802 - คัมภีร์โบราณที่ซ่อนอยู่
802 - คัมภีร์โบราณที่ซ่อนอยู่
“มรดกที่จักรพรรดิโบราณทิ้งไว้นั้นช่างน่ากลัวจริงๆ…”
เย่ฟ่านถอนหายใจ จี้ฮ่าวเยว่ต้องมีทักษะศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ ว่ากันว่าคัมภีร์โบราณของจักรพรรดิโบราณนั้นมีความลับอื่นๆ ซ่อนอยู่
แม้ว่าตระกูลจี้จะเป็นทายาทสายตรง แต่ก็มีเพียงผู้ยิ่งใหญ่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเดินตามเส้นทางที่ยากลำบากนั้นได้สำเร็จ
คัมภีร์แห่งความว่างเปล่าซึ่งเป็นศิลปะศักดิ์สิทธิ์ถูกคิดค้นโดยจักรพรรดิโบราณและทุกคนที่ได้เห็นมันได้ตายไปจนหมดแล้ว จนถึงตอนนี้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่ามันน่ากลัวขนาดไหน
“ข้าขอถามชื่อท่านได้ไหม?” จีจื่อเยว่ถามใบหน้าของนางสงบและดวงตามีความขบขันอยู่เล็กน้อย
เย่ฟ่านชำเลืองมองและรู้สึกว่าอีกฝ่ายอาจเดาบางอย่างได้ นิ้วของเขากระตุกเบาๆ และเขาต้องการแกล้งทำเป็นว่าไม่รู้จักพี่น้องคู่นี้
“เจ้าจะขอบคุณข้าไปเพื่ออะไร บางทีข้าอาจจะทำสิ่งนี้เพื่อได้ฆ่าพี่ชายของเจ้าด้วยตัวเองเท่านั้น”
“ทำไมเจ้าถึงอยากฆ่าพี่ชายของข้าล่ะ?”
จี้จื่อเยว่ไม่พอใจ และมองดูเขาด้วยดวงตาที่กลมโต มีรอยย่นหว่างคิ้วเล็กน้อยซึ่งเสริมเสน่ห์ทำให้นางดูงดงามมากยิ่งขึ้น
“ตอนนี้เจ้าจะไปไหน?”
ดวงตาของหญิงสาวเปล่งประกายพร้อมกับลักยิ้มน้อยๆที่น่ารักบนแก้มที่ขาวเหมือนหยก จากนั้นนางก็หัวเราะและกล่าวว่า
“ขอบคุณที่ช่วยพวกเราไว้”
นางปาดน้ำตาพร้อมกับจับจ้องไปยังเย่ฟ่านโดยไม่ปล่อยให้เขาละสายตาไปได้
“มีดอกไม้ติดที่หน้าข้าหรือ?” เย่ฟ่านถาม
“ข้ากำลังคิดว่าจะขอบคุณเจ้าอย่างไรดี”
จี้จื่อเยว่ยิ้มหวาน เขี้ยวเล็กๆของนางทำให้รอยยิ้มของหญิงสาวมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น นางย่นจมูกแล้วกล่าวว่า “เจ้าดูเหมือนสหายเก่าของข้าเลย”
เย่ฟ่านรู้ดีว่าตัวตนของเขาถูกเปิดเผยแล้ว เมื่อนางสังเกตเห็นบางอย่างนางไม่สามารถปกปิดความตื่นเต้นของตัวเองได้อย่างแน่นอน และจะต้องแสดงความอวดรู้ออกมาทุกครั้ง
“เจ้าไม่อยากรู้หรือว่าคนที่ข้ารู้จักเป็นคนอย่างไร?” จี้จื่อเยว่หัวเราะ
“อย่างไร”
“เจ้าหมอนั่นน่ะหรือ เก่งเรื่องลักพาตัว ทั้งเจ้าชู้ ทำเรื่องเลวร้ายทุกอย่าง ฆ่าได้แม้กระทั่งสุนัข… เลวเกินกว่าผู้คนจะกล่าวออกมาได้ หากเขาไม่เลวถึงขนาดนั้นเขาจะเป็นคนที่ถูกฟ้าผ่ามากที่สุดในโลกได้อย่างไร”
จี้จื่อเยว่กระพริบตา หักนิ้วเรียวงามของนางดังกร็อบแสดงท่าทางดุร้ายขึ้นทันที
หน้าผากของเย่ฟ่านมีเส้นสีดำปรากฏขึ้น เขาหันหลังกลับและกล่าวว่า
“ข้าจะไปแล้ว”
“หยุดก่อน!” จี้จื่อเยว่ร้องเสียงดังและวิ่งไปขวางทางของเขา
“เจ้าอยากให้ข้าแทงพี่ชายของเจ้าจนตายจริงๆ?” เย่ฟ่านกล่าวด้วยรอยยิ้มเย็นชา
“เจ้ากล้า?”
