ตอนที่ 120 สนับสนุนมหาวิทยาลัย
ที่น่าประหลาดใจคือการวิเคราะห์ราคาน้ำมันล่วงหน้าหลู่เฉียนซาน เธอวิเคราะห์ได้ถูกต้องแล้ว
สายตาของเธอเฉียบแหลมมาก รู้ได้เลยว่าเธอเป็นคนที่ฉลาด
นี่คือทรัพยากรมนุษย์ที่มีมูลค่ามาก
หลังจากที่เห็นท่าทางพอใจของซูข่าน จางหม่านก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ดูเหมือนเจ้านายจะพอใจในทักษะของหลู่เฉียนซานมาก ในอนาคตเธออาจจะได้นั่งคุมตำแหน่งการเงินของบริษัทว่านเซี่ยงก็ได้
"คุณวิเคราะห์ได้เฉียบแหลมมาก"
ซูข่านพูดต่อว่า
"ความขัดแย้งในตะวันออกกลางถึงแม้จะไม่ได้สิ้นสุดในระยะเวลาอันสั้น แต่การฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจหลังจากนั้นจะต้องใช้ระยะเวลานาน ดังนั้นการลงฟิวเจอร์น้ำมันเป็นเวลา 6 เดือนน่าจะได้ผลตอบแทนสูงสุดแล้ว"
ใบหน้าที่เย็นเฉียบราวกับก้อนน้ำแข็งของหลู่เฉียนซานสั่นไหวเล็กน้อย ดวงตาของเธอก็ดูสั่นไหวแปลกๆ
การวิเคราะห์ของซูข่านเหมือนกับของเธอเลย เธอไม่ได้บอกข้อมูลการวิเคราะห์ของเธอให้ใครรู้มาก่อน ขนาดประธานจางเธอยังไม่รู้ข้อมูลส่วนนี้เลย
หลู่เฉียนซานรู้สึกชื่นชมซูข่านภายในใจเล็กน้อย คนที่อยู่เบื้องหลังบริษัทว่านเซี่ยงคนนี้เป็นคนที่พิเศษจริงๆ
ไม่อย่างงั้นภายในระยะเวลา 1 เดือน บริษัทนี้ไม่สามารถมีรายได้หลายร้อยล้านได้อย่างแน่นอน
ซูข่านมองไปที่จางหม่านแล้วเรียก
"จางหม่าน"
"ค่ะเจ้านาย"
จางหม่านตอบด้วยความเคารพ
"พรุ่งนี้เดี๋ยวเธอไปติดต่อคนจากมหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยชิงหวาที เราจะลงทุน 1 ล้านให้กับภาควิชาเศรษฐศาสตร์ และร่วมมือในการการวิจัยและสำรวจการพัฒนาเศรษฐกิจโลก"
จางหม่านตอบอย่างรวดเร็ว
"ไม่มีปัญหาค่ะ"
ไม่ว่าจะเป็นฮ่องกง ยุโรป หรือสหรัฐอเมริกา และอีกหลายประเทศ บริษัทชั้นนำที่อยู่แนวหน้าของโลกล้วนร่วมมือกับมหาวิทยาลัยทั้งนั้น
แม้ว่ามหาวิทยาลัยชิงหวาจะไม่ได้เป็นที่รู้จักในระดับสากลสักเท่าไหร่ แต่เจ้าของมหาวิทยาลัยแห่งนั้นคือคนที่มาจากหนานจิง
ซูข่านมองไปที่จางหม่านและพยักหน้าให้ อยู่ดีๆใบหน้าของจ้าวชิงชิงก็ได้ปรากฏขึ้นมาในหัวของเขา
ซูข่านรู้สึกอยากจะมอบโอกาสที่ดีให้กับเธอสักหน่อย
ในยุคนี้มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยได้รับเงินสนับสนุนสักเท่าไหร่ แม้แต่มหาวิทยาลัยปักกิ่งหรือมหาวิทยาลัยชิงหวา
อย่างมากที่สุดรวมเงินสนับสนุนจากทั้งสองมหาวิทยาลัยยังแค่ไม่ถึงเท่าไหร่เลย
ตอนนี้ซูข่านอยากจะให้บริษัทว่านเซี่ยงของเขา สนับสนุนค่าใช้จ่ายให้กับมหาวิทยาลัยชิงหวาที่จ้าวชิงชิงกำลังเรียนอยู่
เขาอยากศึกษาเกี่ยวกับการวิจัยของมหาวิทยาลัยชิงหวา คนจากที่นั่นมีความสามารถและความรู้อย่างมาก การจะได้ร่วมวิจัยด้วยกันต้องใช้ทุนสนับสนุนเท่านั้น
อย่างไรก็ตามเมื่อถึงจุดๆหนึ่ง ซูข่านวางแผนที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมต่างๆในอนาคต โดยจะหารือเพิ่มเติมกับมหาวิทยาลัยชิงหวาและมหาวิทยาลัยอื่นๆ เพื่อสร้างอุตสาหกรรมนี้
บริษัทที่ซูข่านชื่นชมมากที่สุดในชีวิตก็คือบริษัทฮัวเซี่ย
พวกเขาร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก มีอาจารย์และศาสตราจารย์จำนวนนับไม่ถ้วนเข้าร่วมโครงการวิจัยของพวกเขา
ในทุกๆปีจะมีเงินกองทุนสำหรับการวิจัยสูงถึง 15,000-20,000 ล้านหยวน
ด้วยอัตราส่วนที่ลงทุนมหาศาลเช่นนี้ บริษัทฮัวเซี่ยจึงได้เติบโตเป็นบริษัทระดับโลก เนื่องจากมีโครงการหลายโครงการประสบความสำเร็จ
ซูข่านรู้เรื่องนี้ดี ยิ่งโครงการไหนที่สามารถประยุกต์นำไปต่อยอดใช้ได้จริง จะมีมูลค่าให้กับบริษัทหลายพันล้าน
แต่ตอนนี้มหาวิทยาลัยชิงหวายังเป็นเพียงต้นกล้าเล็กๆอยู่ หากซูข่านได้ทำการรดน้ำและดูแลต้นกล้าพวกนี้ดีๆ อีกหน่อยพอต้นกล้าพวกนี้เติบโตก็จะสามารถทำเงินมหาศาลให้กับเขา
เช่นเดียวกันกับประเทศอังกฤษพวกเขาลงทุนไปกับมหาวิทยาลัยอิมพีเรียล มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ต และอื่นๆอีกมากในสหรัฐอเมริกา
จากนั้นซูข่านก็ได้ถามจางหม่านว่า
"เหลาสูได้เดินทางมาถึงหนานจิงแล้วรึยัง?"
จางหม่านครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและตอบว่า
"ฉันคิดยังน่าจะมาถึงคืนนี้นะคะ เขาออกเดินทางช้ากว่าพวกเราเล็กน้อย เห็นว่าต้องไปจัดการเป็นประธานสหพันธ์สิ่งทอกวางตุ้งอะค่ะ ผู้ว่ากวางตุ้งเป็นคนมาแต่งตั้งด้วยตัวเอง"
ซูข่านได้ยินก็หัวเราะ
เขาไม่คิดว่าสูเจิ้งเหมาจะทำได้ดีขนาดนี้ในระยะเวลาเพียงหนึ่งเดือน
หลังจากที่ได้พูดคุยกันล่าสุดกับซูข่าน สูเจิ้งเหมาก็ได้ติดต่อเฉินซี่ชางหัวหน้าเขตเผิงเฉิงทันทีและทำการพูดคุยกับเกี่ยวกับการลงทุนของต่างประเทศจะมาลงทุนในเผิงเฉิง
เฉินซี่ชางได้อนุมัติโครงการของสู้เจิ้งเหมา
นอกจากนี้สูเจิ้งเหมาได้ติดต่อไปยังเจ้าของร้านเสื้อผ้า และเขาก็ได้คำสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก ซึ่งมันสามารถทำเงินให้กับเขาได้มหาศาล
เจ้าของร้านเสื้อผ้า และโรงงานที่ผลิตสินค้าต่างขอบคุณสูเจิ้งเหมาเป็นอย่างมาก เขาเหมือนกับพระเจ้าที่ได้ลงมาช่วยอุตสาหกรรมสิ่งทอในเผิงเฉิงที่กำลังจะตาย
อีกทั้งสูเจิ้งเหมาได้พัฒนาระบบนี้ไปทั่วทั่งเผิงเฉิงและกระจายไปในเมืองกวางตุ้งด้วย
หลายเขตรอบๆได้เข้าร่วมกับสูเจิ้งเหมาจนรวมเป็นสหพันธ์สิ่งทอกวางตุ้ง โดยสูเจิ้งเหมาได้นั่งเป็นประธาน
ซูข่านคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วยิ้ม
"มาคืนนี้อย่างงั้นเหรอ งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันให้คนไปรับเขาไปกินข้าวที่ร้านวังหลวงดีกว่า"
"เดี๋ยวคืนนี้ถ้าเหลาสูมาถึงแล้ว เธอไปบอกกับเหลาสูให้หน่อย เรื่องให้ร่วมมือกับภาควิชาเคมีของมหาวิทยาลัยชิงหวาในนามกลุ่มซิงซี โดยให้ทุนสนันสนุน 1 ล้านหยวน เพื่อตั้งห้องปฎิบัติการวิจัยและศึกษาสีย้อมผ้ารูปแบบใหม่"
"ได้ค่ะ"
จางหม่านพยักหน้า
"กลับไปได้แล้ว"
หลังจากซูข่านพูดจบก็โบกมือไล่จางหม่านและหลู่เฉียนซานให้ออกไป
ดวงตาของเขาหลี่ลงเล็กน้อยขณะมองทั้งสองคนเดินออกไป
นี่เป็นก้าวแรกของบริษัทว่านเซี่ยงและบริษัทซิงซีของสูเจิ้งเหมา ที่จะได้ร่วมมือกันกับมหาวิทยาลัย
หลังการร่วมมือครั้งนี้จะต้องมีผลกระทบตามมาแน่นอน
วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยอื่นจะต้องอิจฉาแน่ๆ
เมื่อถึงเวลาซูข่านจะดำเนินการร่วมมือเชิงกลุยุทธ์กับมหาวิทยลัยที่มีชื่อเสียงในประเทศจีนในอนาคตอีกด้วย
ด้วนวิธีนี้มหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศจะต้องตกไปอยู่ในมือซูข่านแน่นอน โดยมีค่าจ่ายเพียงแค่ไม่กี่ล้านเท่านั้น