อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 115 ไฮดี้ รามาเจ้าแม่แห่งไวไฟ
*ขออภัยที่หายไป หลังจากตอนนี้ จะเป็นวันละ 2 ตอนนะครับ*
ตอนที่ 115 ไฮดี้ รามาเจ้าแม่แห่งไวไฟ
ข่าวการเงินลอสแองเจลิส
'ข่าวล่าสุดบริษัทของเล่นที่จดทะเบียนภายใต้รหัสหุ้น XLG ได้มีการเปลี่ยนเจ้าของคนใหม่ ผู้ที่ซื้อไปนั้นคือเจ้าของบริษัทเอชดีที่โด่งดังอยู่ขณะนี้ ซึ่งหุ้นทั้งหมดของบริษัทของเล่นได้ถูกซื้อไปหมดแล้ว'
มันมีเรื่องตลกเรื่องหนึ่งในประเทศจีนเช่น 'ยิ่งเนื้อหาข่าวสั้นเท่าไหร่มันยิ่งเป็นเรื่องใหญ่มากกว่าเดิม'
ข่าวในตอนนี้ก็มีคำอธิบายแค่ไม่กี่คำ แต่มันก็เพียงพอแล้วที่จะดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมาก
"ฉันเห็นใครบางคนกำลังล้างสต๊อกหุ้นของโรงงานของเล่นเมื่อสองวันก่อน ก็นึกว่าเขากำลังปั่นหุ้นเพื่อเพิ่มกำไรซะอีก ไม่นึกเลยว่ามันจะเป็นการเข้าซื้อกิจการแทน"
"แถมบริษัทเอชดีเอชดีซีเคียวริตี้ก็มีชื่อเสียงมากในตอนนี้ตั้งแต่สารคดี 'การปล้นธนาคารในลอสแอนเจลิส' ออกฉาย ชื่อเสียงของบริษัทก็แพร่กระจายไปทั่ว ใช้เวลาเพียงครึ่งปี บริษัทนี้ได้กลายเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยที่ใหญ่ที่สุดในลอสแอนเจลิส และเห็นว่ากันว่ามีพนักงานมากกว่า 1,000 คน"
"อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าบริษัทเอชดีฟิล์มก็ยังเป็นอุตสาหกรรมของเจ้าของบริษัทเอชดีที่ผลิตภาพยนตร์เรื่องนักฆ่าเพชรตัดเพชรที่กำลังฉายอยู่ในขณะนี้ด้วย"
"แต่พวกเขาจะทำอะไรกับบริษัทของเล่นล่ะ?"
"ใครจะรู้? บางทีเขาอาจจะมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอุตสาหกรรมของเล่นก็ได้"
เมื่อข่าวนี้ออกมา
มันได้ดึงดูดความสนใจของทุกคนทันที และในวันต่อมาหุ้นของโรงงานของเล่นก็แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มขาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
มันพุ่งไปถึง 0.31 ดอลลาร์ในเวลาไม่นาน
สามวันต่อมา
สำนักข่าวการเงินลอสแองเจลิสก็ออกข่าวอีกครั้ง
'บริษัทของเล่นภายใต้รหัสหุ้น XLG ได้เปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการเป็น เอชดีทอยห์ พร้อมกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ได้ปรับเปลี่ยนผู้บริหารของบริษัท ในขณะเดียวกันก็ได้อัดฉีดเงินทุนและเพิ่มหุ้นสำหรับการซื้ออุปกรณ์การผลิตและมีแผนการจัดเตรียมของเล่นใหม่ออกมาแล้ว'
ทันทีที่ข่าวนี้ออกมาผู้คนก็เริ่มมองโลกในแง่ดีมากขึ้นเกี่ยวกับอนาคตของเอชดีทอย หลายคนจึงเริ่มซื้อหุ้นตัวนี้
ทำให้ตอนนี้ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นไปถึง 0.48 ดอลลาร์
ในเวลานี้เงินทุนหลักของแอนดี้ก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
ผ่านไปอีกไม่กี่วัน
ลอสแอนเจลิสไทม์ได้ตีพิมพ์โฆษณาภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นถึงตุ๊กตาบาร์บี้ที่สวยงามสามตัว
