ตอนที่ 10 ดาวตกอันน่าทึ่ง
หลิงชิงอวี่คิดว่าชายหนุ่มชื่อหลิงอี้คนนี้น่าสนใจมาก
ไม่ใช่แค่เขามีความรู้เรื่องเสินลู่ไม่เยอะ แต่ร่างกายของเขายังไม่แข็งแรงอีก
เหมือนปลาเค็มที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะกลายเป็นผู้เล่น
ไม่เหมือนคนอื่นที่เตรียมพร้อมเป็นอย่างดี
เมื่อเห็นรูปร่างหน้าตาของเขาที่อายุพอๆกับเธอ เธอจึงเม้มปากแล้วถาม “นายน่าจะรู้เรื่องโครงการอัจฉริยะของเมืองเราใช่ไหม?”
“รู้สิ”
“ถ้าอย่างนั้นนายต้องรีบลงมือแล้วก่อนที่หมาป่าจะฟื้นแรง รีบไปฆ่าให้มากกว่านี้จะได้เพิ่มเลเวลเร็วๆ ไม่อย่างนั้นโครงการอัจฉริยะคงไม่มีทีว่างสำหรับนาย”
เมื่อได้ยินแบบนั้นหลิงอี้จึงทำหน้าแปลกๆแล้วเลิกคิ้วขึ้น
“เธอเลเวลเท่าไหร่”
“ฉันเหรอ?”
หลินชิงอวี่กอดอกพูดด้วยรอยยิ้มอย่างมั่นใจ “ฉันเลเวล2 มีค่าประสบการณ์15!”
“แล้วนายล่ะ?”
“ฉันสูงกว่าเธอนิดหน่อย”
“สูงกว่าฉันนิดหน่อยเหรอ?”
หลินชิงอวี่ขมวดคิ้วเล็กน้อยและมองหลิงอี้ด้วยความสงสัย
ชัดเลยว่าเธอสงสัยกับคำตอบของเขา
แต่ด้านนอกกำลังสู้กันอยู่เธอจึงไม่มีเวลามาคุยกับหลิงอี้ หลังจากมองเขาด้วยความสงสัยเธอก็กระโดดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
เธอวิ่งไปไกลกว่าสิบเมตรในชั่วพริบตา
“ค่อนข้างเร็วเลย…” หลิงอี้ก็พึมพำขณะมองด้านหลังเธอ
เขาเงยหน้าขึ้นและมองระยะไกล
เขาไม่สนใจผู้เล่นที่กำลังสู้กับหมาป่าทุ่งหญ้าในสนามและมองตรงไปที่ราชาหมาป่าสูงห้าเมตร
มันยังยืนนิ่งปล่อยให้สายลมพัดขนของมัน เมื่อลมพัดจากล่างขึ้นบนขนทุกเส้นก็พลิ้วไหวราวกับว่าเปลวไฟสีเงินจางๆติดอยู่บนตัวมัน
มันเป็นเหมือนจอมพลในกองทัพที่อยู่ตรงกลางกองทัพโดยไม่เคลื่อนไหวเอง
แค่ยืนอยู่ตรงนั้นก็สร้างแรงกดดันมหาศาลให้แก่ผู้เล่นทุกคน
แน่นอนว่าไม่รวมถึงหลิงอี้
“ในเมื่อแกไม่ยอมขยับ ถ้าอย่างนั้นฉันจะใช้สกิล”
“หวังว่าแกจะไม่หนีนะ”
หลิงอี้ยิ้มขณะพูด ดูเวลาอีกครั้ง
[เวลาจุติที่เหลือ: 36 นาที]
เขายกมือขึ้นปล่อยดาวตกไปยังจุดที่ราชาหมาป่ายืนอยู่
ได้เวลาแล้ว!
จู่ๆดาวตกเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด35เมตรก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า!
......
