Ep.268 - ป้อมปราการมอนสเตอร์
4/4
Ep.268 - ป้อมปราการมอนสเตอร์
ป้อมปราการมอนสเตอร์นั้นตียากกว่าค่ายมนุษย์หมูป่ามากในแง่ของขนาดและกองกำลังมอนสเตอร์ ซึ่งรวมไปถึงในด้านเลเวลและประเภท
ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น
แค่กำแพงที่สูงสิบเมตร
ก็มากพอแล้วที่จะทำให้ทุกคนหวาดกลัว
มองไม่เห็นวี่แววว่าจะเข้ายึดได้เลย อ๊าาาา!
และภายในป้อมปราการ ไม่เพียงมีอัตราความหนาแน่นของมอนสเตอร์ระดับชั้นยอดที่สูงเท่านั้น แต่ในป้อมปราการยังมีมอนสเตอร์หลากหลายประเภท ได้แก่มิโนทอร์ มนุษย์หมูป่า ก็อบลิน โนมส์ ฯลฯ เกือบครบชุดในป่าแห่งการเริ่มต้น
และอาชีพของพวกมันยังมีทั้งจอมเวทย์ พลรบ กองหนุน นักสอดแนม ผู้รักษา ....
การผสมผสานที่สมบูรณ์เช่นนี้ มีแต่จะเพิ่มความยากลำบากอย่างไม่ต้องสงสัย
นี่ยังไม่พูดถึงเรื่องที่ว่ามีมอนสเตอร์ชั้นยอดจำนวนมาก
และมีระดับเจ้าถิ่นมากกว่าหนึ่งตนอีกนะ!
การป้องกันที่เข้มงวด จำนวนที่มหาศาล และความลำบากทำให้ผู้คนยากจะแก้ปัญหา!
หากโดนพบตัวโดยบังเอิญและเกิดสัญญาณเตือนภัยขึ้น พวกเขาคงถูกปิดล้อมไปด้วยมอนสเตอร์ในป้อมปราการ ถึงตอนนั้นไม่ต้องกล่าวถึงชนชั้นยอดมนุษย์แค่ร้อยคน ต่อให้ยกมาทั้งค่ายมนุษย์หมูป่าก็คงถูกพวกมันกวาดล้างจนเหี้ยน
ฉูเทียนหัวและคนอื่นๆลองถามตัวเองดูว่าถ้าเป็นตนจะมีกลยุทธ์ดีๆอะไรงัดเอามาใช้
แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกเลย
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องยึดป้อมปราการ
ต่อให้บุกเข้าไปข้างในเกรงว่าคงทำไม่ได้!
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ฮังอวี่กำลังทำต่อไปนี้ มันทำให้ทุกคนในกลุ่มต้องเบิกตากว้าง!
...
ณ ตอนนี้
ภายในป้อมปราการมอนสเตอร์
บนกำแพงสูง
หน่วยลาดตระเวนของมอนสเตอร์ยังคงเดินตรวจตราไปมา
โดยที่พวกมันไม่รู้เลย ว่าภายในป้อมปราการ บริเวณพื้นดินที่ไม่โดดเด่น จู่ๆก็ถูกเจาะเป็นรู และมีมดยักษ์ปีนขึ้นมา
กราว กราว!
หลังจากนั้น ผู้คนเกือบสิบพากันปีนป่ายขึ้นมาจากโพรงใต้ดิน
จ้าวหมิงตกตะลึง “นี่พวกเราเข้ามาได้แล้วจริงๆ?”
คนอื่นๆก็รู้สึกเหลือเชื่อเช่นกัน หนึ่งในปัญหาใหญ่ที่สุดในการโจมตีป้อมปราการคือต้องฝ่าพื้นที่ๆเต็มไปด้วยกับดัก หาวิธีทำลายกำแพงทึบ และต้องให้ผู้คนบาดเจ็บล้มตายน้อยที่สุด
ทว่าไม่มีใครนึกฝันเลย
ว่าจะใช้วิธีนี้บุกเข้ามาได้ด้วย
นี่มันอะไรกัน? สงครามอุโมงค์งั้นหรอ?
