806 - ต้วนเต๋อผู้ชั่วร้าย
806 - ต้วนเต๋อผู้ชั่วร้าย
เย่ฟ่านไล่ตามอย่างบ้าคลั่งและยิงเกาทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีใครเทียบได้เพื่อผนึกวิญญาณของฝ่ายตรงข้าม
“พลังชีวิตเหยียนอวิ๋นหรานกำลังจะหมดลง หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน!”
“น่าเสียดาย หากไม่มีเกาทัณฑ์ว่านซางแม้ว่าผู้สูงสุดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะมาด้วยตัวเองมันคงเป็นเรื่องยากที่จะฆ่าผู้ยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้”
ทุกคนประหลาดใจ ไม่ได้คาดหวังผลลัพธ์ดังกล่าว
เย่ฟ่านยังคงไล่ล่าสังหาร และทั้งสองก็บินออกไปหลายร้อยลี้ เขายังยิงเกาทัณฑ์ไปเก้าลูก ทั้งหมดยิงทะลุทุ่งดวงดาวที่ไร้ขอบเขต
และลูกเกาทัณฑ์สี่ลูกพุ่งผ่านร่างของเหยียนอวิ๋นหราน ทำให้เกิดบาดแผลขนาดใหญ่อีกครั้ง
ระหว่างทางทุกคนตกตะลึง ลูกศิษย์ของสำนักฉีซื่อแทบไม่อยากเชื่อเรื่องทั้งหมดนี้ เหยียนอวิ๋นหรานถูกไล่ล่า
“ใครคือคนที่กดดันสัตว์ประหลาดคนนี้ได้ เขามาจากไหนกัน?!”
“เจ้าคนประหลาดคนนั้นเอง!”
มีคนอุทานด้วยความตื่นเต้น พวกเขาตกตะลึงและจำเย่ฟ่านได้
“ใครกัน?”
“เขาคือเจ้าเมืองที่เป็นข่าวลืออยู่ตอนนี้ คนที่จับตัวปรมาจารย์ฉีไป ข้าได้ไปดูการต่อสู้ในครั้งนั้นจึงเคยเห็นเขามาก่อน”
“เขาเป็นคนที่กินอสูรวิญญาณนั่นหรือ?”
“ใช่แล้ว”
หลังจากยืนยันแล้วว่าเขาเป็นใคร ทุกคนก็พูดคุยกันอื้ออึง
“ฟุ่บ”
ดอกไม้เลือดเบ่งบานอีกครั้ง ร่างกายของเหยียนอวิ๋นหรานสั่นสะท้านอย่างต่อเนื่องและเกือบจะร่วงหล่นจากทุ่งดวงดาวอันไร้ขอบเขต
เย่ฟ่านโจมตีเป็นครั้งที่เจ็ด แต่เขาก็ต้องตกใจยิ่งกว่าเดิม ลูกเกาทัณฑ์ทั้งเจ็ดก่อนหน้านี้ ก็เพียงพอที่จะทำลายผู้สูงสุดระดับต่ำอย่างแน่นอน แต่คนคนนี้ก็ยังไม่ตายมันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่ออย่างยิ่ง
“คนหนุ่มสาวไม่ควรจะมีความโหดเหี้ยมถึงขนาดนี้!”
ชายชราคนหนึ่งเดินเข้ามาเงียบๆ เขากวาดแขนเสื้อและทำลายลูกเกาทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ยิงด้วยพลังของเย่ฟ่านจนแตกเป็นเสี่ยงๆ
“บูม!”