ตัวหนึ่งอยู่ในชุดราตรี
ตัวหนึ่งอยู่ในกระโปรงผ้าคลุม
อีกตัวอยู่ในชุดกี่เพ้าพร้อมกับเครื่องประดับคาดผมอันสวยงามบนศีรษะของตุ๊กตา
ซึ่งรูปร่างของพวกมันดูโค้งมน อ่อนเยาว์ สง่างาม เปล่งประกาย และมีความสวยเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง
‘เอชดีทอยส์’ ได้สร้างของเล่นชุดใหม่คือ 'บาร์บี้'
ซึ่งตุ๊กตาตัวแรกมีชื่อว่า 'เจ้าหญิงเอวา' มีต้นแบบมาจากเอวา การ์ดเนอร์
ตุ๊กตาตัวที่สองมีชื่อว่า 'เจ้าหญิงเทย์เลอร์' มีเอลิซาเบธ เทย์เลอร์เป็นต้นแบบ
ส่วนตัวสุดท้ายที่มีชื่อว่า 'เจ้าหญิงจีน' มีพื้นฐานมาจากขุนนางจีนผู้ลึกลับคนหนึ่ง
‘พวกเธอจะสามารถจับคู่เสื้อผ้าและเครื่องประดับหลายๆ ชุดได้ ไม่ว่าจะเป็นฤดูกาลไหนเช่นฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาวนอกจากนี้ยังมีเครื่องสวมใส่ของอาชีพต่างๆ เช่นดารา ครู วิศวกร แพทย์ ฯลฯ พร้อมกับเสื้อผ้า เครื่องประดับชิ้นใหม่ๆ ที่จะเปิดตัวในทุกฤดูกาลในอนาคต’
นอกจากนี้ยังมีพาดหัวด้านล่าง
‘เด็กผู้หญิงทุกคนควรมีตุ๊กตาบาร์บี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นเด็กผู้หญิงอายุสามขวบหรือหญิงสาวอายุ 70 ปีก็ตาม’
‘ตุ๊กตาบาร์บี้จะลงขายก่อนวันคริสต์มาส’
หลายคนที่ได้เห็นโปสเตอร์พวกเขาคิดว่าตุ๊กตาเหล่านี้มีความสวยงามและประณีตอย่างมาก
พวกเขาจึงคิดที่จะซื้อมันอย่างแน่นอน และก็เชื่อได้เลยว่าเหล่าเด็กๆ จะชื่นชอบของเล่นเหล่านี้
หลังจากโฆษณาครั้งนี้สิ่งที่ตามมาก็คือราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
แอนดี้จึงทำการปั่นหุ้นอีกครั้ง เพื่อเพิ่มมูลค่าของหุ้นให้ไวกว่าเดิม
ทำให้ราคาหุ้นเริ่มทะยานขึ้นจาก 0.5 ดอลลาร์ และใช้เวลาเพียงหนึ่งวันในการทะลุ 1 ดอลลาร์
และมันก็ยังเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
แน่นอนเป็นเพราะเขาถือหุ้นจำนวนมาก และบริษัทของเล่นก็มีข่าวดีออกไปจึงทำให้การดำเนินงานครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่น
ฮาร์ดี้มองไปที่ราคาหุ้นพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา
......
ติ้งติ้งติ้ง
โทรศัพท์ในห้องทำงานของฮาร์ดี้ดังขึ้น เขาจึงหยิบมันขึ้นมาเพื่อรับสาย
"ฮาร์ดี้ หนูได้อ่านหนังสือพิมพ์ลอสแอนเจลิสเดลี่แล้ว และตุ๊กตาที่ชื่อเจ้าหญิงเทย์เลอร์นี้ใช่หนูหรือเปล่า?" เทย์เลอร์ถามอย่างมีความสุข
"ฮ่าๆ แน่นอน! แล้วเธอชอบมันไหม?" ฮาร์ดี้กล่าว
"ชอบสิ! และคุณฮาร์ดี้หนูหวังว่าจะได้รับของขวัญคริสต์มาสเป็นตุ๊กตา 'เจ้าหญิงเทย์เลอร์ แบบครบชุดนะคะ!" เทย์เลอร์พูดอย่างตื่นเต้น
"แน่นอนไม่มีปัญหา" ฮาร์ดี้ตกลง
"อ่า! แสดงว่าคุณจะมาหาหนูที่นิวยอร์กในวันคริสต์มาสนี้ใช่ไหมค่ะ? เพราะผู้กำกับฮิตช์ค็อกบอกว่าวันคริสต์มาสจะมีวันหยุดแค่วันเดียว เลยทำให้หนูกลับไปลอสแอนเจลิสไม่ได้" เทย์เลอร์กล่าวด้วยความรู้สึกหดหู่นิดหน่อย
"เดี๋ยวฉันจะไปหาเธอที่นิวยอร์ค ตกลงไหม?" ฮาร์ดี้กล่าว
"เย้!"
