ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 234 ยกขีดกำจัดพื้นที่ฝึกฝนในคลิก (ฟรี)
(วันนี้งานเยอะจริงๆ ครับ พึ่งได้กลับบ้าน ตอนเดียวนะครับวันนี้ขออภัย)
ซู่เสี่ยวไป่ไม่คาดคิดว่าวิชาที่หลอมผสานได้จะเป็นวิชาควบคุมธาตุกาลเวลาระดับอมตะ!!
ทำให้ความคิดก่อนหน้านี้ ของเขาดูมักน้อยไปเลย เพราะสิ่งที่ซู่เสี่ยวไป่คาดหวังเอาไว้ขอแค่เป็นวิชาฝึกฝนร่างกายหรือวิชาควบคุมธาตุอะไรก็ได้ ไม่คิดว่าจะได้วิชาที่ทรงพลังแบบนี้
แต่เมื่อได้รับวิชาระดับอมตะแรกเป็นวิชาที่เกินความคาดหมายแบบนี้ ไม่มีทางที่ซู่เสี่ยวไป่จะเก็บอาการอยู่!
“เจ้าหัวเราะอะไร?”
เฟิงหมิงหันกลับมาถามด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย ที่อยู่ๆ ซู่เสี่ยวไป่ก็อารมณ์ดีและหัวเราะราวกับคนบ้า
จากสายตาของนางซู่เสี่ยวไป่ได้รับการเก็บเกี่ยวไปจำนวนมากทั้งสมบัติระดับเซียน และแหวนคลังของบุตรศักดิ์สิทธิ์ที่คงล้ำค่ามากเหมือนกัน และเมื่อครู่เขาก็พึ่งจะสำเร็จวิชาจนความแข็งแกร่งพุ่งทะยานขึ้นมาหลายเท่าตัว
ตอนนี้ซู่เสี่ยวไป่ก็กำลังหัวเราอย่างมีความสุขราวกับคนบ้า ทำให้นางนั้นมั่นใจว่าซู่เสี่ยวไป่ต้องเจออะไรสักอย่างในแหวนคลังของบุตรศักดิ์สิทธิ์ที่ล้ำค่า แต่เทียบกับนางแล้วตั้งแต่เข้ามายังไม่ได้สมบัติสักชิ้นติดมือเลย….
ไม่แปลกที่นางจะเกิดความอิจฉาซู่เสี่ยวไป่เล็กๆ
“ไม่ๆ ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่มีความสุขที่ได้รับสมบัติดีๆ เท่านั้นเอง!”
ซู่เสี่ยวไป่ตอบกลับ แต่บนใบหน้าของเขานั้นกลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มตลอดเวลา
โดยที่ไม่รีรอซู่เสี่ยวไป่รีบท่องจำวิชา จารึก 9 วังเวลาทันที และส่งมันเข้าไปฝึกในพื้นที่ฝึกวิชาในคลิกเดียว
“ระบบใช้เวลานานแค่ไหน..กว่าจะฝึกวิชาจารึก 9 วังเวลา บรรลุขั้นฝึกหัด”
ซู่เสี่ยวไป่ถามกับระบบ
“-15วัน-”
ซู่เสี่ยวไป่ไม่แปลกใจกับระยะเวลาที่ระบบตอบกลับมาเลย
มันเป็นวิชาระดับอมตะ ที่สูงกว่าระดับเซียนหลายเท่าตัว อีกทั่งยังเป็นวิชาควบคุมธาตุกาลเวลาที่ต้องใช้ความเข้าใจระดับสูงมาก แม้แต่ตัวตนยอดยุทธอมตะเองก็ยังไม่อาจจะเข้าใจมันได้ง่ายๆ
การที่ระบบใช้เวลา 15 วัน ก็สมเหตุสมผลแล้ว
“ดูแล้วคงต้องเพิ่มระดับพื้นที่ฝึกวิชาในคลิกเดียวอีก!”
“ใช้เวลา 15 วันในการฝึกวิชาระดับอมตะ แต่ยังดีที่สำหรับวิชาระดับเซียนไม่รอนานขนาดนั้น..”
ซู่เสี่ยวไป่มองดูวิชาระดับเซียนทั้งสี่ที่กำลังฝึกฝนอยู่ภายในพื้นที่ฝึกวิชา
แล้วไม่กี่ลมหายใจต่อมาทุกวิชาก็บรรลุในขั้นสูงสุด
ตูม!!!
เบื้องหลังของซู่เสี่ยวไป่เกิดร่างมายาขนานใหญ่ที่ปลดปล่อยพลังของเซียนออกมา และทำให้เขตแดนพลังของซู่เสี่ยวไป่ถูกยกระดับขึ้นอีกครั้งอย่างมหาศาล!
มันมากจนถึงขนาดที่ทำให้เฟิงหมิงนั้นสั่นสะท้านไปทั้งตัว และเสียอาการไปในทันที
“นี่…..เขาบรรลุวิชาอีกแล้วงั้นหรอ!!”
“ดูจากกลิ่นไอพวกนี้ และกระแสพลัง เป็นวิชาระดับเซียน….”
“และมากกว่าหนึ่งวิชาด้วย!”
เฟิงหมิงนั้นไม่สามารถสงบสติอารมณ์ลงได้ นัยน์ตาของนางกำลังสั่นเทาไปด้วยความหวาดกลัวกับพลังความเข้าใจของซู่เสี่ยวไป่
แม้ว่านางนั้นจะโด่งดังไปทั่วดินแดนกว้างใหญ่ แต่นางเองก็เคยตกตะลึงเกี่ยวกับบรรพชนของตัวเองที่สามารถพิชิตทั้ง 99 ขุนเขา 33 ชั้นฟ้าได้ แต่ก็๋มีตัวตนที่เหนือกว่าอย่างหยานคังเทียน ทำให้นางนั้นรู้ว่ามีตัวตนที่ทรงพลังยิ่งกว่าบรรพชนของตัวเองอยู่อีก
หยานคังเทียนนั้นคงฝึกฝนวิชาระดับเซียนจะบรรลุขั้นสูง
แต่ซู่เสี่ยวไป่สามารถสำเร็จวิชาระดับเซียนพร้อมกันได้มากกว่าหนึ่งวิชาในเวลาพร้อมกัน
การจะบรรลุวิชาระดับเซียนเพียงวิชาเดียวก็ยากเย็นแล้ว
แล้วสิ่งที่เฟิงหมิงเห็นนั้นคืออะไร มีตัวตนที่สามารถบรรลุวิชาระดับเซียนพร้อมกันได้อยู่ต่อหน้าเช่นนี้
“สมกับเป็นผู้ที่พิชิตหอคอยแห่งสัจจะคนแรกได้จริงๆ ศักยภาพของเขาไม่มีที่สิ้นสุด และมากกว่าที่ท่านอาจารย์ของเราประเมินเอาไว้!”
“ตอนนี้ความแข็งแกร่งของเขาเกือบจะทัดเทียมกับเราได้แล้ว”
“และยังเติบโตต่อไปได้อีก บางทีเขาอาจจะกลายเป็นจักรพรรดิฮัวคนที่สอง หรือจักรพรรดิเหลียงซานคนที่สอง”
เฟิงหมิงนั้นแอบเปรียบเทียบซู่เสี่ยวไป่กับตัวตนที่ยิ่งใหญ่
มีเซียนยุทธไม่กี่คนในดินแดนกว้างใหญ่ที่เฟิงหมิงให้ความสนใจ มีจักรพรรดิฮัวจากเผ่าอมะกระดูกโลหิต และจักรพรรดิเหลียงซานจากเผ่าอมตะภูผามายา
ผู้ที่ครองอับดับหนึ่งของ 33 ชั้นฟ้าคือจักรพรรดิฮัว และผู้ที่ครองอัมดับหนึ่งของ 99 ขุนเขาคือจักรพรรดิเหลียงซาน
สำหรับเฟิงหมิงแล้วตัวตนทั้งสองนั้นทรงพลังอย่างมากและยิ่งใหญ่ในสายตาของนาง พอแล้วที่จะดูถูกทุกอย่างบนดินแดนกว้างใหญ่ได้ แต่ในตอนนี้ตัวตนของซู่เสี่ยวไป่ในความคิดของเฟิงหมิงนั้นกำลังจะเทียบเท่ากับสองตัวตนนี้ แสดงให้เห็นเลยว่านางนั้นประเมินซู่เสี่ยวไป่ไว้สูงมาก
ส่วนหยานคังเทียนนั้นเป็นผู้ที่อยู่เหนือกว่านั้นเป็นผู้พิชิต 100 ขุนเขา 34 ชั้นฟ้า
ตัวตนของหยานคังเทียนนั้นเกินกว่าที่นางจะเข้าใจและไม่สามารถประเมินพลังได้ ต่อให้นางนั้นใช้เวลาทั้งชีวิตก็ยังไม่อาจจะติดตามตัวตนนี้ได้ทัน
ต่อให้ตัวตนของเตายี่ชิงหลงแข็งแกร่งแค่ไหนก็ตาม ก็ยังไม่อาจจะเทียบชั้นได้กับหยานคังเทียน!