ฮังอวี่ย่อมไม่มีทางสั่งการให้คนจำนวนมากบุกฝ่าเข้าไปตรงๆอย่างไร้สติ ปัจจุบันเขาสามารถควบคุมมดงานได้มากกว่าสิบตัว พวกมันมีสกิลการขุด ดังนั้นใช้แผนบุกจากใต้ดินซึ่งเป็นจุดที่ไม่มีการป้องกันของป้อมปราการ
แค่เติมโพชั่นพลังจิตให้มดยักษ์ดื่ม
การขุดอุโมงค์หลายร้อยเมตรก็เป็นเรื่องง่ายดาย
และระหว่างนั้น ฮังอวี่ก็ให้ความช่วยเหลือในการตรวจจับภาพเบื้องบนด้วยเทคนิคตาเหยี่ยว
แค่นี้ก็เป็นการง่ายที่จะโผล่มายังสถานที่ปลอดภัย สามารถแทรกซึมเข้ามาได้โดยศัตรูไม่รู้ตัว
แน่นอน
ทีมบุกเบิกชุดแรกต้องมีคนไม่เยอะเกินไป
ทีมๆนี้มีจ้าวหมิง เฉินหยู ฉูเทียนหัว เจียงหนาน จางเสี่ยวเฉียง ฉินมู่ เสี่ยวไป๋ รวมไปถึงสุนัขเข้าร่วม
ส่วนคนอื่นๆรออยู่ข้างนอก ถ้าเจอหน่วยลาดตระเวนมอนสเตอร์ที่แยกตัวออกมาไกลจากป้อมปราการก็รุมฆ่าพวกมันและรอรับคำสั่งจากฮังอวี่
ส่วนสัญญาแต้มวิญญาณ
การแบ่งปันในครั้งนี้จะแบ่งออกเป็นเก้าส่วนเท่าๆกัน
ฮังอวี่ หวังเอ๋อ เสี่ยวไป๋อย่างละ 1
หลังจากหวังเอ๋อเข้ามา มันก็แยกร่างทั้งสามทันที ปล่อยร่างแยกสุนัขกระจายไปตามสถานที่ต่างๆเพื่อเริ่มสำรวจ หากมีมอนสเตอร์ตัวใดเข้าใกล้ มันจะส่งเสียงเตือนทันที
“โอเค พวกเราเข้ามาได้อย่างราบรื่น แต่อย่าส่งเสียงดังไป สถานที่นี้เต็มไปด้วยมอนสเตอร์ และพวกมันตื่นตัวง่ายมาก”
ฮังอวี่ให้ทุกคนดื่มโพชั่นลอบเร้น
หากดื่มมัน ต่อให้อยู่ใกล้พวกโคโบลด์ที่มีความสามารถในการตรวจจับอันแข็งแกร่ง ก็ยังยากที่จะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของคนในทีม
“วันเดียว”
“ภายในวันเดียว”
“พวกเราต้องยึดที่นี่ให้ได้!”
“ตอนนี้พวกเรามีงานสองอย่าง อย่างแรกกำจัดหน่วยลาดตระเวนภายในป้อม รวมไปถึงทหารรักษาการณ์และกับดัก เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการต่อสู้ครั้งใหญ่ อย่างที่สอง พวกเราต้องกำจัด BOSS สองสามตัวในที่นี้ แล้วเปิดป้อมปราการให้เร็วที่สุด เพื่อให้คนอื่นๆเข้ามาร่วมสู้”
จางเสี่ยวเฉียงพยักหน้า เอ่ยเบาๆว่า “ลูกพี่ฮังว่ายังไง พวกเราก็ทำอย่างนั้น”
หวังเอ๋อขัดจังหวะทันที “ฮ่ง แย่แล้ว มีกองทารกำลังมา ในนั้นมีโคโบลด์ชั้นยอดรวมอยู่ด้วย!”
สีหน้าของทุกคนแปรเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินเรื่องนี้
โคโบลด์เป็นมอนสเตอร์หัวสุนัขที่ไวต่อกลิ่นมาก ทั้งยังมีความสามารถในการตรวจจับโดยกำเนิด พวกมันในป้อมปราการนี้จึงเสมือนดั่งสุนัขล่าเนื้อในร่างมอนสเตอร์ ซึ่งมากพอที่จะก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้
แล้วอีกอย่าง โครงสร้างของป้อมปราการนี้ค่อนข้างซับซ้อน เต็มไปด้วยอันตราย หากผิดพลาดเพียงเล็กน้อยแล้วถูกพบตัว แผนการนี้อาจล้มเหลวโดยสมบูรณ์
จู่ๆหลายคนก็เริ่มเกิดอาการประหม่าขึ้นมา
ฮังอวี่ออกคำสั่งโดยตรง “เสี่ยวไป๋ ถึงตาเธอแล้ว”
ฮังเสี่ยวไป๋ไม่พูดอะไร ปลดปล่อยสกิลขั้น 3 ทันที ฝุ่นละอองขนาดเล็กนับไม่ถ้วนกระจายออกไปทุกทิศทาง เติมเต็มไปทั่วบริเวณรอบๆในระยะเวลาสั้นๆ
เจียงหนานอุทาน “เป็นสกิลที่สวยงามอะไรแบบนี้!”
