ตอนที่ 14 ท้องฟ้าสีดำ
เขาส่ายหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไป
หวังอ้าวมองหลานชายที่ยังหน้าบูดบึ้งอยู่ เขากลัวว่าถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปหลานชายเขาจะป่วยเอาซะก่อน
“อันที่จริง หลานไม่ต้องกังวลขนาดนั้นหรอก”
“นี่เพิ่งจะวันแรกเอง หลานยังมีโอกาสอยู่”
“ถ้าเขารับค่าประสบการณ์มากมายในครั้งเดียวได้ หลานก็ทำได้เหมือนกัน”
หวังอ้าวลูบเคราด้วยรอยยิ้ม “อย่าลืมข้อมูลที่พวกเรามี!”
เหตุผลที่หวังเส่าอู๋มั่นใจมากว่าจะเป็นคนแรกที่จะเลื่อนเป็นเลเวล10 เป็นเพราะตระกูลหวังของพวกเขามีข้อมูลของมอนสเตอร์ชั้นยอดในเส้นทางหลัก
สิ่งนี้ถูกค้นพบเมื่อสองเดือนที่ก่อนโดยสมาชิกบางคนของตระกูลหวัง
ด้วยวิธีการดังกล่าวเขาจะประสบความสำเร็จในการฆ่ามอนสเตอร์ชั้นยอดหลายตัวและทำลายสถิติในการเพิ่มเลเวล
เมื่อตระกูลหวังทำให้วิธีนี้สมบูรณ์แบบได้ หวังอ้าวเชื่อว่าหลานชายของเขาต้องทำได้ดีกว่านี้แน่นอน
“จริงด้วย!”
เมื่อได้ยินหวังอ้าวพูดเรื่องนี้ ความหวังจึงเกิดขึ้นในใจหวังเส่าอู๋อีกครั้ง
เขากระโดดขึ้นและพูดอย่างตื่นเต้น “ด้วยข้อมูลนั้น อย่างน้อยฉันจะได้ค่าประสบการณ์สองสามร้อยแต้ม การเพิ่มสองสามเลเวลจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป ด้วยวิธีนี้ฉันตามเขาทันแน่!”
“แต่มันไม่ปลอดภัย”
หวังอ้าวส่ายหัวด้วยสายตาเยือกเย็น “วิธีที่ดีที่สุดคือยับยั้งการพัฒนาของตัวแปรนั้น”
แม้แต่หวังอ้าวซึ่งเป็นผู้เล่นกลุ่มแรกที่เข้าเสินลู่ยังต้องขมวดคิ้วเมื่อคิดเรื่องนี้
เห็นได้ชัดว่าสกิลที่เรียก’ดาวเพลิง’เป็นสกิลเกี่ยวกับปรากฏการณ์ดาราศาสตร์
คนที่ใช้สกิลนี้ไม่ต้องทำอะไรเลยนอกจากรอการโจมตีจากบนฟ้า และคนที่ใช้สกิลนี้หาตัวได้ยากมาก
ต่อให้พวกเขาใช้เงินมากมายจ้างคนให้ตามหาคนในเขต66 แต่เกรงว่าพวกเขาจะไม่ได้กลับมาอะไรเลย
“อืม ลองดูก่อนแล้วกัน…”
......
เวลาเที่ยงซึ่งแดดแรงส่อง หลิงอี้ลุกขึ้นอย่างเกียจคร้าน
หลังจากล้างจานเสร็จอย่างเร่งรีบเขาก็แต่งตัวและเตรียมตัวออกไป
มันไม่สะดวกเลยถ้าไม่มีโทรศัพท์ในโลกสมัยใหม่นี้ วันนี้เขาจึงตั้งใจจะไปซื้อโทรศัพท์
ถ้าเขามีแค่เงินสนับสนุนที่ได้เมื่อวานเขาคงไม่คิดเรื่องนี้
แต่ตอนนี้เขามีเหรียญทอง!