จี้จื่อเยว่กำลังสังเกตเขาอย่างละเอียด ผิวของนางขาวราวกับหิมะ ดวงตาของนางเต็มไปด้วยดวงดาว จมูกของนางมีรอยย่น นางพึมพำหลังจากคิดบางอย่างอยู่ในใจ
“เจ้าเป็นผู้ช่วยชีวิตเรา เจ้าจะทำแบบนี้ได้อย่างไร?”
“อ้อ เจ้าต้องการตอบแทนข้าหรือ? ข้าขอแค่คัมภีร์โบราณเท่านั้น” เย่ฟ่านยิ้มแล้วเดินไปข้างหน้าอีกครั้ง
“ทำไมเจ้าถึงรีบไปล่ะ หากเจ้ากลายเป็นศิษย์ของตระกูลจี้ ข้าจะส่งต่อคัมภีร์แห่งความว่างเปล่าให้เจ้า”
อีกด้านหนึ่ง หน้าผากของจี้ฮ่าวเยว่เริ่มมีเส้นสีดำ เขาเหลือบมองที่น้องสาวตัวน้อยด้วยความไม่พอใจ
“เฮ้ เฮ้ ข้าอยากจะให้คัมภีร์โบราณแก่เจ้าจริงๆ ทำไมเจ้าถึงไม่ยอมเชื่อสักที?” จี้จื่อเยว่ไล่ตามเขาอีกครั้ง ดวงตาของนางมีประกายความขี้เล่น
“ถ้าเจ้าถ่ายทอดคัมภีร์โบราณให้ข้า พี่ชายของเจ้าต่างหากจะเป็นคนเคราะห์ร้าย เพราะเขาต้องลงมือกับข้าอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นเขาก็จะถูกข้าทุบตีราวกับสุนัขตัวหนึ่ง” เย่ฟ่านเหลือบมองที่จี้ฮ่าวเยว่
“เพ้ย! พี่ใหญ่ของข้าไม่ได้กระจอกถึงขนาดนั้น”
จี้จื่อเยว่ตะโกนอย่างไม่พอใจ นางมองเข้าไปในส่วนลึกของโลกคฤหาสน์เซียนด้วยดวงตากลมโตก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า
“ให้ข้าบอกความจริงกับเจ้า โลกใบนี้อาจมีจักรพรรดิโบราณตัวเป็นๆประทับอยู่ ส่วนเรื่องคัมภีร์โบราณระดับจักรพรรดิมันมีอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน”
เย่ฟ่านใจสั่น แม้ว่าตระกูลจี้จะอยู่ไกลออกไปทางทิศตะวันออก แต่บรรพบุรุษของพวกเขาก็มีจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่อยู่ด้วย พวกเขาต้องรู้ความลับบางอย่าง
สถานที่แห่งนี้เป็นโลกอมตะ ก่อนหน้านี้เขาได้ยินเสียงสงครามครั้งใหญ่เกิดขึ้น ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ใช่ระดับที่ยอดฝีมืออาณาจักรแปรงมังกรหรือผู้สูงสุดจะทำได้
เขาสงสัยว่าเสียงการต่อสู้นั้นอาจจะเป็นสงครามของผู้อมตะ
แม้ว่าคนนอกอาจไม่รู้เรื่องนี้ แต่ผู้คนจากตระกูลจี้ที่เป็นทายาทของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่จะต้องรู้บางอย่างไม่มากก็น้อย
“เป็นอย่างไร เจ้าสนใจแล้วใช่หรือไม่?” จี้จื่อเยว่ยิ้มอย่างมีความสุข และนางก็ตั้งตารอด้วยด้วยดวงตาเป็นประกาย
เย่ฟ่านอดไม่ได้ที่จะถูคางและคิดอย่างรอบคอบ ทันใดนั้นเขาก็คิดว่านิสัยนี้ไม่ควรถูกแสดงออกมาจึงรีบดึงมือลงอย่างรวดเร็วแต่มันไม่ทันแล้ว
ตอนนั้นเองที่จี้จื่อเยว่ปรบมือพร้อมกับเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนาน
“เจ้าชื่ออะไร ข้าหมายความว่าตอนนี้เจ้าชื่ออะไร?” เสี่ยวเยว่ของตระกูลจี้ถามอย่างซุกซน
จี้ฮ่าวเยว่ที่เฝ้าอยู่ข้างๆไม่สามารถทนได้อีกต่อไป ทันทีที่เห็นว่าน้องสาวของเขากำลังเสียมารยาทเขาก็เดินเข้ามาด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย
“เย่เจ๋อเทียน” เย่ฟ่านกล่าวสามคำนี้
“อา เจ้านี่เองที่เป็นคนกินอสูรวิญญาณของคนอื่น” จี้จื่อเยว่อ้าปากพร้อมกับหัวเราะคิกคัก
จี้ฮ่าวเยว่ก็ตกตะลึง มีข่าวขุนนางระดับสูงคนหนึ่งอยู่นอกหุบเขาเซียน เขามีความกล้าหาญมากถึงกับสามารถเอาชนะศิษย์หลายคนของสำนักฉีซื่อได้ มิหนำซ้ำเขายังกินอสูรวิญญาณไปมากมายอีกด้วย
จี้จื่อเยว่หยุดหัวเราะไม่ได้แล้วถามว่า “ได้ยินมาว่าปรมาจารย์ฉีก็ถูกเจ้าจับตัวไป ตอนนี้นางอยู่ที่ไหนเจ้าทำอะไรกับนางบ้าง?”
