ตอนที่ 125 ทักษะที่ต้องการ
ซูข่านลุกออกจากโต๊ะทันทีเมื่อคุยกับจ้าวชิงชิงจบ จางหม่านก็ได้บอกกับจ้าวชิงชิงให้กลับไปติดต่อกับอธิการบดีให้เร็วที่สุด
เรื่องนี้ถูกดำเนินการอย่างรวดเร็ว มีการจัดประชุมเร่งด่วนขึ้นภายในมหาวิทยาลัยชิงหวา
วันรุ่งขึ้น รองอธิการบดีของมหาวิทยาชัยชิงหวาก็ได้ตรงดิ่งมาหาจางหม่านกับสูเจิ้งเหมา เพื่อเชิญพวกเขาทั้งคู่ไปที่มหาวิทยาลัย
หลังจากนั้นทุกอย่างก็เป็นไปอย่างราบรื่น
มหาวิทยาลัยชิงหวาภาควิชาเคมีและซิงซี กรุ๊ป ได้บรรลุข้อตกลงมือร่วมกันทั้งสองฝ่าย โดยทางซิงซีได้บริจาคเงิน 1 ล้านหยวนเพื่อก่อตั้งห้องปฏิบัติการวิจัย
โดยสิทธิบัตรที่วิจัยโดยห้องวิจัยนี้จะเป็นของซิงซีทั้งหมด โดยซิงซีจะแบ่งค่าสิทธิบัตร 30% ให้กับมหาวิทยาลัยชิงหวา
สิ่งนี้ทำให้มหาวิทยาลัยตกใจเป็นอย่างมาก
สิ่งที่ค้นคว้าออกมาได้กลับจะมีมูลค่าเป็นแสนหรืออาจเป็นล้านก็ได้ ทั้งทีเมื่อก่อนการวิจัยจะถูกเก็บในห้องสมุดแท้ๆ
และในภาคเศรษฐศาสตร์ก็ยิ่งน่าประหลาดใจขึ้นไปอีก ภาควิชานี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้รับประโยชน์มากเท่าไหร่กับการได้รับเงินบริจาค
ว่านเซี่ยง กรุ๊ปได้จัดตั้งห้องปฏิบัติการวิจัยเช่นเดียวกันกับซิงซี กรุ๊ป โดยห้องวิจัยของที่นี่จะเป็นการเอานักเศรษฐศาสตร์ที่มีชื่อเสียงหลายคน มาร่วมมือกันวิเคราะห์ข้อมูลให้กับบริษัท ว่านเซี่ยง กรุ๊ป
การบริจาคเงินให้กับภาควิชาทั้งสองได้สร้างชื่อเสียงให้กับจ้าวชิงชิง ตอนนี้เธอกลายเป็นคนดังของมหาวิทยาลัยชิงหวาแล้ว
เรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน การที่คนจากเซียงเจียงได้มาลงทุนร่วมกับมหาวิทยาลัยแบบนี้ เป็นการบริจาคเงินเยอะที่สุด เท่าที่มหาวิทยาลัยเคยได้รับ
ผู้คนที่ยินข่าวก็ล้วนตกตะลึงไปกับข่าวนี้
มีข่าวลือว่าจากอธิการบดีได้พูดว่าหากจ้าวชิงชิงเรียนจบ เขาจะเป็นคนที่มอบใบสำเร็จการศึกษาด้วยตัวเขาเอง
ข่าวการบริจาคเงินของซิงซี กรุ๊ป และว่านเซี่ยง กรุ๊ป ถูกแพร่กระจายอย่างรวดเร็วภายในมหาวิทยาลัย ไม่นานทั้งสองก็ถูกผู้คนจำนวนมากจับตามอง
แม้แต่นักข่าวก็ยังนัดสัมภาษณ์พิเศษกับจางหม่านกับสูเจิ้งเหมา ทั้งสองคนได้รับการขนานนามว่าเป็นนักธุรกิจที่รักในชาติบ้านเกิดของตัวเอง
แม้ว่าข่าวการบริจาคจะผ่านไปถึง 2 วัน แต่ความเข้มขึ้นกลับยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จางหม่านและสูเจิ้งเหมา กลายเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงมากในเซียงเจียง
ทั้งสองคนได้มาหาซูข่านที่บ้าน
จางหม่านมองไปที่ซูข่านและพูดว่า
"ตั้งแต่บริจาคเงินให้กับมหาวิทยาลัยชิงหวา มหาวิทยาลัยในจีนก็ได้ติดต่อมาหาเป็นจำนวนมาก"
"ใช่"
สูเจิ้งเหมาพูดด้วยใบหน้าที่ขมขื่น
"มหาวิทยาลัยเซียงไฮ้เจียงตง มหาวิทยาลัยปักกิ่ง ฯลฯ ได้ส่งคนมาติดต่อกับผม พวกนั้นเอาแต่บอกว่าไม่สนใจมาร่วมมือกับพวกเขาเหรอ"
"ฉันก็เช่นกัน"
จางหม่านพูดด้วยใบหน้าที่ขมขื่น
การบริจาคเงินครั้งใหญ่ขนาดนี้ ทำให้สูเจิ้งเหมาและจางหม่านเป็นที่ต้องการของมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดี แต่การที่มีคนติดต่อเข้ามาเป็นจำนวนเยอะขนาดนี้ ทำให้พวกเขาทั้งสองคนลำบากมากในการใช้ชีวิตประจำวัน
มหาวิทยาลัยเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่ได้ขาดแคลนเงิน เพียงแค่เขาอยากได้การสนับสนุนหรือว่าสัญญาการแบ่ง % จากสิทธิบัตรต่างหาก
ซูข่านส่ายหัวและมองไปที่จางหม่านกับสูเจิ้งเหมา ที่กำลังทำหน้าขมขื่น
สิ่งนี้เป็นเรื่องที่ซูข่านก็คิดไม่ถึงมาก่อนเช่นกัน
หากในอีก 20-30 ข้างหน้า มีการลงทุน 500 ล้านสำหรับการวิจัยในมหาวิทยาลัย
คงไม่มีใครมาทำข่าวหรือว่าเป็นเรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้
มหาวิทยาลัยในอนาคตต่างมีเงินทุนสำหรับการวิจัยของตัวเองอยู่แล้ว
แต่ในยุคนี้ที่เงินเดือนคนทั่วไปอยู่ที่ 30 หยวน อาจารย์มหาวิทยาลัยเก่งๆ ได้ทำการศึกษาวิจัยเรื่องราวต่างๆ ทุนสำหรับพวกเขามีแค่เพียงไม่กี่พันหยวนต่อปีเอง
การได้รับเงิน 1 ล้านหยวนไป ทำให้พวกเขาสามารถวิจัยได้เยอะกว่าเดิมอีกหลายเท่า
"เงินไม่พอเหรอ?