ในเวลาเดียวกัน เขากดมือขวาเข้าไปในความว่างเปล่าและลูกเกาทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ทั้งหมดถูกทำลายไม่มีเหลือ
นี่คือผู้สูงสุดจากสำนักฉีซื่อ เขาให้ความสำคัญกับทุกคนในสำนัก และทิ้งร่องรอยไว้บนร่างกายของลูกศิษย์ทุกคน เมื่อเกิดอันตรายขึ้นเขาจะได้ลงมือช่วยเหลือทันเวลา
เย่ฟ่านเป็นคนตรงไปตรงมามาก ในเมื่อปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ปรากฏตัวเขาก็หันหลังกลับทันที แม้ว่าเขาจะเป็นครึ่งก้าวอาณาจักรแปลงมังกรมันก็ไม่มีทางที่จะส่งผลกระทบต่อฝ่ายตรงข้ามได้
“ขอเชิญสหายน้อยสนทนาได้หรือไม่” ปรมาจารย์ฉีซื่อส่งเสียงอันทรงพลังของเขาผ่านจิตวิญญาณ
“พรึ่บ”
เย่ฟ่านไม่ตอบ เขาตัดผ่านความว่างเปล่าและหายสาบสูญไปในพริบตา
สองวันต่อมาเย่ฟ่านเข้าสู่ดินแดนแห่งหมอกสีม่วง ที่ซึ่งดอกไม้แปลกๆ กำลังเบ่งบานอยู่ทุกหนทุกแห่ง และมียาศักดิ์สิทธิ์มากมายเติบโตอยู่ที่นี่
“ต้วนเต๋อ!”
เย่ฟ่านประหลาดใจ เขาพบต้วนเต๋อผู้ไร้ศีลธรรมในคฤหาสน์เซียน
“ชายคนนี้มีความรู้เกี่ยวกับการปล้นสุสานมากมาย เป็นไปได้ไหมว่าเขาจะรู้ความลับเกี่ยวกับสุสานเซียน?”
ต้วนเต๋อเคยเข้าและออกจากสุสานหยินของจักรพรรดิอสูร มิหนำซ้ำยังค้นพบสุสานโบราณซึ่งไม่มีใครคาดคิดว่าจะหาเจอ
เย่ฟ่านคิดว่าต้วนเต๋อคงได้รับสมบัติที่ยอดเยี่ยมมาจากสุสานจักรพรรดิอสูรอย่างแน่นอน เขาจึงตัดสินใจว่าจะตามดูชายอ้วนคนนี้อย่างเงียบๆ
นักพรตผู้ไร้ศีลธรรมได้เดินเตร่ไปรอบๆ ที่นี่เกือบทั้งวัน ทันใดนั้นเขาก็โจมตีหน้าผาแห่งหนึ่ง เมื่อหินแตกออกก็มีถ้ำขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยปราณมงคล
“ตรงนี้มีถ้ำเซียน!” ทันใดนั้นต้วนเต๋อตะโกนเสียงดังโดยมีเจตนาจะดึงดูดผู้คนจำนวนมาก
“ไอ้สาระเลวคนนี้เป็นคนเห็นแก่ตัวเสมอ การกระทำของเขาจะต้องมีเบื้องหลังแอบแฝง?” เย่ฟ่านรู้สึกงงงวย
ในเวลาเพียงครู่เดียว ผู้ฝึกตนจำนวมาก็รวมตัวกันที่นี่ และจ้องมองที่ถ้ำโบราณที่ส่องแสงเปล่งประกาย
ต้วนเต๋อถอยหนีแล้วหายเข้าไปในภูเขาไกลๆ เย่ฟ่านเดินตามไปอย่างเงียบๆ เขาไม่เชื่อว่านักพรตเต๋าที่ไร้ยางอายคนนี้จะใจดีอย่างแน่นอน มันต้องเป็นแผนการร้ายครั้งใหญ่
“ไอ้สารเลวนี่นิสัยไม่เปลี่ยนจริงๆ!” เย่ฟ่านสาปแช่ง
