ตอนที่ 22 อัญเชิญจักรพรรดิน้ำแข็ง
หลังกลับจากพื้นที่ของอนุสรณ์ประวัติศาสตร์เสินลู่ ร่างของหลิงอี้ก็ปรากฏอยู่ในตำแหน่งเดิมที่เขาเข้าไป
[เวลาจุติที่เหลือ: 2 ชั่วโมง 28 นาที]
พอห็นว่าเหลือเวลาอีกสองชั่วโมงครึ่ง เขาจึงไม่ได้รีบฆ่ามอนสเตอร์ต่อ
เขากระโดดลงจากกำแพงหินแล้วนั่งพิงกำแพง
หลิงอี้เริ่มตรวจสอบของที่ได้มาหลังจากทำลายสถิติ
[ตั๋วอัญเชิญระดับสูง]: หลังใช้งานสามารถเลือกสกิลอัญเชิญ5ดาวขึ้นไป มีโอกาสเล็กน้อยที่จะได้รับสกิลอัญเชิญชั้นยอด
“สกิลอัญเชิญ?!”
สกิลอัญเชิญคือสกิลที่อัญเชิญมอนสเตอร์เหมือนกับ[อัญเชิญธาตุไฟ]ที่เขาได้มาเมื่อสิบนาทีก่อน
หลิงอี้ประหลาดใจเล็กน้อย
ในความคิดของเขา สิ่งต่อไปที่เขาควรมีคือสกิลต่อสู้ระยะประชิด
ถ้าตอนนี้เขาใช้สกิลอัญเชิญกับตำแหน่งดาวที่เหลือ ความหวังเรื่อง‘พลังต่อสู้ระยะประชิด’คงต้องเลื่อนไปก่อน
“อืม...ลองดูก่อนแล้วกัน”
หลังจากคิดอยู่พักหนึ่งหลิงอี้จึงตัดสินใจใช้สิ่งนี้ก่อน
เขาดูศักยภาพการกลายพันธุ์ของไอเทมชิ้นนี้ก่อนจะใช้มัน
[ตั๋วอัญเชิญระดับสูง - ศักยภาพการกลายพันธุ์: ปานกลาง]
เขายังไม่เคยกลายพันธุ์ของที่มีศักยภาพกลายพันธุ์ระดับปานกลาง
เมื่อคิดได้แบบนั้นเขาจึงเริ่มจะกลายพันธุ์
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง กดดูอีกครั้ง
[ตั๋วอัญเชิญระดับสูง ]: หลังใช้งานสามารถเลือกสกิลอัญเชิญ5ดาวขึ้นไป มีโอกาสเล็กน้อยที่จะได้รับสกิลอัญเชิญชั้นยอด มีโอกาสน้อยมากที่จะได้รับสกิลอัญเชิญบอส
สกิลอัญเชิญคือการอัญเชิญมอนสเตอร์ธรรมดา
สกิลอัญเชิญชั้นยอดคือการอัญเชิญมอนสเตอร์ชั้นยอด
สกิลอัญเชิญบอสคือการอัญเชิญบอสมอนสเตอร์
แต่...
“อัญเชิญบอสมอนสเตอร์ได้ด้วย?”
เขาเข้าฟอรัมหาคำว่า‘สกิลอัญเชิญบอส’ด้วยความสงสัย
สิ่งที่ปรากฎคือ[คงจะดีถ้าสกิลอัญเชิญสามารถอัญเชิญบอสได้], [ไม่มีสกิลอัญเชิญบอสเสินลู่ แต่เราสร้างมันขึ้นมาได้]...ฯลฯ
จากนั้นไม่นานเขาจึงตัดสินว่าในเสินลู่ไม่มีสกิลอัญเชิญบอสมอนสเตอร์
หรือก็คือ
สกิลประเภทนี้ไม่มีอยู่ในเสินลู่
“นี่ฉันกลายพันธ์สกิลจนได้สกิลที่ไม่มีในเสินลู่เหรอเนี่ย?”
หลิงอี้รู้สึกแปลกๆ
หลังจากเปิดแผงสกิลดู[ดาวตก]กับ[คัดลอกคุณสมบัติ] ท่าทางเขาก็กลับมาเป็นปกติ
“ฉันกลายพันธ์จนได้สิ่งที่ไม่มีในเสิ่นลู่ มันคงไม่มีปัญหาอะไรหรอกใช่ไหม?”
