801 - ผนึกราชามนุษย์
801 - ผนึกราชามนุษย์
เมื่อทุกคนเห็นสายตาคู่นั้น จิตใจของพวกเขาก็หนาวเหน็บราวกับตกลงไปในหล่มน้ำแข็ง
ไม่ไกลนักจี้ฮ่าวเยว่ตกตะลึง แต่เขาไม่ได้รอช้าอะไร เขาหลับตาลงและร่างกายของเขาก็เปล่งประกายสดใส อาการบาดเจ็บทางร่างกายของเขาได้รับการฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว
จี้จื่อเย่ประหลาดใจเล็กน้อย ฟันซี่เล็กๆของนางขบริมฝีปาก และดวงตาคู่กลมโตราวกับอัญมณีสีดำก็มีน้ำตาไหลทะลักออกมาไม่หยุด
“เด็กน้อยคนนี้คือคนเถื่อนของสำนักฉีซื่อหรือไม่!”
ทันใดนั้น กลุ่มคนก็นึกถึงคนป่าเถื่อนที่สามารถบุกทะลวงเข้าสู่สำนักฉีซื่อเมื่อไม่กี่เดือนก่อน
“อย่ากังวล ใช้พลังทั้งหมดของเจ้าเพื่อน้าวเกาทัณฑ์ ข้าไม่เชื่อว่าเขาจะหนีรอดไปได้!”
หลายคนตะโกนพร้อมกับพุ่งไปข้างหน้า มือของพวกเขาดึงเกาทัณฑ์ออกมาด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ โดยต้องการรวมพลังของทุกคนในการจัดการศัตรูคนใหม่
"ปัง" "ปัง" "ปัง"...
ลูกเกาทัณฑ์แสงถูกยิงออกไปทีละลูก และพวกมันเป็นเหมือนดาวหางที่พร่างพราย สวรรค์และพิภพพลุ่งพล่านราวกับกระแสน้ำ
เย่ฟ่านกลายเป็นลำแสงและใช้การเคลื่อนย้ายพริบตาอย่างต่อเนื่อง เขาเดินเข้าไปใต้ลูกศรแห่งแสงที่น่าสะพรึงกลัว ในเมื่อไม่สามารถหลบเลี่ยงได้กำปั้นของเขาจึงกระแทกออกไปโดยตรง
“เฟิง”เฉียง”
แสงสีทองสาดกระจายไปทั่วท้องฟ้า ทำให้ผู้คนตะลึงงัน คลื่นกระแทกซัดสาดออกไปด้านนอก ใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง นี่เป็นคลื่นพลังที่น่ากลัวอย่างแท้จริง
"นี่มันบ้าอะไร... "
คนเหล่านั้นหัวใจหนาวเหน็บ เย่ฟ่านมีความเร็วสูงและเกาทัณฑ์ว่านซางไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
“แดง!”
ในที่สุดกำปั้นของเย่ฟ่านก็ไปถึงเบื้องหน้าของทุกคน มือขวาของเขาประสานอินและเรียกผนึกราชามนุษย์ออกมา
ปัง!
ทันทีที่ภาพธรรมของชายผู้ยิ่งใหญ่ปรากฏที่เบื้องหลังของเย่ฟ่าน จิตวิญญาณของเขาก็พุ่งทะยานถึงขีดสุด วิญญาณของเขามีความแข็งแกร่งราวกับผู้อมตะที่สามารถเย้ยหยันสิ่งมีชีวิตทั้งหมดได้
นี่คือผนึกราชามนุษย์!
เย่ฟ่านใช้มันเป็นครั้งแรก ทักษะโบราณนี้ลึกลับและคาดเดาไม่ได้ มันมีศักยภาพที่จะกลืนภูเขาและแม่น้ำ ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถบดขยี้สิ่งมีชีวิตทุกเผ่าพันธุ์ได้อย่างง่ายดาย
นี่คือผลึกราชามนุษย์ สิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่ยืนอยู่ต่อหน้ามันจะต้องคุกเข่าราวกับจะเชิญหน้ากับราชาที่แท้จริง
“แดง!”
เกาทัณฑ์ว่านซางถูกกระแทกจนปลิวออกไปด้านข้าง ผู้คนที่อยู่หลังเกาทัณฑ์กลายเป็นเนื้อแหลกละเอียด แม้แต่วิญญาณของพวกเขาก็ไม่มีโอกาสกรีดร้อง
“ผลึกราชามนุษย์ที่หายสาบสูญไปนาน!?”
