Ep.260 - ผลกอบโกยและปัญหาที่คาดไม่ถึง
1/2
Ep.260 - ผลกอบโกยและปัญหาที่คาดไม่ถึง
เหตุผลหลักๆที่ฮังอวี่มาที่นี่ก็เพื่อกล่องวิญญาณของลิซ
แต่สิ่งที่ได้จากลิซ นอกจากกล่องวิญญาณแล้วยังมีอย่างอื่นอีก
บนตัวของลิซมีอุปกรณ์หลายอย่างที่ค่อนข้างดี ตัวอย่างไม้เท้ากระดูกในมือลิซ มันเป็นไม้เท้าสีเขียวเลเวล 7 ที่ทรงพลัง ช่วยเพิ่มพลังวิญญาณได้ถึง 5 หน่วย
ราคาของอุปกรณ์ชิ้นนี้มีมูลค่าอย่างน้อย 60 -70 หินคริสตัลเขียว!
ฮังอวี่พอใจมากกับผลกำไรนี้ แต่สิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือ นอกเหนือจากของพวกนี้แล้ว ยังมีกำไรอื่นๆเพิ่มเติมอีก
ฮัสกี้คือนักล่าสมบัติ ภายในรัศมี 500 เมตรรอบตัวมัน ตราบใดที่มีสมบัติ ย่อมไม่สามารถหลุดรอดสายตาของสุนัขไปได้
“มันอยู่ที่ไหน?”
สุนัขรีบทำหน้าที่ค้นหาอย่างจริงจัง
ประมาณ 10 นาทีต่อมา หวังเอ๋อก็พาทุกคนมายังห้องลับใต้ดินและพบวัสดุจำนวนมากซ่อนอยู่
เมื่อกองวัสดุปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน
ฮังอวี่ ซูหยุนปิง ต่างตะลึงงัน
ผลึกค่ายกล×20!
หินพลังงานอาคม×50!
ไม้เลือดมังกร×100!
ผลึกถ่านสีม่วง×100!
...
หวังเอ๋ออุทานตื่นเต้นดีใจ “ฮ่ง เจ้านาย วัสดุพวกนี้ดูเหมือนจะมีเลเวลไม่ต่ำกว่า 10 แถมไม่มีชิ้นไหนคุณภาพด้อยกว่าสีเขียวเลย ดูท่าการลงทุนลงแรงของพวกเราครั้งนี้จะคุ้มกว่าที่จ่ายไปมาก!”
“ไม่เลว ความดีความชอบเรื่องสมบัติพวกนี้ต้องยกให้นาย กลับไปฉันจะให้รางวัล!”
ฮังอวี่ลูบหัวสุนัข
ฮัสกี้เลียมือเขาอย่างมีความสุข
นี่มันไม่ใช่แค่คุ้มกับที่ลงทุนลงแรง แต่ต้องเรียกว่าเกินคุ้ม! วัสดุพวกนี้มีค่ามาก!
ซูหยุนปิงไม่รู้จักวัสดุทุกชนิด แต่เธอจำผลึกค่ายกลได้อย่างชัดเจน สีหน้าที่ปกติมักสงบและมั่นคง เวลานี้เปล่งประกายด้วยความปิติยินดี “ผลึกค่ายกลคือวัสดุหลักในการก่อตั้งค่ายกล!”