“เมื่อไหรที่เราได้รับสมบัติมาบ้างแล้ว เราจะลองทะลวงด่านอีกครั้งเพื่อยกระดับความแข็งแกร่งของตัวเองขึ้นไปอีก….แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะพอที่จะทะลวงด่านย่อยได้ไหม”
จุดมุ่งหมายของเฟิงหมิงในการมาดินแดนราชาลับแลครั้งนี้ ก็เพื่อจะเก็บเกี่ยวสมบัติเพื่อนำมายกระดับควาามแข็งแกร่งให้กับตัวเอง ทำให้ตัวของนางนั้นเติบโตขึ้นไปอีกขั้นและปูทางสู่เขตแดนเซียนยุทธใหญ่!
เมื่อถึงเวลานั้น จะให้เป็น 99 ขุนเขาหรือ 33 ชั้นฟ้า เฟิงหมิงก็จะพิชิตได้ทั้งหมด
ขณะที่เฟิงหมิงกำลังครุ่นคิดไปต่างๆ นาๆ เกี่ยวกับตัวของซู่เสี่ยวไป่ ภาพเงามายาที่อยู่เบื้องหลังของซู่เสี่ยวไป่จากการสำเร็จวิชาระดับเซียนก็ค่อยๆ จางหายไป
ซู่เสี่ยวไป่เปิดดูค่าสถานะทันที
มนุษย์ : ซู่เสี่ยวไป่
เขตแดน : ราชาเทพยุทธหนึ่งหยวน
ระดับพละกำลัง: เซียนยุทธสี่วงแหวน
ระดับความคงทน: เซียนยุทธสี่วงแหวน
ระดับความว่องไว: เซียนยุทธสี่วงแหวน
แก่นจิตวิญญาณ: เซียนยุทธหนึ่งวงแหวน
เมื่อสำเร็จวิชาระดับเซียนสี่วิชา ในครั้งเดียวทำให้ความแข็งแกร่งของซู่เสี่ยวไป่ถูกยกระดับขึ้นจนเขตแดนพลังเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งขั้นทันที ทำให้เห็นว่าระหว่างขั้นของเซียนยุทธนั้นกว้างใหญ่ขนาดไหน
ต้องสำเร็จวิชาระดับเซียนถึงสี่วิชากว่าจะยกระดับได้!!
แต่พลังที่ได้รับมาจากวิชาระดับเซียนทั้งสี่วิชานั้นทำให้พลังของซู่เสี่ยวไป่มากกว่าเซียนยุทธสี่วงแหวนทั่วไป
มันเกือบจะทะลวงไปถึงเซียนยุทธห้าวงแหวนอยู่แล้ว
หากว่าบรรลุในขั้นผู้คิดค้นได้ ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะทำให้เขตแดนพลังกลายเป็นเซียนยุทธห้าวงแหวน
“ตอนนี้เราสำเร็จวิชาแล้ว ถึงเวลาเพิ่มระดับความสามารถของระบบ”
“เราต้องเร่งการฝึกวิชาระดับอมตะ…ระบบเพิ่มระดับพื้นที่ฝึกวิชาในคลิกเดียว!”
ซู่เสี่ยวไป่ออกคำสั่งทันที
“-เพิ่มระดับสำเร็จ-”
“-เพิ่มระดับพื้นที่ฝึกวิชาในคลิกเดียวเป็นระดับ 56-”
แล้วซู่เสี่ยวไป่ก็สังเกตเห็นถึงความผิดปกติที่ร้ายแรงจากการเพิ่มระดับความสามารถในครั้งนี้
“เดี๋ยวระบบ….มันเกิดบ้าอะไรขึ้น ทำไมค่าเพิ่มระดับมันถึงแพงขึ้นเป็นสิบเท่า ครั้งก่อนจากระดับ 54 ไป 55 ใช้แค่ 3.6 ล้านเท่านั้น ทำไมรอบนี้กลายเป็น 72.05 ล้านศิลาบรรพกาลระดับสูง?”
