ตอนที่ 20 ในเสินลู่ ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะได้รับความเคารพ
เหตุการณ์นี้ทำให้หลิงประหลาดใจมาก
การใช้แต้มคุณสมบัติอิสระทั้งหมดที่ได้มาลงในพลังเวททำให้เขาใช้สกิลฆ่ามอนสเตอร์ที่มีเลเวลสูงกว่าตัวเขาสองสามเลเวลได้อย่างไม่มีปัญหา
และดาวตกนี้มีขนาดใหญ่มากกว่าเดิมถึง10เท่า
นี่มันไม่ปกติแล้ว!
“นอกจากว่ามอนสเตอร์ตัวนี้จะมีสกิลช่วยชีวิต”
นี่คือคำอธิบายที่สมเหตุสมผลที่สุดในตอนนี้
โดยทั่วไปแล้วสกิลช่วยชีวิตสามารถใช้ได้ครั้งเดียวในช่วงเวลาสั้นๆ
ดังนั้นหลิงอี้เลยใช้[ดาวตก]อีกครั้ง
แต่ถึงอย่างนั้น
มันเกินกว่าสิ่งที่เขาคิดไว้มาก หลังจากคลื่นกระแทกของดาวตกสลายไป ในบริเวณนั้นยังมีผีเสื้อไฟจำนวนมาก!
เหนือหลุมใหญ่ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางสี่สิบเมตร ผีเสื้อไฟยังบินไปมาอย่างไม่รีบร้อน
มันทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“นี่”
ใบหน้าของเขาสตั้นไปครู่หนึ่งก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมา
[คุณฆ่าธาตุไฟ(เลเวล12), ค่าประสบการณ์ +4]
[คุณฆ่า...]
[สกิล3ดาว[อัญเชิญธาตุไฟ]ถูกเก็บโดยอัตโนมัติ]
[สกิล3ดาว[ร่างกายธาตุไฟ]ถูกเก็บโดยอัตโนมัติ]
[สกิล....]
“ช่างมัน มาดูสกิลที่ดรอปก่อน”
หลิงอี้ไม่ใช่คนดันทุรัง
ถ้าฆ่าไม่ได้ก็ช่างมัน เดี๋ยวไปดูในฟอรัมก็รู้เองว่าสกิลของผีเสื้อไฟคืออะไร
ตอนนี้มาดูสกิลที่ดรอปก่อน
[อัญเชิญธาตุไฟ(3ดาว)]: เรียกธาตุไฟเป็นเวลา1นาที
[ร่างไฟ(3ดาว)]: เปลี่ยนร่างกายเป็นเปลวไฟ ใช้แรงกายเพิ่มขึ้นสองเท่าในช่วงเวลาดังกล่าว
นอกจากสกิลสองอย่างนี้ ยังมีสกิลบอลไฟที่ดรอปมาด้วย
เขารู้เอฟเฟกต์ของสกิลนี้อยู่แล้วเลยไม่ตรวจสอบ
“สกิลสองอันนี้ไม่เลวเลย ศักยภาพในการกลายพันธุ์คือระดับสูงด้วย ฉันคงเรียนรู้สองสกิลนี้แล้วถ้าไม่ติดเรื่องตำแหน่งดาว”
หลิงอี้รู้สึกลังเล
ในอนาคตเขาจะได้เจอสกิลยอดเยี่ยมทุกประเภท
แต่ด้วยข้อจำกัดตำแหน่งดาวที่เหมือนกับคนอื่นๆ สกิลที่เขามีได้จึงถูกจำกัด
เป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าสกิลไหนมีประโยชน์กับเขามากกว่าในอนาคต
“อืม...ต้องเก็บสกิลไว้ส่วนหนึ่งก่อน อันที่เหลือก็เอาไปรีไซเคิลให้หมด”
