ตอนที่ 17 หลินซูโหรว
“มีใครอยู่ไหม?”
หลิงอี้ตะโกนถามสองสามครั้งหลังจากเข้ามา
พอไม่มีใครตอบกลับเขาจึงวางหลินชูโหรวไว้บนโซฟาในห้องนั่งเล่นแล้วมองไปรอบๆ
นี่เป็นบ้านสองชั้นหลังเล็ก พอเดินเข้ามาจึงมาถึงห้องโถงทันที
มีพรมแดงขนาดใหญ่ปูอยู่กลางห้องโถง บนพรมแดงมีโซฟายาวสีแดงไวน์หนึ่งตัวและโซฟาสั้นสองตัว ตรงกลางระหว่างโซฟามีโต๊ะขนาดใหญ่ตั้งอยู่
หลินซูโหรวกำลังนอนบนโซฟายาวสองเมตร
โซฟาตัวนี้หันหน้าไปทางทีวี80นิ้วที่ติดอยู่บนผนัง ซึ่งทีวีเครื่องนี้ใหญ่กว่าทีวีในห้องหลิงอี้มาก
เขาเดินไปรอบๆชั้นแรก เดินจากห้องครัวทางซ้ายไปยังห้องออกำลังกายทางขวา พอได้ดูห้องน้ำกับห้องเก็บของแล้วเขาพบว่าที่นี่สะอาดมาก
ในห้องครัว เขาเห็นแค่จานกับตะเกียบที่นำออกมาล้าง
เธอคงล้างมันหลังกินอาหารเสร็จ
“เธออยู่ที่นี่คนเดียว?”
หลิงอี้ขมวดคิ้วเมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้
เขาแค่จะพาเธอมาส่งที่บ้านแล้วปล่อยให้ครอบครัวเธอจัดการเรื่องที่เหลือต่อ
แต่ใครจะรู้ว่าผู้หญิงคนนี้อยู่บ้านคนเดียว?
เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหยิบโทรศัพท์ของเธอจากกระเป๋าแล้วดูว่าจะติดต่อกับครอบครัวได้ยังไง
สมุดรายชื่อในโทรศัพท์ผู้หญิงคนนี้เป็นเหมือนของเขาไม่มีผิด มันไม่มีอะไรเลยนอกจากความว่างเปล่า!
หลิงอี้ “...”
หลิงอี้มองใบหน้าอ่อนหวานของหญิงสาวที่หลับอยู่และคิดในใจ “อยู่คนเดียว ไม่มีข้อมูลติดต่อญาติหรือเพื่อน”
“ผู้หญิงคนนี้เป็นเหยื่อเหมือนกัน?”
เขาไม่สนใจเรื่องตัวตนของเธอ
สิ่งที่เขาสนใจคือจะทำยังไงต่อ?
“อืมม ทำดีให้ถึงที่สุดแล้วกัน ขอหาวิธีแก้คำสาปก่อน” หลิงอี้มองหญิงสาวครู่หนึ่งก่อนจะพูดอย่างช่วยไม่ได้
เขาไม่ได้รีบกลับนักเพราะห้องของเขาอยู่แค่ฝั่งตรงข้าม
เขานั่งลงบนโซฟาและเข้าฟอรั่มค้นหาวิธีแก้ปัญหาคำสาปฝันร้าย
เพียงครู่เดียว
เขาได้พบวิธีแก้คำสาบหลายวิธี
วิธีที่ง่ายที่สุดคือซื้อยันต์คลายคำสาปจากร้านเสินลู่
เป็นยันต์ที่สามารถลบคำสาประดับต่ำได้ ยันต์หนึ่งใบสามารถลบคำสาประดับต่ำให้กับผู้เล่นที่เลเวลต่ำกว่า10(รวมถึงคนธรรมดา)
เขาเปิดร้านเสินลู่และพบว่ายันต์นี้สามารถซื้อได้ชิ้นเดียวต่อวัน และแต่ละชิ้นมีราคาแค่1เหรียญทองเท่านั้น
“ถูกขนาดนั้นเลย? รู้แบบนี้ฉันน่าจะหาวิธีแก้คำสาปตั้งแต่อยู่ในร้านอาหาร”
หลิงอี้ซื้อ[ยันต์คลายคำสาป]และใช้มันกับหญิงสาวที่หลับใหลอยู่ทันที
เวลาต่อมา
จุดสีฟ้าอ่อนโผล่จากความว่างเปล่าเหใอนกับมีดาวดวงเล็กๆปรากฏขึ้น
จุดแสงเหล่านี้ค่อยๆตกลงมาที่ร่างหลินซูโหรว แทรกซึมผ่านเสื้อผ้าของเธอและหลอมรวมเข้ากับผิวหนัง
“ตอนนี้คงหายดีแล้ว”
หลิงอี้ตั้งใจจะออกไป
แต่ในตอนนั้นเอง ข้อความที่เกินความคาดหมายก็ปรากฏขึ้น
[ความคืบหน้าในการคลายคำสาป: 1/3]
[แจ้งเตือน: เป้าหมายมีเลเวลสูงกว่า10จึงต้องการพลังในการคลายคำสาปมากขึ้น!]
