูนั้นเข้ามาได้
โชคดีที่เธอยังมีความมุ่งมั่นในฐานะอดีตผู้เล่นอยู่บ้าง
แม้จะกลัวแต่เธอก็ยังหยิบอุปกรณ์ที่มีปุ่มสองปุ่มจากลิ้นชักโต๊ะไม้อย่างใจเย็น นี่เป็นสัญญาณเตือนที่พันธมิตรเสินออกแบบเป็นพิเศษสำหรับคนธรรมดา
เมื่อโดนผู้เล่นโจมตีหรือเจออันตราย สามารถกดปุ่มต่างๆได้ตามสถานการณ์
สถานการณ์ฉุกเฉินและต้องการการสนับสนุน - กดปุ่มสีเหลือง
สถานการณ์วิกฤติจนรอไม่ได้ - กดปุ่มสีแดง
แน่นอนว่าไม่สามารถกดปุ่มพวกนี้ได้ตามอำเภอใจ ถ้ากดจะเล่นจะได้รับบทลงโทษร้ายแรง
หลินซูโหรวเปิดฝาครอบโปร่งใสของสัญญาณเตือนและวางนิ้วหยกขาวบนปุ่มสีแดง
ถ้าประตูบ้านเปิดเมื่อไหร่เธอจะกดปุ่มสีแดง เธอยอมรับการลงโทษจากการกดปุ่มได้มากกว่าอันตรายที่ไม่รู้จัก
“มีใครอยู่ไหม? เปิดประตูหน่อย!”
เสียงดังมาจากนอกบ้านอีกครั้ง
เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ น้ำเสียงของเขาดูหงุดหงิดขึ้น
หลินซูโหรวขมวดคิ้วเล็กน้อยโดยรักษาท่าทางของเธอไม่เปลี่ยน
“ไม่เปิดใช่ไหม? ถ้างั้นก็อย่าโทษที่ฉันพังประตู!”
เมื่อเสียงนั้นดังขึ้น หลินซูโหรวก็กัดฟันมองที่หน้าประตู
เธอสัญญาว่าจะกดปุ่มทันทีถ้าประตู มีรอยแตกเล็กน้อย
แต่ไม่กี่วินาทีต่อมา ประตูก็ยังนิ่งอยู่
ดูเหมือนว่าคนด้านนอกจะพูดเฉยๆแต่ไม่ได้ทำอะไร
ระหว่างที่เธอกำลังสงสัย เสียงคุยของคนสองคนก็ดังมาจากด้านนอก
“หึ่ย! ประตูนี้มีเกราะคุมกัน! แกบอกฉันว่าผู้หญิงที่อยู่ที่นี่เป็นแค่คนธรรมดาไม่ใช่หรือไง?”
“ลูก...ลูกพี่ ฉันอยู่บ้านถัดไปนี่เอง หกเดือนที่ผ่านมาฉันเห็นแต่ผู้หญิงธรรมดาอาศัยอยู่ที่นี่คนเดียว”
“แล้วแกจะอธิบายเรื่องนี้ยังไง?”
“ลอง...ลองเข้าทางหน้าต่างดีไหม?”
“ไป!”
หลินซูโหรวก็ขมวดคิ้วอย่างรุนแรงเมื่อได้ยินการสนทนานี้
บ้านหลังถัดไป?
เธอจำได้ว่ามีผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งอาศัยอยู่ที่นั่นจริงๆ
‘คนข้างบ้านน่าจะมีผู้เล่นเป็นหัวหน้า...แต่ไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของพวกเขาคืออะไร...'
หลินซูโหรวไม่ได้อยากคุยอวด แต่ของในห้องนี้ไม่มีอะไรสำคัญกับเธอเลย
ไม่ว่าจุดประสงค์ของพวกเขาคืออะไร แต่เธอจะเป็นอันตรายเมื่อพวกเขาเข้ามา
ในตอนนั้นเอง
ด้านนอก
โจวสือพาพี่ใหญ่จ้าวเจ๋อที่เขาเพิ่งเจอไปทางหน้าต่างด้านข้าง
ทั้งสองคนเจอกันเมื่อคืนนี้
ตอนนั้นโจวสือกำลังจะเข้านอนแต่จ้าวเจ๋อบุกเข้ามากินดื่มในบ้านเขาและขโมยเตียงไปนอน
โจวสือไม่กล้ามีเรื่องกับด้วย เมื่อเช้านี้เขาจึงบอกเรื่องของเพื่อนบ้านให้ฟัง
เขาบอกว่าเพื่อนบ้านเป็นผู้หญิงธรรมดาที่อยู่ตัวคนเดียว สภาพแวดล้อมที่บ้านดีมากฯลฯ สรุปคือเขาตั้งใจจะโยนความซวยไปให้คนอื่น
และตอนนี้เขาทำสำเร็จแล้ว แต่สิ่งที่คิดไม่ถึงคือจ้าวเจ๋อลากเขามาที่นี่ด้วย
ดูเหมือนว่าจ้าวเจ๋อจะกลัวว่าเขาไปแจ้งความ
“พี่ใหญ่ ฉันสัญญาว่าจะไม่พูดอะไรทั้งนั้น ปล่อยฉันไปเถอะ”
โจวสือขอร้องอย่างขมขื่นเมื่อเดินไปที่หน้าต่าง
จ้าวเจ๋อที่ได้ยินแบบนั้นจึงยิ้มเล็กน้อย เขาเอื้อมมือซ้ายไปโอบคอโจวสือเข้ามาใกล้แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตร “ไอ๊หยา เสี่ยวสือพูดจากแปลกๆนะ”
“พวกเราเป็นคนธรรมดาเหมือนกันนะ นายไม่เชื่อพี่ใหญ่แบบฉันเหรอ?”