สมาคมมังกรฟ้ายังไม่มีปรมาจารย์ค่ายกล
อย่างไรก็ตาม ในกองกำลังขนาดใหญ่อย่างสกายเน็ต หรือตอนนี้ได้ยินว่าในสมาคมโลกวิญญาณก็มีปรมาจารย์ค่ายกลปรากฏตัวขึ้นแล้ว
แต่ถ้าให้เทียบกับทั้งคู่ ปรมาจารย์ค่ายกลที่ได้รับการฝึกฝนโดยสกายเน็ตนั้นน่าประทับใจกว่า ว่ากันว่าสกายเน็ตได้ก่อตั้งสำนักงานใหญ่ในเจียงซินโจว และบริเวณใกล้เคียงของสำนักงานทั้งภายนอกและภายใน มีการสร้างค่ายกลเอาไว้มากกว่าสิบจุด
ค่ายกลบางตัวสามารถช่วยเสริมการผลิต
ค่ายกลบางตัวสามารถช่วยเสริมการป้องกัน
ค่ายกลประเภทต่างๆมีฟังก์ชั่นแตกต่างกันไป
ยังไงก็ตาม เมื่อปรมาจารย์ค่ายกลสร้างค่ายกล สิ่งที่จำเป็นที่สุดที่ต้องมีผลึกค่ายกล
นี่เป็นของหายากมาก
ไม่มีดรอปในมอนสเตอร์ช่วงแรกๆ
ต้องใช้โชคในตอนเปิดหีบสมบัติเท่านั้น
กระทั่งสกายเน็ต การหาผลึกค่ายกลนั้นยังยากมาก แต่หากพวกฮังอวี่สามารถหาผลึกค่ายกลได้ด้วยตัวเอง และไปขอให้ปรมาจารย์ค่ายกลช่วยสร้างค่ายกลให้ ค่าใช้จ่ายคงลดลงไม่น้อย
ตอนนี้ไม่เพียงได้ผลึกค่ายกลคุณภาพสีเขียวมาถึง 20 ก้อนในคราวเดียว
แต่พวกมันยังเป็นวัสดุเลเวล 10 ที่ล้ำค่าอย่างไม่ต้องสงสัย
วัสดุคุณภาพสูงขนาดนี้ ต่อให้เป็นสกายเน็ตเกรงว่าคงไม่ง่ายที่จะได้พวกมันมา
สารภาพตามตรง ขนาดฮังอวี่มาเห็นกับตาเขายังรู้สึกเหลือเชื่ออยู่เลย
เขาเอ่ยว่า “จริงๆแล้ว เมื่อเทียบกับผลึกค่ายกล วัสดุอื่นๆบางชิ้นมีมูลค่าสูงกว่าซะอีก แต่นี่ทำให้ฉันสงสัย ว่าเจตนาของลิซคืออะไร ถึงได้เตรียมวัสดุมากมายขนาดนี้ไว้”
ซูหยุนปิงพยักหน้าเห็นด้วย “ดูจากคุณภาพและเลเวลของวัสดุ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่สิ่งที่หาได้ในเจียงเฉิงในเวลานี้ ส่วนใหญ่น่าจะนำข้ามรอยแยกมิติมา ... เป็นไปได้มากว่ามันอาจมีแผนการบางอย่าง!”
หวังเอ๋อก็แสดงความเห็นเช่นกัน “ฮ่ง อุปกรณ์บนตัวลิซนอกจากไม้เท้าแล้ว อย่างอื่นไม่ค่อยดีนัก ส่วนใหญ่ได้มาจากมือมนุษย์ในเจียงเฉิง แต่มันกลับสามารถมีวัสดุล้ำค่าจำนวนมากในมือ เปิ่นหวังได้กลิ่นแผนสมคบคิด!”
ฮังอวี่ ซูหยุนปิง และหวังเอ๋อไม่ใช่คนโง่
เมื่อพิจารณาจากคำพูดของลิซที่ผ่านๆมา คาดว่าภูมิหลังของมันไม่ธรรมดา
“ฉันสงสัยว่าลิซน่าจะมีพรรคพวกอยู่”
ซูหยุนปิงยกมือขึ้นดันขอบแว่น
นี่คือการกระทำที่ติดเป็นนิสัยของเธอเมื่อกำลังคิดทบทวนอะไรบางอย่าง
แต่เมื่อนิ้วแตะถึงใต้ขอบตา เธอก็พบว่าตัวเองไม่ได้สวมแว่นมา
“ถ้ามีพวกสมคบคิดกับลิซอยู่ในเจียงเฉิง พวกมันต้องเคยสัมผัสกันมาก่อนแน่ๆ” ซูหยุนปิงกล่าว สายตาเบนมองไปทางฮัสกี้ “หวังเอ๋อ นายได้กลิ่นอายอื่นๆที่น่าสงสัยอีกบ้างไหม?”