“สูงกว่าเลเวล10!?”
หลิงอี้มองหญิงสาวที่หลับอยู่ด้วยตาเบิกกว้างเพราะความประหลาดใจ
เป็นเรื่องยากจริงๆที่จะคิดว่าผู้หญิงบอบบางคนนี้เป็นผู้เล่นระดับสูง
ในขณะที่เขาประหลาดใจอยู่ เปลือกตาของผู้หญิงคนนั้นเริ่มสั่นรัวราวกับว่าเธอพยายามปลุกตัวเองให้ตื่น
หลิงอี้คิดอยู่ครู่หนึ่ง เขารู้สึกว่าเธออาจต้องการความช่วยเหลือเล็กน้อยจึงช่วยเขย่าตัวเธอ
เห็นผลได้อย่างชัดเจน
หลินซูโหรวตื่นขึ้นทันที ดวงตาสีน้ำเงินของเธอเปิดขึ้น
หลิงอี้มองเธอ เธอมองเขา
ทั้งสองมองหน้ากันครู่หนึ่งก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นจะร้อง‘อ๊าาา’และลุกขึ้นทันที เธอใช้แขนโอบรอบหน้าอกและย่อตัวไปที่มุมโซฟาอย่างรวดเร็วเหมือนกระต่ายหวาดกลัว
ใบหน้าของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง
“ฟื้นแล้วเป็นยังไงบ้าง?” หลิงอี้ถามด้วยความสงสัย
ความคืบหน้าในการคลายคำสาปมีแค่หนึ่งในสาม หรือว่าคำสาปจะหายไปหมดหลังจากฟื้น?
ดูแล้วมันค่อนข้างคลุมเครือ
หลินซูโหรวมองเขาด้วยความตื่นตระหนกและก้มหน้ามองตัวเองทันที พอเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองยังอยู่ครบเธอจึงโล่งใจ
เมื่อเห็นแบบนั้น
หลิงอี้พูดต่อ “การคลายคำสาปทำได้แค่หนึ่งในสามไม่ใช่เหรอ?”
“แค่คลายคำสาปเล็กน้อยก็ตื่นได้ครึ่งหนึ่ง”
หลินซูโหรวตอบอย่างอ่อนแรง
“ในเมื่อเธอตื่นแล้วและยังเป็นผู้เล่นด้วย ถ้าอย่างนั้นทำต่อเองเลย ฉันไปล่ะ”
หลิงอี้โบกมือและกำลังจะจากไป
แต่ก่อนที่เขาจะหันหลังก้าวออกไป เสียงรีบร้อนก็ดังมาจากข้างหลัง “เดี๋ยวก่อน ฉันยังต้องให้คุณช่วยอยู่”
“หืม?” หลิงอี้หันกลับมาด้วยความสับสน
หลินซูโหรวสูดหายใจเข้าลึกและอธิบายสถานการณ์ของเธอ
......