“ข้ายังไม่ได้ฆ่านาง นางเป็นสาวใช้ที่คอยชงชาให้ข้า” เย่ฟ่านตอบ
จี้ฮ่าวเยว่มีสีหน้าบิดเบี้ยวและกล่าวด้วยความเป็นห่วงว่า “ปล่อยนางโดยเร็วที่สุด ไข่มุกแห่งหนานหลิงไม่ใช่คนที่จะล่วงเกินได้ มิฉะนั้นเจ้าจะเจอปัญหาใหญ่”
“ใช่ คนจากหนานหลิงทรงพลังจริงๆ แม้แต่พี่ชายของข้าก็ยังต้องเกรงใจ” จี้จื่อเยว่กล่าวด้วยความเป็นห่วง
เย่ฟ่านตกใจ วันนี้เขาเข้าใจถึงความแข็งแกร่งของราชันย์ศักดิ์สิทธิ์น้อยแห่งตระกูลจี้อย่างแท้จริง
เขาสังหารยอดฝีมืออาณาจักรแปลงมังกรระดับสูงสุด นี่คือชายหนุ่มที่แข็งแกร่งมากที่สุดของตงหวงเทียบเท่ากับเขาอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เขาก็ยังมีความเกรงใจต่อคนจากหนานหลิง!
คนจากหนานหลิงน่ากลัวแค่ไหนถึงสามารถทำให้ชายคนนี้ให้ความเกรงใจได้ มันจะต้องมีหนึ่งในชายหนุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดซ่อนตัวอยู่ในสำนักฉีซื่อ
“เจ้า เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่าได้สร้างปัญหาไว้แล้ว...”
จี้จื่อเยว่พึมพำด้วยความเป็นห่วงพร้อมกับส่งเสียงกระซิบเบาๆ
“ข้าจะสอนทักษะลับเพื่อช่วยชีวิตเจ้า”
“จื่อเยว่ เราควรออกไปได้แล้ว วันนี้เรามีเรื่องสำคัญต้องจัดการ เราจำเป็นต้องรายงานเรื่องบางอย่างให้กับผู้อาวุโสของสำนัก”
จี้ฮ่าวเยว่กล่าว แม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าเย่ฟ่านเป็นใครแต่เขาก็ยังแสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงความอึดอัด เขาเดินเข้าหาเย่ฟ่านและประสานมือขอบคุณพร้อมกับกล่าวว่า
“บุญคุณช่วยชีวิตผู้แซ่จี้จะไม่มีวันลืมเลือน ในอนาคตข้าจะหาทางตอบแทนเจ้าอย่างแน่นอน”
“ตอนนี้เจ้าต้องออกไปกับเราก่อน ที่นี่อันตรายเกินไปมันจะทำให้เจ้าตกอยู่ในอันตรายหากเจ้าอยู่ที่นี่เพียงลำพัง หลังจากที่เราไปสมทบกับผู้อาวุโสของสำนักพวกเราค่อยกลับเข้ามาอีกครั้ง”
จี้จื่อเยว่กระพริบตา ดวงตากลมโตของนางจ้องมองด้วยความหวัง
“พวกเจ้ากลับไปก่อนเถอะ”
เย่ฟ่านไม่ต้องการออกไปตอนนี้ เขาเพียงสอบถามอย่างจริงจังถึงคัมภีร์โบราณที่นางกล่าวถึง
“เป็นไปได้มากว่าจะเป็นคัมภีร์ของจักรพรรดิ์อมตะนิรันดร์กาล และเป็นไปได้ด้วยว่าจะเป็นคัมภีร์แห่งความว่างเปล่า ส่วนความเป็นไปได้ที่จะเป็นคัมภีร์กลืนสวรรค์ก็ไม่สามารถตัดออกไปได้ ข้าไม่สามารถคาดเดาได้อย่างแม่นยำ”
จี้ฮ่าวเยว่กล่าวอย่างเคร่งขรึม
“ทำไมถึงมีความเป็นไปได้มากมายขนาดนั้น?” เย่ฟ่านประหลาดใจ
“ว่ากันว่าสถานที่แห่งนี้มีหลุมศพเซียนซ่อนอยู่ มันเป็นประตูที่จะนำไปสู่อาณาจักรเซียน จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่หลายคนเข้ามาที่นี่และอาจทิ้งสมบัติล้ำค่าบางสิ่งไว้เบื้องหลัง” จี้จื่อเยว่ตอบ