ลั่วเหยาถอยออกจากเขตต่อสู้หลังจากฆ่าหมาป่าเลเวล2
[ยินดีด้วย ค่าประสบการณ์ของคุณเพียงพอแล้ว คุณเลื่อนเป็นเลเวล3]
“เลื่อนเป็นเลเวล3แล้ว”
พอยิ้มออกมาเธอก็รู้สึกเจ็บขาอย่างรุนแรง
คิ้วเรียวยาวขมวดกันเล็กน้อย
เมื่อมองลงไปก็พบว่ามีบาดแผลยาวสามสี่เซนติเมตรบนขาและมีเลือดไหลออกมา
“ฮึ...”
เมื่อเห็นแบบนั้นเธอจึงขมวดคิ้วมากขึ้น
ในตอนนั้นเองก็มีเสียงออกมาจากใจของเธอ 'กลับกันเถอะ ไม่มีประโยชน์ที่จะอยู่ต่อแล้ว’
'หมาป่าทุ่งหญ้าพวกนี้ฟื้นแรงรวดเร็ว มันจะสายเกินไปถ้าไม่ยอมกลับ’
ยังมีวิญญาณอีกดวงหนึ่งอยู่ในร่างของลั่วเหยา
วิญญาณนั้นคือฉินเมิ่งหย่า เธอเคยเป็นความภาคภูมิใจรุ่นแรกของเสินเซี่ย
เธอเสียชีวิตจากการจู่โจมเมื่อครึ่งเดือนก่อน
เพื่อป้องกันไม่ให้เธอฟื้นคืนชีพศัตรูจึงเผาร่างกายของเธอ
แต่ด้วยผลของไอเทมระดับSวิญญาณของเธอจึงหลบหนีมาได้ และเธอเลือกเข้าร่างของลั่วเหยาที่ตอนนั้นยังเป็นคนธรรมดาอยู่
แต่ลั่วเหยาต้องเติบโตถึงเลเวลเดียวกันกับก่อนที่เธอจะเสียชีวิตนั่นคือเลเวล72 เธอถึงจะสามารถฟื้นคืนชีพได้อย่างสมบูรณ์
ดังนั้น
เพื่อที่จะชุบชีวิตตัวเอง เธอจึงความพยายามอย่างเต็มที่ในการช่วยเธอเพิ่มเลเวล
‘ไม่เป็นไร...’ ลั่วเหยาตอบภายในใจ
มีความเสียใจอย่างเห็นได้ชัดในน้ำเสียงของเธอ
ถ้าเธอไม่ได้เจอราชาหมาป่า เธอคงได้ค่าประสบการณ์มากกว่านี้
ในขณะที่ลั่วเหยากำลังจะกลับไปที่ค่ายเพื่อฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นจากบนอากาศ!
เสียงนี้เหมือนเป็นบางสิ่งบางอย่างที่ใหญ่มากตกลงมาจากท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว
ฟิ้ววว!
“หืม?”
ลั่วเหยาเงยหน้ามองด้วยความสงสัย เธอได้เห็นดาวเพลิงขนาดใหญ่กำลังเร่งตกลงมาจากท้องฟ้า!
ไม่ใช่แค่เธอเท่านั้น แต่เกือบทุกคนและหมาป่าที่อยู่ใกล้ๆต่างตกใจกับเสียงอันน่าสะพรึงกลัวที่ดังขึ้นเรื่อยๆจนต้องแหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า
“เชี่ย! อะไรวะนั่น!? ดาวตกเหรอ!?”
“ดาวเพลิงแดทอง มันเหมือนเมื่อสองชั่วโมงก่อนเลยไม่ใช่เหรอ!? แถมยังใหญ่กว่าเดิมตั้งหลายเท่า!”
“มันเป็นสกิลผู้เล่นจริงเหรอเนี่ย? จะโหดเกินไปแล้ว!!”
“เป็นไปไม่ได้!? ตอนนี้จะมีผู้เล่นไปถึงระดับนั้นได้ยังไง ต่อให้เป็นสกิลที่มีข้อเสียเยอะแต่นี่มันมากเกินไปแล้ว!”