ไม่นาน กองทหารมอนสเตอร์ที่ลาดตระเวนในป้อมก็มาถึง พวกมันเดินเข้ามาในอาณาเขตฝุ่นลวงตา พริบตานั้นประสาทสัมผัสได้รับผลกระทบในทันที และเมินเฉยต่อกลุ่มมนุษย์ที่อยู่ตรงหน้าไปโดยปริยาย
“ไม่ต้องกังวล”
“สกิลของเสี่ยวไป๋ไม่ใช่แค่ควบคุมเฉพาะมอนสเตอร์กลุ่มนี้เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปทั่วบริเวณ”
หรือก็คือสามารถมั่นใจได้ว่ามอนสเตอร์ที่อยู่ภายนอกฝุ่นลวงตาจะไม่เอะใจถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นที่นี่ได้ พวกฮังอวี่สามารถต่อสู้ได้อย่างมั่นใจเพียงแค่รอจนพวกมันเข้าใกล้
กองทหารลาดตระเวนหน่วยนี้มีมอนสเตอร์อยู่ประมาณ 15 ตัว
พวกมันมีทั้งมิโนทอร์ชั้นยอด มนุษย์หมูป่าชั้นยอด ก็อบลินนักบวชชั้นยอด โคโบลด์นักสอดแนมชั้นยอด และมนุษย์หนูนักขโมยชั้นยอด มีชนชั้นยอดทั้งสิ้น 5 ตน
ที่เหลือเป็นมอนสเตอร์ระดับสามัญ
อย่างไรก็ตาม พลังรบของพวกมันค่อนข้างแข็งแกร่ง
ฮังอวี่จดจ่ออยู่กับมนุษย์หนูนักขโมยที่อยู่ด้านหลังสุด
“เจ้าหนูตัวนั้นมันล่องหนได้ อย่าปล่อยให้มันหนีไปเด็ดขาด มิฉะนั้นมันจะส่งเสียงเตือนมอนสเตอร์ตัวอื่นๆที่อยู่ใกล้เคียง แล้วไม่นานกองทหารมอนสเตอร์ลาดตระเวนทั้งหมดจะมารวมตัวกันที่นี่ แล้วสุดท้ายพวกเราก็จะถูกล้อม”
“ผมจะไปฆ่ามันก่อน ทุกคนตามมาแล้วกัน”
ว่าจบ ฮังอวี่ก็เริ่มเปิดใช้งานจู่โจมมุมอับ วนอ้อมไปข้างหลังกองทหาร เนื่องจากการปกปิดของฝุ่นลวงตา ทำให้โคโบลด์นักสอดแนมไม่สามารถหาเขาพบ
คลุ้มคลั่งกระหายเลือด!
ปะทะเดือด!
โจมตีต่อเนื่อง!
ฮังอวี่เริ่มเปิดการโจมตี ลดทอนพลังชีวิตของมนุษย์หนูไปมากกว่าครึ่งทันที ตามมาติดๆด้วยคลุ้มคลั่งเข้าสังหาร ไม่รอให้ศัตรูมีโอกาสตั้งตัวหรือหลบหนี โจมตีใส่มันอีกสองครั้ง ปลิดชีพทันที
ผลของสกิลคลุ้มคลั่งกระหายเลือดยังไม่หมดลง
ฮังอวี่ไม่รอให้คนอื่นโจมตีมอนสเตอร์ เขาใช้ความเร็วอันน่าอัศจรรย์ พุ่งฝ่ากลางกลุ่มมอนสเตอร์ และระหว่างกระบวนการ หอกในมือทิ่มแทงอย่างเมามัน เสมือนลมกรรโชกพัดผ่าน ไร้เทียมทานในทุกย่างก้าว
จอมเวทย์โนมส์ยังไม่ทันร่ายสกิล
หอกหนึ่งก็จ้วงผ่านมัน
สังหารตายในวินาทีเดียว!
มนุษย์กิ้งก่าอีกตัวเพียงยกดาบขึ้น
ก็ถูกหอกแทงจุดตาย
สังหารในวินาทีเดียว!
