ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 15 ความตายของหมอผี
ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 15 ความตายของหมอผี
แปลโดย iPAT
หมอผีชี้นิ้วส่งกลุ่มหมอกควันสีดำพุ่งออกไป ภายในกลุ่มหมอกควันปรากฏใบหน้าที่คลุมเครือของมนุษย์ที่ดูทุกข์ทรมานจำนวนมาก
นี่คือไพ่ตายของนางที่เรียกว่าหมอกภูตผี มันสร้างขึ้นจากปราณหยินและความเกลียดชัง นางดูดซับปราณหยินจากโกศที่นางฝังไว้ใต้ดินและจะใช้พลังนี้ในเวลาสำคัญเท่านั้น เนื่องจากหมอกภูตผีขาดสติปัญญาและมีเพียงความรู้สึกเกลียดชัง มันจึงยากที่จะควบคุม หากประมาท มันอาจย้อนกลับมาทำร้ายผู้ใช้งาน
หมอผีใช้มันอย่างเร่งรีบเมื่อนางเห็นหลี่ฉิงซานบุกเข้ามาพร้อมกับความโกรธ อย่างไรก็ตามพลังอำนาจของหมอกภูตผีก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน หากคนธรรมดาสัมผัสสิ่งนี้ พวกเขาจะหมดสติทันที ส่วนที่เลวร้ายที่สุดคือมันเป็นภูตผีที่คนธรรมดาไม่สามารถมองเห็น
หากหลี่ฉิงซานไม่ใช้น้ำตาวัว เขาจะมองไม่เห็นและคงตกลงสู่หลุมพรางไปแล้ว
เขาหลบหมอกภูตผีออกไปด้านข้างและพุ่งเข้าโจมตีหมอผี
หมอผีไม่เคยคาดหวังว่าหลี่ฉิงซานจะสามารถมองเห็นหมอกภูตผี ดังนั้นนางจึงกลายเป็นตื่นตระหนก นางเร่งสั่นระฆัง “เสี่ยวอัน! เสี่ยวอัน! ออกมาฆ่ามัน!”
เด็กที่ถูกเรียกว่าเสี่ยวอันหมอบอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดขณะที่เขายกมือขึ้นกุมศีรษะ
หลี่ฉิงซานใช้เท้ากระทืบพื้นอย่างแรงและทะยานร่างขึ้นสู่อากาศพร้อมกับฟาดดาบลงไป
แสงสะท้อนอันเย็นเยียบของคมดาบส่องประกายขึ้นขณะที่เลือดสาดกระเซ็นไปทุกทิศทุกทาง
หลี่ฉิงซานไม่มีเวลาตรวจสอบผลลัพธ์เมื่อเขาจะสัมผัสถึงปราณหยินที่พุ่งเข้ามาจากด้านหลัง กลิ่นคาวเลือดที่ลอยคละคลุ้งอยู่ในอากาศยิ่งกระตุ้นความบ้าคลั่งของเหล่าภูตผี
หลี่ฉิงซานไม่กล้าหยุดเท้า เขาพุ่งไปข้างหน้าแต่เขารู้สึกว่าหมอกภูตผีไม่ได้ไล่ล่าเขา ตรงข้าม เขาได้ยินเสียงคร่ำครวญที่น่าสังเวชจากด้านหลัง เมื่อมองย้อนกลับไป เขาเห็นหมอกภูตผีปกคลุมอยู่รอบตัวหมอผีและกำลังกัดกินร่างกายของนาง
แม้แต่หลี่ฉิงซานก็ไม่เคยคาดหวังกับสิ่งนี้
ปรากฏว่าหมอผีสูญเสียการควบคุมหมอกภูตผีเป็นเหตุให้นางพบกับความทุกข์ทรมานจากมัน
ไม่มีความเกลียดชังที่ปราศจากสาเหตุ ไม่มีหนี้ที่ไม่มีเจ้าหนี้
ความชั่วร้ายทั้งหมดมีต้นกำเนิดมาจากหมอผี นางเป็นคนเดียวที่ต้องรับผลกรรมที่นางหว่านไว้ ร่างกายของนางบิดเบี้ยวและเหี่ยวแห้งลงด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้
หลี่ฉิงซานหัวเราะเสียงดังอย่างมีความสุข
สำหรับเด็กไร้เดียงสาที่ตกทุกข์ได้ยาก เขายินดีหลั่งน้ำตาด้วยความโศกเศร้า แต่สำหรับคนที่เลวร้ายยิ่งกว่าเดรัจฉาน เขาจะบดขยี้โดยไม่มีความเห็นอกเห็นใจและกระทั่งจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังๆ
ผู้คนที่อยู่ด้านนอกพยายามหาช่องทางที่ดีที่สุดเพื่อมองเข้าไปในบ้าน
พวกเขาเห็นหลี่ฉิงซานกระโดนขึ้นสู่อากาศและตัดแขนของหมอผี จากนั้นหมอผีก็ทรุดตัวลงบนพื้นและกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดขณะที่หลี่ฉิงซานหัวเราะราวกับคนบ้า มันทำให้พวกเขารู้สึกขนลุกไปทั้งร่าง
หลายคนร่วงลงจากกำแพงด้วยความตกใจ อันธพาลทั้งสามทรุดตัวลงบนพื้นด้วยความหวาดกลัวและคิดถึงวิธีที่พวกเขาเคยเย้ยหยันหลี่ฉิงซานในอดีต ตอนนี้พวกเขารู้สึกเสียใจมาก คนเช่นนี้ไม่ใช่คนที่พวกเขาจะสามารถยั่วยุ
หลี่ฉิงซานมองหมอกภูตผีค่อยๆกระจัดกระจายหายไป เมื่อความขุ่นเคืองทั้งหมดถูกระบายออก ทุกอย่างก็หยุดลง สำหรับหมอผี นางนอนอยู่บนพื้นด้วยลมหายใจสุดท้าย นางรอดชีวิตมาได้แต่นางใกล้ตายอย่างเห็นได้ชัด นางต้องฝึกฝนวิธีการบางอย่างที่ทำให้นางสามารถอดทนผ่านมันมาได้
หมอผียื่นนิ้วที่เหมือนกรงเล็บไก่ไปทางผีเด็กที่อยู่มุมห้อง นางดูเหมือนกำลังอ้อนวอนแต่ในขณะเดียวกันมันก็เหมือนกับนางกำลังไม่พอใจ นางกรีดร้อง “เสี่ยวอัน! เสี่ยวอัน!”
