เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 275
ตอนที่ 275
หลินซวนสูดหายใจเข้าลึก การปะทะกันอย่างรุนแรงย่อมมิอาจหลีกหนีได้ในวันนี้
หอกจากทักษะมหาวัชระปรากฏขึ้นในอุ้งมือ ปลายหอกเปล่งประกายแสงเจิดจรัสอร่ามตา
ก่อนที่ชายตาเดียวจะทันได้มีปฏิกิริยาใด หลินซวนก็กลายเป็นเพียงเงาสีดำมืดและพุ่งผ่านร่างของมันไป หอกแทงทะลุหน้าอกของมันราวกับมีดหั่นเต้าหู้ โลหิตค่อยไหลออกมาในระหว่างที่ร่างของมันทอดนอนลงกับผืนดิน
แม้ว่าเขาจะบาดเจ็บ แต่ด้วยความแข็งแกร่งของเขาแล้ว การจะสังหารหนอนแมลงตัวจ้อยเช่นนี้อาศัยเพียงแค่ความคิดก็มากเกินพอ
“ทักษะมหาวัชระ!”
หลินซวนคำรามเสียงต่ำพลางพุ่งออกไปพร้อมด้วยหอกในมืออีกครั้ง ในชั่วพริบตา ศีรษะไร้ร่างของศัตรูอีกสี่หัวก็ปรากฏอยู่บนปลายหอกนั้น โลหิตหยดย้อยลงมาเป็นทาง
นี่ทำให้ผู้คนทั้งหมดที่เห็นเหตุการณ์นิ่งค้างเป็นเสาหิน
องค์ชายสามและพวกของมันไม่อาจคงความสงบนิ่งได้อีกต่อไป
แรกเริ่มเดิมที องค์ชายสามผู้นั้นไม่ได้สนใจจะร่วมมือกับผู้บ่มเพาะมากมายถึงเพียงเพียงเพื่อจัดการกับเด็กสวะเพียงแค่สองคน แต่บัดนี้ มันดีใจยิ่งนักที่รับฟังแผนของหวังเถิงเฟย ไม่เช่นนั้นแล้ว อาศัยพวกมันเพียงสี่คน คงถูกคมหอกของหลินซวนสังหารจนตกตายไปนานแล้ว
ในหุบเขาแห่งนั้น ซากศพของผู้บ่มเพาะมากกว่าห้าร้อยคนต่างทอดร่างนอนแนบพื้นดิน ม่านตาของร่างเหล่านั้นหดแคบลง ราวกับว่าพวกมันมองเห็นสิ่งที่น่าหวาดผวายิ่งนักก่อนจะตกตายลง กระทั่งความตายยังมิอาจเป็นความสงบได้เสียด้วยซ้ำ
บัดนี้ หลินซวนบาดเจ็บหนักพอสมควร แต่การเผชิญกับคนจำนวนมากเท่านี้และยังมีค่ายกลอีก สภาพของเขายังนับว่าดูดีพอตัวและมิได้มีอันตรายถึงแก่ชีวิต นั่นทำให้ผู้คนยิ่งตื่นตะลึงไปกว่าเดิม
“เขาแข็งแกร่งถึงเพียงทั้งๆ ที่บาดเจ็บอยู่ ข้าแทบมิอยากเชื่อสายตา...”
