ตอนที่ 133 หน้าตาแบบนี้ไม่ได้แต่งงานแน่นอน
รถค่อยๆขับเข้าไปในทะเลซีหูช้าๆ ซูข่านมองออกไปข้างนอกรถก็เห็นสายลมที่กำลังพัดจนผิวน้ำสั่นไหว ทิวทัศน์ของทะเลสาปแห่งนี้ก็สวยงาม
มีดอกบัวที่บานขึ้นเป็นย่อมๆ นอกจากนั้นก็ยังมีนกน้ำที่ใช้ชิวีตกันอยู่ในทะเลสาปแห่งนี้ด้วย บรรยากาศของที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความร่มรื่น
ดวงตาของซูข่านไม่ได้มองไปยังทิวทัศน์ของที่นี่มากนัก เขากำลังมองไปที่ผู้คนรอบๆ สายตาของเขาพยายามมองอะไรสักอย่างหนึ่งอยู่
ถ้าเป็นไปได้ วันนี้เขาก็อยากจะเจอกับร่างเล็กๆคนนั้นในทะเลสาปแห่งนี้ เขารู้สึกคาดหวังในใจเล็กน้อย
เมื่อเห็นซูข่านมองไปที่ด้านนอกตลอดทาง สูเจิ้งเหมาก็สงสัย
เขาเห็นว่าซูข่านไม่ได้พยายามที่จะชื่นชมทิวทัศน์
เขากำลังมองหาอะไรอยู่
สูเจิ้งเหมารู้สึกประหลาดใจ เขาเลยถามกับซูข่านว่า
"คุณซูต้องการจะชมวิวตรงนี้ไหมครับ เดี๋ยวผมจอดสักพักก็ได้"
"เดี๋ยวค่อยมาหลังธุระของเราเสร็จดีกว่า เหลาสู"
ซูข่านตอบโดยไม่ได้หันหน้าไปมองสูเจิ้งเหมา เขามองไปยังภายนอกรถตลอดเวลา
ซูข่านรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ร่างที่โดดเด่นอย่างเขาสามารถหาได้ไม่ยาก
แต่ก็ยังมีโอกาสอยู่ ในอนาคตอีกไม่นานซูข่านคิดว่ายังไงจะต้องไปพบกับคนๆนั้นอย่างแน่นอน
ถ้าผ่านไปสักสิบกว่าปี บางทีเขาก็อาจเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงแล้วก็ได้ เขาจะต้องพยายามที่จะโน้มน้าวให้ฉันไปร่วมลงทุนด้วยแน่ๆ
ซูข่านเต็มใจที่จะร่วมทุนกับชายคนนั้นอยู่แล้ว เขาเป็นคนที่มีคารมคมคาย และเป็นคนที่มีความสามารถรอบตัว
พอถึงเวลานั้นคงจะไม่พลาดโอกาสนี้อย่างแน่นอน
ถึงแม้ว่าเขาจะเข้าหาด้วยคำโกหก แต่สุดท้ายแล้วผลประโยชน์ก็จะแบ่งให้แต่ละฝ่ายอย่างเท่าเทียม
สูเจิ้งเหมาพยักหน้า เขาและซูข่านไม่ได้พูดอะไรต่อหลังจากนั้น สูเจิ้งเหมาไม่รู้ว่าซูข่านกำลังคิดอะไรอยู่ เขาตามความคิดไม่ทันแล้ว
ประมาณ 2-3 นาที รถก็ได้ขับไปรอบทะเลสาปซีหูจนมาจอดที่สถานที่แห่งหนึ่ง
ซูข่านลงจากรถก็ได้มองไปที่หน้าอาคารโบราณด้านหน้าเขา มันดูเป็นศาลาที่มีความละเอียดละอ่อนมาก แถมยังสวยงามอีกด้วย
รูปแบบสถาปัตยกรรมแบบนี้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะในเจียงหนาน มีภาพยนตร์หลายเรื่องมาถ่ายทำที่นี่ แทบจะเป็นแลนด์มาร์คของเจียงหนานไปแล้ว
"สวยงามมาก"
ซูข่านกระซิบกับตัวเองเบาๆ
สูเจิ้งเหมาก็ได้อธิบายว่า
"อาคารที่อยู่ตรงหน้าคุณซูตอนนี้ เป็นอาคารที่มีชื่อเสียงที่สุดในซูโจวและหางโจว มันเป็นของร้านอาหารที่อายุนับร้อยปี รสชาติของพวกเขาอยู่ในระดับ 5 ดาว"
สถานที่แห่งนี้มีการตกแต่งที่สวยงามมาก สามารถเดินไปชมทิวทัศน์ของทะเลสาปซีหูได้ นี้เป็นครั้งที่สองที่ซูข่านได้มาที่นี่อีกครั้ง
ซูข่านรู้สึกว่าการได้มาอยู่ที่ทะเลสาปซูหูเหมือนกับเขาได้หลุดเข้าไปอีกโลกใบหนึ่ง สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความผ่อนคลาย
ระหว่างซูข่านได้เดินเข้าไปในอาคาร ซู่ข่านก็ได้เห็นชาวต่างชาติสองคน พวกเขาแขวนกล้อง และกำลังเดินออกมาจากอาคาร
"ท่านครับ เป็นยังไงบ้างครับ"
ทันใดนั้นเอง เสียงเด็กก็ได้ดังขึ้นมา ซูข่านรู้สึกคุ้นเคยกับเสียงนี้อย่างมาก
หัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้นเล็กน้อย พอมองไปตามเสียงเขาก็เห็นเด็กผู้ชายใส่เสื้อลายสก๊อตสีแดง อายุราวๆ 14 ไม่ก็ 15 ตัวผอมแห้ง แต่ก็ดูโดดเด่นกว่าเด็กตัวไปมาก หน้าตาเขามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ภาพในชาติก่อนของซูข่านก็ได้เข้ามาในหัวของเขา หน้าของชายคนนี้เขาไม่สามารถลืมได้ลงจริงๆ เด็กคนนี้ต้องเป็นชายคนนั้นแน่นอน
ซูข่านเห็นเด็กชายคนนี้ เขาก็ยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ซูข่านดูตื่นเต้นมากที่ได้เจอกับเขา
นี้คงเป็นโชคดีของซูข่านจริงๆ ที่ได้มาพบการเด็กคนนี้ที่ทะเลสาปซีหู
"คุณซูรู้จักเด็กคนนั้นเหรอครับ?"