พอพูดจบเขาก็ไม่รอช้าอีก
กดใช้[ตั๋วอัญเชิญระดับสูง]กลายพันธุ์ทันที
ตอนใช้ไอเทมใช้แค่ความคิดเท่านั้น
ไม่มีการกระทำหรือคำพูดใดๆ
หลังจากตั๋วอัญเชิญสลายไป ข้อมูลเสินลู่ก็ปรากฏขึ้น
[คุณใช้[ตั๋วอัญเชิญระดับสูง]]
[เริ่มทำการสุ่ม...]
จากนั้นไม่นาน
[ยินดีด้วยคุณได้รับสกิล10ดาว[อัญเชิญวิญญาณน้ำแข็ง]!]
ที่ได้สกิล10ดาวเพราะความสามารถของ‘ย้อนกลับความน่าจะเป็น’?
หลิงอี้กดดูรายละเอียดของสกิลนี้อย่างไม่รอช้า
[อัญเชิญวิญญาณน้ำแข็ง(10ดาว)]: เรียกวิญญาณน้ำแข็งเป็นเวลา1นาที
“แค่นั้น?”
หลิงอี้เทียบสกิลนี้กับ[อัญเชิญธาตุไฟ]และพบว่านอกจากชื่อเรียกของสกิลแล้ว ทุกอย่างล้วนเหมือนกันหมด
ใช่ มีระดับดาวที่ต่างกันด้วย
ส่วนปัจจัยที่ทำให้ทั้งสองสกิลมีระดับดาวที่ต่างกันคงเป็นเพราะสิ่งที่อัญเชิญ
ใช้ตำแหน่งดาว3ตำแหน่งในการเรียกธาตุไฟ และใช้ตำแหน่งดาว10ตำแหน่งในการเรียกวิญญาณน้ำแข็ง
หรือว่าวิญญาณน้ำแข็งจะมีพลังมากกว่าธาตุไฟ
เขาค้นหาในฟอรัมอย่างรวดเร็วและพบว่าวิญญาณน้ำแข็งเป็นบอสมอนสเตอร์ตัวแรกของเส้นทางหลักในแผนที่สุดท้าย!
บังเอิญจริงๆ
ผู้เล่นทั้งหมดที่อยู่แผนที่สุดท้ายในปัจจุบันติดอยู่ในด่านนั้น
เข้าใจได้ว่า
ตอนนี้ไม่มีใครในโลกเอาชนะวิญญาณน้ำแข็งได้!
“จิ๊จิ๊จิ๊”
หลิงอี้เดาะลิ้นด้วยความรู้สึกสับสนในใจ
“เลเวลของมอนสเตอร์อัญเชิญขึ้นอยู่กับเลเวลของผู้เล่น หมายความว่าตอนที่ฉันมีเลเวล80 วิญญาณน้ำแข็งแค่ตัวเดียวก็รับมือกับผู้เล่นนับไม่ถ้วนได้แล้ว”
[ลูกปัดค่าประการณ์]กลายพันธุ์ก่อนหน้านี้คือสิ่งสำคัญในการเพิ่มเลเวลของเขา
สกิล[อัญเชิญวิญญาณน้ำแข็ง]อันนี้มีไว้รับประกันความแข็งแกร่งของเขาในอนาคต
ต่อให้เขาใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในบ้าน หลังจากนั้นสามปีเขาก็สามารถเลื่อนไปถึงเลเวล100และอัญเชิญบอสมอนสเตอร์เลเวล100ได้
แค่สองสิ่งนี้ก็ทำให้เขามีต้นทุนในการยืนอยู่บนจุดสูงสุดแล้ว
และบ้านของเขาเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุด
ถ้าวางแผนให้ดี เรื่องนี้จะเป็นไปได้ทั้งทางทฤษฎีและทางปฏิบัติ...
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลิงอี้ตบหน้าตัวเองแล้วโยนความคิดที่เสื่อมโทรมออกไป
ต่อให้ไม่พูดเรื่องอนุสรณ์ประวัติศาสตร์เสินลู่จะอัพเดตในครึ่งปี แต่ตัวเขาต้องไม่ใช่คนขี้เกียจ
ต้องทำงานหนักเท่านั้นเขาถึงจะรู้สึกถึงมัน
เรื่องนี้ยืนยันได้
เลื่อนสายตามลงมามอง
[อัญเชิญวิญญาณน้ำแข็ง - ศักยภาพการกลายพันธุ์: สูงสุด]
นี่เป็นข้อมูลที่ได้จากระบบกลายพันธุ์ขั้นสุดยอด
แม้ว่าจะกลายพันธุ์ตั๋วอัญเชิญ แต่สกิลนี้ก็ไม่เปลี่ยนแปลงไปด้วย
“กลายพันธุ์”
เขาตัดสินใจได้ทันทีเมื่อเห็นศักยภาพ‘สูงสุด’
[คุณยืนยันกลายพันธุ์สกิลอัญเชิญวิญญาณน้ำแข็งหรือไม่ (ต้องใช้66แต้มการกลายพันธุ์)]
“ยืนยัน!”