“ข้าอยากเห็นนักว่ามันจะทนไปได้อีกนานสักเท่าใด” จ้าวจินซาเริ่มกระวนกระวายขึ้นมาหากแต่มันปิดบังความรู้สึกนั้นด้วยประโยคเช่นนี้ เมื่อเห็นว่าหลินซวนบาดเจ็บหนักแต่คนจำนวนมากยังไม่อาจจัดการเขาได้ นั่นจึงทำให้มันยิ่งวิตกมากขึ้น
จ้าวจินซาท้ายที่สุดตัดสินใจระเบิดกลิ่นอายของตนออกมาและเดินหน้าเข้าไปหาหลินซวนพร้อมด้วยค้อนยักษ์ในมือ
“ฮี่ๆๆ เจ้านี่มันเป็นแมลงสาบตายยากเย็นนัก” จ้าวจินซามองหลินซวนด้วยจิตสังหารอันแรงกล้า
เมื่อเห็นว่าเป็นผู้ใดที่เดินเข้ามา หลินซวนเช็ดเลือดที่มุมปากของตนก่อนกล่าวอย่างสงบ
“สวะเช่นเจ้า หากต้องการจะประลองกับข้าตัวต่อตัวจริงๆ เจ้าคงตายตกไปนานแล้ว”
หลินซวนมีสีหน้าเหยียดหยาม นั่นทำให้จ้าวจินซาหน้าชาด้วยแรงโทสะ มันไม่ต้องการให้ผู้ใดกล่าวความเป็นจริงข้อนี้ออกมา
มันจึงกระทืบเท้าลงกับพื้นและทะยานร่างตรงเข้าใส่หลินซวน ค้อนยักษ์ในมือมันฟาดลงไปโดยมีเป้าหมายเป็นทารกน้อยที่บาดเจ็บหนักผู้นั้น หากเขาไม่อาจหลบหลีกค้อนนี้ได้ อย่างดีเขาก็พิการ แต่อย่างร้ายที่สุด ร่างของเขาจะแหลกเหลวกลายเป็นเพียงเศษเนื้อติดปลายค้อน
หลินซวนมิได้เลือกจะเข้าปะทะโดยตรง ปลายเท้าของเขาพาร่างเล็กๆ นั้นหลบหนีค้อนที่ฟาดลงมาอย่างคล่องแคล่ว
ค่ายกลสี่สัตว์เทวะทำให้เขาบาดเจ็บอย่างช่วยไม่ได้ แม้ว่าอาการบาดเจ็บเหล่านั้นจะมิได้ร้ายแรง แต่ก็ส่งผลต่อพละกำลังในการต่อสู้ของเขาโดยตรง ทุกครั้งที่เขาออกแรงกระทำสิ่งใดก็ตาม บาดแผลเหล่านั้นจะขยายขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เขาจึงพยายามจะสังหารจ้าวจินซาลงโดยสูญเสียให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ในอีกด้านหนึ่ง หลังจากกลายร่างเป็นยักษ์ใหญ่ หวงหาวสังหารอัจฉริยะที่เสนอหน้าเข้ามาด้วยหมัดของเขาอย่างต่อเนื่อง ใต้เท้าของเขาเต็มไปด้วยซากศพมากมายและโลหิตที่ไหลนองราวกับแม่น้ำ
ผู้บ่มเพาะทั้งหลายต่างชะงักงัน พวกมันที่ล้อมรอบหวงหาวอยู่ต่างมองหน้ากันไปมา พวกมันบัดนี้ตกตายลงไปร่วมสองพันคน แต่อย่างได้กล่าวถึงการสังหารอีกฝ่าย กระทั่งหยุดเด็กน้อยผู้นี้ยังไม่อาจเป็นไปได้เสียด้วยซ้ำไป
ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่อยากตาย แต่หากพวกมันถอยหนีไปตอนนี้ ไม่เพียงจะมิได้รับการปกป้องจากราชวงศ์อมตะและตระกูลหยิง พวกมันยังกลายเป็นศัตรูกับทั้งสองกองกำลังที่ยิ่งใหญ่เพราะการกระทำเช่นนั้นอีกด้วย พวกมันไม่อาจก้าวไปด้านหน้าหรือถอยออกมาได้ จึงทำได้เพียงยืนนิ่งอยู่ที่ตรงนั้น