เสี่ยวอันมองนางด้วยความสับสนและหวาดกลัว หลี่ฉิงซานกล่าว “ข้าจะส่งเจ้าเอง!” เขาแทงดาบออกไป
พ่อบ้านหลิวและหัวหน้าหมู่บ้านหลี่รีบมาหลังจากได้ยินข่าว ทั้งสองมาทันเห็นฉากนี้ นี่ทำให้พวกเขาต้องมองหน้ากันด้วยเหงื่ออันเย็นเยียบที่ไหลลงมาจากหน้าผาก เมื่อวานหมอผีพึ่งกล่าวว่าวันเวลาของหลี่ฉิงซานกำลังถูกนับถ้อยหลังแต่ตอนนี้นางกลับเสียชีวิตไปแล้ว
โชคดีที่พวกเขาไม่ได้ข้ามเส้นกับหลี่ฉิงซาน มิฉะนั้นใครจะรู้ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น
นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่หลี่ฉิงซานฆ่าคน หากเปรียบเทียบกับความตื่นตระหนกท่ามกลางความมืดในครั้งแรก ตอนนี้เขารู้สึกสงบมากภายใต้แสงตะวัน จิตใจที่ยกระดับขึ้นทำให้เขารู้สึกประหลาดใจในตัวเองเล็กน้อย เขาสงสัยว่าบางทีธรรมชาติปีศาจของเขาอาจถูกปลุกให้ตื่นขึ้นโดยหมัดปีศาจวัว หรือควรกล่าวว่านี่คือสิ่งที่เขาเป็นมาตลอด?
ในชีวิตก่อนหน้า เขาอยู่ในสังคมยุคใหม่ที่มีเส้นแบ่งระหว่างถูกผิด ใครจะรู้ว่ามีผู้คนมากมายเท่าไหร่ที่ถูกบังคับให้ปิดบังตัวตนที่แท้จริงของพวกเขาและทำได้เพียงเดินไปตามกระแสของสังคมเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงผู้ใหญ่หรือคนแก่ กระทั่งเด็กเยาวชนก็ยังขาดความกระตือรือร้นและความทะเยอทะยาน หลี่ฉิงซานก็เป็นเพียงหนึ่งในคนเหล่านั้นและไม่มีความแตกต่างจากคนทั่วไป
แต่ด้วยประสบการณ์แห่งชีวิตและความตายผ่านการเดินทางข้ามโลก มันกลับทำให้ความปรารถนาที่อยู่ในส่วนลึกของจิตใจของเขาถูกกระตุ้น มันทำให้เขาไม่ต้องการใช้ชีวิตธรรมดาและเรียบง่ายเช่นชีวิตก่อนหน้า แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังติดอยู่ในชีวิตที่น่าเบื่อหน่ายในหมู่บ้านเล็กๆบนภูเขาที่ห่างไกลลูกนี้มาถึงสิบห้าปี อย่างไรก็ตามในที่สุดเขาก็ได้รับโอกาส ทันทีที่ความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ของเขาถูกปลดปล่อย มันก็อาละวาดเหมือนปีศาจคลั่งและไม่สามารถถูกกักขังอีกต่อไป
หลี่ฉิงซานหยุดหัวเราะและหันหน้าไปรอบๆ “โปรดอย่าตกใจ หมอผีผู้นี้ทำตัวเอง ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่นางสมควรได้รับ ข้ายังต้องการให้พวกท่านรักษาความยุติธรรม”
‘เจ้าตั้งขอหาและกระทำการฆาตกรรมในเวลากลางวันแสกๆ แต่เจ้ายังต้องการให้พวกเรารักษาความยุติธรรมอีกงั้นหรือ?’ นี่เป็นความคิดของทุกคน แต่แน่นอนว่าไม่มีใครกล้าพูดมันออกมา
ทันใดนั้นบางคนก็พุ่งออกมาจากฝูงชนและมาหยุดอยู่ด้านหน้าหลี่ฉิงซาน เขาคุกเข่าลงและใช้ศีรษะโขกพื้นสามครั้งก่อนจะลุกขึ้นและกล่าวเสียงดัง “ข้าเป็นคนฆ่านาง! เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับหลี่เอ้อ! หมอผีผู้นี้สาปแช่งและทำลายครอบครัวของข้า เสี่ยวเหมา พ่อแก้แค้นให้เจ้าแล้ว!” หลังกล่าวจบคำ เขาก็หัวเราะพร้อมหลั่งน้ำตา
