Ep.267 - เริ่มสงคราม
3/4
Ep.267 - เริ่มสงคราม
ฮังอวี่บอกเจ้าอ้วนให้เอาอาหารมาส่งที่บ้าน
เขาเรียกเสี่ยวไป๋ที่กำลังดูการ์ตูนอยู่ออกมา และตั้งใจเปิดเครื่องดื่มวิญญาณสองสามขวด รับประทานอาหารมื้อใหญ่กับอาจารย์ซูและสุนัขเพื่อฉลองก้าวใหม่
ฮังอวี่ใช้เวลาที่เหลือวางกลยุทธ์ในโลกวิญญาณให้ซูหยุนปิง
ข้อมูลและประสบการณ์ก่อนหน้านี้ของเขาล้วนมีค่า ซึ่งมากพอที่จะช่วยผู้คนก้าวไปข้างหน้าอย่างยิ่งใหญ่
แน่นอน
ความใจกว้างไม่อาจเผื่อแผ่แก่ทุกคน
ฮังอวี่วางแผนจะช่วยเหลือเฉพาะพนักงานระดับกลางและระดับสูงเท่านั้น
ให้คำแนะแนวเชิงกลยุทธ์ในโลกวิญญาณ และแก้ปัญหาให้พวกเขา
นี่ถือได้ว่าเป็นสวัสดิการของระดับผู้บริหาร และถือได้ว่าเป็นวิธีที่ดีในการเอาชนะใจคน สร้างความมั่นคงในทีม
“ถึงเวลาแล้ว”
“หวังเอ๋อ เสี่ยวไป๋ เตรียมตัวให้พร้อม พวกเราจะไปกันแล้ว”
หวังเอ๋อเข้าไปในมิติสัตว์วิญญาณ ส่วนเสี่ยวไป๋ยังคงยืนอยู่ที่เดิม
ในฐานะผู้ถูกอุปการะ เธอเปรียบเสมือนเครือญาติของฮังอวี่ ดังนั้นสามารถเข้าสู่โลกวิญญาณไปพร้อมกับเขาได้
“ส่งมือมา” ฮังอวี่จับมือเล็กๆของเสี่ยวไป๋ มันนุ่มและละเอียดอ่อนมาก ที่เขาชอบพูดกันว่านิ่มเหมือนไม่มีกระดูก มันน่าจะรู้สึกแบบนี้แหละ
แน่นอน
ฮังอวี่ไม่ได้ทำเพราะคิดเอาเปรียบเธอ
เขาเพียงเชื่อมต่อกับเสี่ยวไป๋เพื่อเข้าสู่โลกวิญญาณด้วยกัน
วินานีถัดมา
ประตูสู่โลกวิญญาณเปิดขึ้นอีกครั้ง
ฮังอวี่ ฮังเสี่ยวไป๋ถูกดูดเข้าไปพร้อมกัน และปรากฏตัวขึ้นในที่หลบภัยของโนมส์
ฮังเสี่ยวไป๋เปลี่ยนไปสวมอุปกรณ์สีขาวเลเวล 6 7 ใส่หมวก หน้ากาก และเสื้อคลุมตัวกว้าง เอกลักษณ์ที่โดดเด่นในบนตัวเธอถูกปิดจนมิด เป็นเรื่องยากที่จะมองตัวตนที่แท้จริงของเธอออกจากรูปลักษณ์ภายนอกที่เผยให้ทุกคนเห็น
เสี่ยวไป๋ไม่คิดเลย
ว่าวันหนึ่งเธอจะได้กลับมาในโลกวิญญารอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้มีความผูกพันกับบ้านหลังเก่าแม้แต่น้อย เพียงต้องการติดตามพี่ชายออกผจญภัยเพื่ออัพเลเวลเท่านั้น
คนอื่นๆทยอยกันเข้าสู่โลกวิญญาณ
เจียงหนานแวะมาทักทายฮังอวี่และหวังเอ๋อตามธรรมเนียม
จ้าวหมิง ฉูเทียนหัว และเฉินหยูก็มาหาฮังอวี่เช่นกัน
ดูเหมือนว่าครั้งนี้ทุกคนจะพยายามอย่างหนัก ความก้าวหน้าของจ้าวหมิงและเฉินหยูนั้นใกล้เคียงกับซูหยุนปิง ตอนนี้ทั้งคู่ต่างเป็นยอดฝีมือเลเวล 7 แล้ว
ส่วนฉูเทียนหัวแม้ตัวเขาจะยังคงเลเวล 7
แต่ก็ห่างจากเลเวล 8 เพียงเล็กน้อย
เขาคือคนที่ก้าวหน้าในเรื่องเลเวลใกล้เคียงกับฮังอวี่มากที่สุด
หากไม่ใช่เพราะฉูเทียนหัวเรียนรู้สกิลมากไป เฉพาะในแง่ของเลเวลเขาคงแซงหน้าฮังอวี่ไปแล้ว
เฉินหยูสังเกตเห็นผู้ติดตามตัวน้อยที่อยู่ข้างๆฮังอวี่ “หือ นั่นใคร ทำไมฉันถึงไม่เคยเห็นมาก่อน?”