ในเวลานี้ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์น้อยของตระกูลจี้ก็อุทานออกมาเป็นครั้งแรก
"รีบหนี!"
ยอดฝีมือสามคนที่เหลือใบหน้าบิดเบี้ยว คนหนึ่งตะโกนสุดเสียงพร้อมกับพุ่งทะยานกลับไปทางด้านหลัง เขาคือยอดฝีมืออาณาจักรแปลงมังกรระดับแปด แม้จะมีพลังเหลือเฟือแต่เขาก็ไม่คิดว่าจะต่อสู้กับเย่ฟ่านได้
เย่ฟ่านไม่คิดจะให้ความเมตตาต่อผู้ใด ร่างกายของเขารวดเร็วราวกับสายฟ้า เมื่อเคลื่อนที่ในขอบเขตที่จำกัด เขาก็กลายเป็นเหมือนพยัคฆ์ในฝูงแกะที่สามารถแสดงพลังออกมาได้อย่างเต็มที่
“ป๊า”
ในทันทีที่ภาพธรรมของราชามนุษย์ปรากฏออกมาจากความว่างเปล่าเบื้องหลังของเขา กำปั้นของเย่ฟ่านได้กระแทกยอดฝีมือคนหนึ่งจนกลายเป็นหมอกเลือด
เย่ฟ่านยังคงประสานอินและทำให้ผลึกราชามนุษย์ที่อยู่เบื้องหลังของเขาขยายใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เขาก้าวเดินเข้าไปในความว่างเปล่า และทุกความเคลื่อนไหวของเขาจะทำให้สวรรค์สั่นสะเทือน แม้แต่ภูเขาและแม่น้ำที่อยู่ในระยะไกลยังได้รับผลกระทบ!
“อา...”
สองคนที่เหลือกรีดร้องอย่างสยดสยอง พลังการต่อสู้ของเย่ฟ่านยิ่งใหญ่เกินขีดจำกัดของอาณาจักรแปลงมังกรไปไกลแล้ว พวกเขาจะมีโอกาสต่อต้านได้อย่างไร!
“อา!!”
มีเสียงกรีดร้องดังมาอย่างต่อเนื่อง คนเหล่านั้นหลบหนีด้วยความหวาดกลัว แม้ว่าจะพยายามต่อต้านด้วยอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของตัวเอง แต่พวกเขาจะหนีไปได้ไกลแค่ไหน
ผนึกราชามนุษย์สามารถทำลายสมบัติศักดิ์สิทธิ์ต่างๆเช่นเจดีย์โบราณ ระฆังขนาดใหญ่และหม้อศักดิ์สิทธิ์ได้
คนทั้งสองกระเด็นออกไปไกลยากที่จะรอดพ้นชะตากรรม พลังของมรดกโบราณนี้ทรงพลังเกินจินตนาการ ซึ่งทำให้เย่ฟ่านหัวใจสั่นสะเทือนด้วยความตื่นเต้น
ผนึกขุนเขา ผนึกราชามนุษย์ และผนึกพลิกสวรรค์ เป็นทักษะศักดิ์สิทธิ์ที่มาจากปรมาจารย์คนเดียว สามารถจินตนาการได้ว่าผนึกทั้งสามจะทรงพลังเพียงใดเมื่อพวกมันถูกรวมเข้าด้วยกัน
ชายหนุ่มคนสุดท้ายหลบหนีไปด้วยความหวาดกลัว เย่ฟ่านไม่ได้สนใจที่จะไล่ตาม เขาเลือกที่จะหยิบคันเกาทัณฑ์ว่านซางขึ้นมาชื่นชมด้วยความตื่นเต้น
คันเกาทัณฑ์นี้มีสีเขียวมรกต สลักด้วยอักขระโบราณ เมื่อมองแวบแรกจะเห็นว่ามันเป็นสมบัติโบราณที่มีอายุไม่ต่ำกว่าล้านปี ซึ่งเป็นอาวุธที่สามารถสังหารราชันศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างง่ายดาย
เขาจับคันเกาทัณฑ์ว่านซางแล้วดึงสายเกาทัณฑ์เพื่อทดสอบน้ำหนัก และในที่สุดเย่ฟ่านก็เข้าใจว่าทำไมคนเหล่านั้นถึงต้องช่วยกันดึงสายของมัน
นี่เป็นอาวุธวิเศษที่จำเป็นต้องใช้พละกำลังอันมากมายมหาศาล แต่มันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเย่ฟ่าน มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถเทียบกับเขาได้เมื่อกล่าวถึงพละกำลังทางร่างกาย
“ครืน”
แขนของเย่ฟ่านสั่นเล็กน้อย สายเกาทัณฑ์ถูกดึงออก ทรายและหินปลิวว่อนจนเกิดความโกลาหล เสียงลมและเมฆฝนที่กำลังคำรามบนฟากฟ้า
ในขณะเดียวกันนั้นอักขระที่สลักอยู่บนคันเกาทัณฑ์ก็เปล่งแสงสีทองและปลดปล่อยแก่นแท้ที่ไม่รู้จบให้รวมตัวกันอย่างบ้าคลั่ง
เขาดึงคันเกาทัณฑ์ว่านซางให้เป็นรูปพระจันทร์เต็มดวงและแสงก็ก่อตัวขึ้นบนสายเกาทัณฑ์ เมื่อปล่อยมือลูกเกาทัณฑ์ก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าก่อนจะทำลายชั้นบรรยากาศที่อยู่ด้านบนจนเกิดเสียงดังสนั่น
“อา...”
