SGS บทที่ 128 – ประกาศก้องให้โลกรับรู้ล่ะ!
“เป็นไปไม่ได้.....เป็นไปไม่ได้...เป็นไปไม่ได้....”
ราวกับหุ่นที่ชำรุด ฮิวจ์มีสีหน้าว่างเปล่า ปากพูดพึมพำคำพูดเดิมๆไม่หยุด ทำให้ผู้คนรอบเกิดความรู้สึกสงสารเล็กน้อย
ผลลัพธ์นี้ก็ไม่ได้แตกต่างจากที่พวกเขาคาดไว้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่แปลกใจ ทว่ามีแค่ความรู้สึกอึ้งเท่านั้น
แรงค์7.....ช่างแข็งแกร่งจริงๆ.........
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่รู้พลังของวู่หยานเหมือนคนในเมือง คนตระกูลมิดเดอร์เรีย และเหล่าทหารรับจ้าง ดังนั้นพวกคนตระกูลโลลิจึงมีสีหน้าท่าทางไม่แตกจากฮิวจ์เท่าใดนัก ไม่เว้นแม้แต่ลูลู่กับเฟยเฟย
“...นี่......นี่คือหยานจริงๆ...งั้นเหรอ?.......” ลูลู่เหม่อลอยเล็กน้อยมองดูวู่หยานที่มีประกายสายฟ้าอยู่รอบตัว ดูเหมือนใจเธอยังไม่หายอึ้งจากฉากเมื่อกี้
เทียบกันแล้วเฟยเฟยสภาพดีกว่าลูลู่ที่ใจลอยเห็นๆ เมื่อเห็นวู่หยานทำลาย สิงโตวายุ ได้ เฟยเฟยเพียงแค่นัยน์ตาหดลงเท่านั้น จากนั้นเธอก็กลับมาใจเย็นเหมือนเดิม
เหตุผลที่เธอใจเย็นน่ะเหรอ? ง่ายๆก็เธอเป็นแรงค์7ไงล่ะ!
ในสายตาคนอื่นมันอาจจะดูไม่น่าเชื่อ แต่กับเฟยเฟยแล้วมันไม่มีอะไรเลย แบบนั้นเธอเองก็ทำได้ ใช้ทำได้เหมือนวู่หยาน เพียงแค่เธอวาดมือลงเท่านั้น
ดังนั้น เฟยเฟยจึงดูใจเย็นมาก ทว่าหากมีใครตาดีพอ จะเห็นว่ามือทั้งสองของเธอนั้นสั่นอยู่ เห็นได้ชัดเลยว่าตัวเธอไม่ได้ใจเย็นเหมือนฉากหน้า
ในใจเธอได้มีคำถามผุดขึ้นมามากมาย ตัวอย่างเช่น 2-3เดือนก่อน เห็นๆอยู่ว่าวู่หยานยังเป็นแค่แรงค์2 แต่แล้วทำไมผ่านไปแค่ไม่กี่เดือนเขาถึงได้แข็งแกร่งขึ้นมากถึงขนาดนี้?
แล้วอีกคำถามเช่น ทุกคนในโลกซิลวาเรียย่อมรู้ดีว่า พลังเวทย์กับปราณ มันไม่มีทางอยู่ร่วมกันได้ เธอเองยังจำได้แม่นว่าเมื่อไม่กี่เดือนก่อน วู่หยานใช้ดาบ เห็นได้ชัดว่าเป็น นักรบ!
แต่แล้วตอนนี้ วู่หยานกลับใช้เวทย์สายฟ้า นี่เป็นคำถามที่อยู่ในใจเฟยเฟย
แล้วยังมีอีก.....เยอะ....เยอะมาก.....
แต่ทว่าไม่นานเธอก็เลิกสนใจ เพราะทุกคนย่อมมีความลับตัวเธอเองก็ไม่เป็นข้อยกเว้น ดังนั้นตราบใดที่รู้ว่าเขาจะไม่ทำร้ายหรือเป็นอันตรายตัวลูลู่แค่นั้นก็พอแล้ว
ในตอนนี้เอง เฟยเฟยก็นึกขึ้นมาได้ว่า แรงค์7ที่เทียนเกอร์บอก บางทีคงจะเป็นวู่หยาน ในเวลาแค่2-3เดือนจากแรงค์2มาแรงค์7 ไม่ว่าคิดยังไงเฟยเฟยก็นึกไม่ออกว่าเขาทำได้ยังไง มันเหลือเชื่อเกินไป
แต่ทว่าความไม่ยากเชื่อนี้ไม่นานมันก็เปลี่ยนเป็น เจตจำนงแห่งการต่อสู้!
ตัววู่หยานกับเธอนั้นอายุไม่ห่างกันมาก สามารถเป็นแรงค์7ด้วยอายุเท่านี้ เรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะที่หาตัวจับยาก ก่อนหน้านี้เฟยเฟยก็เคยเจอคนอายุเท่าเธอที่เป็นนแรงค์7 แต่คนเหล่านั้นทำให้เธอรู้สึกไม่ดีมาก
ยกหางตัวเอง หยิ่งยะโส คิดว่าตัวเองสูงส่งที่สุด คนจำพวกนี้เธอเกลียดมากๆ ดังนั้นก่อนหน้านี้เธอจึงตั้งความหวังไว้พอสมควรว่า แรงค์7คนนี้จะไม่มีนิสัยน่ารังเกียจแบบนั้น.......
