ตอนที่แล้วEp.260 - ผลกอบโกยและปัญหาที่คาดไม่ถึง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.262 - รางวัลส่งมาแล้ว

Ep.261 - สมาคมฤาษีลี้ลับ


2/2

Ep.261 - สมาคมฤาษีลี้ลับ

ในเวลาเที่ยงคืน

ณ สวนสาธารณะอันเงียบสงัด

ร่างสามร่างปรากฏขึ้น เป็นชายสองหญิงหนึ่ง

และหากสังเกตดีๆ จะพบว่าถึงพวกเขามีรูปร่างลักษณะเหมือนมนุษย์ แต่ไม่ใช่มนุษย์

คนที่เดินนำหน้าสุดมีผิวสีม่วงแดง ผมยาวสีขาว หูแหลม สะพายกระบี่ล้ำค่าไว้ข้างหลัง ร่างกายกำยำและให้ความรู้สึกเฉียบแหลม คนผู้นี้เป็นดาร์คเอลฟ์

ทางซ้ายของเขาเป็นชายผมบลอนด์ ตาสีฟ้า หน้าตาหล่อเหลา แต่ผิวซีดเหมือนกระดาษ มีเขี้ยว 2 เขี้ยวตรงมุมปาก สวมเสื้อคลุมคอเต่า เป็นแวมไพร์ระดับสูง

ทางขวาของเขาเป็นหญิงที่สวมชุดค่อนข้างเปิดเผยเนื้อหนังดูร้อนแรง บนแผ่นหลังมีปีกคู่หนึ่ง บนหัวมีเขาสองเขา กริยาท่าทีดูเย้ายวนผิดปกติ เป็นซัคคิวบัส

ทั้งสามรวมไปถึงลิซ

คาดว่าน่าจะเป็นทีมที่บุกฝ่ารอยแยกมิติมาจากที่เดียวกัน

แต่เพื่อให้แน่ใจว่าแผนการจะดำเนินไปอย่างราบรื่น พวกเขาจึงแยกทางกัน และจะไม่รวมตัวกันง่ายๆหากไม่ใช่เพราะจำเป็นจริงๆ

ซึ่งการรวมตัวกันในครั้งนี้ สาเหตุมาจากในบรรดาทั้งสี่ มีคนหนึ่งขาดการติดต่อไปอย่างกะทันหัน

อีกสามคนจึงตัดสินใจมาดู

ค้างคาวสอดแนมหลายสิบตัวบินวนรอบร้านน้ำชาในสภาพทรุดโทรมหลายครั้ง ก่อนในที่สุดบินกลับมาหาชายผมบลอนด์ สลายเป็นละอองเลือด และรวมเข้ากับร่างของแวมไพร์

เขาเปล่งเสียงเบาราวกระซิบเป็นภาษาโลกวิญญาณ “ไม่มีการซุ่มโจมตีในบริเวณใกล้เคียง”

แต่ถ้าให้พูดตามตรง

ในความคิดเขา มนุษย์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ต้องเอาจริงเอาจังอะไรขนาดนั้น

ทุกวันนี้ มนุษย์โดยทั่วไปยังคงอยู่ในเลเวล 3 หรือต่ำกว่า

ชนชั้นยอดบางคนอาจมีเลเวล 4 5 ขณะที่เลเวล 6 ขึ้นไปนับเป็นหนึ่งในล้าน!

มนุษย์พึ่งเริ่มเข้าสู่โลกวิญญาณได้เป็นเวลาเพียงหนึ่งเดือน แม้ศักยภาพในการเติบโตจะค่อนข้างน่าทึ่ง แต่ด้วยเลเวลในปัจจุบัน มันไม่มีทางเป็นศัตรูกับชาวโลกวิญญาณได้

สิ่งเดียวที่น่าหวั่นวิตกคือเรื่องจำนวนประชากร

กล้าพูดได้เต็มปากเลย ว่าต่อให้ดาร์คเอลฟ์ แวมไพร์ และซัคคิวบัส ทั้งสามเผ่ารวมตัวกัน จำนวนประชากรก็ยังไม่เท่ากับมนุษย์ในเมืองๆนี้

ไม่นาน ทั้งสามก็พบเบาะแส

“นี่มันขี้เถ้าของลิซ”

“ดูเหมือนเขาจะตายไปแล้ว”

มือกระบี่ดาร์คเอลฟ์เอ่ยเสียงขรึม

ชาวโลกวิญญาณอีกสองคนแตกตื่นตกใจ

แม้ลิซจะไม่ได้แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มพวกเขา

แต่ลิซคือคนที่รวมเข้ากับสังคมมนุษย์ได้เร็วที่สุด แล้วจู่ๆเขาจะมาตายอย่างลึกลับที่นี่ได้อย่างไร?