มอนสเตอร์ระดับสามัญเลเวล 7 8 จำนวนสามสี่ตัวตกตายด้วยคมหอกของฮังอวี่
ฉากนี้ทำให้คนอื่นๆตกตะลึง ความเร็วนี้ ดาเมจนี้ พลังรบนี้ ไม่อาจใช้คำว่าแข็งแกร่งมาอธิบายได้อีกต่อไป พวกเรารู้สึกว่าฮังอวี่ราวกับเป็นสัตว์ประหลาด
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจยิ่งกว่ายังมาไม่ถึง
ฮังเสี่ยวไป๋เริ่มสาดกระสุนในมือ ปลดปล่อยกลุ่มใบมีดสายลมและห่าศรน้ำแข็ง มอนสเตอร์ชั้นยอดหลายตัวถูกโจมตีกลายเป็นง่อยไปทันที
นักเวทย์อย่างเฉินหยูและจางเสี่ยวเฉียง เกือบอ้าปากค้าง พวกเขาเห็นสกิลควบคุมหน่วงเหนี่ยวที่ทรงพลังของเสี่ยวไป๋ จึงสันนิษฐานว่าเธอเป็นผู้ใช้วิญญาณ ... ซึ่งจริงๆแล้วเธอก็เป็นผู้ใช้วิญญาณนั่นแหละ
ไม่นึกฝันเลย
ว่าดาเมจจากเวทย์มนตร์ของเธอจะทรงพลังถึงขนาดนี้!
ทั้งคู่เทียบเธอไม่ติด!
ฮังอวี่ค้นพบผู้ช่วยดีๆเช่นนี้ ช่างเป็นโชคของเขาจริงๆ!
มอนสเตอร์เริ่มโจมตีตอบโต้แล้วในเวลานี้ ในบรรดาพวกมัน ก็อบลินนักบวชทำการรักษาและเพิ่มเลือดให้กับมอนสเตอร์ชั้นยอดที่ได้รับบาดเจ็บ
ฉินมู่ปามนต์วาจาต้องห้ามใส่มันทันที
“บุกเร็ว!”
ฉูเทียนหัวตะโกนก้อง
เขาพรวดเข้าหามอนสเตอร์ด้วยสกิลพุ่งเข้าชาร์จ
จากนั้นปลดปล่อยสกิลเฉือนสามครั้งต่อเนื่อง เฉือนพริบตา สังหารก็อบลินนักบวชในลมหายใจเดียว
ทุกคนเห็นแค่เพียงแสงกระบี่วิบวับ และก็อบลินนักบวชพลังชีวิตลดลงเหลือ 0 มันไม่สามารถต้านทานการโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้ได้ ถูกสังหารโดยตรง
จ้าวหมิงเปิดใช้งานสกิลพลรบคำรามเพื่อทำให้มอนสเตอร์ตกใจ
จางเสี่ยวเฉียงขว้างลูกไฟจากระยะไกล ตามมาติดๆด้วยระเบิดสายฟ้าสกิลขั้น 2 ของเฉินหยู
เจียงหนานพบว่าตัวเองในฐานะผู้รักษาไม่มีประโยชน์อะไรเลยในตอนนี้ ดังนั้นตัดสินใจเข้าสู่แนวหน้าร่วมต่อสู้กับทุกคน กุมขวานแห่งคำอธิษฐานเข้าโขกสับ ตามด้วยสกิลคำพิพากษา สร้างดาเมจมหาศาล
สัตว์วิญญาณตัวอื่นๆก็ไม่อยู่เฉยเช่นกัน
การต่อสู้ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งนาที
มอนสเตอร์ในที่เกิดเหตุก็ถูกกำจัด
ทุกคนรู้สึกได้ถึงแต้มวิญญาณที่เข้ามาเติมเต็มในร่างพวกเขา
เสี่ยวไป๋ไม่ขอรับแต้มวิญญาณ เธอโอนพวกมันทั้งหมดให้แก่ราชินีมดหน้าคน ตั้งใจช่วยฮังอวี่ฝึกฝนมัน
“ฮ่ง เจ้านาย นี่มันเจ๋งสุดๆ มอนสเตอร์พวกนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเราเลย!”
สุนัขกล่าวอย่างตื่นเต้น
ฮังอวี่เอ่ยว่า “มันแน่นอนอยู่แล้ว กลุ่มนี้มีมอนสเตอร์ชั้นยอดแค่ 5 ตัว กับมอนสเตอร์ระดับสามัญสิบตัว ด้วยพลังรบในตอนนี้ของพวกเรา ถ้ายังลำบาก ก็อย่าหวังว่าจะยึดป้อมปราการได้”
“ฮ่ง เจ้านาย เปิ่นหวังตรวจเจอกลิ่นอายมอนสเตอร์เลเวล 8 น่าจะอยู่ในระดับเจ้าถิ่นขั้นบรอนซ์”
“ดีมาก ไปกันเถอะ”