ฮัสกี้ส่ายหัวสุนัข
“ฮ่ง ถึงเปิ่นหวังจะครอบครองจมูกขั้นเทพที่ไม่มีใครเทียบได้ในโลกนี้ แต่ต่อให้มันขั้นเทพแค่ไหน ก็ไม่ได้มีอำนาจครอบคลุมทุกอย่าง”
“กลิ่นอายสามารถซ่อนหรือสลายไปได้ มีสกิลหรือลูกเล่นมากมายในการซ่อนกลิ่น นอกจากนี้ยิ่งนานวัน กลิ่นอายก็จะยิ่งจางลง”
“ด้วยเลเวลและความสามารถในตอนนี้ของเปิ่นหวัง ถ้าอยู่ในสถานการณ์ปกติ สามารถติดตามกลิ่นได้ในระยะเวลาไม่เกิน 24 ชั่วโมงเท่านั้น”
แม้ความสามารถของหวังเอ๋อจะมีประโยชน์มาก
แต่ความสามารถใดๆล้วนมีขีดจำกัด
ด้วยเลเวลและพลังรบในตอนนี้ของหวังเอ๋อ การมีความสามารถในการค้นหาและตรวจตราขนาดนี้ก็ถือว่าหาได้ยากในโลกแล้ว
ฮังอวี่เอ่ยขึ้นในเวลานี้
“วัสดุพวกนี้ดูเหมือนเป็นวัสดุพื้นฐานสำหรับการสร้างแท่นบูชา ลิซอาจวางแผนสร้างแท่นบูชาในเจียงเฉิง แต่การสร้างแท่นบูชาไม่สามารถทำได้โดยลิซเพียงลำพัง”
“อาจารย์ซูพูดถูก ... บางทีนี่อาจเป็นแค่ปลายยอดของภูเขาน้ำแข็ง”
แต่ตอนนี้มีหลักฐานแค่สินสงครามเท่านั้น
ยังขาดหลักฐานอีกมากถึงจะพอสรุปได้ว่านี่เป็นเรื่องจริง
ลิซจะมีพรรคพวกหรือกลุ่มองค์กรจากโลกวิญญาณอยู่เบื้องหลังหรือไม่ นี่เป็นแค่การคาดเดายังไม่มีบทสรุป100% ขณะนี้ยังไม่มีเงื่อนงำ ต่อให้อยากตรวจสอบก็เกรงว่าจะไม่ง่าย
ฮังอวี่เอ่ยถามในที่สุด “อาจารย์พอจะหาซื้อกล้องรูเข็มหรือพวกเครื่องดักฟังมาได้ไหม?”
ซูหยุนปิงได้ยินคำขอนี้
เธอเข้าใจทันทีว่าฮังอวี่ต้องการทำอะไร
ถ้าลิซมีกลุ่มจากโลกวิญญาณจริงๆ แล้วจู่ๆลิซขาดการติดต่อไป พรรคพวกของมันจะต้องเข้ามาตรวจสอบแน่นอน
นี่เป็นโอกาสที่จะได้รู้รายละเอียดของพวกมัน
หากเลือกส่งคนมาซุ่มสอดแนม หรือใช้สกิลของสัตว์วิญญาณเพื่อตรวจสอบ นั่นเท่ากับมีความเสี่ยงสูงที่อาจเปิดเผยตัวเอง เพราะคนเหล่านี้จากโลกวิญญาณ มิใช่ตะเกียงไร้น้ำมันอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม หากพวกเขาใช้อุปกรณ์จากโลกมนุษย์ล่ะ?
