SWO ตอนที่ 59
ณ โรงเรียนมัธยมเมืองฉู
หลังจากผ่านไปหลายวัน ในที่สุดรายชื่อนักเรียนของคลาสฝึกอบรมพิเศษซึ่งนักเรียนจำนวนนับไม่ถ้วนรอคอยก็ออกมา
นักเรียนหลายคนที่อยู่ในระดับแก่นโลหิตขั้นสองซึ่งไม่ได้เข้าร่วมประเมินการต่อสู้ สบถ และเสียใจเมื่อเห็นว่าไม่มีชื่อพวกเขาอยู่ในนั้น
“ดูสิ โจวเฮาจากห้อง 4 ก็อยู่ในรายชื่อด้วย!”
"อะไรนะ? เขาใช่คนโชคดีที่ฆ่าสัตว์กลายพันธุ์ได้ในการประเมินการต่อสู้รึเปล่า?”
“ใช่ นั่นเขา ข้าล่ะไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้นำของโรงเรียนเราจะย่ำแย่ได้ถึงเพียงนี้! คนเช่นเขาได้รับเลือก แต่เรากลับถูกพวกเขาปฏิเสธแม้เราจะมีระดับการฝึกฝนถึงแก่นโลหิตขั้นสอง!”
“อา ข้าคิดว่าการฝึกนี้อาจจะไม่ได้ดีอย่างที่คิด!”
นักเรียนหลายคนอิจฉา อันที่จริง พวกเขาทั้งหมดรู้ดีว่าด้วยการร่วมมือกันระหว่างผู้นำโรงเรียน และสำนักการศึกษา คลาสฝึกอบรมพิเศษจะจัดหาทรัพยากรการฝึกฝนจำนวนมากให้อย่างแน่นอน อาจกล่าวได้ว่านี่เป็นโอกาสสำหรับพวกเขาที่จะขึ้นสู่จุดสูงสุด
ทุกคนต้องการคว้าโอกาสนี้ไว้ แต่น่าเสียดายที่มันสายเกินไป ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงเสียใจเท่านั้น
กริ๊ง~
หลังเลิกเรียนอาจารย์ประจำชั้นแต่ละห้องเริ่มเรียกนักเรียนตามรายชื่อ
ในห้อง 4 จากนักเรียนทั้งห้องมีเพียงโจวเฮา ซูหลิง และจางอี้เท่านั้นที่ได้รับเลือก หลังออกจากห้องเรียน นักเรียนหลายคนต่างมองด้วยความอิจฉา
“เจ้ารู้ไหมว่าอาจารย์กำลังจะพาเราไปไหน?” จางอี้กระซิบขณะเดินตามหลังอาจารย์ประจำชั้น
โจวเฮาส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน”
ซูหลิงเหลือบมองโจวเฮา “เรากำลังจะไปที่ห้องฝึกเสมือนจริง นี่คือห้องฝึกที่มีเทคโนโลยีล้ำหน้าที่สุด ว่ากันว่านี่เป็นเทคโนโลยีจำลองที่ใช้ในค่ายฝึกหยานจิง มันสามารถทำให้ผู้ใช้รู้สึกเสมือนกำลังต่อสู้กับเผ่าพันธุ์ภายนอกจริง ๆ!”
อาจารย์ประจำชั้นดูเหมือนจะได้ยินที่ทั้งสามคุยกัน เขาหันกลับมา และยิ้ม “ซูหลิงพูดถูก ที่ตั้งของคลาสฝึกอยู่ในห้องฝึกเสมือนจริงที่สร้างขึ้นใหม่ ในอนาคตพวกเจ้าสามคนจะมีเวลาฝึกฝนภายในนั้นห้าชั่วโมงต่อวัน และคนที่จะมารับผิดชอบการฝึกของพวกเจ้าคืออาจารย์เสิ่น!”
“พวกเจ้าทุกคนต้องทำให้ดีที่สุด นี่ถือเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่จะเปลี่ยนชีวิตพวกเจ้า”
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ อาจารย์ประจำชั้นก็หันไปมองโจวเฮา “โจวเฮา ในพวกเจ้าสามคน เจ้าเป็นคนที่อ่อนแอที่สุด ดังนั้นเจ้าต้องพยายามให้มากกว่าคนอื่น มิฉะนั้นหากผลงานของเจ้าย่ำแย่เกินไป เจ้าจะถูกตัดสิทธิ์จากคลาสฝึก!”
โจวเฮาตกใจ “มีถูกตัดสิทธิ์ด้วย?”