อัตราแลกเปลี่ยนของเหรียญทองกับเหรียญเฉวียนฉิว(สากล)คือ 1:50
1เหรียญทองสามารถแลกเหรียญเฉวียนฉิวได้50เหรียญ
สกุลเงินเฉวียนฉิวเป็นสกุลเงินสากลของคนทั่วโลก ทุกคนใช้เงินสกุลนี้ก่อนที่เสินลู่จะปรากฏเกิดขึ้น
เงินตราเหล่านี้สามารถแลกเปลี่ยนในฟอรัมเสินลู่ได้
ก่อนจะออกไปข้างนอกเขาได้แลก200เหรียญทองเป็น10,000เหรียญเฉวียนฉิว
ตอนนี้เขาจึงมีเงิน10,000เหรียญเฉวียนฉิว!
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง
หลิงอี้เดินออกจากร้านโทรศัพท์และนั่งบนเก้าอี้ข้างนอก เขากำลังคิดว่าจะไปกินข้าวกลางวันที่ศูนย์การค้าดีไหม
ที่นั่นคือศูนย์การค้าเทียนซิงอันมีชื่อเสียงของเมืองหั่ว เป็นอาคารขนาดใหญ่ที่รวบรวมอาหาร เสื้อผ้า และความบันเทิงเอาไว้
ชั้น1ขายผักผลไม้และของในชีวิตประจำวัน ชั้น2ขายเสื้อผ้า รองเท้าและหมวก ชั้น3ขายเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ในบ้าน โทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ ชั้น4ร้านอาหารรสเลิศ ชั้น5เครื่องเล่นเกมและโรงหนัง...
บังเอิญว่าวันนี้เป็นเสาร์คนเลยมาที่ศูนย์การค้าเยอะ
พอมองไปรอบๆก็เจอหนุ่มสาวที่แต่งตัวสวยหล่อ
“อืม...ไปกินข้าวดีกว่า”
หลิงอี้เดินช้าเพื่อดูสิ่งต่างๆไปด้วย เขาเดินขึ้นมาจากชั้นสามตรงไปหาร้านอาหารที่ดูเงียบเหงา
เขาไม่กินอาหารเย็นอยู่แล้วและไม่อยากต่อคิวยาวเพราะอาหารร้านนี้อร่อยกว่าร้านอื่น
แต่พอเดินเข้าไปในร้านจริงๆเขาถึงได้รู้ว่าร้านนี้คนแน่นมาก
เหลือแค่โต๊ะที่อยู่ด้านหลังเท่านั้นที่ว่าง
“ยินดีต้อนรับ คุณต้องการ...” พนักงานทักทายหลิงอี้ด้วยรอยยิ้มทันที
หลังจากนั้นไม่กี่นาที
ในขณะที่หลิงอี้กำลังเพลิดเพลินกับอาหารกลางวัน เสียงเล็กราวกับกระต่ายน้อยก็ดังมาจากด้านหลังฝั่งซ้าย
“เอ่อ...สวัสดี ขอโทษนะ...ฉันขอนั่งตรงนี้ได้ไหม?”
แม้ว่าเสียงจะเล็กแต่ก็ได้ยินชัดเจน และเสียงของเธอยังหวานน่าฟังด้วย
หลิงอี้หันไปมองและเห็นว่าเป็นผู้หญิงวัยยี่สิบกำลังถือจานอาหารอยู่
เด็กสาวมองเขาด้วยดวงตาสีน้ำเงินซึ่งเป็นสีน้ำเงินเหมือนกับวันท้องฟ้าโปร่ง ดวงตาของเธออ่อนโยนและไม่เป็นอันตราย
แก้มทั้งสองข้างของเธอเริ่มเป็นสีแดงอ่อนเพราะความเขินอาย
นิ้วของเธอที่ถือจานอาหารเรียวยาวและขาวพ่อง เล็บของเธอถูกทาด้วยยาทาเล็บสีชมพู
“เชิญเลย”
เมื่อหลิงอี้พยักหน้าตอบ หญิงสาวจึงเดินมานั่งตรงข้ามเขาและวางจานอาหารลง
หลังจากนั้นเธอก็ทานอาหารกลางวันอย่างสง่างามและเงียบสงบ
กลิ่นหอมสดชื่นของนมลอยมาจากหญิงสาว หลิงอี้แกล้งทำเป็นไม่ได้กลิ่นแล้วกินอาหารต่อ
แต่บรรยากาศอันเงียบสงบอยู่ได้ไม่นาน
เมื่อหลิงอี้กินอาหารใกล้เสร็จ
ท้องฟ้า
จู่ๆก็มืดลง!
