ตอนที่แล้วตอนที่ 119 หลู่เฉียนซาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 121 ถนนคนเดิน

ตอนที่ 120 สนับสนุนมหาวิทยาลัย


ที่น่าประหลาดใจคือการวิเคราะห์ราคาน้ำมันล่วงหน้าหลู่เฉียนซาน เธอวิเคราะห์ได้ถูกต้องแล้ว

สายตาของเธอเฉียบแหลมมาก รู้ได้เลยว่าเธอเป็นคนที่ฉลาด

นี่คือทรัพยากรมนุษย์ที่มีมูลค่ามาก

หลังจากที่เห็นท่าทางพอใจของซูข่าน จางหม่านก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ดูเหมือนเจ้านายจะพอใจในทักษะของหลู่เฉียนซานมาก ในอนาคตเธออาจจะได้นั่งคุมตำแหน่งการเงินของบริษัทว่านเซี่ยงก็ได้

"คุณวิเคราะห์ได้เฉียบแหลมมาก"

ซูข่านพูดต่อว่า

"ความขัดแย้งในตะวันออกกลางถึงแม้จะไม่ได้สิ้นสุดในระยะเวลาอันสั้น แต่การฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจหลังจากนั้นจะต้องใช้ระยะเวลานาน ดังนั้นการลงฟิวเจอร์น้ำมันเป็นเวลา 6 เดือนน่าจะได้ผลตอบแทนสูงสุดแล้ว"

ใบหน้าที่เย็นเฉียบราวกับก้อนน้ำแข็งของหลู่เฉียนซานสั่นไหวเล็กน้อย ดวงตาของเธอก็ดูสั่นไหวแปลกๆ

การวิเคราะห์ของซูข่านเหมือนกับของเธอเลย เธอไม่ได้บอกข้อมูลการวิเคราะห์ของเธอให้ใครรู้มาก่อน ขนาดประธานจางเธอยังไม่รู้ข้อมูลส่วนนี้เลย

หลู่เฉียนซานรู้สึกชื่นชมซูข่านภายในใจเล็กน้อย คนที่อยู่เบื้องหลังบริษัทว่านเซี่ยงคนนี้เป็นคนที่พิเศษจริงๆ

ไม่อย่างงั้นภายในระยะเวลา 1 เดือน บริษัทนี้ไม่สามารถมีรายได้หลายร้อยล้านได้อย่างแน่นอน

ซูข่านมองไปที่จางหม่านแล้วเรียก

"จางหม่าน"

"ค่ะเจ้านาย"

จางหม่านตอบด้วยความเคารพ

"พรุ่งนี้เดี๋ยวเธอไปติดต่อคนจากมหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยชิงหวาที เราจะลงทุน 1 ล้านให้กับภาควิชาเศรษฐศาสตร์ และร่วมมือในการการวิจัยและสำรวจการพัฒนาเศรษฐกิจโลก"

จางหม่านตอบอย่างรวดเร็ว

"ไม่มีปัญหาค่ะ"

ไม่ว่าจะเป็นฮ่องกง ยุโรป หรือสหรัฐอเมริกา และอีกหลายประเทศ บริษัทชั้นนำที่อยู่แนวหน้าของโลกล้วนร่วมมือกับมหาวิทยาลัยทั้งนั้น

แม้ว่ามหาวิทยาลัยชิงหวาจะไม่ได้เป็นที่รู้จักในระดับสากลสักเท่าไหร่ แต่เจ้าของมหาวิทยาลัยแห่งนั้นคือคนที่มาจากหนานจิง

ซูข่านมองไปที่จางหม่านและพยักหน้าให้ อยู่ดีๆใบหน้าของจ้าวชิงชิงก็ได้ปรากฏขึ้นมาในหัวของเขา

ซูข่านรู้สึกอยากจะมอบโอกาสที่ดีให้กับเธอสักหน่อย

ในยุคนี้มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยได้รับเงินสนับสนุนสักเท่าไหร่ แม้แต่มหาวิทยาลัยปักกิ่งหรือมหาวิทยาลัยชิงหวา

อย่างมากที่สุดรวมเงินสนับสนุนจากทั้งสองมหาวิทยาลัยยังแค่ไม่ถึงเท่าไหร่เลย

ตอนนี้ซูข่านอยากจะให้บริษัทว่านเซี่ยงของเขา สนับสนุนค่าใช้จ่ายให้กับมหาวิทยาลัยชิงหวาที่จ้าวชิงชิงกำลังเรียนอยู่

เขาอยากศึกษาเกี่ยวกับการวิจัยของมหาวิทยาลัยชิงหวา คนจากที่นั่นมีความสามารถและความรู้อย่างมาก การจะได้ร่วมวิจัยด้วยกันต้องใช้ทุนสนับสนุนเท่านั้น

อย่างไรก็ตามเมื่อถึงจุดๆหนึ่ง ซูข่านวางแผนที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมต่างๆในอนาคต โดยจะหารือเพิ่มเติมกับมหาวิทยาลัยชิงหวาและมหาวิทยาลัยอื่นๆ เพื่อสร้างอุตสาหกรรมนี้

บริษัทที่ซูข่านชื่นชมมากที่สุดในชีวิตก็คือบริษัทฮัวเซี่ย

พวกเขาร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก มีอาจารย์และศาสตราจารย์จำนวนนับไม่ถ้วนเข้าร่วมโครงการวิจัยของพวกเขา

