ตอนที่ 560 : แสงสว่างแห่งความยุติธรรม~
ตอนที่ 560 : แสงสว่างแห่งความยุติธรรม~
“แกจะไปรู้อะไร?!”
คณบดีรีบเงยหน้าขึ้นมาแล้วต่อว่า “เรื่องนี้เป็นเรื่องของมหาลัย คนอย่างแกจะไปรู้อะไร?! ทำไมเข้าใจก็อย่ามาขัดจังหวะฉัน!”
คณบดีมหาลัยกลัวว่าเรื่องนี้จะถูกเปิดเผยเขาจึงพยายามที่จะจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด “ยามรักษาความปลอดภัย! รีบเข้ามาที่นี่แล้วไล่คนสองคนนี้ออกไป!”
หัวหน้ายามประสาทความปลอดภัยเอกชนอะไรไม่ได้เขาจึงได้แต่เดินไปบอกกับเจียงเฉินว่า “น้องชาย ตอนนี้นายฉ่วยออกก่อนได้ไหม ฉันรู้ว่านายไม่ใช่คนไม่ดี แต่น่าเสียดายที่อีกฝ่ายเป็นคณบดีของมหาวิทยาลัยและพวกเราต้องฟังเขา”
เจียงเฉินยิ้มและกลอกตา~~
เขากำลังคิดว่าจะจัดการกับคณบดีและครอบครัวเศรษฐียังไงดี
พ่อของบู่เจิ้งหัวเราะออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ “หนุ่มน้อย แกเสียใจมากแล้วใช่ไหมล่ะ?! ขอโทษสิ! ขอโทษให้กับคนที่ร่ำรวยกว่าแก! หากต้องการความยุติธรรมฉันจะบอกให้นะว่ามันไม่มีอยู่จริงหรอก เว้นแต่ว่า…. แกจะมีเงินมากกว่าฉัน!”
เจียงเฉินยิ้มออกมา “มีเงินมากกว่าคุณงั้นหรอ มันจะไปยากอะไร?”
“หึ!”
บู่เจิ้งพยายามที่จะฟื้นฟูภาพลักษณ์ของเขา เขาจึงรีบพูดออกมาว่า “พ่อของฉันอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เขามีทรัพย์สินนับไม่ถ้วน! ครอบครัวของฉันมีบ้านอยู่ในประเทศมาเลเซียและมีบริษัทอยู่หลายสิบแห่งในประเทศจีน! ฮึ่ม! แค่เงินในกระเป๋าของฉันมันก็มากพอที่จะให้คนอย่างแกใช้ไปทั้งชีวิตแล้ว!”
เจียงเฉินไม่สนใจที่จะพูดเรื่องไร้สาระกับคนพวกนี้ดังนั้นเขาจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วเปิดโต่วอินและเข้าสู่โหมดถ่ายคริป
ถ่ายทุกคนที่อยู่ตรงหน้าเอาไว้พร้อมกัน~~
อัพโหลด!
ตั้งชื่อ!
[มหาวิทยาลัยชิงหัว มีนักศึกษาที่มีคะแนนสอบเข้าเป็นอันดับหนึ่งอยู่เพียงแค่สามร้อยสี่สิบคะแนนแต่กลับทำตัวหยิ่งผยองและต่อว่าคนจีน!]
เจียงเฉินกดอัพโหลดทันที
และทันทีที่มันถูกอัพโหลดขึ้นไปมันก็ได้รับความนิยมในทันที
ผู้คนนับไม่ถ้วนพากันกดเข้ามาดูและกดไลค์ก่อนที่จะแชร์กันอย่างเมามัน
“พระเจ้าช่วย! มีเรื่องแบบนี้ด้วยงั้นหรอ!”
“ให้ตายเถอะ!”
“สอบเข้ามหาวิทยาลัยชิงหัวด้วยคะแนนเพียงแค่สามร้อยสี่สิบคะแนน แบบนี้ใครๆก็ทำได้ไม่ใช่เหรอ?!”
“บัดซบ! มหาวิทยาลัยนี้ชื่นชมชาวต่างชาติตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?!”
“พวกเขาทำแบบนี้ได้ยังไง?!”
“แก แกกล้าทำแบบนี้ได้ยังไงกัน?!”