ไม่นานหลังจากนั้นต้วนเต๋อก็มาถึงสถานที่ที่ห่างออกไปหลายสิบลี้ ที่ซึ่งมีทะเลสาบใสสะอาด
“เมื่อคนเหล่านั้นเข้าสู่ค่ายกลโบราณทะเลสาบนี้ก็จะใสบริสุทธิ์และถ้ำโบราณจะปรากฏออกมา บางทีข้างในนั้นอาจจะมีสมบัติล้ำค่าอยู่ก็ได้” เจ้าอ้วนต้วนยกมือขึ้น ดวงตาเป็นประกาย
“ยังคงชั่วช้าไม่เปลี่ยน” เย่ฟ่านดูถูกแต่ก็ยังรู้สึกประหลาดใจ
ในระยะสายตา ปรากฎเงาหนึ่งกำลังมุ่งหน้ามาในทิศทางนี้ นางคือหญิงงามที่ไม่มีผู้ใดเทียบได้ นางก้าวผ่านหมอกเซียน และเดินไปยังทะเลสาบ นั่นคือองค์หญิงอวี้เตี่ย
“องค์หญิง...” เย่ฟ่านเรียกนาง
“เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร” องค์หญิงอวี้เตี่ยประหลาดใจ
“เจ้ามาอาบน้ำที่นี่หรืออย่าเพิ่งลงไป รอที่นี่ก่อน” เย่ฟ่านยิ้ม
องค์หญิงอวี้เตี่ยกลอกตามองเขาแล้วพูดว่า “เจ้ากำลังพูดถึงอะไร ข้าแค่คิดว่าที่นี่เต็มไปด้วยพลังจิตวิญญาณ มันไม่ใช่สถานที่ธรรมดาแน่นอน”
จากนั้นนางก็ดูตกใจ นางยังพบต้วนเต๋อที่ริมทะเลสาบซึ่งซ่อนตัวอยู่หลังหินสีฟ้า
“บุคคลนี้ลึกลับมาก เขาก็เป็นศิษย์ของสำนักฉีซื่อเช่นกัน ว่ากันว่ามีสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งที่ต้องการประลองกับเขา แต่สุดท้ายกลับไม่สามารถเอาชนะคนคนนี้ได้”
เย่ฟ่านไม่แปลกใจกับผลลัพธ์ดังกล่าว นักพรตที่ไร้ยางอายคนนี้สามารถหลบหนีจากยอดฝีมือระดับผู้สูงสุด แม้กระทั่งหนึ่งในสิบสามโจรผู้ยิ่งใหญ่ก็ตามไล่ล่าเขามาเป็นเวลานานแต่ก็ลงมือล้มเหลวทุกครั้ง
พลังที่แท้จริงของเขาอาจจะอยู่ในอาณาจักรแปลงมังกรระดับสมบูรณ์แบบก็ได้!
ทันใดนั้นหมอกก็ลอยออกไปในระยะไกล รังสีของแสงที่ไม่มีที่สิ้นสุดไหลผ่าน และภูเขาก็เต็มไปด้วยพลังงานทางจิตวิญญาณ พร้อมด้วยเสียงเพลงจากเทพธิดา
มันคือถ้ำเซียนขนาดใหญ่ที่ซึ่งผู้ฝึกตนหลายคนได้ลงมือสำรวจ และจากระยะไกลพวกเขาสามารถเห็นแสงศักดิ์สิทธิ์พุ่งขึ้นมา ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดใจมาก
เย่ฟ่านตกตะลึง เจ้าอ้วนต้วนไร้ศีลธรรมจริงๆ เขาดึงดูดผู้คนมากมายด้วยคำลวงเพื่อปิดการทำงานของค่ายกล และหลบมารออยู่ที่นี่ ตอนนี้จึงมีเพียงเขาที่อาจจะได้พบทางเข้าถ้ำได้
น้ำในทะเลสาบมีความสดใสเป็นอย่างมาก และเมื่อค่ายกลปิดตัวลงพลังงานทางจิตวิญญาณจึงสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ
“มันเป็นทางเข้าจริงๆ นี่ควรเป็นถ้ำเซียน มันอาจจะถูกใครสักคนทิ้งไว้ที่นี่ หรืออาจจะเป็นจักรพรรดิโบราณ… บางทีคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์อาจจะถือกำเนิดขึ้นที่นี่ก็ได้!” เจ้าอ้วนต้วนกล่าวกับตัวเอง เขาตื่นเต้นมาก
น้ำในทะเลสาบลดลง แสงจากใต้ดินส่องออกมาเป็นครั้งคราว และมีเสียงแปลกๆดังออกมาตลอดเวลา
ในช่วงเวลาสั้นๆ ทะเลสาบเซียนทั้งหมดหายไป และที่พื้นทะเลสาบก็ปรากฏรอยแยกขนาดใหญ่
มันถูกล้อมรอบด้วยหน้าผาหิน ราวกับว่ามันถูกขุดโดยมนุษย์ และตั้งไว้ในทะเลสาบโดยเจตนา
ถ้ำโบราณที่โอบล้อมด้วยแสงอมตะ มีปราณมังกรอยู่ภายในที่พุ่งออกมาด้านนอกไม่รุนแรงนัก และเมื่อเห็นแวบแรกก็รู้สึกได้ว่าไม่ธรรมดา
“ฮ่าฮ่า...” เจ้าอ้วนต้วนหัวเราะเสียงดัง
เขาตะเกียกตะกายเพื่อเข้าไปในถ้ำอมตะด้วยความตื่นเต้น
“คนคนนี้ลึกลับจริงๆ เขามีวิธีการเฉพาะตัว หลอกคนจำนวนมากเข้าสู่ค่ายกลเพื่อให้ตัวเองได้รับประโยชน์”
องค์หญิงอวี้เตี่ยประหลาดใจ แต่ไม่ได้คาดคิดว่าเจ้าอ้วนต้วนจะไร้ความปรานีเช่นนี้
เย่ฟ่านยืนรอกับนางครู่หนึ่ง จากนั้นก็ลงไปที่ก้นทะเลสาบเซียนที่แห้งเหือด ถ้ำโบราณส่องสว่าง และประตูถ้ำเซียนที่สลักอักขระหนาทึบก็เปิดออก
“คนคนนี้เหลือเชื่อจริงๆ เพื่อที่จะเปิดประตูนี้ผู้ฝึกตนจำนวนมากต้องเสียสละ บางทีคนเหล่านั้นอาจได้รับอันตรายแล้ว”
เย่ฟ่านรู้สึกเสมอว่าต้วนเต๋อสมควรถูกทุบตีอย่างหนักสักครั้ง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครทำอะไรเขาได้
“สถานที่แห่งนี้ลึกลับมาก”
องค์หญิงอวี้เตี่ยขมวดคิ้ว แม้ว่าประตูหินจะถูกเปิดออก แต่ก็ยังมีร่องรอยของลวดลายอักขระมากมายอยู่ภายใน
ทั้งสองไม่มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับลวดลายอักขระนี้หากเข้ามาโดยไม่ระวังอาจจะติดกับดักได้ ดังที่ต้วนเต๋อกล่าว อาจมีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับจักรพรรดิโบราณ
“เจ้ารอที่นี่ก่อน ข้าจะเข้าไปดูข้างใน”
เย่ฟ่านตัดสินใจใช้ทักษะศักดิ์สิทธิ์เพื่อเดินผ่านค่ายกลโบราณเขาจำเป็นต้องเสี่ยงอันตรายไม่เช่นนั้นเจ้าอ้วนต้วนจะหอบสมบัติไปคนเดียวหมด
“เร็วเข้า” อวี่เตี่ยเร่งเร้าด้วยดวงตาเป็นประกาย
“ได้”
เย่ฟ่านหายตัวไปในพริบตา สถานที่แห่งนี้อยู่ใต้น้ำแต่แห้งมาก มีหินประหลาดมากมายงอกย้อยลงมาจากด้านบน