Ep.254 - การล่าที่สมบูรณ์แบบ
2/2
Ep.254 - การล่าที่สมบูรณ์แบบ
ผู้บัญชาการค่ายทหารมิโนทอร์
มอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่นขั้นบรอนซ์เลเวล 8
เจ้าตัวนี้มีพลังชีวิตมากถึง 750 หน่วย!
นอกจากนี้ พลังป้องกันของมันสูงจนผิดปกติ พลังโจมตีก็สูง และพลังในการฟื้นฟูก็แก่กล้ามาก
ขณะที่พ่อมดและนักบวชมิโนทอร์ที่ฮังอวี่ฆ่า พลังชีวิตของพวกมันมีราวๆ 200 หน่วยเท่านั้น ค่าคุณสมบัติด้อยกว่าผู้บัญชาการค่ายทหารมิโนทอร์มาก แต่ก็เพราะสาเหตุนี้เช่นกัน ที่ทำให้เจ้า BOSS ตัวนี้เป็นถึงระดับเจ้าถิ่น
เป็นเรื่องยากมากหากคิดสังหารระดับเจ้าถิ่นเพียงลำพัง!
ตามปกติแล้วมีแต่ต้องร่วมมือกันเท่านั้นจึงจะทำได้
ตามข้อมูลของฮังอวี่ ผู้บัญชาการค่ายทหารมิโนทอร์มีสกิลโจมตี 7 - 8 สกิล ไล่ตั้งแต่สกิลโจมตีระยะไกล พุ่งเข้าชาร์จอย่างรวดเร็ว และโจมตีคอมโบ สามารถโจมตีได้ในหลากหลายตำแหน่ง
ถ้าต้องเผชิญหน้ากับมัน
หากเป็นคนอื่น ต่อให้แข็งแกร่งกว่าฮังอวี่ในตอนนี้
ก็เกรงว่าจะเป็นเรื่องยากมากที่จะโค่นมัน
สถานการณ์ในตอนนี้ ตัวรับกระสุนทั้งหมดถูกกำจัดลงแล้ว หวังเอ๋อกำลังถูกไล่ล่า มีแผลถูกฟันหลายแห่งดูน่าสงสาร อาการบาดเจ็บดูสาหัสมาก หมดสิ้นซึ่งความสง่างามของราชาหมาป่า
ฮังอวี่หยิบธนูคำสาปหินออกมาอีกครั้ง
เปิดใช้งานสกิลศรพริบตา!
ฟัฟ ฟัฟฟ ฟัฟฟฟ!
ผู้บัญชาการค่ายทหารมิโนทอร์กำลังจะลงมือเชือดสุนัข แต่กลับถูกยิงด้วยศร 5 - 6 ดอกติดต่อกัน ส่งผลให้เกิดเอฟเฟกต์กลายเป็นหิน ร่างของมันแข็งทื่อเล็กน้อย แต่ก็กลับคืนสู่สภาพปกติอย่างรวดเร็ว
สุนัขฉวยโอกาสทองนี้หลบหนีออกไป เว้นระยะห่างจากรัศมีโจมตี
ธนูคำสาปหินสามารถกำราบมอนสเตอร์ชั้นยอดได้อย่างดีเยี่ยม
หากยิงโดน เอฟเฟกต์หนึ่งสามารถคงอยู่ได้เกือบหรือเกินหนึ่งวินาที
ทว่าสำหรับ ผู้บัญชาการค่ายทหารมิโนทอร์ เอฟเฟกต์นี้แสดงผลไม่ถึงครึ่งวินาที
ผู้บัญชาการค่ายทหารมิโนทอร์ยังไม่ทันตกอยู่ในสถานะกลายเป็นหิน เอฟเฟกต์ก็หายไปแล้ว อีกทั้งระหว่างโดนเอฟเฟกต์ ร่างของมันก็มิได้แข็งทื่ออย่างสิ้นเชิง เพียงเชื่องช้าลงชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น
แต่นี่ช่วยไม่ได้
ก็ใครใช้ให้มันเป็นมอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่นกัน?
ความต้านทานสถานะผิดปกติของมันจึงสูงมาก
-6, -7, -6, -6, -6 ......
เมื่อเห็นดาเมจที่ทำได้ สีหน้าของฮังอวี่หมองลงมาก เขาคือตัวตนที่สามารถสืบทอดมรดกขั้น 2 ได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งยังถืออาวุธสีเขียวใสเลเวล 7 บวกกับใช้ศรพริบตายิงด้วยความเร็วเต็มพิกัด
แต่ดาเมจโดยเฉลี่ยที่ทำได้กลับไม่ถึง 7 หน่วย!