ซู่เสี่ยวไป่เริ่มถามกับระบบด้วยความหัวเสีย
มันเรื่องบ้าบออะไร แค่เพิ่มระดับเพียงครั้งเดียวเสียศิลาบรรพกาลไปถึง 72 ล้านก้อน แล้วตอนนี้ศิลาบรรพกาลที่เหลืออยู่ก็ไม่พอที่จะเพิ่มระดับอีกแล้วด้วยซ้ำ
“-เจ้านาย เนื่องจากพื้นที่ฝึกวิชาในคลิกเดียว ได้เพิ่มขีดจำกัด ทำให้ต่อไปนี้ทุกๆ ที่เพิ่มระดับครบ 5 ครั้งต่อไปจะต้องจ่ายเพิ่มอีก 10 เท่าในการเพิ่มระดับ-”
ระบบได้ตอบกลับมา
“ก็ได้ยอมก็ได้….ไม่คิดว่าแกจะผลาญเงินเก่งขนาดนี้”
ซู่เสี่ยวไป่ถึงกับกลอกตาไปหมดด้วยความที่ไม่อยากจะยอมรับเรื่องนี้สักเท่าไร
“-แต่เจ้านายหลังจากที่ความสามารถถูกเพิ่มขีดจำกัดไปแล้ว ทุกครั้งที่เพิ่มระดับครบ 5 ระดับจะได้รับความสามารถเสริมที่น่าตกใจ-”
“-และคุ้มค่าที่จ่ายแน่นอน-”
คำพูดของระบบได้ขายฝันให้ซู่เสี่ยวไป่จนรู้สึกเคลิ้มตามไปกับมัน
แต่ความสามารถเสริมผู้คิดค้น ที่ได้มานั้นถือว่าเป็นขีดจำกัดที่เสริมพลังให้กับเขาได้จริงๆ และเห็นผลในระยะยาว ต่อไปด้วยวิชาที่เหมือนกันแต่เขาจะแข็งแกร่งกว่าอย่างเห็นได้ชัด เงินที่จ่ายไปในการเพิ่มระดับในครั้งนั้นถือว่าคุ้มค่าอย่างมาก
“ตังคงไม่พอจะไปเพิ่มระดับพื้นที่ฝึกวิชาแล้ว….ต้องไปเพิ่มระดับพื้นที่ฝึกฝนในคลิกเดียวแทน”
“แต่ถ้าเพิ่มระดับมันจนเพิ่มขีดจำกัดอีก อาจจะมีความสามารถอะไรดีๆ ที่ระบบให้เราอีกก็ได้”
“ระบบเพิ่มระดับพื้นที่ฝึกฝนในคลิกเดียว
แล้วในทันทีซู่เสี่ยวไป่ก็เริ่มเอาเงินทั้งหมดไปถมให้กับพื้นที่ฝึกฝนในคลิกเดียว
ยังไงพื้นที่ฝึกฝนในคลิกเดียวนั้น นอกจากฝึกบ่มเพาะแล้ว ยังฝึกพลังจิตวิญญาณและวิถีฟ้าดินอีกด้วย การเพิ่มระดับมันก็ไม่เสียหาย
“-เพิ่มระดับสำเร็จ-”
“-เพิ่มระดับสำเร็จ-”
“-เพิ่มระดับสำเร็จ-”
…..
“-เพิ่มระดับพื้นที่ฝึกฝนในคลิกเดียวเป็นระดับ 50 -”
“-ติํ๊ง!! พื้นที่ฝึกฝนในคลิกเดียวถึงระดับ 45 ได้รับความสามารถเสริม *วิถีที่ 3*-”
“-*วิถีที่ 3* สามารถเรียนรู้วิถีฟ้าดินได้ 3 วิถีพร้อมกัน-”
“-ติํ๊ง!! พื้นที่ฝึกฝนในคลิกเดียวถึงระดับ 50 ได้รับความสามารถเสริม *วิถีที่ 4*-”
“-*วิถึที่ 4* สามารถเรียนรู้วิถีฟ้าดินได้ 4 วิถีพร้อมกัน-”
“-พื้นที่ฝึกฝนในคลิกเดียวถึงระดับ 50 ทำการเพิ่มขีดจำกัด-”
มันเหมือนกับตอนที่พื้นที่ฝึกวิชาในคลิกเดียวถูกยกระดับขึ้น ทุกอย่างภายในพื้นที่ฝึกฝนวิชาในคลิกเดียวกลายเป็นสีทองไปหมด
“เพิ่มระดับต่อ”
“-เพิ่มระดับสำเร็จ-”
“-เพิ่มระดับสำเร็จ-”
…..
“-เพิ่มระดับพื้นที่ฝึกฝนในคลิกเดียวเป็นระดับ 55 -”
“-ติํ๊ง!! พื้นที่ฝึกฝนในคลิกเดียวถึงระดับ 55 ได้รับความสามารถเสริม *บีบอัด*-”
“-*บีบอัด* ตบะการบ่มเพาะ พลังวิญญาณ และวิถีฟ้าดิน สามารถที่จะบีบอัดพลังให้หนาแน่นมากขึ้นกว่าเดิม และทำให้พลังเพิ่มมากขึ้นกว่าเก่าเป็น 10 เท่าหากทำการบีบอัด-”