จากนั้นไม่นานเขา ตรวจสอบสกิลอีกครั้ง
[อัญเชิญจักรพรรดิน้ำแข็ง(10ดาว)]: อัญเชิญจักรพรรดิน้ำแข็ง
มอนสเตอร์อัญเชิญเปลี่ยนไป
ระยะเวลาหายไป
นอกจากการเปลี่ยนแปลงทั้งสองอย่างนี้ เขายังไม่เห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงอื่นอีก
“จักรพรรดิน้ำแข็งน่าจะเป็นบอสมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งกว่าวิญญาณน้ำแข็ง” หลิงอี้ตัดสินง่ายๆ
น่าเสียดายที่เขาเหลือตำแหน่งดาวแค่2ตำแหน่งซึ่งไม่พอสำหรับสกิลนี้
ไม่ว่าสกิลนี้จะแข็งแกร่งขนาดไหน เขาต้องไปเพิ่มเลเวลอีกถึงจะได้รู้
“ช่วงนี้ก็ใช้ดาวตกไปก่อน”
เขาปีนกำแพงหินขึ้นไปสำรวจอีกฝั่งอีกครั้ง
ธาตุไฟทั้งหมดที่โดนเขาฆ่ายังไม่เกิดใหม่
แต่เขาต้องเดินหน้าต่อไป
เขาออกมาจากหลังกำแพงหินและกระโดดลงอย่างรวดเร็ว....
......
ป่าและทุ่งหญ้าเป็นพื้นที่เพิ่มเลเวลทีผู้เล่นใหม่ชื่นชอบ
นอกจากไก่ต่อสู้แล้วยังมีมอนสเตอร์เลเวลต่ำอีกเช่นหญ้าน้อย แฟรี่
วูบ-!
บอลไฟบินผ่านป่าไปกระแทกกับหญ้าขนาดเล็กที่ใหญ่กว่าหญ้าปกติหลายเท่า
จากนั้นหญ้าขนาดใหญ่ก็ติดไฟจากบอลไฟและไหม้เป็นเถ้าถ่านในไม่กี่วินาที
[คุณฆ่าหญ้าน้อย(เลเวล4), ค่าประสบการณ์ +2]
[ยินดีด้วย ค่าประสบการณ์ของคุณเพียงพอแล้ว คุณเลื่อนเป็นเลเวล4!]
[คุณได้รับ…]
แคร่กแคร่ก
เสียงเหยียบใบไม้ดังมาจากหลังต้นไม้ ผ่านไปครึ่งลมหายใจเด็กสาวหน้าตาดีอายุประมาณ20ปีก็เดินออกมา
หญิงสาวสูงประมาณ1.7เมตร
เธอมีผมหยักศกสีน้ำตาลและดวงตาสีทองอ่อน
ใบหน้างดงามของเธอดูเย้ายวลใจมาก ใบหน้านุ่มนวลของเธอแสดงรอยยิ้มเล็กน้อย
เธอสวมเสื้อผ้าเรียบง่าย: ด้านนอกเป็นเสื้อคลุมสีครีม ด้านในเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงขายาวสีดำ และสวมรองเท้าบูท
เธอใส่เสื้อผ้าทั้งหมด4ชิ้น
“ในที่สุดก็ถึงเลเวล4”
เธอเปิดแผงข้อมูลและเพิ่มแต้มคุณสมบัติด้วยรอยยิ้ม
เธอตั้งใจจะเดินสายความว่องไว เธอจึงลงแต้มคุณสมบัติที่‘3พลังเวท2ความว่องไว’
ในโลกภายนอกเรียกผู้เล่นที่เพิ่มแต้มคุณสมบัติแบบนี้ว่า‘เส้นทางหนาม’
แต่ลั่วเหยาไม่สนใจคนอื่นที่เรียกแบบนั้นเพราะเธอตั้งใจจะเดินสายนี้จริงๆ