จ้าวหมิง ฉูเทียนหัว ต่างประหลาดจพอๆกันที่ได้เห็นเสี่ยวไป๋ในสภาพปกคลุมไปด้วยอุปกรณ์ทั้งตัว เพราะพวกเขาไม่เคยเห็นคนแบบนี้มาก่อน
มีคนไม่มากนักในที่หลบภัยของโนมส์
รวมๆแล้วก็แค่ร้อยนิดๆ
ซึ่งร้อยนิดๆที่ว่าล้วนมาจากค่ายมนุษย์หมูป่าหรือสามค่ายในตอนแรก และ70 - 80% เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของหัวหน้าค่ายทั้งสาม มีแค่ไม่กี่คนเช่น ฮังอวี่ เจียงหนาน และฉินมู่ที่ไม่ได้อยู่ในทีม
ฮังอวี่กล่าวว่า “นี่คือฮังเสี่ยวไป๋ เธอเป็นยอดฝีมือที่ผมนำมา เธอจะช่วยพวกเราบุกโจมตีหอคอยเขตแดนในครั้งนี้”
ฮังเสี่ยวไป๋รู้สึกว่ามีหลายสายตาจับจ้องมาที่เธอ ความหวาดกลัวทางสังคมเริ่มกลับมา ทนไม่ไหวหดตัวไปข้างหลังฮังอวี่ ดูเหมือนว่าสาวขี้อายยังคงกลัวการติดต่อกับคนแปลกหน้า
เจียงหนานสังเกตเห็นนามสกุลของเสี่ยวไป๋ “เอ๋ นามสกุลของเธอคือฮัง หรือว่าจะเป็นครอบครัวของพี่มหาเทพ?”
แต่พอพูดแล้วเธอก็นึกขึ้นได้
ว่าพี่มหาเทพเคยบอกว่าไม่มีครอบครัวเหลืออยู่แล้ว
“ถึงเสี่ยวไป๋จะไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับฉัน แต่เธอถือเป็นน้องสาวของฉันคนหนึ่ง” ฮังอวี่หยุดพักหนึ่งก่อนเอ่ยต่อ “อืม ตัวตนของเธอค่อนข้างพิเศษ ไม่สะดวกอธิบายมากกว่านี้ เอาไว้เดี๋ยวก็รู้กันเอง”
เจียงหนานมองเสี่ยวไป๋อย่างอยากรู้อยากเห็น เธอตัดสินใจยื่นมือออกไป “สวัสดีเสี่ยวไป๋ ฉันชื่อเจียงหนาน ในเมื่อพี่มหาเทพบอกว่าเธอเป็นยอดฝีมือ งั้นแสดงว่าเธอต้องแข็งแกร่งมากๆ ยังไงก็ฝากดูแลฉันด้วยนะ!”