ซึ่งหลังจากที่พลังชีวิตของผู้บัญชาการค่ายทหารมิโนทอร์ลดลง มันสามารถฟื้นตัวด้วยความเร็ว 2 หน่วยต่อวินาที หรืออาจมากกว่านั้น
ไม่เพียงครอบครองพลังป้องกันอันแสนร้ายกาจ
แต่พลังในการฟื้นฟูยังโหดเหี้ยมมาก
เรียกได้ว่าขี้โกงสุดๆ!
หวังเอ๋อรอดชีวิตหวุดหวิด
ผู้บัญชาการค่ายทหารมิโนทอร์ถูกเบี่ยงความสนใจ มันหันหลังกลับทันที ขว้างขวานรบขนาดมหึมา เหวี่ยงคมขวานทั้งสองด้านออกไปพร้อมกับสร้างลมพายุหมุน
แห่งหนใดที่มันกวาดผ่าน
แห่งหนนั้นถูกทำลาย
ท่านี้ไม่ใช่แค่โจมตีในระยะไกลได้เท่านั้น แต่มันยังรวดเร็วและทรงพลัง ... อีกทั้งตัวขวานยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่นติดตาม สามารถเปลี่ยนวิถีและไล่ตามเป้าหมายได้
ฉะนั้นหากคิดหลบเลี่ยงกระบวนท่านี้
จะต้องมีความว่องไวและความเร็วในการเคลื่อนที่ที่สูงเป็นพิเศษ
ฐานค่าความว่องไวของฮังอวี่มีมากกว่า 10 หน่วยแล้ว บวกกับโบนัสของชุดเซ็ทการ์กอย 10 หน่วย โบนัสจากหอกประกายแสง 5 หน่วย หน้ากาก 2 หน่วย และโบนัสจากโพชั่น ฯลฯ ทำให้ความว่องไวของเขาไม่น้อยไปกว่า 30 หน่วย!
ผลที่ตามมาก็คือ
การโจมตีของมอนสเตอร์ในช่วงต้นเกม ไม่มีทางไล่ตามเขาได้ทันอย่างสิ้นเชิง
คมขวานเหวี่ยงเข้าประชิด และมันกำลังจะเฉือนถึงตัว
แต่ในจังหวะนั้นเอง ฮังอวี่เปิดใช้งานโจมตีลมกรด พุ่งหลบในวินาทีสุดท้าย ขวานมหึมาปักลงพื้น ก่อผลพวงจากแรงพายุหมุนกวาดออกไป 10 เมตร ทุบพื้นยุบเป็นหลุมขนาดใหญ่
เฉียดฉิว!
ถ้าโดนมันเข้าเต็มๆล่ะก็จบเห่แน่!
ผู้บัญชาการค่ายทหารมิโนทอร์กางมือไปในอากาศ ขวานสองคมลอยกลับมาในมือของมันทันที
มันเปล่งเสียงร้อง วิ่งด้วยความเร็วสูงที่ไม่สัมพันธ์กับขนาดตัว จากนั้นกระโจนขึ้นฟ้า สับขวานรบด้วยมือทั้งสองข้างลงมาด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง!
เปิดใช้งานก้าววายุ!
ร่างฮังอวี่วูบไหวและหายวับไปทันที
คมขวานอันทรงพลังของมิโนทอร์สับลง ผ่าพื้นสร้างรอยแยกลุกลามไปหลายเมตร
ฮังอวี่ว่องไวเกินไป เขาสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว กระทั่งผู้บัญชาการค่ายทหารมิโนทอร์ก็ยังล้มเหลวในการโจมตีเขา
ผู้บัญชาการค่ายทหารมิโนทอร์หันไปรอบๆ มองหาเป้าหมายด้วยความโกรธ แต่กลับพบว่ากลิ่นอายของคู่ต่อสู้หายไปแล้ว และมีศรแหลมปรากฏขึ้นจากในอากาศแทน
-4, -5, -4, -4, -5 ......
