SWO ตอนที่ 56 ได้รับหินแห่งชีวิต
ฟุบ!
คนที่มาถึงไม่ใช่ใครอื่นนอกจากโจวเฮา
หลังจากออกล่าแม่ทัพอสูรอย่างบ้าคลั่ง เขาที่เพิ่งมาถึงแอเรีย 226 เมื่อเห็นงูหลามปีศาจเกล็ดดำ และสัตว์อสูรกำลังหนีด้วยความหวาดกลัวทำเอาเขาพูดไม่ออก
โชคดีที่ความเร็วของเขาไม่ช้าจึงสามารถไล่ตามจนตัดหัวแม่ทัพอสูรขั้นสูงตัวนี้ได้ทัน
เมื่อเหลือบมองหยวนเฉิง และคนที่เหลือ เขาจึงคิดว่าพวกเขาคือทีมผู้ฝึกยุทธจากเมืองหัวตง เขายิ้มก่อนกล่าว “พวกเจ้าไม่บาดเจ็บตรงไหนใช่ไหม?”
เมื่อได้ยินดังนั้น หยวนเฉิง หยุนหยาน และอัจฉริยะคนอื่น ๆ ก็กลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง
ใบหน้าภายใต้หน้ากากของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจ
ชายคนนี้สามารถสังหารแม่ทัพอสูรขั้นสูงได้ด้วยกระบวนท่าเดียว
นั่นทำให้พวกเขารู้ได้ทันทีว่าคนที่อยู่ตรงหน้าต้องเป็นปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธอย่างไม่ต้องสงสัย!
“ทะ ท่านผู้อาวุโส ขอบคุณที่ช่วยชีวิตพวกเราไว้!” หยุนหยานเป็นคนแรกที่ตอบสนอง เธอเปิดหน้ากาก และกล่าวด้วยความซาบซึ้ง
หยวนเฉิง และคนอื่น ๆ ก็รีบขอบคุณเขาเช่นกัน
คราวนี้เป็นฝ่ายโจวเฮาที่ต้องตกใจ เขาไม่คิดเลยว่าผู้ฝึกยุทธทีมนี้จะเด็กมากขนาดนี้
“เจ้าเป็นนักเรียนจากเมืองนี้รึเปล่า?” เขาถาม
หยุนหยานรีบกล่าว “พวกเราเป็นนักเรียนจากค่ายฝึกหยานจิง เราถูกย้ายมาที่เมืองหัวตงเพื่อเข้าร่วมคลาสฝึกอบรมพิเศษ!”
โจวเฮาตกตะลึงอีกครั้ง “ค่ายฝึกหยานจิง?”
ผู้หญิงอีกคนที่ชื่อฟางอวี่ตอบ "ใช่ค่ะ เป็นอาจารย์เสิ่นจากโรงเรียนมัธยมเมืองฉูย้ายเรามาที่นี่!”
โจวเฮาที่ได้ยินดังนั้นถามออกไปโดยไม่รู้ตัว “หมายความว่าพวกเจ้ามาที่นี่เพื่อรับการฝึกที่โรงเรียนมัธยมเมืองฉูด้วย?”
“ท่านรู้จักคลาสฝึกอบรมพิเศษของโรงเรียนมัธยมเมืองฉูด้วยงั้นรึ?” หยวนเฉิงฉวยโอกาส และกล่าวขึ้นทันที ท้ายที่สุดคนตรงหน้าเขาน่าจะเป็นปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธ เมื่ออยู่ต่อหน้าตัวตนระดับนี้หยวนเฉิงย่อมประพฤติตัวดีเป็นธรรมดา
โจวเฮาตระหนักทันทีว่าน้ำเสียงของเขาแปลกไป ดังนั้นเขาจึงรีบระงับความคิดของเขา และกล่าวอย่างเรียบเฉย “อืม การฝึกนี้เป็นโอกาสดีสำหรับพวกเจ้า จงคว้าโอกาสนี้ไว้ และพยายามฝึกฝนให้มากเข้า!”
พูดจบเขาก็เก็บงูหลามปีศาจเกล็ดดำลงในกระเป๋ามิติของเขา และทะยานขึ้นไปบนฟ้าทันที
เมื่อมองไปยังชุดเกราะสีแดงที่หายไปในขอบฟ้า หยวนเฉิง และอัจฉริยะคนอื่น ๆ ต่างรู้สึกผิดหวัง
“กระบี่เมื่อครู่… ชวนตะลึงเกินไปแล้ว!”
"เห็นด้วย แม้แต่หัวหน้าครูฝึกของพวกเราก็ไม่สามารถแสดงเทคนิคกระบี่ระดับนี้ได้!”
"ใช่ มันให้ความรู้สึกราวกับว่ามีเพียงแสงกระบี่ที่เหลืออยู่ในโลก หากข้าเรียนรู้ได้เพียงเล็กน้อย ข้าก็พอใจแล้ว!”
“ลืมความคิดนั้นไปได้เลย เจ้าคิดว่าเทคนิคกระบี่เช่นนั้นจะเรียนรู้ได้ง่ายขนาดนั้นเชียวเรอะ? ยิ่งกว่านั้น แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญท่านนี้จะเต็มใจสอน แต่ก็ยังยากที่จะเรียนรู้มันอยู่ดี!”
พวกเขาทั้งหมดถอนหายใจ ขณะที่ใจยังตกตะลึงกับเทคนิคกระบี่ที่โจวเฮาใช้ไม่หาย
หยวนเฉิง และอัจฉริยะที่เหลือจากค่ายฝึกหยานจิงได้เห็นเทคนิคลับมามากมาย แต่พวกเขาไม่เคยเห็นเทคนิคกระบี่ที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้มาก่อนเลยสักครั้ง
“เอาล่ะ เรารีบกลับกันเถอะ แล้วอย่าลืมยกเลิกสัญญาณขอความช่วยเหลือฉุกเฉินด้วย!”