ทางด้านหลินซวน อัสนีสวรรค์เก้าชั้นฟ้าปะทุขึ้นเบื้องบนและฟาดผ่าลงมาจนหุบเขารอบด้านพังทลาย เศษหินมากมายที่แตกออกถูกหลินซวนใช้ลมปราณควบคุมพวกมันให้พุ่งเข้าใส่จ้าวจินซา
อัสนีสวรรค์นี้ทรงพลังเสียจนอาบย้อมท้องนภาให้กลายเป็นสีม่วงเทา ทำเอาเหล่าอัจฉริยะทั้งหลายตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว
ทางด้านเหล่าผู้ที่จ้องมองการต่อสู้อยู่เปิดเผยสีหน้าโง่งมยิ่ง การได้เห็นเด็กน้อยคู่นั้นยังคงสามารถต่อสู้ต่อไปได้อย่างองอาจทำให้พวกเขาสรรเสริญออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“บัดซบ เจ้าเด็กเหลือขอทั้งสองคนนั้นเหตุใดแกร่งกล้าถึงเพียงนี้? พวกมันเป็นใครกัน?” หวังเถิงเฟยต่อยศิลาข้างตัวระบายอารมณ์กรุ่นโกรธ
มันรู้จักอัจฉริยะทุกคนในตระกูลหลินดี ทว่าไม่มีคนไหนเลยที่มีรูปลักษณ์เช่นที่มันกำลังเผชิญหน้าอยู่
“รึว่ามันคือหลินซวน?” หวังเถิงเฟยขมวดคิ้วพลางคาดเดา
ทว่า หลินซวนผู้นั้นเพิ่งถือกำเนิดมาได้กี่ปีกัน?
ไม่ว่ามันจะเป็นสัตว์ประหลาดเพียงใด แต่มันควรจะมีระดับการบ่มเพาะเพียงแค่แดนสร้างรากฐานขั้นแรกและรูปร่างมิควรจะเป็นเช่นนี้
ด้วยการคาดการณ์ของมันแล้ว หลินซวนสมควรจะเป็นเพียงทารกที่เพิ่งหัดเดินเท่านั้น
“ค้อนดับชีวา!”
จ้าวจินซาคำรามพลางดึงดูดพลังธาตุโลหะแห่งฟ้าดินมาไว้รอบกาย เมื่อมันเหวี่ยงฟาดค้อนลงยังผืนปฐพี เงาของค้อนขนาดยักษ์ที่มีขนาดถึงร้อยฉื่อก็ปรากฏขึ้นเบื้องหลังของมัน เงาค้อนนั้นปลดปล่อยกลิ่นอายทรงอำนาจ คลื่นอากาศถูกส่งออกมาจากตัวค้อนนั้นและกระแทกใส่ทุกสิ่งที่อยู่รอบด้าน อัจฉริยะทั้งหลายที่มาชมดูการต่อสู้นี้ต่างเร่งพลังปราณของตนขึ้นมาเป็นเกราะคุ้มกาย
“ตาย!” จ้าวจินซาทุ่มเทชีวิตของมันลงในการโจมตีครั้งนี้ มันไม่อาจยอมให้ตนเองพ่ายแพ้คนๆ เดิมซ้ำสองได้
“เจ็ดก้าวสวรรค์กลับกลาย เหยียบย่ำ!”
หลินซวนเลือกที่จะไม่เข้าปะทะกับค้อนเช่นเดิม เขาเลือกใช้ทักษะการเคลื่อนไหวที่เร็วที่สุดของตนออกมาเพื่อหลบหลีกค้อนนั้น ค้อนที่ทรงพลังของฝ่ายตรงข้ามฟาดลงมาก่อนจะถูกภูเขาลูกเล็กๆ ที่อยู่ด้านหลังของหลินซวนแทน
เขาลูกนั้นแตกกระจายกลายเป็นเศษหินมหาศาลภายใต้แรงกระแทกจากค้อนยักษ์ พลังของมันยังพุ่งอย่างต่อเนื่องลงสู่พื้นเบื้องล่างทำให้ผืนแผ่นดินเกิดเป็นรอยแตกร้าวขนาดใหญ่
ในตอนนั้นเอง ปราณวิญญาณบางเบาปรากฏอยู่ใต้เท้าของหลินซวน เขามองไปยังผู้บ่มเพาะรอบด้านด้วยสีหน้ามืดมน หอกทองคำในมือของเขาพุ่งแทงไปยังศัตรูทั้งหลายที่เตรียมจะเข้ามาโจมตีซ้ำใส่เขา
แผละ!