ผู้คนในโลกวิญญาณคงไม่ทันสังเกตเห็นเครื่องดักฟังและกล้องถ่ายวิดีโอของมุนษย์
อุปกรณ์ประเภทนี้หาได้ยากสำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับ ซูหยุนปิง มันเหมือนเป็นแค่เค้กชิ้นเล็กๆที่จะหาซื้อที่ไหนก็ได้ เธอโทรติดต่อคนรู้จักสองสามสายก็ได้มันมา
“เรียบร้อย”
“ไม่เกินครึ่งชั่วโมง”
“สถานที่นี้จะเต็มไปด้วยกล้องสอดแนมของพวกเรา”
“ถ้าลิซมีผู้สมคบคิดจริงๆ และพวกมันมาที่เกิดเหตุ พวกเราจะเป็นคนแรกที่พบ”
ฮังอวี่พยักหน้าอย่างพึงพอใจ
ด้วยวิธีนี้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องมีอะไรให้กังวลอีก
ผู้สมคบคิดของลิซไม่ทราบเกี่ยวกับการมีอยู่ของฮังอวี่
ตอนต่อสู้กันเมื่อวานนี้ หวังเอ๋อไม่พบกลิ่นอายที่น่าสงสัยใดๆ นี่หมายความว่าระหว่างเกิดเรื่องจนถึงตอนนี้ พวกมันยังไม่ได้ติดต่อหากัน
หลังจากเสร็จเรื่องที่ต้องทำ
ต่อไปก็ทำการชำระล้างกลิ่นอายในบริเวณนี้ซะ
และปกปิดร่องรอยอีกสักเล็กน้อย
ฮังอวี่พาคนอื่นๆออกจากสถานที่แห่งนี้ทันที
แม้ศึกนี้จะมีปัญหาตามมาไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม พวกเขาสามารถเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่ และกล่องวิญญาณของลิซก็มีประโยชน์มาก
กล่องวิญญาณของลิซคือเครื่องมือในการคืนชีพของลิซ แต่ลิซได้ตายลงในโลกใบนี้ ดังนั้นโอกาสที่มันจะใช้กล่องวิญญาณในการฟื้นคืนชีพได้อีกจึงมีน้อยมากๆ ดังนั้นพลังงานวิญญาณที่จุอยู่ในกล่องจึงกลายเป็นเครื่องมือที่ดี
ฮังอวี่หยิบเครื่องรางอัญเชิญออกมา
เมื่อใส่เครื่องรางลงไปในกล่องวิญญาณ มันก็เริ่มทำการดูดซับไอวิญญาณอย่างบ้าคลั่ง
ตั้งแต่ต้นจนจบ ใช้เวลาประมาณไม่ถึง 10 นาที ไอวิญญาณก็เพิ่มขึ้นเป็น 3000/3000
เต็มแล้ว!
พุ่งพรวดจนเต็มเลย!
หากเปิดใช้เครื่องรางในตอนนี้
เขาจะสามารถอัญเชิญอัศวินอันเดธเลเวล 10!
เลเวล 10 ชั้นยอดขั้นโกลด์!
พลังรบระดับนั้นในช่วงต้นๆแบบนี้ มันสามารถกวาดล้างยอดฝีมือในหมู่มวลมนุษย์ส่วนใหญ่ได้!
แม้แต่ฮังอวี่เองก็ยังรู้สึกหนักใจหากต้องเผชิญหน้ากับมัน
ดังนั้น นี่ถือเป็นไพ่ตายสำคัญและทรงพลังมากอย่างแน่นอน!
แล้วอีกอย่าง กล่องวิญญาณมิใช่วัสดุแบบใช้แล้วทิ้ง พลังงานข้างในจะยังคงถูกสร้างขึ้นใหม่โดยอัตโนมัติ หรือก็คือสามารถใช้มันชาร์จไอวิญญาณแก่เครื่องรางได้อย่างต่อเนื่อง
ฮังอวี่ไม่จำเป็นต้องปวดหัวเรื่องรวบรวมไอวิญญาณอีกต่อไป
เครื่องรางอัญเชิญเป็นสกิลสายอัญเชิญที่ค่อนข้างทรงพลัง คุณสามารถจินตนาการได้ว่าพลังรบของฮังอวี่จะพุ่งทะยานขึ้นเพียงใด นี่ยังไม่พูดถึงการนำกล่องวิญญาณไปใช้กับเรื่องอื่นๆนะ แค่เฉพาะเรื่องตรงหน้ามันก็มีค่ามากแล้ว!