คณบดีมองไปที่เจียงเฉินและยกโทรศัพท์ขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนกและพูดออกมาเสียงดังว่า “แกกล้าทำตัวหยิ่งยโสในมหาวิทยาลัยชิงหัวแบบนี้งั้นหรอ….”
“ใช่แล้ว! ลบมันเดี๋ยวนี้นะ! ไม่อย่างนั้นฉันจะ~”
พ่อของบู่เจิ้งก็ตื่นตระหนกเช่นกัน
พวกเขาจะปล่อยให้ชื่อเสียงของเขาถูกทำร้ายแบบนี้ได้ยังไงกัน?
หากปล่อยต่อไปผลลัพธ์นั้น~~
ก็คงจะน่ากลัวมาก!
เจียงเฉินยิ้มออกมา “ฉันอัพโหลดขึ้นไปบนโต่วอินแล้ว ถ้าพวกคุณมีความสามารถก็ลบมันทิ้งเองสิ”
“อย่าได้ใจไป!”
ใบหน้าของอธิบดีดูน่าเกลียด “คิดว่ามหาวิทยาลัยชิงหัวมีเส้นสายหรือยังไง?! ฉันรู้จักกับจางเป่ย! ฉันจะโทรหาเขาและขอให้เขาลบมันเอง! แกรอก่อนเถอะ!”
และเขาก็เริ่มทำในสิ่งที่เขาพูดทันทีเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและจ้องมองไปที่เจียงเฉินอย่างข่มขู่
เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเจียงเฉินที่เป็นตัวตนเล็กๆจะรับมือได้ยากขนาดนี้
แต่ใครจะรู้~~
เจียงเฉินไม่เพียงแต่จะไม่กลัวเท่านั้นแต่เขายังกล้าที่จะท้าทายอีกฝ่ายด้วย “ถ้ามีความสามารถจริงก็โทรหาจางเป่ยแล้วขอให้เขาลบได้เลย”
“คิดว่าฉันไม่กล้างั้นหรอ?!”
คณบดีโกรธจัดในขณะที่กำลังกดโทรออกเขาก็พูดมาว่า “แกรอก่อนเถอะ! ฉันรู้จักกับจางเป่ยเป็นอย่างดี! เมื่อสัปดาห์ที่แล้วพวกเรายังกินข้าวด้วยกันอยู่เลย! ยังไงคนอย่างเขาก็ไม่เข้าข้างแกหรอก! แกเตรียมตัวโดนปิดบัญชีได้เลย!”
เจียงเฉินยิ้มออกมา~~
ปิดบัญชีของฉัน? ทำให้ได้ก่อนก็แล้วกัน!
ในเวลานี้เองโทรศัพท์ก็ส่งเสียงดังออกมาสายถูกเชื่อมต่อแล้ว
จางเป่ยรับโทรศัพท์ “สวัสดีครับ นั่นใครครับ?”
คณบดีหลังเหงื่อออกมา!
คนที่อยู่รอบข้างก็เหงื่อตก!
ก่อนหน้านี้คณบดีคุยโวโอ้อวดว่าเขารู้จักกับจางเป่ยเป็นอย่างดี และพื้นจะกินข้าวกับอีกฝ่ายเมื่อสัปดาห์ที่แล้วแต่ใครจะไปรู้....จางเป่ยกลับไม่แม้แต่จะบันทึกไม่ได้โทรศัพท์ของเขาเอาไว้เลย!
เมื่อเป็นแบบนี้แล้วไม่ว่าใครก็ต้องอับอายทั้งนั้น
“จางเป่ย ผมเองคณบดีหลิวจากมหาวิทยาลัยชิงหัว”
คณบดีหลิวต้องแนะนำตัวเองอีกครั้ง เขายิ้มออกมาอย่างเขินอายแล้วพูดออกมาอย่างสุภาพ “เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเราเพิ่งเจอกันแล้วไปทานอาหารด้วยกันคุณลืมไปแล้วเหรอ?”
“โอ้~~~”
จางเป่ยตบหัวของตัวเองและแกล้งทำเป็นจำได้ แต่เอาเค้าจริงเค้าจำอีกฝ่ายไม่ได้ด้วยซ้ำเขายิ้มออกมาอย่างเขินอายและสุภาพ “ผมจำได้แล้ว คณบดีหลิวใช่ไหม พอดีว่าผมมีอะไรหลายอย่างที่ต้องทำผมก็เลยลืมไป”
“ไม่เป็นไรๆ”
คณบดีหลิวยิ้มออกมา “พอดีว่าผมมีเรื่องจะขอ”
“เรื่องอะไรหรอครับบอกผมได้เลย”
จางเป่ยไอออกมา
ในใจของเขา : น่ารำคาญชะมัด อีกฝ่ายเป็นใครกัน? ทำไมไม่เห็นจะจำได้เลย?
“ใช่แล้ว ที่ทางเข้าของมหาวิทยาลัยชิงหัวมีตัวแทนขายบ้าน อัพโหลดวีดีโอเกี่ยวกับผมลงบนโต่วอิน ผมกลัวว่ามันจะส่งผลเสียต่อมหาวิทยาลัยชิงหัว ผมเลยอยากจะขอให้คุณลบวิดีโอนั้นและบล็อกบัญชีของเขา”
คณบดีหลิวไม่สนใจมิตรภาพอะไรเท่านั้นตอนนี้เขากลัวเพียงข่าวว่าคลิปวิดีโอของเจียงเฉินที่เผยแพร่ออกไปมันจะทำให้เขาเจอกับจุดจบที่ไม่ดีดังนั้นเขาจึงพยายามขอร้องอ้อนวอนจางเป่ยอย่างสุดความสามารถ
จางเป่ยคิดอยู่ครู่นึง “หมายเลขโต่วอินของเขาคืออะไร?”
คณบดีหลิวจ้องไปที่เจียงเฉิน “เฮ้ เอาหมายเลขของแกมา!”
เจียงเฉินก็ตอบอย่างไม่ใส่ใจ “108”
คณบดีหลิวก็พูดเติมเชื้อไฟลงไป “จางเป่ย ถ้าคุณสามารถช่วยมหาวิทยาลัยชิงหัวได้ผมจะตอบแทนคุณในอนาคตอย่างแน่นอน ถ้าหากคุณมีอะไรที่คุณต้องการขอให้บอกผมได้เลยทันทีผมจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยคุณ”
อธิบดีหลิวพูดออกมาอย่างพอใจ
ในความคิดของเขา ตัวตนของเขาที่มีสถานะเป็นคณบดีของมหาวิทยาลัยชิงหัวนั้นแข็งแกร่งมากกว่าตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์อย่างเจียงเฉินอย่างแน่นอน!
ในแง่ของสถานะทางสังคม ไม่ต้องพูดถึงเลยเพราะไม่มีใครสนใจคนชั้นต่ำอย่างเจียงเฉินอยู่แล้ว
ตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์คืออะไร?
ฉันเป็นถึงคณบดีของมหาวิทยาลัยชิงหัว!
แม้แต่ประธานบริษัทด้านไอทีอย่างจางเป่ยก็ยังต้องฟังเขา!
“รอก่อนเถอะอีกไม่นานบัญชีโต่วอินของแกก็จะถูกแบนทิ้งแล้ว!”
คณบดีหลิวที่อยู่ด้านข้างก็มองไปที่จึงเสร็จอย่างเยาะเย้ย
“ฮ่าๆๆๆ~ การร่ำรวยและมีอำนาจมันช่างวิเศษจริงๆ!”
บู่เจิ้งก็เยอะออกมา
เจียงเฉินพูดออกมา “ฉันไม่เชื่อหรอกว่าบัญชีโต่วอินของฉันจะถูกแบนเพราะอำนาจและความมั่งคั่งของพวกคุณ! เพราะมันไม่ได้อยู่ในหลักปฏิบัติของโต่วอินเลยแม้แต่น้อย”
“อะไรนะ? หลักปฏิบัติ? ฮ่าๆๆๆๆ~~”
คณบดีหลิวหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง “แกมาตลกเกินไปแล้วหนุ่มน้อย แกร้ายเดียงสาเกินไป ถ้าสังคมนี้เรียบง่ายอย่างที่แกจินตนาการและเชื่อ ทุกอย่างมันก็คงมีความยุติธรรมและกฎเกณฑ์ของมัน!”
เจียงเฉินถามออกมา “แล้วยังไง? หรือว่าคุณจะบอกว่าสังคมทุกวันนี้ไม่มีความยุติธรรมและไม่มีกฎเกณฑ์อะไร? แล้วทำไมฉันถึงยังสัมผัสได้ว่ามันมีกฎเกณฑ์และความยุติธรรมอยู่ทุกหนแห่งละ? แสงสว่างแห่งความชอบธรรมมันอยู่ทุกคนแทงไม่ใช่หรอ?”
“ฮ่าๆๆๆ~~~”
คณบดีหลิวและครอบครัวของบู่เจิ้งหัวเราะออกมาจนน้ำตาไหล
“เจ้าพนักงานขายนี่มันไร้เดียงสาจริงๆ!”
พ่อของบู่เจิ้งหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง “มีแต่คนที่อยู่ก้นบึ้งของสังคมนั้นแหละที่ยังเชื่อว่าความยุติธรรมและกฎเกณฑ์มันยังมีอยู่จริง~~”
ในเวลานี้เอง~~
โทรศัพท์มือถือของคณบดีหลิวก็ดังขึ้น
คณบดีหลิวมองไปที่เจียงเฉินอย่างโอ้อวดและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
“สวัสดีครับ เป็นยังไงบ้าง ประธานจาง คุณลบมันไปแล้วใช่ไหมแล้วก็แบนบัญชีโต่วอินของเขาแล้วใช่ไหม?”
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์เสียงของจางเป่ยเต็มไปด้วยความจริงจังมาก “คณบดีหลิวผมต้องขอโทษด้วย! ผมไม่สามารถทำในสิ่งที่คุณต้องการได้”
“อะไรนะ?”
ดวงตาของคณบดีหลิวแทบจะหลุดออกมา!
เหลือเชื่อ!
ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง!
อะไรกัน? ฉันไปถึงคณบดีของมหาวิทยาลัยชิงหัวฉันขอร้องให้จางเป่ยแบบบัญชีโต่วอินของตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ตัวเล็กๆแต่เขากลับไม่สามารถทำได้?
“ทำไมกัน?”
คณบดีหลิวถามออกมาด้วยความโกรธ
จางเป่ยพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความจริงจัง “คลิปวีดีโอที่เขาเพิ่งจะอัพโหลดขึ้นบนโต่วอินนั้นมันสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาทางสังคมอย่างแท้จริงและโต่วอินของเรานั้นก็เป็นเพียงแค่บริษัทเจ้าของแพลตฟอร์ม พวกเราไม่ได้มีหน้าที่ในการรับผิดชอบในการตรวจสอบเนื้อหาหรือลบเนื้อหาที่เราไม่ต้องการ ในทางตรงกันข้ามพวกเรานั้นสนับสนุนการสร้างศีลธรรมให้กับผู้คน ดังนั้นผมจึงขอสนับสนุนวิธีการของน้องชายคนนี้ในการเปิดเผยด้านมืดและความไม่ยุติธรรมของสังคม!”
คำพูดนี้ทำให้คณบดีหลิวถึงกับต้องตกตะลึง!
เขาไม่อยากจะเชื่อ!
จางเป่ยปฏิเสธเขาจริงๆ!
เขาไม่เพียงแต่ปฏิเสธเท่านั้นแต่เขายังสนับสนุนความยุติธรรมและสนับสนุนน้องชายคนนี้ให้เปิดโปงตัวเขา!
จางเป่ยพูดต่อ “และเพื่อเป็นการสนับสนุนน้องชายคนนี้ ผมจึงจะให้โต่วอินเป็นเครื่องมือในการเปิดเผยความจริง ผมได้ตัดสินใจแล้วว่าโต่วอินจะช่วยเผยแพร่คลิปวิดีโอนี้ออกไปเพื่อให้ผู้คนที่ใช้แพลตฟอร์มนี้ต่างได้เห็นมันกัน!”
“อะไรนะ อะไรกัน? แทนที่จะลบออกแต่จะไปแนะนำมันแทน?! คุณกำลังยั่วโมโหผมงั้นเหรอ?!”
อธิบดีหลิวโกรธจัดจนหัวใจแทบจะวาย
เขาไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องมันจะออกมาเป็นแบบนี้!
ครอบครัวของบู่เจิ้งตกตะลึง!
พระเจ้า นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงโชคดีขนาดนี้?
แม้แต่คนที่ก่อตั้งโต่วอินก็ยังสนับสนุนเขา?
แสงแห่งความยุติธรรม?
เป็นไปได้ไหมว่าน้องชายคนนี้เป็นร่างอวตารของแสงแห่งความยุติธรรมจริงๆ?