ปราณวิญญาณที่แฝงอยู่ในหอกนั้นระเบิดออกมาและทำลายหน้าอกของศัตรู โลหิตนับไม่ถ้วนไหลจากปากของฝ่ายตรงข้าม พวกมันทำได้เพียงพยายามหายใจเท่านั้น ความตายอยู่ห่างเพียงปลายเส้นผม
จ้าวจินซาที่เพิ่งจะทรงตัวได้จากการเหวี่ยงค้อนขนาดยักษ์จึงกระชับค้อนในมือของมันพลางขบฟันและพุ่งใส่หลินซวนอีกครั้ง
ทว่าหลินซวนมิได้หยุดอยู่กับที่ เขาทลายวงล้อมของผู้บ่มเพาะทั้งหลายและไปปรากฏตัวอยู่ที่ด้านนอกของค่ายกล มุมปากของเขายกขึ้นเป็นรอยยิ้ม มองไปยังจ้าวจินซาที่ไล่กวดเขามา หอกในมือของหลินซวนเสือกแทงใส่ศัตรูอย่างไร้เมตตา
ปลายหอกอันแหลมคมแหวกผ่านอากาศและปะทะเข้ากับค้อนของจ้าวจินซา พลังที่สะท้อนกลับมาทำให้ทั้งคู่ลมปราณและโลหิตในร่างปั่นป่วน
ดวงตาของหลินซวนแข็งกร้าว เขาตัดสินใจใช้แรงทั้งหมดดันปลายหอกจนมันแทรกผ่านค้อนของจ้าวจินซาในแยกออกด้วยความเร็วที่ตามองเห็นได้ จากนั้นเสียงแตกหักก็ดังขึ้น เป็นค้อนด้ามยักษ์ที่สุดท้ายก็พังทลายลง
เมื่อเห็นค้อนของตนถูกทำลายลงด้วยหอกของหลินซวน ใบหน้าของจ้าวจินซาปรากฏร่องรอยความไม่อยากเชื่อถือขึ้นมา ร่างของมันพลันถอยหลังอย่างรวดเร็ว
เห็นเหตุการณ์เช่นนั้น หลินซวนแค่นเสียงเย็นชา หอกในมือที่เกิดจากการควบแน่นปราณของเขาพุ่งไปด้านหน้าและพุ่งทะลุศีรษะของจ้าวจินซาจนปรากฏเป็นรูโหว่สีเลือด
พลังที่ส่งมาพร้อมกับหอกนั้นทำให้ร่างของมันกระเด็นออกไปอีกหลายสิบฉื่อ ท้ายที่สุด ร่างของมันก็หยุดลงพร้อมดวงตาที่เบิกค้าง
พลังต่อสู้ของหลินซวนทำให้ผู้คนทั้งหลายต้องทำความเข้าใจใหม่ทั้งหมด
ในวัยเพียงเท่านี้ และร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผล เขาสังหารผู้บ่มเพาะระดับครึ่งก้าวแดนหมุนวนทะเลปราณนามจ้าวจินซาลง มันมากพอที่จะทำให้คนทั้งหมดต้องแตกตื่น
หากให้เวลาเขาอีกเพียงสิบปี ของแข็งแกร่งของเด็กน้อยผู้นี้คงมิอาจจินตนาการได้
ด้วยพรสวรรค์อันน่าหวั่นเกรง กระทั่งเหล่าคนรุ่นก่อนก็อาจจะกลายเป็นด้อยกว่าเขาได้ภายในเวลาเพียงสิบปีเท่านั้น