ดอกไม้งามเจียงมีนิสัยร่าเริงและเป็นมิตร
เสี่ยวไป๋ลังเลอยู่สองวินาที แต่สุดท้ายก็ยื่นมือออกไป เธอรู้ว่าการจับมือเป็นมารยาทของมนุษย์ ขณะเดียวกัน เด็กสาวเอ่ยเป็นภาษาจีนกลางที่ฟังดูแปร่งๆว่า “หวัก .. หวักลี!”
หือ?
เสียงของเสี่ยวไป๋ฟังดูนุ่มนวลจัง
เธอควรจะเป็นเด็กสาวที่ยังอายุไม่มาก
แต่สำเนียงนี่มันอะไรกัน? หรือว่าจะเป็นคนต่างชาติ? หรือเธอโตมาในชนบทอันห่างไกลถึงพูดภาษาจีนกลางไม่ได้?
จ้าวหมิง ฉูเทียนหัว และเฉินหยูคิดกังวลไปในจุดที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง
เสี่ยวไป๋ไม่เคยปรากฏตัวที่นี่มาก่อน แต่จู่ๆก็โผล่มา
ดังนั้น ทั้งสามจึงคาดเดาว่าบุคคลผู้นี้ มีความเป็นไปได้สูงว่าฮังอวี่จะนำมาจากโลกจริง แต่เรื่องนี้เป็นไปได้ยังไง? หลังจากที่มนุษย์เข้าสู่โลกวิญญาณ ทุกคนควรถูกส่งไปในพื้นที่ต่างๆแบบสุ่มสิ
มันต้องมีสาเหตุ!
เรื่องนี้ใช่เกี่ยวข้องกับคัมภีร์สัญญาที่ซื้อครั้งก่อนหรือไม่?
ครั้งก่อนที่ฮังอวี่แลกเปลี่ยนกับพ่อค้าลึกลับ เขาใช้เงินจำนวนมากเพื่อซื้อสัญญาอุปการะ เรื่องนี้ชัดเจนว่าดึงดูดความสนใจของใครหลายคน ดังนั้นพวกเขาจึงให้ความสนใจกับสัญญานี้เล็กน้อย
แน่นอน
เรื่องนี้ไม่ได้เป็นประเด็นมากเกินไป
สุดท้ายฮังอวี่คือผู้ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งในค่ายมนุษย์หมูป่า
ดังนั้น คนที่เขาเรียกว่ายอดฝีมือคงมิใช่ตัวตนเรียบง่าย
“อย่าเสียเวลาอยู่เลย พวกเราเตรียมตัวกันดีกว่า” ฮังอวี่กล่าว “เหล่าจ้าว เหล่าฉู พี่สาวเฉิน รบกวนพวกคุณช่วยนับจำนวนคน บันทึกสกิลพรสวรรค์ของทุกคน รวมไปถึงสกิลที่พวกเขาเรียนรู้ใหม่มาให้ผมที เรื่องนี้สำคัญมาก”
เมื่อผู้บัญชาการฮังออกคำสั่ง
ทุกคนลงมือทำทันที
เนื่องจากมีคนไม่ค่อยเยอะ และพวกเขาคุ้นเคยกันดี ดังนั้นไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก จ้าวหมิงและคนอื่นๆก็กลับมารายงานสถานการณ์อย่างรวดเร็ว
เลเวลของคนนับร้อย ประเภทของพรสวรรค์ และสกิลทั้งหมดถูกรายงานแก่ฮังอวี่อย่างละเอียดที่สุด
คนกลุ่มนี้เป็นชนชั้นยอดในบรรดาชนชั้นยอด
อ่อนแอที่สุดคือเลเวล 5 แต่มีมากกว่าครึ่งที่อยู่ในเลเวล 6
นอกจากนี้ สมาชิกบางคนรวมไปถึงจางเสี่ยวเฉียงเองก็มาถึงเลเวล 7 แล้ว
หลังจากรับฟัง ฮังอวี่กล่าวว่า “พูดตามตรง ทีมของเราค่อนข้างอ่อนแอ ยังห่างชั้นกับป้อมปราการที่จะโจมตีในครั้งนี้”
ทันทีที่ประโยคนี้ดังขึ้น
ใจทุกคนหายวาบ
อันที่จริงพวกเขารู้สึกได้ตั้งนานแล้ว
ว่าหลังจากมาถึงที่นี่ บรรยากาศค่อนข้างตึงเครียด
มอนสเตอร์ที่อยู่หลังที่หลบภัยของโนมส์นั้นโดยทั่วไปแล้วมีเลเวล 7 8 ขณะที่เลเวลของพวกเขาเฉลี่ยยอยู่ที่ 6 นั่นเท่ากับต้องสู้กับมอนสเตอร์ข้ามขั้นไม่ใช่หรือ?