ซูข่านมองที่ทั้งสองคนที่กำลังบ่น จู่ๆเขาก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล
จางหม่านตอบอย่างรวดเร็วโดยไม่ลังเเล
"ว่านเซี่ยง กรุ๊ปตอนนี้ยังมีเงินในบัญชีอยู่เกือบ 50 ล้าน ยังสามารถใช้ชำระดอกเบี้ยจาก HSBC ได้อยู่ถึงปีหน้า"
"ดังนั้นว่านเซี่ยง กรุ๊ปไม่ได้ปัญหาอะไรค่ะ"
"ทางผมก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน"
สูเจิ้งเหมาพูดต่อจากจางหม่าน
"แม้ว่าซิงซี กรุ๊ปจะได้ลงทุน 20 ล้านไปเพื่อเปิดโรงงานในเผิงเฉิง แต่ตอนนี้ยังอยู่ในระยะที่สองของโครงการเงินทุน 20 ล้านยังไม่ได้ถูกใช้ไปจนหมด"
"ถ้าอย่างงั้นแล้วทำไมพวกคุณถึงได้ทำหน้าแบบนี้กัน"
ซูข่านยื่นมือมาตบที่โต๊ะเบาๆ 2-3 ครั้งก่อนจะพูดต่อว่า
"ตอนนี้วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยจำนวนมากได้มายื่นข้อเสนอโดยไม่ต้องเหนื่อยไปติดต่อพวกเขาเอง พวกคุณควรจะดีใจด้วยซ้ำ"
"เอ่อ"
สูเจิ้งเหมาตะลึงไปชั่วครู่
จางหม่านเลิกขมวดคิ้วของเธอ ภายในใจของเธอได้เปลี่ยนไป
ซูข่านได้พูดต่อ
"ในขณะที่เศรษฐกิจของประเทศจีนจำเป็นต้องใช้แรงงานจำนวนมาก วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยพวกนี้เขาจะฝึกเหล่าผู้คนที่สามารถมาเป็นแรงงานให้กับประเทศได้ในอนาคต"
"หากพวกคุณทั้งสองได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเหล่านี้ และติดต่อผลงานของพวกเขาอย่างใกล้ชิด พวกเขาก็ได้รับทักษะที่พวกคุณต้องการนำไปใช้กับธุรกิจของพวกคุณ ในอนาคตทักษะไหนที่คุณต้องการ คุณคิดว่าจะหาจากตลาดแรงงานได้ไหม?"
ดวงตาของจางหม่านเป็นประกายขึ้นมากทันที
สูเจิ้งเหมาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า
"แต่มหาวิทยาลับพวกนี้มีจำนวนมากมายเหลือเกิน"
"หากต้องบริจาคเงินหนึ่งล้านให้กับแต่ละมหาวิทยาัลย ผมเกรงว่าเงินของซิงซี กรุ๊ปอาจจะเหลือเงินไม่พอ"
"แถมในมหาวิทยาลัยยังมีภาควิชามากกว่า 1"
"อย่างสมุมติถ้าผมลงเงินไปกับภาควิชาวรรณกรรม หรือพวกภาควิชาฟิสิกส์"
"ผมต้องใช้วรรณกรรมในการตัดเย็บเสื้อผ้าเหรอครับ?"
ซูข่านดุด้วยเสียงที่เคร่งขรึม
"คิดให้มันเยอะๆหน่อย"
"มีข้อเสนอมาตั้งมากมายจนปฏิเสธไม่ทันแบบนี้ ทำไมถึงไม่ใช้วิธีที่ง่ายๆตอบพวกเขาไปล่ะ"
"เจ้านายช่วยบอกพวกเราด้วยค่ะ"
จางหม่านก็แสดงท่าทางอยากรู้อยากเห็นเหมือนกัน
สูเจิ้งเหมาก็พูดด้วยความเคารพ เขาไม่รู้สึกโกรธที่ซูข่านดุเขาเลยแม้แต่น้อย
"คุณซูครับ พวกเราต้องแก้ปัญหาตอนนี้ยังไง ช่วยชี้แนะพวกเราด้วย เหลาสูคนนี้เป็นเพียงคนโง่เท่านั้น"