“แน่นอน โรงเรียนไม่ได้ใช้ทรัพยากรมากมายเพียงเพื่อให้เจ้าไปเล่น ในห้องฝึกเสมือนจริงจะมีการประเมินทุกวัน และจะมีการทดสอบครั้งใหญ่ในปลายเดือน คนที่ทำผลงานได้แย่ที่สุดจะถูกตัดสิทธิ์!”
อาจารย์ประจำชั้นกล่าวเคร่งขรึม “แม้เจ้าจะอาศัยโชคเพื่อเข้าร่วม แต่ถ้าเจ้าไม่ฝึกฝนอย่างหนัก และคว้าโอกาสนี้ไว้ เจ้าจะถูกตัดสิทธิ์!”
"เข้าใจแล้วครับ!"
โจวเฮายักไหล่ เขาไม่ได้กังวลเรื่องการถูกตัดสิทธิ์เลยสักนิด
ซูหลิงมองไปที่โจวเฮา และคิดกับตัวเองว่าเธอต้องดูแลเขา เธอจะปล่อยให้เขาเฉื่อยชาไปกว่านี้ไม่ได้
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงชั้น 4 ของอาคาร 5
หลังจากเข้าไปในห้องเรียนที่กว้างขวาง พวกเขาได้พบกับนักเรียนหลายคนในรายชื่อที่มารออยู่ก่อนแล้ว
นอกจากนักเรียนในรายชื่อแล้ว ยังมีชายหญิงอีกห้าคนซึ่งอายุดูใกล้เคียงกับโจวเฮา แต่อารมณ์เย่อหยิ่งที่พวกเขาปล่อยออกมานั้นไม่เข้ากันกับนักเรียนคนอื่น
หลังจากที่โจวเฮา และอีกสองคนเข้ามาในห้อง อาจารย์เสิ่นก็ปรบมือ “เอาล่ะ ตอนนี้ทุกคนได้อยู่ที่นี่แล้ว คลาสฝึกอบรมพิเศษในครั้งนี้จะมีนักเรียนจากโรงเรียนมัธยมเมืองฉู 36 คน รวมกับ 5 คนที่ข้าย้ายมาจากเมืองหยานจิง ดังนั้นการฝึกครั้งนี้จึงมีนักเรียนที่เข้าร่วมทั้งหมด 41 คน!”
“พูดอีกอย่างก็คือ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกเจ้าทั้ง 41 คนจะอยู่ภายใต้การดูแลของข้า!”
พูดจบเขาก็มองไปทางหยวนเฉิง หยุนหยาน และคนอื่น ๆ “ก่อนอื่น ให้ข้าได้แนะนำเพื่อนจากต่างเมืองให้พวกเจ้าได้รู้จัก พวกเขาเป็นนักเรียนอัจฉริยะจากค่ายฝึกหยานจิง แต่ละคนมาถึงระดับผู้ฝึกยุทธขั้นกลางแล้ว ขณะที่ความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นเทียบได้กับผู้ฝึกยุทธขั้นสูง”
โว้ว
สิ้นเสียงของเขา นักเรียนคนอื่น ๆ รวมทั้งซูหลิง และจางอี้ต่างมองไปที่นักเรียนทั้งห้าที่ย้ายมาเป็นตาเดียว
“ที่แท้พวกเขาก็มาจากค่ายฝึกหยานจิง!”
“นั่นเป็นค่ายฝึกที่ดีที่สุดในประเทศของเรา ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธหลายคนได้รับการฝึกสอนจากที่นั่น!”
“ว่ากันว่าเกณฑ์ขั้นต่ำในการรับสมัครคือต้องเป็นผู้ฝึกยุทธเท่านั้น และพวกเขาจะต้องมีอายุต่ำกว่า 18 ปี!”
“พวกเขาจะน่าประทับใจเกินไปแล้ว แม้อายุจะใกล้เคียงกับพวกเรา แต่พวกเขากลับเป็นถึงผู้ฝึกยุทธขั้นกลาง!”
“อืม สมแล้วที่เป็นอัจฉริยะจากค่ายฝึกหยานจิง”
ทุกคนพูดคุยกันอย่างมีชีวิตชีวา และไม่สามารถปกปิดความตกใจได้
ในหมู่พวกเขาคนที่โดดเด่นอย่างซูหลิงยังมีระดับการฝึกฝนอยู่ที่แก่นโลหิตขั้นสามเท่านั้น เมื่อเทียบกับอัจฉริยะเหล่านี้ เธอเป็นเสมือนหิ่งห้อย ขณะที่พวกเขาเป็นราวดวงจันทร์ที่สว่างไสว
ฟางอวี่ขดริมฝีปากด้วยความรังเกียจเมื่อเห็นปฏิกิริยาของนักเรียนคนอื่น ๆ “พวกบ้านนอกที่ไม่เคยเห็นโลก!”