ที่ทแ
เธอเคยเป็นผู้เล่นเลเวล30
ตอนนั้นเธอยังเป็นคนมองโลกในแง่ดีและมีรอยยิ้มร่างเริงอยู่ทุกวัน
แต่หลังจาก
ในระหว่างการประเมินเสินลู่ เขตของพวกเธอล้มเหลวเพราะคริสตัลถูกกองทัพมอนเสตอร์ครอบครอง ทุกคนในเขตนั้นจึง‘ไม่สามารถเข้าเสินลู่และไม่สามารถใช้พลังของผู้เล่น’ได้อย่างถาวร
พูอีกอย่างคือถึงจะมีเลเวลสูงแต่เธอเป็นแค่คนธรรมดา
เธอล่วงหล่นจากคนพิเศษกลายเป็นคนธรรมดาซึ่งทำให้เธอรู้สึกไม่ปลอดภัยมาก หลังจากนั้นเธอจึงทำทุกอย่างด้วยความระมัดระวังและค่อยๆเปลี่ยนเป็นคนอ่อนแอ
“ถึงจะมีเลเวลอยู่ แต่ฉันใช้พลังของผู้เล่นไม่ได้แล้ว”
ขณะที่พูดเธอก็ถอดรองเท้าออก วางเท้าในถุงน่องสีขาวบนโซฟาและคุยกับหลิงอี้ในท่านั่งเป็ด
“ฉันซื้อไอเทมคลายคำสาปไม่ได้เพราะเข้าร้านเสินลู่ไม่ได้ สองวันต่อจากนี้ฉันเลยต้องการให้คุณช่วย”
เธอทำทุกอย่างให้ชัดเจน
“ไม่เป็นไร แค่เรื่องเล็กน้อย”
หลิงอี้เข้าใจ
ไม่มีอะไรมากไปกว่าการซื้อ[ยันต์คลายคำสาป]ให้เธออีกสองวัน
ส่วนเรื่องเหรียญทองเขาไม่ได้เก็บมาใส่ใจแม้แต่น้อย
หลิงอี้รับปากให้ความช่วยเหลือ
หลินซูโหรวมองรอยยิ้มกล้าหาญของเขาและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอเม้มปากแล้วพูดด้วยเสียงเบา “แต่ฉันไม่มีอะไรตอบแทนให้นะ”
เธอมองไปมาในบ้านของตัวเองครู่หนึ่ง พอเห็นว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้เธอก็ยิ่งเขินอายมากขึ้นไปอีก
แต่หลิงอี้ไม่คิดแบบนั้น
“ไม่หรอก มีเรื่องที่เธอตอบแทนฉันได้อยู่”
เขามองหน้าหลินซูโหรวด้วยรอยยิ้ม
เธอเคยเป็นผู้เล่นเลเวล30และเกือบผ่านเส้นทางหลักมาแล้ว
เหรียญทองแค่ไม่กี่เหรียญเทียบกับข้อมูลในหัวเธอไม่ได้เลย!
แม้ว่าข้อมูลส่วนใหญ่จะเปิดให้อ่านแบบสาธารณะ แต่จะเจอข้อมูลนั้นได้เมื่อหาในฟอรัมด้วยความรอบคอบเท่านั้น
ดังนั้นการได้ข้อมูลจากคนที่รู้ข้อมูลอยู่แล้วต้องดีกว่าแน่นอน
เมื่อเห็นชายหนุ่มตรงหน้ามองเธอด้วยรอยยิ้ม หลินชูโหรวจึงตกตะลึงและแก้มของเธอเริ่มแดง
เธอเอามือโอบหน้าอกเธออีกครั้งแล้วพูดอย่างประหม่า “นั่น เรื่องนั้นไม่ได้นะ”
ดวงตาสีน้ำเงินเกือบจะน้ำนอง
หลิงอี้ “...”
เขาข้ามเรื่องนี้ไปและแนะนำตัวกับเธอ
“จะว่าไป เธอยังไม่รู้จักชื่อฉันเลย”
เขาเอื้อมมือไปทางเธอ “มาทำความรู้จักกันเถอะ ฉันชื่อหลิงอี้”
“หลิงจากความทะเยอทะยาน อี้จากไม่มีใครเทียบ”
“ฉันเพิ่งเป็นผู้เล่นวันนี้ ตอนนี้...อืม...เลเวลค่อนข้างดี”
หลินชูโหรวมองเขาด้วยสายตาว่างเปล่าอยู่นาน จากนั้นเธอจึงถอนหายใจแล้วยื่นมือหยกขาวจับมือเขา
“หลินซูโหรว ไม่มีความหมายพิเศษ นายจะเรียกแบบไหนก็ได้”
“เป็นแค่คนธรรมดาที่ทำอะไรไม่ถูก”