ร่างมหึมาของมิโนทอร์ถูกยิงอย่างต่อเนื่อง แม้ดาเมจที่เกิดจากลูกศรจะไม่สูง แต่ก็ทำให้พลังชีวิตของมันลดลงอย่างช้าๆ ในระหว่างกระบวนการนี้ เอฟเฟกต์กลายเป็นหินยังคงแสดงผลอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้บัญชาการค่ายทหารมิโนทอร์ชะงักเป็นพักๆ
มีเรื่องกับเจ้าตัวอันตรายแบบนี้
หากไม่จำเป็น ห้ามเสี่ยงโดยเด็ดขาด!
ในฐานะเจ้าถิ่น ผู้บัญชาการค่ายทหารมิโนทอร์มีจิตรับรู้ที่มากกว่าชนชั้นยอด เช่นภายใต้สถานะจู่โจมมุมอับของฮังอวี่ ตราบใดที่เขาอยู่ห่างจากมิโนทอร์ชั้นยอดเกิน 5 เมตร พวกมันจะไม่สามารถรับรู้ถึงการมีอยู่ของเขาได้
แต่ผู้บัญชาการค่ายทหารมิโนทอร์จะแข็งแกร่งกว่าเล็กน้อย
มันมีระยะการรับรู้ 20 - 30 เมตร
ณ จุดนี้ ฮังอวี่จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องใช้ก้าววายุร่วมกับจู่โจมมุมอับ เพื่อที่จะเคลื่อนไหวและโจมตีได้รวดเร็วขึ้นในระยะที่ไกลกว่า 30 เมตร
ฮังอวี่เชื่อว่าการใช้ข้อได้เปรียบในด้านความว่องไว ความปราดเปรียว สกิล และอาวุธของเขา เมื่อนำทุกอย่างมารวมกัน ย่อมสามารถกำจัดเป้าหมายได้ และผลก็เป็นอย่างที่เขาคิดจริงๆ
เอฟเฟกต์ของธนูคำสาปหินแม้แสดงผลต่อมอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่นเพียงเล็กน้อย
แต่ก็ยังสามารถทำให้ผู้บัญชาการค่ายทหารมิโนทอร์เชื่องช้าลงได้ และทุกครั้งที่มันเริ่มจะโจมตี ฮังอวี่ก็ถอยห่างออกไปก่อนแล้ว ดังนั้นทุกการโจมตีจึงล้มเหลว
ขอเวลาสักนิด
ฉันก็จะฆ่าเจ้าหมอนี่ได้!
แค่อดทนเข้าไว้!
และระหว่างนั้นต้องไม่มีข้อผิดพลาด!
ฮังอวี่รู้สึกว่าสกิลจู่โจมมุมอับของเขากำลังจะหายไป จึงตัดสินใจยิงศรจู่โจม จากนั้นใช้ศรพริบตา 3 -4 ดอก แล้วใช้ท่าประจัญบานพุ่งไปในทิศทางตรงกันข้ามกับผู้บัญชาการค่ายทหารมิโนทอร์ แล้วต่อด้วยสกิลโจมตีลมกรด
เฝ้ารอจนระยะเวลาคูลดาวน์หมดลง
แล้วค่อยเปิดใช้งานจู่โจมมุมอับ เข้าโจมตีอีกครั้ง
กลวิธีนี้ขี้โกงมาก มันเข้ากลืนกินจุดอ่อนของมิโนทอร์อย่างสิ้นเชิง ผู้บัญชาการค่ายทหารมิโนทอร์ไม่สามารถสำแดงพลังรบอันเหี้ยมหาญของมันได้เลย แม้อัตราการสูญเสียพลังชีวิตจะเป็นไปอย่างเชื่องช้า แต่ก็ค่อยๆลดลงอย่างต่อเนื่อง
กระบวนการนี้ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ
และกินเวลาถึงหนึ่งชั่วโมงเต็ม
ฮังอวี่ใช้ลูกศรไปกว่า 1000 ดอก
ศรที่เตรียมมาถูกใช้ไปจนเกือบหมด
ผู้บัญชาการค่ายทหารมิโนทอร์ทนไม่ไหวอีกต่อไป
ตั้งแต่ต้นจนจบ ภายใต้ความว่องไวอันน่าทึ่ง การเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว การจับจังหวะการต่อสู้อันยอดเยี่ยม และการทำนายรูปแบบการใช้สกิลอย่างแม่นยำที่เกิดจากผู้บัญชาการค่ายทหารมิโนทอร์ ในที่สุดมันก็ตายลง พลังชีวิตเหือดแห้งจนเหลือ 0
มอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่นปลดปล่อยแต้มวิญญาณออกมาประมาณ 800 แต้มในลมหายใจเดียว
ฮังอวี่ได้มา 600 แต้ม ส่วนหวังเอ๋อได้ไป 200 แต้ม
“ฮ่ง สำเร็จ ... สำเร็จแล้ว!”