“ข้าเห็นมานานแล้วว่าเจ้าลิซนี่อวดดี คิดว่าตนเหนือคนอื่นมาโดยตลอด” แวมไพร์ผมบลอนด์ส่งเสียงฮึในลำคอ “สุดท้ายก็มีวันนี้ ถูกมนุษย์อ่อนแอสังหาร ช่างน่าขายหน้าสมาคมฤาษีลี้ลับของเราเสียจริง!”

แม้เห็นสหายตายลง

แต่ไม่เพียงไม่เกิดความเห็นอกเห็นใจ

ตรงกันข้ามกลับขุ่นเคือง

ซัคคิวบัสออกไปสำรวจที่อื่น เมื่อเธอกลับมา สีหน้าเธอดูน่าเกลียดมาก “วัสดุที่เขารับผิดชอบดูแลหายไปหมดแล้ว!”

แวมไพร์ผมบลอนด์กล่าวอย่างโกรธเคือง “เจ้าตัวโง่เง่า จะตายก็ตายไป แต่นี่วัสดุดันหายไปด้วย แบบนี้แผนการอัญเชิญยิ่งต้องล่าช้าออกไป พวกเราควรทำยังไงต่อดี?”

มือกระบี่ดาร์คเอลฟ์เงียบไปพักหนึ่งก่อนเอ่ยว่า

“แม้พลังรบของเขาจะไม่แข็งแกร่งเท่าข้ากับเจ้า แต่ความจริงที่ว่ามนุษย์สามารถฆ่าเขาได้โดยไม่เกิดเหตุการณ์ใหญ่โต นั่นหมายความว่ามนุษย์แท้จริงแล้วไม่ง่ายเหมือนที่พวกเราคาดการณ์ไว้”

“วัสดุหายไป พวกเราก็แค่หาทางรวบรวมมันใหม่ สถานที่นี้ไม่ปลอดภัย พวกเราควรออกจากที่นี่กันก่อน”

ทั้งสามพูดคัยกันอีกสั้นๆ

และแยกย้ายออกจากร้านน้ำชาทันที

คนจากโลกวิญญาณทั้งสามระมัดระวังตัวมาก

แต่พวกเขาคงคิดไม่ถึง ว่าตั้งแต่วินาทีที่ปรากฏตัว ทุกคำพูดและการกระทำล้วนถูกสอดแนมและดักฟัง พวกเขาถูกบันทึกภาพ 360 องศาโดยไม่มีมุมอับ และส่งข้อมูลมายังชุมชนมังกรฟ้าที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่สิบไมล์ ตรงมายังบ้านของเถ้าแก่ใหญ่คนหนึ่ง

ฮังอวี่ ซูหยุนปิง เสี่ยวไป๋ และหวังเอ๋ออยู่กันพร้อมหน้า

พวกเขากำลังรับชมการถ่ายทอดสดที่ถูกส่งมา

ซูหยุนปิงเอ่ยเสียงขรึม “เป็นอย่างที่คิดจริงๆ พวกมันปรากฏตัวแล้ว”

“ดีมาก ก่อนที่พวกมันจะหนีไปไกล” ฮังอวี่ออกคำสั่งทันที “รีบคัดลอกไฟล์นี้แล้วส่งไปให้กับสกายเน็ต”

ซูหยุนปิงพรมนิ้วมือลงบนโน๊ตบุ๊ค ทำหน้าที่ของเธอทันที

ข้อมูลสำคัญสองชิ้นถูกเปิดเผยในระหว่างการสื่อสารของคนจากโลกวิญญาณ ข้อมูลแรกคือการมีอยู่ของสมาคมฤาษีลี้ลับ ข้อมูลที่สองคือพิธีอัญเชิญ