ในทุกๆปีจะมีเงินกองทุนสำหรับการวิจัยสูงถึง 15,000-20,000 ล้านหยวน

ด้วยอัตราส่วนที่ลงทุนมหาศาลเช่นนี้ บริษัทฮัวเซี่ยจึงได้เติบโตเป็นบริษัทระดับโลก เนื่องจากมีโครงการหลายโครงการประสบความสำเร็จ

ซูข่านรู้เรื่องนี้ดี ยิ่งโครงการไหนที่สามารถประยุกต์นำไปต่อยอดใช้ได้จริง จะมีมูลค่าให้กับบริษัทหลายพันล้าน

แต่ตอนนี้มหาวิทยาลัยชิงหวายังเป็นเพียงต้นกล้าเล็กๆอยู่ หากซูข่านได้ทำการรดน้ำและดูแลต้นกล้าพวกนี้ดีๆ อีกหน่อยพอต้นกล้าพวกนี้เติบโตก็จะสามารถทำเงินมหาศาลให้กับเขา

เช่นเดียวกันกับประเทศอังกฤษพวกเขาลงทุนไปกับมหาวิทยาลัยอิมพีเรียล มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ต และอื่นๆอีกมากในสหรัฐอเมริกา

จากนั้นซูข่านก็ได้ถามจางหม่านว่า

"เหลาสูได้เดินทางมาถึงหนานจิงแล้วรึยัง?"

จางหม่านครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและตอบว่า

"ฉันคิดยังน่าจะมาถึงคืนนี้นะคะ เขาออกเดินทางช้ากว่าพวกเราเล็กน้อย เห็นว่าต้องไปจัดการเป็นประธานสหพันธ์สิ่งทอกวางตุ้งอะค่ะ ผู้ว่ากวางตุ้งเป็นคนมาแต่งตั้งด้วยตัวเอง"

ซูข่านได้ยินก็หัวเราะ

เขาไม่คิดว่าสูเจิ้งเหมาจะทำได้ดีขนาดนี้ในระยะเวลาเพียงหนึ่งเดือน

หลังจากที่ได้พูดคุยกันล่าสุดกับซูข่าน สูเจิ้งเหมาก็ได้ติดต่อเฉินซี่ชางหัวหน้าเขตเผิงเฉิงทันทีและทำการพูดคุยกับเกี่ยวกับการลงทุนของต่างประเทศจะมาลงทุนในเผิงเฉิง

เฉินซี่ชางได้อนุมัติโครงการของสู้เจิ้งเหมา

นอกจากนี้สูเจิ้งเหมาได้ติดต่อไปยังเจ้าของร้านเสื้อผ้า และเขาก็ได้คำสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก ซึ่งมันสามารถทำเงินให้กับเขาได้มหาศาล

เจ้าของร้านเสื้อผ้า และโรงงานที่ผลิตสินค้าต่างขอบคุณสูเจิ้งเหมาเป็นอย่างมาก เขาเหมือนกับพระเจ้าที่ได้ลงมาช่วยอุตสาหกรรมสิ่งทอในเผิงเฉิงที่กำลังจะตาย

อีกทั้งสูเจิ้งเหมาได้พัฒนาระบบนี้ไปทั่วทั่งเผิงเฉิงและกระจายไปในเมืองกวางตุ้งด้วย

หลายเขตรอบๆได้เข้าร่วมกับสูเจิ้งเหมาจนรวมเป็นสหพันธ์สิ่งทอกวางตุ้ง โดยสูเจิ้งเหมาได้นั่งเป็นประธาน

ซูข่านคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วยิ้ม

"มาคืนนี้อย่างงั้นเหรอ งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันให้คนไปรับเขาไปกินข้าวที่ร้านวังหลวงดีกว่า"

"เดี๋ยวคืนนี้ถ้าเหลาสูมาถึงแล้ว เธอไปบอกกับเหลาสูให้หน่อย เรื่องให้ร่วมมือกับภาควิชาเคมีของมหาวิทยาลัยชิงหวาในนามกลุ่มซิงซี โดยให้ทุนสนันสนุน 1 ล้านหยวน เพื่อตั้งห้องปฎิบัติการวิจัยและศึกษาสีย้อมผ้ารูปแบบใหม่"

"ได้ค่ะ"

จางหม่านพยักหน้า

"กลับไปได้แล้ว"

หลังจากซูข่านพูดจบก็โบกมือไล่จางหม่านและหลู่เฉียนซานให้ออกไป

ดวงตาของเขาหลี่ลงเล็กน้อยขณะมองทั้งสองคนเดินออกไป

นี่เป็นก้าวแรกของบริษัทว่านเซี่ยงและบริษัทซิงซีของสูเจิ้งเหมา ที่จะได้ร่วมมือกันกับมหาวิทยาลัย

หลังการร่วมมือครั้งนี้จะต้องมีผลกระทบตามมาแน่นอน

วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยอื่นจะต้องอิจฉาแน่ๆ

เมื่อถึงเวลาซูข่านจะดำเนินการร่วมมือเชิงกลุยุทธ์กับมหาวิทยลัยที่มีชื่อเสียงในประเทศจีนในอนาคตอีกด้วย

ด้วนวิธีนี้มหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศจะต้องตกไปอยู่ในมือซูข่านแน่นอน โดยมีค่าจ่ายเพียงแค่ไม่กี่ล้านเท่านั้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด