661 - แม้แต่ผู้อมตะก็ยังเป็นสัตว์เลี้ยง
สวรรค์ยังมีตาอยู่หรือไม่? เหตุไฉนปีศาจร้ายตัวนี้ที่แม้แต่บรรพบุรุษของเขายังต้องหน้าซีดถึงได้มีชีวิตอยู่ หลังจากผ่านไปหลายปีเหตุไฉนจึงโผล่ขึ้นมาในวันนี้!
“เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้วรีบมาขอโทษสัตว์เลี้ยงมนุษย์ของข้าเดี๋ยวนี้” สุนัขตัวน้อยยื่นกรงเล็บชี้ไปที่เฉาอวี่เซิ่ง
เป็นผลให้ทั้งสองฝ่ายต่างมองมาที่มันด้วยความเกลียดชัง
ในขณะนี้กลุ่มคนของอาณาจักรเซียนกำลังขัดแย้งกันอย่างรุนแรงโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่
พวกเขาถูกสุนัขตัวน้อยเหยียบย่ำต้องการให้คุกเข่าขอโทษนั่นเป็นเรื่องที่พวกเขายอมรับไม่ได้
สำหรับเฉาอวี่เซิ่งไม่จำเป็นต้องอธิบายแม้แต่น้อย ราวกับว่าเขาดื่มน้ำมันหนึ่งถังลงไปในท้อง เขาเกลียดมันมากจนอยากจะเหยียบมันให้ตาย!
“นี่คือสัตว์เลี้ยงมนุษย์ของท่านผู้ยิ่งใหญ่?” ผู้อาวุโสคนนั้นยังคงมีสีหน้าจริงจังและถามอย่างระมัดระวัง
“ไสหัวไป!” เฉาอวี่เซิ่งไม่สามารถทนรับเรื่องนี้ได้อีกต่อไป
“เราไม่ได้ทำอะไรเพื่อทำให้เขาขุ่นเคืองสิ่งที่เราทำก็แค่พูดไม่กี่คำกับเจ้าหนูคนนั้น” คนด้านหลังพึมพำ พวกเขายอมรับว่าพวกเขากระทำการต่อต้านสือฮ่าวแต่พวกเขาไม่ได้มีปัญหากับเฉาอวี่เซิ่ง
“เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะสัตว์เลี้ยงของข้าดังนั้นพวกเจ้าทุกคนจำเป็นต้องชดเชยให้เขา” สุนัขตัวน้อยกล่าวด้วยท่าทางก้าวร้าว
“ท่านลุงทำไมต้องทำแบบนี้? มันเป็นแค่หมาตัวเล็กๆมีความจำเป็นอะไรที่เราจะต้องเคารพมันถึงขนาดนี้!” ด้านหลังเจ้าหนูในชุดขาวไม่สามารถทนรับเรื่องนี้ได้อีกต่อไป
ในความเป็นจริงเขาอดทนมามากพอแล้วจนปอดของเขากำลังจะระเบิด
ตระกูลของเขาเป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีอำนาจมากที่สุดกลุ่มหนึ่งของอาณาจักรเซียน บรรพบุรุษโบราณของพวกเขาเป็นถึงผู้อมตะที่แท้จริงที่ยังมีชีวิตอยู่
แต่ว่าตอนนี้พวกเขาถึงกับต้องคุกเข่าให้กับสุนัขน้อยตัวหนึ่ง นี่เป็นเรื่องเหลวไหลทั้งเพ
เขาไม่สามารถทนต่อสิ่งนี้ได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาก็ต้องต่อต้านให้ถึงที่สุด เป็นเพราะเขาไม่รู้เกี่ยวกับภูมิหลังของตระกูลไม่เข้าใจความจริงในอดีต
บรรพบุรุษโบราณของตระกูลเขาถือว่านี่คือประวัติศาสตร์อันดำมืดช่วงเวลาอันเลวร้ายที่สุดในชีวิตเขาจะเล่าให้คนรุ่นหลังฟังได้อย่างไร? มีเพียงคนรุ่นอาวุโสบางคนเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้
“พวกเจ้ายังสงสัยในตัวข้าอย่างนั้นหรือ?”
ด้วยเสียงซู่ สุนัขตัวน้อยกระโดดออกมา ร่อนลงบนศีรษะของเด็กน้อยที่สวมชุดขาว และใช้อุ้งเท้าตบลงไปหลายสิบครั้ง
ชายหนุ่มชุดขาวคนนั้นเลือดไหลท่วมใบหน้าก่อนที่จะศีรษะทิ่มพื้นอย่างรุนแรง
เขาโกรธมากจนปวดตับปวดท้องปวดไปทั้งตัว หมาน้อยตัวนี้ทำให้เขาโกรธจนไม่สามารถทนรับไหว!
“เจ้าทำให้ข้าอับอายข้าขอเสี่ยงกับเจ้าแล้ว!” เขาคำรามออกมา
“เจ้าคิดว่าเด็กสาระเลวอย่างเจ้าเป็นตัวตนที่พิเศษอย่างนั้นหรือ? แม้แต่บรรพบุรุษโบราณของเจ้ายังเป็นเพียงแค่สัตว์เลี้ยงของข้าเจ้ากล้าที่จะท้าทายข้าก็นับว่าแส่หาความอัปยศใส่ตัว” หมาน้อยหัวเราะเยาะอย่างหน้าด้าน
“ข้าขอเสี่ยงกับเจ้าแล้ว!” ชายหนุ่มตะโกนออกมาพร้อมกับปลดปล่อยญาณวิเศษขั้นสูงสุดเพื่อเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกับสุนัขน้อย แต่ท้ายที่สุดแล้วทุกอย่างก็ไร้ผล
ญาณวิเศษประจำตระกูลที่เขาเชื่อมั่นนั้นไม่มีอะไรมากกว่าขาตั๊กแตนยันล้อรถ
ในอีกด้านหนึ่งคนอื่นๆจากตระกูลหงต่างหวาดกลัวอย่างมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้อาวุโสคนนั้นใบหน้าของเขามีน้ำตานองเขารีบคุกเข่าและโขกศีรษะอย่างดุดัน
“เจ้าเด็กชั่วยังไม่หยุดอีก!” เขาคำรามออกมา
“ท่านลุงทำไมถึงต้องเคารพมันเช่นนี้” เจ้าหนูในชุดขาวตกใจและโกรธมาก
“เรื่องที่เกี่ยวกับบรรพบุรุษของเรานั้น….คือเรื่องจริง” ชายชรากล้ำกลืนอย่างเต็มที่กว่าจะสามารถกล่าวคำนี้ออกมา
ทุกคนต่างหวาดผวา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้คนจากอาณาจักรเซียน เมื่อพวกเขาได้ยินสิ่งนี้พวกเขาทุกคนก็แสดงออกอย่างแปลกประหลาด ข่าวนี้น่าประหลาดใจเกินไป
สุนัขตัวน้อยถึงกับเรียกผู้อมตะคนหนึ่งว่าสัตว์เลี้ยง? มันมีภูมิหลังแบบไหน?!
สำหรับคนรับใช้สองคนของหวังต้าและเซียนอมตะหวังรวมทั้งหวังเทียนล้วนมีใบหน้าบิดเบี้ยวอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
ในตอนแรกพวกเขาคิดว่าพวกเขาสามารถพึ่งพาตระกูลอมตะได้ได้
แต่ในท้ายที่สุดพวกเขาถูกสุนัขตัวเล็กๆปราบและกลายเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนอย่างสมบูรณ์ นี่มันน่ากลัวเกินไปจริงๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้พวกเขารู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
บรรพบุรุษโบราณของตระกูลหงซึ่งเป็นผู้อมตะที่แท้จริง! เขาเป็นสัตว์เลี้ยงมนุษย์ของสุนัขตัวน้อยนี้จริงๆหรือ?
นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไป ตระกูลใหญ่ต่างหวาดกลัวแทบตายในทันที!
อย่างน้อยที่สุดชายหนุ่มและหญิงสาวจากตระกูลอมตะของเก้าสวรรค์เบื้องบนล้วนแล้วแต่อ้าปากค้างใบหน้าซีดเผือดด้วยความหวาดกลัว
เมื่อไม่นานมานี้พวกเขายังคิดว่าหลานชายคนโตของเซียนอมตะหวังจะควบคุมสถานการณ์ไว้ได้
ในตอนนี้เฉาอวี่เซิ่งและสุนัขตัวน้อยนี้กลับทำให้ทุกคนตกตะลึงอย่างถึงที่สุด!
ป่าปี๊!
ในท้ายที่สุดผู้อาวุโสคนนั้นก็ยืนขึ้นก่อนจะทุบตีเด็กหนุ่มชุดขาวอย่างรุนแรงและทำให้เขาคุกเข่าลง
หวังต้าตกตะลึงอย่างสมบูรณ์
เดิมทีเขาคิดว่าเขาสามารถพึ่งพาความแข็งแกร่งของตระกูลอมตะของอาณาจักรเซียนเพื่อคุกคามเฉาอวี่เซิ่งปราบปรามศัตรู
แต่ในท้ายที่สุดพันธมิตรที่แข็งแกร่งที่สุดของเขากับคุกเข่าเคารพฝ่ายตรงข้าม!