เห็นได้ชัดว่าสมาคมฤาษีลี้ลับเป็นองค์กรจากโลกแห่งวิญญาณ

แต่ฮังอวี่กลับไม่มีข้อมูลจากในความทรงจำของจอมปราชญ์

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะ สุดท้ายแล้วความทรงจำของจอมปราชญ์นั้นไม่ได้ครอบคลุมทุกเรื่อง

ขนาดของโลกวิญญาณนั้นกว้างใหญ่มาก ขุมกำลังและสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญหาถือกำเนิดและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ในความทรงจำของจอมปราชญ์มีแค่ข้อมูลในช่วงเวลานั้นๆ มันไม่มีฟังก์ชั่นอัปเดต จึงเป็นปกติที่ไม่ทราบถึงข้อมูลนี้

พวกมันวางแผนทำการอัญเชิญ?

เรื่องนี้กระตุ้นความสนใจของฮังอวี่

พวกมันต้องการอัญเชิญอะไร? เป็นกองทัพโลกวิญญาณหรือ BOSS ใหญ่?

เรื่องนี้เอาจริงต่างจากการรุกรานของกองพลวายุคลั่งมนุษย์ปลาที่อยู่นอกเมืองเจียงเฉิง เพราะสมาคมฤาษีลี้ลับปฏิบัติการในเมือง หากพวกมันอัญเชิญสิ่งที่ต้องการออกมากลางที่อยู่อาสัย ผลที่ตามมาคงยากจะคาดเดา

แน่นอน

ความสามารถของฮังอวี่ยังคงจำกัด

แค่ช่วยกำจัดลิซและส่งต่อข้อมูลนี้ก็ถือว่ามีส่วนช่วยมหาศาลแล้ว เรื่องอื่นๆคงต้องปล่อยให้สกายเน็ตจัดการ!

ในสกายเน็ตเต็มไปด้วยผู้มากความสามารถ

จะต้องมีคนที่แปลภาษาโลกวิญญาณได้อย่างแน่นอน

และหลังจากทราบข้อมูล พวกเขาคงส่งยอดฝีมือออกปฏิบัติการทันที

หรือไม่อย่างนั้น หลังจากนี้คงมีการค้นหา เฝ้าระวัง หรือกระทั่งปิดล้อม ... นับจากนี้ไปคนจากโลกวิญญาณพวกนั้นคงได้แต่ประสบพบเจอกับช่วงเวลาอันเลวร้าย!

ฮังอวี่เหลียวมองนาฬิกาบนผนัง คำนวณเวลาในใจ

จากนั้นหยิบขวดโพชั่นลับโทรลล์ชั้นสูงออกมาแล้วดื่มมัน

ทันทีที่โพชั่นลับทำงาน เขารู้สึกได้ทันทีว่าคอขวดถูกทำลาย กลิ่นอายและพละกำลังถูกอัดฉีดเข้าสู่ทุกส่วนของร่างกาย

อัพเลเวล!

ในที่สุดก็อัพเสียที!

ฮังอวี่ตรวจสอบสถานะของเขา

นักรบเลเวล 8 พลังชีวิต 84 , พลังจิต 52 , พละกำลัง +14 , ค่าร่างกาย +7 , ความว่องไว +10.5 ...  แต้มวิญญาณ 442/5000

พลังชีวิตเพิ่มขึ้น 11 หน่วย!

พลังจิตเพิ่มขึ้น 5 หน่วย!

แม้คุณสมบัติอื่นๆจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่เอฟเฟกต์จากการอัพเลเวลมันช่วยเสริมให้ประสิทธิภาพของทุกค่าคุณสมบัติเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

เลเวลต่อไปต้องใช้ 5000 แต้มวิญญาณ

เรื่องนี้ทำให้ฮังอวี่รู้สึกกดดันมาก

ยิ่งเลเวลมากขึ้น เงื่อนไขในการอัพก็จะยิ่งมากขึ้น แต้มวิญญาณที่ต้องการจะสูงขึ้นไปเรื่อยๆ และเมื่อถึงเลเวล 10 นอกจากต้องการแต้มวิญญาณจำนวนมากแล้ว จะมีข้อกำหนดอื่นๆในด้านวัตถุเพิ่มเติมขึ้นตามมา

สรุปแล้วการอัพเลเวลจะยากขึ้นเรื่อยๆ แต่ขณะเดียวกัน ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นหลังอัพเลเวลก็จะยิ่งชัดเจนขึ้นเช่นกัน!