…
ณ สถานีทางตะวันออกของเมืองหัวตง
ตอนเที่ยงคืน ผู้บัญชาการจ้าว และปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธที่เหลือค่อย ๆ ทยอยกลับมาทีละคน
ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธคนอื่น ๆ จัดการได้บางส่วนจากการทำความสะอาดคืนนี้ ส่วนใหญ่เป็นเพราะพวกเขาชนเข้ากับแมลงเงาที่โจวเฮาพลาดไป
แพท แพท แพท
เวลานี้จัตุรัสค่ายทหารทั้งหมดเต็มไปด้วยซากแมลงเงา
“มีแมลงเงากว่าสองร้อยตัว ข้าคิดว่าตอนนี้คงมีแมลงเงาที่หลงเหลืออยู่นอกเมืองน้อยมาก แม้จะมี แต่ราชันแมลงอาจสั่งพวกมันให้ล่าถอย!” เหอเปียวกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เจิ้นหงพยักหน้า “เริ่มแรกแมลงเงาก็มีน้อยมากอยู่แล้วทำให้พวกมันไม่ต่างจากสมบัติของเผ่าแมลง การสูญเสียพวกมันไปมากขนาดนี้ในคราวเดียว ข้าว่าราชันแมลงคงกระวนกระวายแทบแย่เป็นแน่”
ผู้บัญชาการจ้าวหัวเราะ "ดี เมืองจะได้หายห่วงไปพักหนึ่ง ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณผู้อาวุโสโจว”
"ใช่ ต้องยกเครดิตให้ผู้อาวุโสโจวที่ทำให้เราสามารถหาแมลงเงาได้มากขนาดนี้!” ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธหยูกล่าวขึ้น พวกเขาไม่ได้โง่ เมื่อพวกเขาพบแมลงเงา เห็นได้ชัดว่าพวกมันกำลังหนีบางสิ่งอยู่ ซึ่งทิศทางที่พวกมันหนีมานั้นเป็นจุดที่โจวเฮาอยู่
ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธที่เหลือพยักหน้า
ฟุบ
ร่างสีแดงมาถึง
“ผู้อาวุโสโจว!” ผู้บัญชาการจ้าว และคนอื่น ๆ ทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม
โจวเฮากวาดสายตาไปยังศพแมลงเงาในจัตุรัสก่อนยิ้ม “ดูเหมือนคราวนี้ทุกคนจะจัดการได้ไม่น้อย”
“ทั้งหมดต้องขอบคุณผู้อาวุโสโจว!”
“โชคของผู้อาวุโสโจวเหนือกว่าของพวกเรามาก!”
เหอเปียว และคนอื่น ๆ ต่างก็กระตือรือร้น
โจวเฮายิ้ม และหยิบศพแมลงเงาออกจากกระเป๋ามิติของเขา มีแมลงเงามากกว่า 70 ตัว รวมกับ 100 ตัวก่อนหน้าเท่ากับว่าตอนนี้เขามีมันมากกว่า 200 ตัว
“สิ้นสุดการแข่งขัน ผู้อาวุโสโจวจัดการแมลงเงาได้มากที่สุด ดังนั้นหินแห่งชีวิตจึงตกเป็นของเขา!” เมื่อเห็นศพผู้บัญชาการจ้าวจึงหยิบหินแห่งชีวิตออกมามอบให้โจวเฮาทันที
เมื่อถือหินแห่งชีวิต ความรู้สึกสดชื่นก็กระจายไปทั่วร่างโจวเฮา ซึ่งทำให้จิตใจของเขาปลอดโปร่ง
“ขอบคุณผู้บัญชาการจ้าว!” แม้ว่าเขาจะอาศัยความแข็งแกร่ง และโชคของเขาในการขึ้นเป็นที่หนึ่ง แต่เขารู้ดีว่าการที่ผู้บัญชาการจ้าวมอบหินแห่งชีวิตให้นั้นถือเป็นการเสียสละอย่างไม่เห็นแก่ตัว!
หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น พวกเขาคงไม่เอามันออกมาง่าย ๆ แม้ว่ามันจะไร้ประโยชน์สำหรับพวกเขาก็ตาม
ผู้บัญชาการจ้าวส่ายหัว “ผู้อาวุโสโจว ท่านสุภาพเกินไป ท่านได้ทำประโยชน์มากมายให้เมืองนี้ ดังนั้นการที่ท่านได้รับหินแห่งชีวิตจึงเหมาะสมอย่างยิ่ง!”
ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธคนอื่น ๆ พยักหน้า
จากนั้นทุกคนก็จัดงานเลี้ยงฉลองขึ้น ผู้บัญชาการจ้าวยังประกาศด้วยว่าการทำความสะอาดได้สิ้นสุดลงชั่วคราว ในอนาคตพวกเขาจะกลับมาทำอีกครั้งหากมีแมลงเงาปรากฏขึ้นอีก
ระหว่างนี้ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธหลายคนได้ถามโจวเฮาว่าเขาวางแผนจะจัดการกับศพของมิงค์เมฆาเจ็ดหางอย่างไร
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดโจวเฮาก็ตัดสินใจมอบศพของมิงค์เมฆาเจ็ดหางให้กับผู้บัญชาการจ้าว
เมื่อเทียบกับกองกำลังอื่น ๆ ค่ายทหารต้องการมันมากที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย.. ท้ายที่สุดพวกเขาอยู่ในแนวหน้า และต้องการวัตถุดิบจากราชันอสูรขั้นสูงเพื่อจัดหาอุปกรณ์ที่ดียิ่งขึ้น!