สูเจิ้งเหมาถามซูข่านด้วยความสงสัย จากสีหน้าของซูข่าน ดูเหมือนว่าเขาจะสนใจในตัวเด็กคนนั้นไม่น้อย
อาจจะเป็นคนรู้จักของคุณซูก็ได้ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่คุณซูจะมารู้จักกับเด็กหนุ่มคนนี้
เป็นไปได้ไหมว่าคุณซูกำลังทดสอบอะไรกับเราอยู่
สูเจิ้งเหมาพยายามคิดตามซูข่าน มีคำถามมากมายเกิดขึ้นภายในหัวของเขา
"พี่สามจะไปรู้จักเด็กคนนั้นได้ยังไง"
ลู่กั๋วเฉียงพยายามกลั้นขำของตัวเอง
"เด็กผู้ชายคนนั้นเหรอ"
"เขาดูมีหน้าตาที่โดดเด่นกว่าเด็กทั่วไปนิดหน่อยนะ"
เมื่อได้ยินลู่กั๋วเฉียงพูด ซงหมิงเจียงกับซู่เฟิงก็มองไปที่เด็กคนนั้นแล้วก็หันหน้ามามองกัน พวกเขาดูเหมือนอยากจะหัวเราะออกมา แต่ก็ดูเหมือนพยายามกลั้นไว้อยู่
หน้าตาของเด็กคนนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ถ้าเด็กคนนี้อยู่ในหมู่บ้านเดียวกับพวกเขา คงจะไม่มีบ้านไหนให้ลูกสาวมาแต่งงานกับเด็กคนนี้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม พวกลู่กั๋วเฉียงกับคนอื่นๆ ก็ไม่กล้าพูดคำเหล่านี้ออกมา พวกเขาเห็นซูข่านดูเหมือนจะรู้จักกับเด็กคนนี้
บางทีถ้าไปดูถูกเด็กคนนั้น อาจจะโดนพี่สามดุก็ได้
ถ้าโดนพี่สามโกรธละก็….บางทีอาจไม่ได้กลับหนานจิงเลยก็ได้
"ไม่"
ซูข่านส่ายหัว
"ฉันไม่รู้จักเขา"
"ให้ผมไปเรียกเขาไหมครับ"
แม้ว่าซูข่านจะบอกว่าไม่รู้จักเด็กคนนั้น แต่สูเจิ้งเหมารู้สึกว่าซูข่านได้สนใจในตัวเด็กคนนี้มาก
เขาต้องการที่จะเอาใจซูข่านทุกอย่างเท่าที่จะทำได้
ซูข่านส่ายหัว
"ไม่ต้องหรอกเหลาสู"
ซูข่านรู้สึกว่าจะเป็นการดีกว่าถ้าไม่ไปรบกวนการเติบโตของเด็กคนนี้ ในอนาคตยังไงก็ยังมีโอกาสได้เห็นเด็กคนนี้อีก
ยิ่งไปกว่านั้นธุรกิจอีคอมเมิร์ซยังจำเป็นต่อธุรกิจของเราด้วย
แค่คิดว่าจะได้ทำงานด้วยกันก็น่าจะสนุกไม่ใช่น้อย
"เข้าข้างในกันเถอะ"
หลังจากพูดจบซูข่านก็ได้เดินนำสูเจิ้งเหมาและคนอื่นๆเข้าไปในอาคาร
คนอื่นๆก็มองหน้ากันด้วยความงุนงงและก็เดินตามซูข่านโดยไม่ได้ถามอะไรต่อ
เมื่อพวกเขาเดินเข้าไปในอาคาร เด็กชายคนนั้นก็ได้หันหน้ามามองตรงที่ซูข่านยืนเมื่อสักครู่
"เอ๊ะ"
เด็กชายพึมพำกับตัวเอง
"ตะกี้เหมือนว่ามีคนกำลังมองมาที่เราอยู่เลย ตอนนี้หายไปไหนแล้ว"
"ฉันตาฟาดงั้นเหรอ?"
"ช่างเถอะ เราฝึกภาษาอังกฤษของเราต่อดีกว่า"
จากนั้นเด็กหนุ่มก็ได้หันไปคุยกับฝรั่งผมบลอนด์ที่สะพายกล้อง หน้าตาของเด็กหนุ่มคนนี้ดูมีความกระหายในการเรียนรู้อย่างมาก เขายิ้มและหัวเราะระหว่างที่พูดคุยกับฝรั่ง