เอลิซาเบธ เทย์เลอร์ส่งเสียงที่ปลายอีกด้านของโทรศัพท์
อันที่จริงเธอไม่ได้สนใจตุ๊กตาเลย
เธอแค่อยากให้คุณฮาร์ดี้มาหาเท่านั้นเอง…
หลังจากการสนทนากับเทย์เลอร์จบลง โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้งซึ่งคราวนี้มาจากฮันเยจิน
"มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นหรือ เยจิน?"
"ฉันแค่อยากถามว่า ‘เจ้าหญิงจีน’ ตัวนั้นต้นแบบคือใคร?" ฮันเยจินถามเบาๆ
"เธอ..."
ฮาร์ดี้ตอบอย่างกระชับ
ปลายสายอีกด้านของโทรศัพท์เงียบไปสักพัก "ฉันชอบมันมากและฉันต้องการมันครบชุดในภายหลัง..."
หลังจากพูดจบเธอก็วางหูอย่างรวดเร็ว
ฮาร์ดี้ยิ้มขณะถือโทรศัพท์อยู่
เขาวางโทรศัพท์ลงอีกครั้ง แต่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเป็นครั้งที่สาม
ซึ่งฮาร์ดี้ก็เดาได้ว่าใครโทรมา
เอวาพูดผ่านโทรศัพอย่างมีความสุข "ชื่อ 'เจ้าหญิงเอวา' มันดูดีมากเลย! ฉันไม่เคยคิดเลยว่าสาวบ้านนอกอย่างฉันจะกลายเป็นเจ้าหญิงในวันนี้ได้ ขอบคุณมากนะฮาร์ดี้"
......
ในขณะที่โรงงานกำลังปรับปรุงอยู่ แอนดี้ก็เริ่มดำเนินการปั่นหุ้นและล้างสต๊อกหุ้นของบริษัทผลิตภัณฑ์สุขภาพและบริษัทนิตยสาร
หลังจากปั่นหุ้นทั้งสองอย่างต่อเนื่อง
เขาก็ได้รับหุ้นของบริษัทนิตยสารมา 74% และ 61% สำหรับบริษัทผลิตภัณฑ์สุขภาพ
แอนดี้จึงเริ่มติดต่อกับบริษัทนิตยสารและบริษัทผลิตภัณฑ์สุขภาพเพื่อเตรียมการเข้าซื้อกิจการ
บริษัทนิตยสารเจ้าของนั้นตั้งใจจะขายอยู่แล้ว แต่เขาก็เสนอราคามาสูงมาก
แอนดี้จึงยิ้มและกล่าวว่า "ถ้าผมจำไม่ผิดนิตยสารได้รับการดำเนินงานที่สูญเสียเป็นเวลาสี่ปีติดต่อกัน มันเรียกว่าอยู่ใกล้เส้นสีแดงแล้วใช่ไหม? ซึ่งปีนี้เป็นปีสุดท้ายและจะมีอีกเวลาอีกแค่หนึ่งเดือนที่คริสมาสต์กำลังจะมา คุณคิดว่ายังมีความเป็นไปได้ที่บริษัทนิตยสารของคุณจะฟื้นขึ้นมาจากความตายไหม? ผมคิดว่ามันจะถูกบังคับให้ถอนตัวออกจากตลาดจนถึงปีหน้า ในเวลานั้นมันอาจจะไม่มีค่าสักเพนนี และผลลัพธ์สุดท้ายของคุณคือการเสียมันไป"
เจ้าของนิตยสารมีหน้าตาอัปลักษณ์ แต่เขาก็รู้ว่าแอนดี้พูดความจริง
ในที่สุดเขาก็คิดได้และพูดว่า "ผมสามารถขายหุ้นได้ และผมก็หวังว่าผมจะสามารถทำงานต่อไปได้ ซึ่งตอนนี้มีพนักงานมากกว่าหนึ่งโหลในบริษัทนิตยสาร ผมก็หวังว่าพวกเขาจะไม่ถูกเลิกจ้างภายในหกเดือนและค่าจ้างของพวกเขาจะไม่ถูกลดลง"
"แน่นอน ไม่มีปัญหา" แอนดี้กล่าว
เขาได้เห็นสถานการณ์รายงานทางการเงินของบริษัทนิตยสารแล้ว ซึ่งมันไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมเดียวกัน และคนเหล่านี้ก็เป็นพนักงานมาก่อน
มันจึงไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว
มันก็แค่นั้นแหละ
แอนดี้จึงเสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการของบริษัทนิตยสารเรียบร้อย
แต่ที่บริษัทผลิตภัณฑ์สุขภาพ แอนดี้ก็เจอกับปัญหาเข้า
ผู้ถือหุ้นของบริษัทผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ ดูเหมือนจะรู้ว่าแอนดี้นั้นมาจากบริษัทการเงินที่ส่งมาโดยหัวหน้าของบริษัทเอชดีซิเคียวริตี้ พวกเขาเห็นแล้วว่าโรงงานของเล่นตอนนี้เป็นยังไง
พวกเขาจึงคิดว่าเจ้าของเอชดีซิเคียวริตี้จะทำเงินได้มากอย่างแน่นอนถ้าเข้าซื้อบริษัทผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพของเขาได้
ซึ่งหลังจากการตกลงกันไม่กี่ครั้ง แอนดี้ก็พบว่าพวกเขาก็ตั้งราคาไว้สูงมาก
แอนดี้จึงจากไป และผู้ถือหุ้นก็มาประชุมกันอีกครั้งพร้อมกับตกลงกันว่าจะปล่อยข่าวเกี่ยวกับการเข้าซื้อบริษัทของเขาจากเจ้าของบริษัทเอชดี
หลังจากที่ตลาดได้ยินข่าวนี้ก็มีผู้ที่สนใจจำนวนมากจึงทำให้ราคาหุ้นเริ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แอนดี้รายงานเรื่องนี้ให้ฮาร์ดี้ และฮาร์ดี้ก็คิดสักพักและกล่าวว่า "ราคาหุ้นของบริษัทดูแลสุขภาพตอนนี้คือเท่าไหร่?"
"วันนี้เพิ่มขึ้นเป็น 0.29 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าราคาที่เราซื้อ 0.8 เซ็นต์"
ฮาร์ดี้หัวเราะเยาะ "เป้าหมายของเราในการเข้าซื้อบริษัทเหล่านี้คือการที่จะได้ทำเงินอย่างรวดเร็ว เนื่องจากพวกเขาต้องการที่จะใช้โอกาสนี้ในการเล่นแง่กับเรา เราก็จะจัดการกับพวกเขาก่อน"
"ยังไงก็มีบริษัทผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพมากมายในตลาดอยู่แล้ว และบริษัทนี้สถานการณ์จะไม่ค่อยดีด้วยใช่ไหม? ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่ต้องสนใจแล้ว ล้มมันลงมาได้เลย!
"เข้าใจแล้วครับ!" แอนดี้ยิ้ม
ตอนนี้พวกเขามีหุ้น 61% ในบริษัทผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ มันจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะสร้างรายได้โดยการล้างตลาด
แอนดี้จึงกลับไปเตรียมความพร้อม ส่วนฮาร์ดี้ก็ไปหาผู้จัดการคนเดิมของบริษัทนิตยสาร
"สวัสดีหัวหน้าบรรณาธิการเฮฟเนอร์ ผมทอม ฮาร์ดี้" ฮาร์ดี้ยิ้มและจับมือกับเขา
เฮฟเนอร์ในตอนนี้มีอายุ 40 ปี เขาจับมือกับฮาร์ดี้และกล่าวว่า "สวัสดีฮาร์ดี้ ฉันควรจะเรียกนายว่าหัวหน้าใช่ไหม?"