เสินลู่มีเวลาให้จำกัด
เรื่องนี้ค่อยเก็บไว้คิดตอนกลับไปก็ได้
ตอนนี้สกิล[ดาวตก]ยังใช้ได้อยู่
หลังจากรีไซเคิลสกิลเสร็จ หลิงอี้มองผีเสื้อไฟที่อยู่ห่างออกไปอีกครั้ง
เขาตัดสินใจเปิดฟอรัมหาข้อมูลของผีเสื้อไฟ
จากนั้นไม่นาน
เมื่อค้นหาด้วยคำว่า’ผีเสื้อไฟ’ โพสต์ต่างๆก็ปรากฏขค้น
[ผีเสื้อไฟ สัตว์เลี้ยงมอนสเตอร์ธาตุไฟ! ] (โพสต์โดย: ป่าแห่งไฟ)
[วิเคราะห์สกิลผีเสื้อไฟอย่างละเอียด! ] (โพสต์โดย: หลินจงอี้หยิน)
[…]
โพสต์ยอดนิยมเหล่านี้มียอดไลค์นับพันล้านและมียอดดูหลายหมื่นล้าน (กดเข้ามาหนึ่งครั้งนับเป็นอ่านหนึ่งครั้ง)
ความร้อนแรงไม่ได้ลดลงเลย
หลิงอี้แค่อยากรู้ว่าผีเสื้อไฟมีสกิลอะไร เขาจึงกดดูโพสต์ที่สอง
หลังจากข้ามเนื้อหาไม่มีประโยชน์ไปสองย่อหน้า เขาก็อ่านช่วงวิเคราะห์สกิล
[ผีเสื้อไฟมีทั้งหมด4สกิล สกิลที่มีค่าที่สุดคือ‘อาบไฟคืนชีพ’ ความสามารถเป็นไปตามชื่อของมัน หลังจากตายจะฟื้นชีพได้เมื่อสัมผัสไฟ นอกจากนี้ยังมีสกิลไฟลุกโชน การรวมกันของสองสกิลนี้แทบทำให้ฆ่ามันไม่ได้...]
“เป็นแบบนี้นี่เอง”
หลิงอี้เลิกคิ้วขึ้น
ไม่ใช่ว่าเขาโจมตีไม่โดนหรือพวกมันหลบได้
แต่พวกมันฟื้นคืนชีพได้
“อาบไฟคืนชีพ!? เป็นสกิลที่ดีจริงๆ”
สามารถฟื้นคืนชีพได้เมื่อสัมผัสกับไฟ
กล่าวอีกนัยหนึ่ง สกิลอะไรที่ทำให้เกิดไฟจะไม่สามารถฆ่ามันได้
ไม่ใช่แค่สกิลที่มีไฟ การระเบิดส่วนใหญ่ล้วนมีไฟเหมือนกัน ดังนั้นการระเบิดจึงฆ่ามันไม่ได้
รวมถึงดาวตกของหลิงอี้ด้วย
“ปล่อยพวกมันไปก่อนแล้วกัน”
หลิงอี้ปล่อย[ดาวตก]ไปยังพื้นที่อื่นในขอบเขตการมองเห็นของเขา
และทำเหมือนว่าผีเสื้อไฟไม่มีตัวตน
เพราะธาตุไฟตรงนี้มีมากพอที่จะทำให้เขาเลื่อนขึ้นเป็นเลเวล10!
ฟิ้ว!
ฟิ้ว!
ฟิ้ว!
เปลวไฟสีทองกำลังลุกโชนอยู่ด้านบน ดาวเพลิงสีแดงปรากฏบนความสูง400เมตรและตกลงมาด้วยความเร็วสูง
พวกมันตกลงมาพร้อมกับหางไฟสีทองยาวหลายสิบเมตร! เสียงเสียดสีของลมดังไปหลายร้อยเมตร!
เมื่อมันกระทบพื้นดินสีแดงก็เกิดเสียง‘ตู้ม’เหมือนเสียงฟ้าผ่าที่ดังมาจากพื้นดิน
[คุณฆ่าธาตุไฟ(เลเวล13), ค่าประสบการณ์ +5]
[คุณฆ่าธาตุไฟ(เลเวล11), ค่าประสบการณ์ +3]
[...]
......
ในเวลาเดียวกัน.