เขาได้ยินเสียงคนกรีดร้อง และคนๆ นั้นก็ตกลงมาพร้อมกับเมฆที่กระจายออกไป เลือดของเขากระเด็นกระดอนออกไปทุกทาง แม้ว่าจะมีร่างกายเหลือเพียงครึ่งเดียวแต่เขาก็ยังตะเกียกตะกายหลบหนี
เย่ฟ่านดึงคันเกาทัณฑ์เป็นครั้งที่สอง ลูกศรก็พุ่งออกไปอีกครั้ง เป้าหมายของเขาคือยอดเขาขนาดใหญ่ และลูกศรสามารถทำลายยอดเขาแห่งนั้นจนกลายเป็นที่ราบได้
“อ๊า!”
เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นตามความคาดหมาย ร่างกายและวิญญาณของศัตรูที่ซุ่มซ่อนอยู่ถูกทำลาย เหลือเพียงควันและฝุ่นผงที่ปลิวอยู่บนท้องฟ้า
พลังของคันเกาทัณฑ์นี้ช่างน่ากลัวและทรงพลังอย่างยิ่ง แม้แต่ เย่ฟ่านก็ยังประหลาดใจ หากยอดฝีมือที่มีร่างศักดิ์สิทธิ์ได้ครอบครองอาวุธนี้ เขาจะต้องตกอยู่ในอันตรายแน่นอน
เขายิงลูกศรห้าดอกติดต่อกัน แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าดวงพุ่งทะลุท้องฟ้าพร้อมกับสังหารเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง ไม่มีใครหนีพ้น เลือดของคนทั้งหมดแปดเปื้อนท้องฟ้าและจบชีวิตลงที่นี่
เย่ฟ่านลูบคันเกาทัณฑ์ว่านซางซึ่งเป็นสมบัติอันทรงพลัง เขาวางมันลงไม่ได้ ด้วยอาวุธดังกล่าวมันจะทำให้เขากลายเป็นพยัคฆ์ติดปีก แม้แต่ผู้สูงสุดระดับต่ำก็ยังต้องหวาดกลัวต่อเขา
“ขอบคุณผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเรา” จี้ฮ่าวเยว่ซึ่งทั้งร่างอาบไปด้วยเลือดกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
เย่ฟ่านชำเลืองมองฝ่ายตรงข้ามและพยักหน้าโดยไม่กล่าวอะไร เมื่อก่อนเขาขัดแย้งกับตระกูลจี้ แต่ความขัดแย้งระหว่างเขากับราชันย์ศักดิ์สิทธิ์น้อยไม่ได้รุนแรงถึงขนาดนั้น
เขาตามองรอบๆ มีศพมากกว่าหนึ่งหรือสองศพซึ่งทำให้หัวใจของเขาสั่นคลอน
จี้ฮ่าวเยว่ซึ่งอยู่ในสภาพที่ไม่น่าดูรู้สึกอับอายกับสภาพตัวเองมาก แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะภาคภูมิใจต่อความสำเร็จในครั้งนี้
ยอดฝีมืออาณาจักรแปลงมังกรระดับเก้าถูกเขาสังหารไปถึงสามคน ในขณะที่ยอดฝีมือที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งที่แปดก็นอนตายอยู่บนพื้นไม่ต่ำกว่าสิบ
ความแข็งแกร่งของเขาแม้แต่เย่ฟ่านก็ยังต้องสูดลมหายใจอย่างหนาวเหน็บ