“สมกับที่เป็นมอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่น หนังเหนียวจริงๆ!”
“ถ้าไม่ใช่เพราะฉันมีพลังฟื้นฟูพลังจิต 1 หน่วยต่อวินาที คงได้หมดแรงก่อนฆ่ามัน”
แม้แต่ฮังอวี่ยังรู้สึกเหนื่อยล้า
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะเขาต้องจดจ่อสมาธิอยู่กับมันนานกว่าหนึ่งชั่วโมงเต็ม
ระหว่างนั้นเขาต้องคอยผลัดเปลี่ยนสกิลไปเรื่อยๆ และทุกอย่างต้องไม่มีผิดพลาด ไม่เช่นนั้นจะยุ่งยากมากหากถูกโจมตีตอบโต้
โชคดีที่เขามีความคล่องตัวสูง
โชคดีที่มีเอเฟกต์พิเศษของธนู
มิฉะนั้น ด้วยพลังรบของฮังอวี่ในตอนนี้ คงเป็นเรื่องยากมากที่จะท้าทายระดับเจ้าถิ่นเลเวล 8 โดยไม่พึ่งพาผู้สนับสนุนจากรอบนอก
หวังเอ๋อพูดกับตัวเอง “ตายแล้ว ในที่สุดมันก็ตาย ถูกเจ้านายยิงพรุนเป็นเม่น แถมตั้งแต่ต้นจนจบแม้แต่เส้นผมของเจ้านายมันก็ยังแตะต้องไม่ได้”
“เจ้าหมา”
“นายพึมพำอะไรอยู่?”
“ฮ่ง ก็เรื่องที่เจ้านายฆ่าระดับเจ้าถิ่นคนเดียวมันเจ๋งมาก หวังเอ๋อเลยใช้ร่างแยกบรรยายสดให้เสี่ยวเจียงฟัง” ฮัสกี้พ่นน้ำลายพลางกระดิกหาง “เปิ่นหวังทำแบบนี้เพราะคิดว่าพวกเขาจะต้องตกใจกับฝีมือของเจ้านาย”
ฮังอวี่นิ่งมองสุนัข
“เป็นหมาที่ช่างพูดซะจริง”
“ฮ่ง เจ้านาย จะไม่ช่างพูดได้อย่างไร?” หวังเอ๋อกล่าวด้วยท่าทีจริงจังว่า “การเพิ่มชื่อเสียงให้เจ้านายคือหน้าที่ของสุนัข”
“หุบปากซักที แล้วก็เลิกทำตัวเป็นหมาขี้ขลาด วิ่งออกไปสำรวจรอบๆซะ ดูว่ามีหีบสมบัติหรืออะไรอีกไหม”
“ฮ่ง น้อมรับคำสั่ง”
ฮัสกี้วิ่งเหยาะด้วยขาทั้งสี่ข้าง
ฮังอวี่เดินเข้าไปยังศพของผู้บัญชาการค่ายทหารมิโนทอร์ที่ถูกปกคลุมไปด้วยลูกศรหัก เขาพบว่ามีบอลสีเขียว 3 ลูก บอลแสงสีขาว 4 ลูก และหินคริสตัลเขียวกว่า 30 ก้อน นับเป็นผลเก็บเกี่ยวที่ค่อนข้างดี
อันดับแรก ตรวจสอบไอเท็มที่ได้มาก่อน
และสิ่งที่ทำให้ฮังอวี่ต้องตกใจก็คือ มันมีหินสกิลสีเขียวรวมอยู่ด้วย
ฮังอวี่ไม่ต้องตรวจดูข้อมูลด้วยซ้ำว่าหินสกิลนี้คืออะไร เพราะมองแค่สีของพลังงานวิญญาณ เขาก็ทราบได้ทันทีว่าอย่างน้อยที่สุดนี่คือหินสกิลขั้น 2 และน่าจะเป็นสกิลหลักของมรดกซะด้วย
หินสกิลหลักของมรดกเป็นของที่มีราคาแพงมาก
ขนาดสกิลหลักของมรดกขั้น 2 ที่ไม่เป็นที่นิยมก็ยังมีค่าถึง 100 หินคริสตัลเขียว และหากมันได้รับความนิยม อาจมีราคาสูงถึงหลายร้อยหินคริสตัลเขียว