มันคือหลี่ฝูกุ้ย ภูเขาที่กดทับหัวใจของเขามาตลอดหลายปีถูกยกออกแล้ว เขารู้สึกราวกับตนเองสามารถนอนตายตาหลับได้ในที่สุด
ไม่มีใครในหมู่บ้านที่ไม่รู้โศกนาฏกรรมของหลี่ฝูกุ้ย นั่นทำให้พวกเขาตกอยู่ในความเงียบ
มีเพียงพ่อบ้านหลิวและหัวหน้าหมู่บ้านหลี่เท่านั้นที่รู้สึกอึดอัดและหวาดกลัว สาเหตุเป็นเพราะโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของหลี่ฝูกุ้ยทำให้เขาละทิ้งที่ดินและดื่มสุราเพื่อบรรเทาความโศกเศร้า ขณะที่พ่อบ้านหลิวได้รับผลประโยชน์จากเรื่องนี้ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้รับฉายาว่าหลิวครึ่งหมู่บ้านและมีชีวิตที่รุ่งโรจน์ หากหลี่ฉิงซานสงสัยว่าเขาร่วมมือกับหมอผี เขาอาจพบภัยพิบัติเช่นกัน
หลี่ฉิงซานกล่าว “ข้ากล้าทำก็กล้ารับ! ข้าไม่จำเป็นต้องให้ท่านรับผิดแทน โปรดมากับข้า” เขาเรียกสามอันธพาลและผู้อาวุโสของหมู่บ้าน พวกเขาเดินไปที่สวนหลังบ้านของหมอผี
หลี่ฉิงซานมองย้อนกลับไปที่ตัวบ้านและพยักหน้า ทุกคนมองตามเขาแต่ไม่เห็นสิ่งใด
เสี่ยวอันที่ซ่อนตัวอยู่ชี้นิ้วไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง
ภายใต้คำสั่งของหลี่ฉิงซาน อันธพาลทั้งสามเริ่มขุดดิน ทุกอย่างอยู่ภายใต้การสายตาของหลี่ฉิงซาน ดังนั้นพวกเขาจึงขุดดินด้วยกำลังทั้งหมดและไม่กล้าหย่อนยาน ไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาก็พบโครงกระดูก
หลี่ฉิงซานเข้าไปรวบรวมโครงกระดูกเหล่านั้น ต่อมาเขาก็ชำเลืองมองกลับไปที่ตัวบ้านก่อนจะออกคำสั่งอีกครั้ง “ขุดต่อไป!” นี่ไม่ใช่โครงกระดูกของเสี่ยวอัน
ภายใต้การชี้นำของเสี่ยวอัน หลี่ฉิงซานพบโครงกระดูกอีกสองสามชุด ทุกคนที่อยู่รอบๆต่างตกตะลึง เหตุใดจึงมีโครงกระดูกมากมายฝังอยู่ในสวนหลังบ้านของหมอผี? ยิ่งไปกว่านั้นโครงกระดูกทั้งหมดยังดูเหมือนโครงกระดูกของเด็ก
ใบหน้าของหลี่ฉิงซานค่อยๆมืดครึ้มลงเรื่อยๆ เขารู้ว่าสิ่งเหล่านี้คือเหยื่อของเคล็ดวิชาชั่วร้ายที่หมอผีฝึกฝน หมอกภูตผีที่เต็มไปด้วยความแค้นต้องมาจากที่นี่ เขาเพียงเสียใจที่ปล่อยให้หมอผีตายง่ายเกินไป
เสียงเหมือนโลหะปะทะกันดังขึ้น หลังจากขุดต่อไปอย่างระมัดระวัง พวกเขาก็พบโถกระเบื้องใบหนึ่ง มันถูกปิดผนึกเอาไว้อย่างแน่นหนา
ก่อนที่หลี่ฉิงซานจะสามารถหยุดพวกเขา อันธพาลทั้งสามก็เปิดฝาโถกระเบื้องออกเรียบร้อยแล้ว
ควันสีดำพุ่งออกมาอย่างกะทันหัน มันดิ้นรนเข้าไปในปากและจมูกของหนึ่งในสามอันธพาลราวกับมันกลัวแสงแดด
ร่างของอันธพาลผู้นั้นกระตุกอย่างต่อเนื่องก่อนที่เขาจะหมดสติไป ณ จุดนั้น ไม่นานเขาก็หยุดหายใจ