ตอนที่ 110 340 ล้าน ในเวลา 1 เดือน

ตามเวลาที่คำนวนไว้จริงๆ ตอนนี้หุ้นในเซียงเจียงทั้งหมดน่าจะถูกขายแล้ว

สุดท้ายแล้วทาง HSBC จะได้กำไรเท่าไหร่กัน แล้วทางนั้นจะแบ่งให้กับเรากี่ %

ที่ตกลงไว้ตอนแรกคือ 35% สำหรับเงินทุน 1,000 ล้าน แต่ตอนนี้เงินทุนได้เพิ่มขึ้นแล้ว สัญญาเก่าจะต้องยกเลิกแล้วเปลี่ยนใหม่ จางหม่านคงเดินเรื่องนี้ให้เรียบร้อยแล้ว

จะเป็นเงินกี่ร้อยล้านกันนะ…

ซูข่านลุกขึ้นยืนและเดินออกไปข้างนอกบ้าน

ซู่เฟิงมองไปหลังของซูข่าน เขาก็รู้สึกได้ถึงความยิ่งใหญ่ของชายคนนี้

ซูข่านเดินออกจากบ้านและเดินไปที่แผงขายหนังสือพิมพ์วันก่อน

พอใกล้ถึงร้านซูข่านก็เห็นกลุ่มคนแก่ที่กำลังเล่นหมากรุกอยู่หลายคน ช่วงเวลานี้การเล่นหมากรุกมักจะเป็นกิจกรรมยอดนิยมของคนสูงอายุในหนานจิง

มันเป็นภาพที่หาได้ยากในยุคปัจจุบัน หลังจากการเข้ามาของโทรศัพท์มือถือ การใช้ชีวิตของคนก็ได้เปลี่ยนไป กิจกรรมของคนส่วนใหญ่คือการอยู่กับโทรศัพท์ทั้งวัน

หลังจากซูข่านเดินเข้ามาในร้าน ก็มีลุงคนหนึ่งหัวเราะขึ้นมา

"ฮ่าๆ พ่อหนุ่มวันก่อนนี้ ไม่ต้องห่วงวันนี้พี่หวางไม่อยู่"

"ใช่ๆ ไม่ต้องกลัวพี่หวางแนะนำหลานสาวของเขาหรอก"

ซูข่านกลอกตามองบนเล็กน้อย คนพวกนี้ได้จำภาพลักษณ์ของเขาแบบผิดๆไปซะแล้ว

"เอ้า รีบเดินสักทีเดี๋ยวก็โดนกินหรอก"

ชายชราอีกได้หันมาพูดกับลุงที่แซวซูข่าน

"เดี๋ยวสิ กำลังใช้ความคิดอยู่"

ซูข่านเห็นก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ คนพวกนี้ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้รวยล้นฟ้า แต่พวกเขาก็มีความสุขกับการชีวิตไปวันๆ

ความสุขของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน เช่นเดียวกันตอนนี้ซูข่านก็มีความสุขมาก

"พี่หวางบอกว่า พ่อหนุ่มคุยภาษาอื่นโม้โอ้อวดไปเรื่อย วันนี้พ่อหนุ่มจะมาทำเหมือนเดิมไหมล่ะ"

ลุงอีกโต๊ะหนึ่งพูดขึ้นมา

"อย่าไปสนที่เฒ่าหวางพูดเลย เล่นต่อเถอะ"

ชายชราอีกคนหนึ่งก็ได้พูดขึ้นมา พร้อมกับหันมายิ้มให้ซูข่าน

ซูข่านได้ยินเขาก็ยิ้มเล็กน้อย อย่างน้อยก็มีคนที่ไม่สนใจเขาเหมือนกัน ซูข่านหยิบโทรศัพท์และโทรไปที่เซียงเจียงทันที

ไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงรับโทรศัพท์ ซูข่านชิงพูดตัดหน้าก่อนอีกฝ่าย

"ฉันชื่อซู ขอสาย.."

จากนั้นสาวแผนกต้อนรับก็ได้โอนสายไปยังห้องของจานหม่านทันที

"เจ้านายคะ"

จางหม่านพูดด้วยความตื่นเต้นว่า

"ในที่สุดคุณก็โทรมาสักที ฉันบอกกับหัวหน้าสูไปตั้งหลายวันแล้ว"

"เอาน่า ที่นี่ก็ยุ่งเหมือนกัน"

"สรุปแล้วตอนนี้เงินเข้าบัญชีรึยัง?"