“…”
ผู้เล่นแต่ละคนพูดด้วยความไม่อยากเชื่อกับดาวเพลิงลูกนี้
ทุกคนต่างรู้เรื่องพลังของผู้เล่นกันหมด ระยะสกิลโจมตีส่วนใหญ่จะมีผลมาจากคุณสมบัติของตัวผู้เล่น
ตัวอย่างพื้นฐาน
พลังเวท10แต้มสามารถสร้างลูกไฟที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง1เมตรได้
ด้วยพลังเวท100แต้มจะสามารถสร้างลูกไฟที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง10เมตรได้!
ดังนั้น
ดาวเพลิงเส้นผ่านศูนย์กลาง35เมตรที่กำลังตกลงมาอย่างรวดเร็วทำให้ผู้คนได้ว่า - คนที่ใช้สกิลมีพลังเวท350เลยเหรอ?
ต่อให้ไม่ใส่แต้มคุณสมบัติไปด้านอื่น ผู้เล่นที่มีคุณสมบัติขนาดนี้ต้องมีเลเวล70เท่านั้น!
พูดอีกอย่างคือ
ดาวตกที่อยู่ตรงหน้าเทียบเท่ากับการโจมตีจากผู้เล่นที่มีพลังเวทเลเวล70!
จะไม่ให้พวกเขาตกใจวได้ยังไง?!
ผู้เล่นเลเวล70ในโลกภายนอกเรียกได้ว่าเป็นผู้แข็งแกร่งในนครได้แล้ว!
“นี่...”
ลั่วเหยามองดาวตกที่กำลังตกลงมาอย่างตกตะลึง เธอไม่ตอบสนองจนกระทั่งดาวตกกระทบพื้น
“นี่เป็นการโจมตีของผู้เล่นใหม่เหรอ?”
เปลวไฟสีทองที่มีอุณหภูมิสูงกระจายไปทุกทิศทางอย่างรวดเร็วราวกับพายุ สิ่งมีชีวิตแถวนั้นละลายหายไปหมด
คลื่นความร้อนที่มองไม่เห็นพุ่งเข้าหาผู้เล่นรอบๆจนพวกเขาคิดว่าตัวเองติดอยู่ในเตาเผา
ตอนนี้เป็นเวลาที่ดวงอาทิตย์อยู่บนท้องฟ้าส่องแสงลงมา แม้ว่าเปลวไฟจะดับไปแล้วแต่อุณหภูมิในระยะหลายร้อยเมตรกลับเพิ่มสูงขึ้น
อากาศมันร้อนขึ้น!
ตอนนี้ลั่วเหยาลืมความเจ็บปวดที่ขาเธอไปแล้ว เธอรู้สึกว่าโลกทัศน์ของเธอกำลังสั่นคลอน
โชคดีที่เธอหายจากอาการช็อกได้อย่างรวดเร็ว
“ต่อให้แข็งแกร่งแค่ไหนมันก็เป็นเรื่องของคนอื่น ฉันต้องพัฒนาตัวเองต่อไป”
แม้ว่าเธอจะปลอบใจตัวเองแต่คำพูดของเธอกลับดูไร้เรี่ยวแรง
ใครบ้างที่ไม่สงสัยว่าทำได้ยังไง?
ใครบ้างที่ไม่อยากมีพลังแข็งแกร่งแบบนั้น?
ถ้าทุกคนทำได้นั่นแสดงว่าความพยายามของเธอคงเป็นเรื่องตลก
แต่ในไม่ช้าฉินเมิ่งหย่าที่อาศัยอยู่ในจิตวิญญาณของเธอก็บอกว่า
“น่าแปลกใจจริงๆ…”
ถ้าฉินเมิ่งหย่าไม่เห็นเรื่องนี้ด้วยตาตัวเองเธอคงไม่เชื่อเหมือนกันว่ามันเป็นเรื่องจริง
'ไม่ต้องไปคิดมากหรอกลั่วเหยา เรื่องนี้เป็นกรณีที่หายากมาก เธอไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแผนเติบโตเพราะการปรากฏตัวของคนคนเดียว’
'ตราบใดที่เธอเติบโตตามแผนที่วางไว้ เธอจะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งในไม่ช้า'