“พี่ชาย คุณไม่ใช่คนธรรมดา...”
“ไอ๊หยา มีแค่พลังเล็กน้อยไม่ใช่หรือไง ฉันแค่เลเวล10กว่าเอง พวกเราก็เหมือนกันนั่นแหละไม่ต้องกลัวหรอก”
โจวสือไม่ได้พูดอีกเพราะจ้าวเจ๋อรัดคอแน่นอนกว่าเดิม
ตอนนี้เขาเป็นเหมือนเด็กที่ถูกแขนผู้ใหญ่รัดและยากที่จะหลุดออก
“ยังมีผ้าม่านอีก”
เมื่อมาถึงหน้าต่าง จ้าวเจ๋อถอนหายใจด้วยความผิดหวังเพราะเขาคิดว่าจะสามารถมองผ่านเข้าไปได้
ในวินาทีต่อมา เขาเหวี่ยงหมัดขวาไปที่หน้าต่างโดยไม่บอกล่วงหน้า!
ตึง
โล่ที่มองไม่เห็นป้องกันกำปั้นของเขาไว้
มีเสียงเกิดขึ้นเมื่อทั้งสองกระทบกัน
“ตรงนี้ก็มีสนามป้องกัน...”
หน้าของจ้าวเจ๋อมืดคล้ำลงอย่างรวดเร็ว
ข้อมูลที่โจวสือบอกเขาไม่ถูกสักอย่าง ผู้หญิงที่อยู่ที่นี่ต้องไม่ใช้คนธรรมดาแน่
บางทีเธออาจมีเพื่อนเป็นผู้เล่นหรือมีผู้เล่นคนอื่นอาศัยอยู่ที่นี่
หรือบางทีโจวซืออาจจะโกหกเขา ความจริงแล้วอาจมีผู้เล่นอาศัยอยู่ที่นี่! และเป็นผู้เล่นเลเวลสูงด้วย!
โจวซือพาเขามาที่นี่เพื่อให้เขาตกหลุมพราง!
ไม่มีเสียงโต้กลับจากการเรียก บางทีคนที่อยู่ที่นี่เพิ่งจะออกไป
จ้าวเจ๋อเลยสูดลมหายใจเข้าเย็นชาและรีบเดินออกไปข้างนอกโดยที่โอบโจวสือเอาไว้
เขาเดินผ่านสวนหน้าบ้านที่เต็มไปด้วยดอกไม้และพืชพันธุ์
เมื่อเขากำลังจะไปถึงประตูเหล็กขนาดใหญ่ ชายหนุ่มผมดำก็ปรากฏตัวในสายตาของจ้าวเจ๋อ
รูม่านตาจ้าวเจ๋อหดตัวลง ความคิดทุกอย่างแวบเข้ามาในหัวของเขา
ฝีเท้าที่เร่งรีบหยุดลงกะทันหัน มือซ้ายของเขาปล่อยโจวสือโดยไม่รู้ตัว
จ้าวเจ๋อมองผู้ชายคนนั้นโดยหวังว่าเขาจะไม่ใช่ผู้เล่นที่อาศัยอยู่ที่นี่
แต่อีกฝ่ายเปลี่ยนเป็นสีหน้าเคร่งขรึมอย่างรวดเร็วเลยทำให้หัวใจเขาเต้นผิดจังหวะ
หัวใจของเขาเต้นเร็วกว่าเดิมเมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย
......
“พวกนายเป็นใคร!? เข้ามาทำอะไรที่นี่!”
หลิงอี้ที่เพิ่งกลับมาจากการซื้อของยืนอยู่ด้านในประตูเหล็กขนาดใหญ่และตะโกนถามชายสองคนที่อยู่บนทางเดินลานบ้าน
ที่เขาไม่ได้ถือของสดมาด้วยเพราะเขาซื้อกระเป๋ามิติชั่วคราวจากร้านเสินลู่และใส่ของสดทั้งหมดลงไป
กระเป๋ามิติอยู่ในกระเป๋าเป้ของเขา
การเอาของออกมาภายหลังเป็นเรื่องที่สะดวกมา
ตอนนี้หลิงอี้กำลังมองชายสองคนด้วยความระวัง
เขามองผ่านทั้งสองคนเข้าไปในบ้าน เมื่อเห็นว่าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเขาจึงเริ่มคาดเดา
'สองคนนี้ต้องมาด้วยเจตนาไม่ดีแน่ พอบุกเข้าไปไม่ได้เลยจะกลับออกไป?’
'หรือพวกเขาเป็นเพื่อนของหลินซูโหรวที่เพิ่งกลับมาตอนนี้?'
หลิงอี้ขมวดคิ้วมองพวกเขาก่อนจะยืนยันตัวตนได้