ในเวลานี้สือฮ่าวยื่นมือออกมาพร้อมกับลากหวังต้าออกไปต่อหน้าทุกคน เขาต้องการที่จะลอกค่ายกลที่อยู่ในร่างกายของหวังต้าเพื่อมอบเป็นของขวัญแก่เฉาอวี่เซิ่ง
ตอนนี้เจ้าอ้วนเฉาดูเหมือนเด็กน้อยอายุเจ็ดหรือแปดปีร่างของเขาอ้วนท้วนในชุดนักพรต เขาบินไปข้างหน้าพร้อมกับเตะหวังเทียนอย่างรุนแรง
“ทำไมเจ้าไม่แสดงความกล้าออกมา? เจ้ากล้าเดินไปรอบๆแล้วตามล่าข้าอย่างนั้นหรือ? ในช่วงเวลาหลายปีนี้เจ้าอ้างชื่อของเซียนอมตะหวังและติดภาพประกาศของข้าไปทั่วโลกเจ้ากำลังรนหาที่ตาย!”
เจ้าอ้วนเฉาโกรธมากเขาทุบตีหวังเทียนจนร่างกายบี้แบน หากไม่ใช่ว่าวิญญาณดั้งเดิมของเขายังอยู่ป่านนี้เขาคงตายไปแล้ว
จิ!
ร่างของหวังต้าเปล่งประกายสดใสสือฮ่าวได้สัมผัสกับค่ายกลพลังศักดิ์สิทธิ์แปลกๆที่สลักอยู่ในร่างกายของเขาทำให้แม้แต่จิตวิญญาณของเขาก็ยังสั่นสะท้าน
“เจ้าทำอย่างนี้ไม่ได้!” เขากรีดร้องอย่างบ้าคลั่งและคำรามออกมา
“นั่นเป็นสิ่งที่พ่อของข้าสลักไว้ หากเจ้าแตะต้องมันเขาจะรู้สึกได้ทันที!” หวังต้ากล่าว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาแสดงสีหน้าหวาดกลัวออกมา แต่เขาก็ยังไม่ลืมที่จะขู่อีกฝ่าย
สือฮ่าวฟาดฝ่ามือออกไปตบใบหน้าของเขาจนหายไปครึ่งนึง ในเวลาเดียวกันความกระจ่างใสที่ก่อตัวขึ้นภายในร่างกายของเขาก็ปะทุอย่างรุนแรง
“ท่านผู้อาวุโสท่านควรกลับไปที่อาณาจักรเซียนพร้อมกับเรา ถ้าท่านบรรพบุรุษรู้ว่าผู้อาวุโสยังมีชีวิตอยู่เขาต้องดีใจมากแน่ๆ!” ผู้อาวุโสของตระกูลหงบอกเจ้าหมาน้อย
“ดีใจมาก!” ผู้เฒ่ารู้ว่าบรรพบุรุษโบราณของเขาเกลียดสุนัขตัวนี้จนแทบตาย หากเขานำสุนัขตัวน้อยตัวนี้กลับไปจริงๆบรรพบุรุษของเขาจะต้องทำให้มันต้องชดใช้อย่างแน่นอน!
เจ้าหมาตัวน้อยกำลังหัวเราะอย่างเสแสร้งและพูดว่า
“ไม่ต้องรีบ!”
ในความเป็นจริงมันไม่กล้าก้าวข้ามไปที่อาณาจักรเซียน ตอนนี้มันกลายเป็นผู้อมตะที่พิการไปแล้วหากสัตว์เลี้ยงมนุษย์ตัวนั้นรู้เข้าสถานการณ์ของมันต้องยากลำบากอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามคนอื่นๆไม่ได้คิดเช่นนี้ พวกเขาทั้งหมดต้องการรายงานกลับไปยังครอบครัวของพวกเขาอย่างรวดเร็ว สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้มันบ้าเกินไป!
ก่อนหน้านี้หมาน้อยตัวหนึ่งเคยเรียกผู้อมตะที่แท้จริงว่าสัตว์เลี้ยง!
แม้แต่ตระกูลอมตะอีกหลายสกุลก็ยังรู้สึกว่าเรื่องนี้น่าเหลือเชื่อมากเกินไปพวกเขาจะต้องส่งข่าวกลับไปอย่างรวดเร็วเพื่อรายงานถึงสิ่งที่เกิดขึ้น!