จากนั้นจางหม่านก็ลดความตื่นเต้นของตัวเองลงและพูดช้าๆว่า

"เจ้านายคะ เมื่อสองวันก่อน HSBC ได้คำนวนเงินที่ได้มาทั้งหมดจากหุ้นที่ขายไป"

"หุ้นทั้งหมดที่ HSBC ขายได้ทั้งหมดคือ 3,500 ล้าน แต่ยังไม่ได้หักค่าธรรมเนียนในการจัดการ"

3,500 ล้าน นี่คือจำนวนเงินที่มหาศาลมาก

ตอนแรกที่หวางมันหยูและซูข่านได้เจรจากัน ทุนเริ่มต้นคือ 1,000 ล้านโดยทำกำไร 500 ล้านแลกกับ 35%

ต่อมาทุนดังกล่าวได้เพิ่มขึ้นไปอีก 1,000 ล้าน กลายเป็น 2,000 ล้าน

เงินทุน 2,000 ล้านที่ลงไปกับตลาดหุ้นอเมริกา ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ตลาดหุ้นฮ่องกง และในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ โดยตามคำแนะนำของซูข่านทั้งหมด

"เจ้านายคะ คุณช่างเป็นคนที่สุดยอดที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลยค่ะ"

จางหม่านอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากชมเจ้านายของเธอ เจ้านายของเธอเหมือนกับเทพเจ้าที่หยั่งรู้อนาคตมาก

หุ้นแต่ละตัวที่เขาเลือกล้วนได้กำไรทั้งหมด มีไม่ถึง 1% ที่ขาดทุน

แต่รวมๆแล้ว เขาสามารถทำกำไรจากหุ้นได้มากกว่าเกือบเท่าตัวของเงินทุน

ซูข่านถามขึ้นมาว่า

"รวมๆแล้วเราได้เท่าไหร่?"

จางหม่านสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะพูดว่า

"เจ้านายคะ เมื่อหักค่าธรรมเนียมแล้วกับสัญญาฉบับใหม่"

"กำไรกับหุ้นส่วนที่ทางบริษัทได้รับประมาณ 340 ล้านค่ะ"

จางหม่านไม่อาจซ่อนความตื่นเต้นของเธอได้

"นี่เป็นการดำเนินการที่น่าทึ่งที่สุดในชีวิตของฉันเลยค่ะ นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมาประมาณ 40 วัน เราสามารถทำกำไรได้สูงถึง 340 ล้าน"

"กำไรมากขนาดนี้ ต่อให้รวมกำไรทุกบริษัทในเซียงเจียง ยังน้อยกว่าเราอีกนะคะ"

กำไรเดือนแรก 340 ล้าน

บริษัท ว่านเซี่ยง กรุ๊ป ใช้เวลาเพียงสั้นๆก็สามารถสร้างความสำเร็จที่หาได้ยากในเซียงเจียง

สำหรับจางหม่านแล้ว จากเป็นคนเรร่อนตกงาน หลอกคนอื่นไปวันๆ ตอนนี้เธอกลับได้ตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่ของบริษัทที่เงินสะพัดขนาดนี้แล้ว

ทั้งหมดเป็นโอกาสที่ซูข่านยื่นให้ในวันนั้น เธอแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเหมือนกัน

บางครั้งเธอก็รู้สึกเหมือนกับว่ากำลังฝันอยู่ เธอได้หยิกที่แก้มที่ขาวนุ่มของเธอ

แต่เธอก็รู้สึกความเจ็บ เธอไม่อยากจะเชื่อว่าชีวิตของเธอได้เปลี่ยนไปเพียงได้เจอกับชายที่ชื่อซูข่าน

"340 ล้านงั้นเหรอ"

ซูข่านกระซิบเบาๆ เขากลัวว่าลุงๆหรือคนแก่แถวนี้ ที่รู้จักภาษาจีนกวางตุ้งจะได้ยิน

ซูข่านคำนวนในใจสักครู่เขาก็รู้ว่าสัญญาฉบับใหม่ที่จางหม่านไปทำคือ 25% ของกำไรทั้งหมด

ซึ่งถึงมันจะไม่ได้เยอะแถว 35% ตอนแรก แต่ต้องอย่าลืมว่าต้นทุนเพิ่มขึ้นถึง 1,000 ล้าน

กำไรมากขนาดนี้ซึ่งเยอะกว่าที่ซูข่านได้คาดการณ์ไว้

จางหม่านพูดต่อว่า

"หลังจากที่ลงฟิวเจอร์น้ำมันได้ไม่นาน ตอนนี้ราคาน้ำมันโลกได้ขึ้น 2 ดอลล่าห์แล้วค่ะ"

ซูข่านหลังจากที่ได้ยินดวงตาของเขาก็สว่างขึ้นมาทันที

แน่นอน นี้คือจุดเริ่มต้นของราคาน้ำมันที่เข้าสู่ช่วงการเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่งและไม่มีใครมาหยุดได้