ฮังอวี่คิดว่าถึงเวลาแล้ว

เขาหันไปเรียกเสี่ยวไป๋

ทั้งสองทำพิธีสัญญากันอย่างเรียบง่าย

กระบวนการนี้ปราศจากข้อผิดพลาด ฮังเสี่ยวไป๋เต็มใจและมีความสุข เธอยอมรับสัญญา และกลายเป็นผู้ถูกอุปการะของฮังอวี่

ฮังอวี่เปิดข้อมูลส่วนตัวของเขา

นอกจากตัวเลือกสัตว์วิญญาณแล้ว ยังมีตัวเลือกอื่นๆเพิ่มเติมเข้ามาอีก

[ฮังเสี่ยวไป๋] (ภูติลวงตาระดับสูง) ผู้ใช้วิญญาณเลเวล 8

ค่าคุณสมบัติพื้นฐาน: ค่าพลังชีวิต 222 , ค่าพลังจิต 403 , พละกำลัง +12 , ว่องไว +15 , จิตวิญญาณ +14 , สติปัญญา +10 , จิตรับรู้ +20 , พลังวิญญาณ +24 , ร่างกาย +15 ... แต้มวิญญาณ  1644/6000 (กำลังฟื้นฟู)

ข้อมูลความสามารถ : ผู้พิทักษ์มายา (มรดกผู้ใช้วิญญาณขั้น 3), จอมเวทย์นักสู้ (มรดกผู้ใช้วิญญาณขั้น 2 ), ทูตน้ำแข็ง ( มรดกนักเวทย์ขั้น 2 ), ทูตพายุ (มรดกนักเวทย์ขั้น 2), ผู้ใช้ศาสตร์สายฟ้าฝึกหัด (มรดกนักเวทย์ขั้น 1), กายาสิทธิ์ (มรดกผู้ใช้วิญญาณขั้น 1) ......

ฮังอวี่ตะลึง

ค่าสเตตัสของเสี่ยวไป๋จะโหดเกินไปหน่อยไหม!

เลเวล 8 เหมือนกันแท้ๆ แต่ฉันกลับล้าหลังเธอมาก!

ไม่ใช่แค่ด้านพลังชีวิตและพลังจิต แต่โบนัสฐานคุณสมบัติอื่นๆยังสูงมาก!

นอกจากนี้ เสี่ยวไป๋ยังมีมรดกขั้น 3 ของผู้ใช้วิญญาณแบบครบสมบูรณ์ ไหนจะมรดกขั้น 2 ของนักเวทย์ที่สมบูรณ์อีก เรียกได้ว่ามีสกิลแยกย่อยไปลงไปเยอะมากๆ

แม้อาชีพของเธอคือผู้ใช้วิญญาณ

อย่างไรก็ตาม สกิลที่เธอเรียนรู้ค่อนข้างกว้างขวาง

มีสกิลสายผู้ใช้วิญญาณเป็นหลัก รองลงมาเป็นสกิลสายนักเวทย์

ความแข็งแกร่งของฮังเสี่ยวไป๋ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เธอยังอยู่ห่างจากจุดสูงสุดของตัวเองเมื่อครั้งเป็นเจ้านายในโลกวิญญาณ คุณคงพอจินตนาการได้ว่าเสี่ยวไป๋แข็งแกร่งแค่ไหนในยุครุ่งเรือง!

“ยอดเยี่ยม!”

เสี่ยวไป๋มีความสุขมาก

ดวงตาคู่โตสว่างไสว

ฮังเสี่ยวไป๋รู้สึกว่าหลังจากกลายเป็นผู้ถูกอุปการะ เธอมีความผูกพันกับฮังวี่มากขึ้น

ภายในสถานะนี้ ความปรารถนาดีและความสนิทสนมจะยิ่งแก่กล้า ขณะเดียวกันความห่างเหินได้หายไป

นับแต่วันนี้

เธอคือลูกน้องคนสนิทที่สุดของพี่ชายอย่างเป็นทางการ!