“อย่าพึ่งท้อแท้ไป ตราบใดที่ใช้กลวิธีอย่างสมเหตุสมผล ผมมั่นใจว่าพวกเราสามารถชดเชยจุดอ่อนในด้านพลังรบได้ ดังนั้นจากนี้ไปทุกคนต้องปฏิบัติตามคำสั่งในทุกขั้นตอน” ฮังอวี่กล่าว “ถึงฟังจะดูยาก แต่รางวัลจากการผจญภัยครั้งนี้รับรองว่าต้องทึ่ง!”
“รับทราบ!”
“พวกเราเชื่อในตัวลูกพี่ฮัง!”
“ขอมหาเทพโปรดวางใจ!”
ฝูงชนต่างตอบรับฮังอวี่
ถ้าเป็นคนอื่น พวกเขาคงไม่สบายใจ
แต่ฮังอวี่นั้นพิเศษกว่าทุกคน เขานำทัพยึดค่ายมนุษย์หมูป่าได้สำเร็จ เป็นชายฉกรรจ์ที่สามารถจัดการมอนสเตอร์เจ้าถิ่นเลเวล 8 ได้เพียงลำพัง หากไม่ให้ไว้ใจคนผู้นี้ แล้วยังจะมีใครอีกที่มีความสามารถมากพอที่จะขึ้นเป็นผู้นำการต่อสู้?
เริ่มปฏิบัติการได้!
ฮังอวี่ไม่รีบร้อน เริ่มทำการสัญญาแบ่งแต้มวิญญาณกับคนอื่นๆ
ทุกคนออกจากที่หลบภัยของโนมส์ มุ่งหน้าไปยังหอคอยเขตแดน ระหว่างทางกวาดล้างกลุ่มมอนสเตอร์อีก 5 กลุ่มที่หลุดรอดจากเงื้อมมือของเหล่าจ้าวและคนอื่นๆในครั้งก่อน
สองชั่วโมงต่อมา
ทุกคนก็มาถึงหอคอยเขตแดนอันตระหง่านได้สำเร็จ
นี่เป็นครั้งแรกที่คนส่วนใหญ่ในที่นี้แหงนมองหอคอยจากเบื้องล่างในะระยะใกล้ พวกเขาต่างตกใจกับความอลังการและแรงกดดันของมัน
หอคอยเขตแดนตั้งตระหง่านดั่งภูเขาสูง ทะลุไปถึงก้อนเมฆบนชั้นฟ้า
บริเวณรอบหอคอยสูงตระหง่านราวกับเนินเขา พื้นถูกยกสูงขึ้น และส่วนที่ยกสูงขึ้นนี้ มีอาคารจำนวนมากถูกสร้างขึ้นรอบๆ เป็นกำแพงสูงขยับขึ้นไปทีละชั้น ทีละชั้นราวกับป้อมปราการอันแข็งแกร่ง
อารมณ์ของฝูงชนยากจะสงบ
เพราะนี่คือป้อมปราการที่ทุกคนต้องเข้ายึดเพื่อเข้าสู่หอคอยเขตแดน
หากการผจญภัยครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยดี ทุกคนจะสามารถออกจากป่าแห่งการเริ่มต้นและเข้าสู่โลกวิญญาณอันกว้างใหญ่ได้อย่างเป็นทางการ!