อาจารย์และนักศึกษาของมหาวิทยาลัยชิงหัวที่อยู่รอบๆต่างก็ตกตะลึง
มีการพูดคุยกันมากมาย~~
“พวกนายได้ยินกันหรือเปล่า จางเป่ยเขาสนับสนุนตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์คนนี้นะ”
“นี่แหละคือแสงสว่างแห่งความยุติธรรม!”
“ไม่รู้ทำไมแต่จู่ๆตาของฉันก็รู้สึกเปียกขึ้นมา~~”
“สุดยอดไปเลย!”
เจียงเฉินยิ้มออกมา
ในเวลานี้เอง~~
เนื่องจากจางเป่ยยังไม่ได้วางสายเขาจึงตะโกนอออกมาว่า “รองประธานเจียง! ผมจัดการด้วยวิธีนี้คุณโอเคไหมครับ?”
พรุบ!
ทุกคนที่อยู่รอบๆล้มลงกับพื้นจนหมด!
ไม่เว้นแม้แต่ครอบครัวของบู่เจิ้งและคณบดีหลิว!
รองประธานเจียง?
ผู้ชายคนนี้เขาเป็น~~
จางเป่ยพูดพร้อมกับหัวเราะออกมา “คุณไปถึงผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของ Byte Dance แต่คุณไม่เคยมาปรากฏตัวในบริษัทเลยแถมไม่เคยมีส่วนร่วมในการตัดสินใจอ่ะไรของบริษัท! ถ้าหากว่าผมไม่เคยเพิ่มเพื่อนคุณในโต่วอินเอาไว้ เจ้าคณบดีโง่เมื่อกี้ที่โทรมาหาผมแล้วขอให้แบนบัญชีของคุณผมก็คงทำตามคำขอของเขาไปแล้ว! แต่ยังโชคดีที่ผมจำได้ ไม่ทราบว่าผมจัดการด้วยวิธีนี้คุณโอเคหรือเปล่า?”
น้ำเสียงของจางเป่ยเต็มไปด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน~~
เพราะมันไม่มีทางอยู่แล้วที่เขาจะทำตัวเย่อหยิ่งต่อหน้าผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของ Bytedance
เพราะแม้แต่ตัวของเขาเองก็ยังไม่มีโอกาสได้ประจบประแจงเจียงเฉินเลย
ดังนั้น~~
เมื่อมีพายตกลงมาใส่หัวของเขาจากท้องฟ้า เขาจะยอมพลาดโอกาสนี้ได้ยังไงกัน!
วันนี้มีคนงี่เง่ามาขอให้เขาแบนบัญชีโต่วอินของเจียงเฉิน?
ให้ตายเถอะ!
ฉันยังต้องคิดอะไรอีก?
จางเป่ยพูดออกมาอย่างเสียงดัง “น้องเจียง ถ้าหากต้องการสั่งสอนเขาก็บอกมาได้เลยนะ!”
นักศึกษาที่อยู่รอบๆ “…”
ให้ตายเถอะ!
วินาทีที่แล้วพวกเราต่างก็คิดว่ามันเป็นเพราะแสงสว่างแห่งความยุติธรรม! แต่นี่เพิ่งผ่านมาไม่กี่วินาทีสรุปแล้ว....
มันไม่ใช่ความยุติธรรมแต่เป็นเพราะเขาเป็นรองประธาน!
เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัท Bytedance! เป็นรองประธานกรรมการบริษัท!
ด้วยตำแหน่งที่ทรงพลังแบบนี้แล้วเข้ามาเป็นพนักงานขายแจกใบปลิวแบบนี้ได้ยังไงกัน?
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
อธิบดีหลิวตกตะลึง~~
พ่อลูกบ่เจิ้งมองหน้ากัน
ในเวลานี้เอง~~
โทรศัพท์มือถือของคณบดีหลิวก็ดังขึ้น
กดรับโทรศัพท์
“แกทำแบบนี้ไปได้ยังไงกัน?!”
เสียงคำรามของอธิการบดีของมหาวิทยาลัยหัวชิงก็ดังขึ้น “แกรู้หรือเปล่า ว่าแกทำอะไรลงไป!”
คณบดีหลิวตัวสั่นด้วยความตกใจ “ผมทราบครับ…..”