ใต้ต้นหญ้าเขียวชอุ่มของสวนผลไม้สีคริมสัน ผู้เล่นหลายร้อยคนกำลังเตรียมจากไป
พวกเขาต่างได้รับงานจากตระกูลหรือองค์กรที่อยู่เบื้องหลัง
งานของพวกเขาคือตามหาคนที่เรียกดาวเพลิงในตอนนั้น
แต่ตอนนี้
หลายคนเห็นดาวเพลิงปรากฏขึ้นอีกครั้งในส่วนลึกของสวนผลไม้คริมสัน
เพราะรู้ว่าเป็ยเรื่องยากที่จะผ่านตรงนี้ด้วยตัวคนเดียว พวกเขาจึงรวมตัวกันและวางแผนไปหาคำตอบด้วยกัน
“ถึงพวกเราไม่รู้จักกันแต่พวกเรามีจุดประสงค์เดียวกัน”
ชายอ้วนวัยกลางคนสวมเสื้อแขนสั้นสีขาวและแว่นตาสี่เหลี่ยมสีดำพูดเสียงดังต่อหน้าฝูงชน
ชื่อของเขาคือจางกั้ง
เขาเป็นประธานบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางในโลกปัจจุบัน
เขาคุ้นเคยดีกับการใช้คนอื่นขับรถและรู้ว่ากลุ่มที่รวมตัวกันชั่วคราวนี้ต้องการผู้นำ
“อีกด้านของเนินหญ้าเป็นสวนผลไม้คริมสัน ฉันเพิ่งเห็นว่า...”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ เขาเห็นคนมากมายไม่สนใจเขาและเดินตรงไปยังเนินหญ้า
“เห้ย! พวกนายทำอะไรกันวะ!?”
จางกั้งตะโกนใส่พวกเขา “พอพวกนายออกไปมอนสเตอร์ก็จะเห็นทันที พวกนั้นจะไล่ตามพวกนายไปเรื่อยๆ!”
หลายคนหันมามองเขาแต่ไม่ได้สนใจสิ่งที่เขาพูดอยู่ดี
มีคนเดินผ่านมาแล้วมองเขาด้วยความดูถูก “หึ แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร?”
เมื่อได้ยินแบบนั้นจางกั้งจึงหน้าชายิ่งกว่าเดิม
เขาอยากด่ามันแต่รู้สึกว่าตัวเองสู้มันไม่ได้แน่นอน เขาจึงทำได้แค่สงบใจลงเท่านั้น
แต่จู่ๆเขาก็นึกอะไรขึ้นได้
ในโลกเสินลู่ไม่มีกฎหรือศีลธรรมอะไรทั้งนั้น ผู้เล่นแต่ละคนล้วนมีพลังพิเศษ ถ้าไม่มีพลังมากพอสั่งให้คนอื่นหุบปาก ทุกคนก็ไม่ยินดีรับคำสั่งใครทั้งนั้น
สรุปง่ายๆคือ
ในเสินลู่ ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะได้รับความเคารพ!
จางกั้งที่เข้าใจสิ่งนี้แล้วจึงปิดปากและเดินตามคนอื่นขึ้นไปบนหญ้าอย่างเงียบๆ
เมื่อยืนอยู่บนเนินหญ้าสูง ทุกคนเห็นมอนสเตอร์ผลไม้คริมสันที่ปกคลุมทุ่งหญ้า
เบื้องหน้านั้นไกลสุดลูกหูลูกตา
“เฮ้อ”
ทุกคนพากันอ้าปากค้างเมื่อเห็นสิ่งนี้
พวกเขามองหน้ากันและเห็นแววตาที่สั่นเทาของกันและกัน
“มีมอนสเตอร์เยอะเกินไป!”
“คนคนนั้นอยู่ที่นั่นจริงเหรอ? เขาไปที่นั่นได้ยังไง?”
“ลืมไปเถอะ เอาไว้คราวหน้าดีกว่า”
“ที่นี่มันนรกชัดๆ คงไปได้ไม่ไกลแน่ถ้าไม่มีคนสักสองพันคน”
“…”
เพิ่งมีคนหลุดปากพูดออกมา
บางคนหัวเราะเยาะเขาแล้วลงจากเนินหญ้า
ผู้เล่นจำนวนมากยังแสดงท่าทางแข็งทื่อ หดหู่ หรือทำอะไรไม่ถูกอยู่ตรงนั้นโดย