"ฮ่าๆ เรามานั่งลงและคุยเกี่ยวอนาคตของบริษัทนิตยสารกันดีกว่า" ฮาร์ดี้ยกแก้วไวน์ และส่งให้เขาพร้อมกับนั่งลง
"ดูเหมือนว่าคุณฮาร์ดี้จะมีไอเดียเกี่ยวกับทิศทางของนิตยสารใช่ไหม?" เฮฟเนอร์ถาม
"ใช่ ผมมีความคิดที่จะทำนิตยสารฉบับพิเศษสำหรับผู้ชาย" ฮาร์ดี้กล่าว
"นิตยสารสำหรับผู้ชายเหรอ?"
เฮฟเนอร์ไม่เข้าใจคำพูดของฮาร์ดี้เลยสักนิด เขาจึงมองไปที่ฮาร์ดี้ด้วยความสงสัย
"ฉันคิดชื่อที่พิเศษสำหรับนิตยสารเล่มใหม่ไว้แล้ว และมันจะได้รับการออกแบบโลโก้เป็นกระต่ายที่มีโบว์ผูกอยู่ ส่วนชื่อของมันจะเรียกว่า 'เพลย์บอย' ปกของมันจะเป็นหญิงสาวที่สวยและเซ็กซี่ที่สุด และมันต้องอยู่ในขอบเขตของกฎหมายสหรัฐด้วย ซึ่งส่วนที่เปิดเผยได้เราก็จะทำมันให้หมดเท่าที่มันจะเป็นไปได้
"นอกจากนี้ภาพถ่ายต้องเป็นสีทองแดงที่สวยงามจำนวนมากบนหน้าปกด้วย ฉันต้องการให้คนเห็นชื่อเพลย์บอยให้ชัดที่สุดและกระตุ้นฮอร์โมนของคนที่มองให้มากที่สุดด้วย! ผมจึงอยากทำให้มันเป็นศูนย์กลางสำหรับสิ่งสวยงาม เป็นสวรรค์สำหรับผู้ชายและหนังสือเปิดหูเปิดตาสำหรับชายหนุ่มทั้งหลาย"
ดวงตาของเฮฟเนอร์เบิกกว้างขึ้น เขาไม่ได้คาดหวังว่าคุณฮาร์ดี้ตรงหน้าของเขาจะหลงใหลในนิตยสารขนาดนี้
“แน่นอนนอกเหนือจากความงามแล้ว เนื้อหาต้องไม่ระดับต่ำด้วย เราสามารถเขียนบทสัมภาษณ์เกี่ยวกับคนดัง รถที่สวยงาม และสนับสนุนการปลดปล่อยเสรีภาพ แสดงจุดยืนทางการเมืองหรือถือป้ายต่อต้านสงครามก็ได้”
"ซึ่งผมคิดว่าสังคมอเมริกันยังคงอนุรักษ์นิยมมากเกินไปในขณะนี้ เราต้องปรับเปลี่ยนประเพณีแบบให้หมดไป ยุคใหม่กำลังมาถึงแล้ว เราต้องปลดปล่อยความคิดของพวกเขา ต้องปลุกฝังการสนับสนุนเสรีภาพแห่งความรัก ซึ่งผมเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้เราโดดเด่นขึ้นมา"
"และจำไว้เสมอแม้นิตยสารของเราจะมีผู้หญิงที่โชว์ขึ้นปก แต่สไตล์มันต้องไม่หยาบคาย มันจะต้องงดงามและประณีตเพื่อให้ดูดีมากที่สุเ"
หลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์ดี้ ความคิดดั้งเดิมของเฮฟเนอร์ก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
ซึ่งมุมมองของฮาร์ดี้ก็เหมือนกับสายฟ้าที่เปลี่ยนความคิดของเขา
เขารู้สึกว่าคำพูดของคุณฮาร์ดี้ที่พูดเกี่ยวกับนิตยสาร มันเหมือนกับสิ่งที่เขาเคยคิดไว้
เฮฟเนอร์จึงตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น
แต่เมื่อเขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็พูดด้วยความสงสัย "คุณบอกว่าจะทำนิตยสารที่มีแผนทองแดงหลายรูปใช่ไหม? แต่ค่าใช้จ่ายมันจะแพงมากเลยนะ ซึ่งทุนที่ผมคิดไว้มันน่าจะราวๆ 2 ดอลลาร์เลย"