จากห้องอาหารที่เดิมทีสว่างจ้าจากแสงอาทิตย์กลับกลายเป็นความมืดที่เหมือนกับตอนกลางคืน
เขามองไม่เห็นมือตัวเอง!
ในขณะที่หลิงอี้กำลังสับสนอยู่ เสียงตื่นตระหนกในห้องอาหารก็ดังขึ้น!
“ท้องฟ้าสีดำ! ท้องฟ้าสีดำเกิดขึ้นแล้ว!”
“ระดับล่ะระดับอะไร?! ขอร้องล่ะ อย่าสูงกว่าระดับสองเลย!”
“ชู่วววว! ทุกคนช่วยเงียบหน่อย มอนสเตอร์กำลังจะเกิดแล้ว!”
“ที่นี่มีผู้เล่นบ้างไหม? จะเลเวลอะไรก็ได้ขอให้ฉันสบายใจขึ้นหน่อยเถอะ…”
เสียงดังที่ปะทุขึ้นลดลงอย่างรวดเร็ว
ในชั่วพริบตาทุกอย่างก็กลับมาเงียบอีกครั้ง
มุมของหลิงอี้อยู่ริมหน้าต่าง เมื่อมองผ่านหน้าต่างไปเขายังเห็นว่าข้างนอกยังมืดอยู่
นอกจากไฟข้างทาง โคมไฟ และไฟLEDบนถนน เขามองไม่เห็นแสงใดๆอีก
'ท้องฟ้าสีดำ? มันคืออะไร?’
หลิงอี้ขมวดคิ้วด้วยความครุ่นคิด เขาเปลี่ยนหน้าจอเป็นโหมดมืดแล้วเริ่มค้นหา
จากนั้นไม่นานเขาก็ได้ข้อมูลดังนี้
[โอกาสมักมาพร้อมกับอันตราย การปรากฏตัวของเสินลู่ก็เช่นกัน ]
[เราพบว่าตั้งแต่เสินลู่ปรากฎขึ้น ปรากฏการณ์’ท้องฟ้ามืดกะทันหัน’อาจเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา และปรากฏการณ์นี้จะมาพร้อมกับมอนสเตอร์ต่างๆในเสินลู่]
[เราเรียกปรากฏการณ์นี้ว่าท้องฟ้าสีดำ!]
[ตามเลเวลของมอนสเตอร์ที่ปรากฎ เราจะแบ่งท้องฟ้าสีดำออกเป็นสี่ระดับโดยเรียงจากต่ำไปสูง]
[ท้องฟ้าสีดำระดับ3 มอนสเตอร์เลเวล1-30 ท้องฟ้าสีดำระดับ2มอนสเตอร์เลเวล31-60 ท้องฟ้าสีดำระดับ1 มอนสเตอร์เลเวล61-90 ท้องฟ้าสีดำขนาดใหญ่มอนสเตอร์เลเวล90ขึ้นไป]
[หลังจากท้องฟ้าสีดำปรากฏขึ้น คนธรรมดาโปรดอยู่ในที่กำบัง ห้ามเดิน ห้ามทำให้เกิดแสง ห้ามส่งเสียง...]
เมื่อเห็นแบบนั้นหลิงอี้จึงเริ่มเข้าใจเรื่องท้องฟ้าสีดำ เพียงวันเดียวสถานที่แห่งนี้ก็กลายเป็นสวรรค์ของเหล่ามอนสเตอร์
“ปรากฏว่าเมื่อพื้นที่มืดลงมอนสเตอร์จะปรากฏตัว...ขอแค่แข็งแกร่งก็ไม่จำเป็นต้องกลัว” หลิงอี้พูดกับตัวเอง
แต่เขาในตอนนี้อ่อนแอมาก ดังนั้นเขาควรหาที่ซ่อนเหมือนกัน
ต่อให้เป็นท้องฟ้าสีดำระดับ3 แต่มันมีโอกาสทที่มอนสเตอร์จะเกิดมากกว่าสิบยี่สิบตัว
ถ้าไม่ใช้[ดาวตก]เขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกมันเลย
แต่ในโลกนี้ไม่สามารถใช้[ดาวตก]แบบสุ่มสี่สุ่มห้าได้
ถาไม่ระวังคงจะโดนคนอื่นเข้าใจผิด จากการกำจัดมอนสเตอร์คงกลายเป็นองค์กรมืดที่เข้ามาทำลายเมืองแทน