"ไม่ต้องกังวล เพราะนิตยสารนี้จะขายในราคา 3.5 ดอลลาร์ มันจะไม่เหมือนกับนิตยสารที่เผยแพร่อยู่ในตอนนี้ มันจะกลายเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยที่ได้รับการหวงแหน ซึ่งเราจะทำให้นิตยสารเพลย์บอยนี้เป็นแบรนด์หรูในวงการของนิตยสารให้ได้" ฮาร์ดี้ได้ส่งเสริมแนวคิดความหรูหราให้กับเขา
เฮฟเนอร์พยักหน้า
ยังไงตรงข้ามก็คือเจ้านาย เขาจึงคิดว่าสิ่งที่หัวหน้าพูดยังไงก็ถูกอยู่แล้ว
เพราะเขานั้นมีความหมกมุ่นเกี่ยวกับนิตยสารอยู่มาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับประเด็นที่จะนำผู้หญิงสวยๆ มาขึ้นปก
ซึ่งเฮฟเนอร์ก็คิดอะไรบางอย่างได้และเงยหน้าขึ้นมองฮาร์ดี้
"คุณฮาร์ดี้ ตอนนี้ผมคิดถึงคนคนหนึ่งที่จะมาขึ้นปกอยู่ในนิตยสารเล่มแรกได้แล้ว เธอจะเป็นไปตามข้อกำหนดที่เราคิดไว้อย่างแน่นอน เธอสวยมาก เธอเป็นคนแรกที่ได้ปรากฏตัวในหลายๆ ที่ เธอเคยถ่ายภาพลงอัลบั้มสักที่หนึ่ง มันมีความสวยงามมาก แถมมันยังเป็นสมบัติของใครหลายๆ คนอีกด้วย"
"เธอคือไฮดี้ รามา คุณฮาร์ดี้น่าจะเคยได้ยินใช่ไหม?"
ไฮดี้ รามา
ในที่สุดฮาร์ดี้ก็จำชื่อได้ เขาเคยได้ยินมันในฮอลลีวูด
ซึ่งเธอนั้นเคยเซ็นสัญญากับเอ็มจีเอ็มมาก่อนแต่เมื่อปีที่แล้วสัญญาได้หมดอายุลง
เธอจึงตัดสินใจจัดตั้งบริษัทหนึ่งขึ้นมา
แต่สิ่งที่ทำให้ฮาร์ดี้จำผู้หญิงคนนี้ได้ก็คือผู้หญิงคนนี้มีอีกชื่อหนึ่งในอนาคต
ไฮดี้ รามาเกิดที่กรุงเวียนนาจักรวรรดิออสเตรียฮังการี
เธอสวยมาก
เธอมีรูปลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบและการแสดงออกทางอารมณ์ที่สง่างาม
เธอรักการแสดง แต่น่าเสียดายที่ผลงานของเธอไม่ได้รับรางวัลใดๆ
ซึ่งมันกลายเป็นความเสียใจของตลอดชีวิตของเธอ
และเธอไม่เพียงแต่เป็นนักแสดงแต่ยังเป็นนักวิทยาศาสตร์
ในปี 1941 เธอได้คิดค้น ‘เทคโนโลยีการส่งผ่านด้วยความถี่ไร้สาย’ และกลายเป็นนักวิทยาศาสตร์หญิงคนแรกของโลกที่ได้รับรางวัล ‘ออสการ์สาขาสิ่งประดิษฐ์’
ต่อมาบริษัทที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักได้พัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสารดิจิทัลแบบไร้สายชื่อ CDMA โดยอาศัยเทคโนโลยีการส่งผ่านคลื่นความถี่ของเธอ
และบริษัทนี้ก็กลายมาเป็น Qualcomm
ซึ่งเทคโนโลยีนี้ไฮดี้ได้อุทิศให้กับกองทัพเรือสหรัฐฯ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
แต่นั่นเป็นเวอร์ชั่นทหาร
ซึ่งเขาคิดว่าเขาจะสามารถซื้อเทคโนโลยีนี้แบบเวอร์ชั่นของพลเรือนได้หรือไม่?
และในอนาคตมันจะยังมี Qualcomm หรือไม่?
ถึงแม้เขาจะไม่ได้ใช้มันก็ตามแต่เขาก็สามารถศึกษาเทคโนโลยีนี้ในอนาคตได้
แถมสิทธิบัตรตอนนี้ก็ยังไม่ได้อยู่ในมือของคนอื่น เพราะตอนนี้ยังไม่มีใครทำอะไรกับมันเลย