แล้วตอนนี้ความหวังของเธอได้กลายเป็นจริงแล้ว โดยไม่ต้องสงสัยเลย เขาไม่ใช้คนประเภทนั้นแน่ เธอที่อยู่กับวู่หยานมาสักพักย่อมรู้ดี ดังนั้นนี่จึงทำให้ในใจเธอเกิดความรู้สึกดีใจและมีความสุขมากๆ
มีความสุขที่ในที่สุดก็ได้เจออัจฉริยะรุ่นเดียวกันที่ไม่ใช่พวกน่ารังเกียจนั้น มาสู้กับเธอแล้ว!
มุมปากเฟยเฟยฉีกขึ้นมาเป็นรอยยิ้ม มือเธอสั่นจนหยุดไม่อยู่ ในใจหวังเพียงแต่ว่าให้วู่หยานจัดการฮิวจ์ให้เสร็จเร็วๆ แล้วมาสู้กับเธอ!
ยังไงฮิวจ์ก็เป็นจำพวกที่เธอ ‘เกลียด’ ล่ะนะ จึงไม่แปลกที่จะไม่เห็นใจอีกฝ่ายเลย ถึงแม้จะเป็นพวกเดียวกันก็เถอะ.......
ณ สนามต่อสู้ วู่หยานเก็บกระแสไฟฟ้าเข้าไป มองดูสีหน้าช็อคของฮิวจ์ เขาก็หัวเราะออกมา
“ท่านฮิวจ์ผู้สูงส่ง พลังของฉันเป็นไงบ้าง? มันทำให้นายพอใจได้มั้ย?”
ได้ยินคำถามวู่หยาน ทว่าฮิวจ์ก็ไม่ตอบสนอง ใบหน้ายังคงว่างเปล่า ดูเหมือนแม้จะผ่านไปสักพักก็คงยังไม่ได้สติมาตอบคำถามวู่หยาน จริงๆนี้มันก็เข้าใจได้ ในเมื่อ ‘สิงโตวายุ’ เป็นเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดของฮิวจ์!
เพื่อที่จะให้วู่หยานตกตายแน่ๆ ฮิวจ์จึงได้ใช้พลังทั้งหมดที่มีแม้กระทั่งเอายุทธภัณฑ์ดินออกมาใช้ บวกกับเวทย์ที่แรงที่สุด ดังนั้นจึงพูดได้ว่าท่าเมื่อกี้เป็นเวทย์โจมตีที่แรงที่สุดของเขาแล้ว!
แต่ว่า เวทย์ที่แรงที่สุดของเขากลับโดนเจ้าชั้นต่ำนั้นใช้แค่นิ้วเดียวทำลายทิ้ง!
นี่มันหมายความว่ายังไง?
มันหมายความว่าเจ้าชั้นต่ำในสายตาเขา มันแข็งแกร่งกว่าเขา! แถมแข็งแกร่งกว่ามากจนไม่รู้เท่าไหร่ด้วย!
ฮิวจ์มีความมั่นใจมากว่า ต่อให้เป็นแรงค์โดนท่าโจมตีนี้ไปถึงจะไม่ตายแต่ก็ไม่มีทางทำลายทิ้งได้ง่ายๆเหมือนปัดแมลงวันแบนี้แน่! แถมยังมีโอกาศทำให้แรงค์6บาดเจ็บด้วย!
แต่นี้อะไร มันกลับใช้แค่นิ้วเดียว นี้ไม่ได้หมายความว่ามันแข็งแกร่งกว่าแรงค์6!?
แข็งแกร่งกว่าแรงค์6 ก็ต้องเป็นแรงค์7!
นี่มันเป็นแรงค์7? คนที่เขาดูถูกเหยียดหยาม คนที่ทำให้เขาโกรธแค้น และเป็นคนที่จะขโมยผู้หญิงที่เขารักไป เป็นแรงค์7?
“เป็นไปไม่ได้.....เป็นไปไม่ได้...นี่มันเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!!”
ฮิวจ์คำรามออกมาด้วยความบ้าคลั่ง สีหน้าว่างเปล่ากลายเป็นบิดเบี้ยว ดวงตาเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ ดูราวกับสัตว์ป่าที่บาดเจ็บยังไงยังงั้น ไม่สิมันเหมือนกันเลย เพราะตอนนี้ฮิวจ์ก็กำลังบาดเจ็บจากการโดนทำลายศักดิ์ศรีจึงกลายเป็นบ้าคลั่ง
พลังเวทย์ภายในร่างกายทั้งหมดได้ถูกปล่อยปล่อยออกมา ทำให้รอบๆตัวฮิวจ์มีบรรยากาศหนักอึ้ง
ทันใดนั้น ฮิวจ์โบกคทา เกิดใบมีดสายลม5อันรอบตัว โบกอีกครั้งพวกมันก็พุ่งเข้าหาวู่หยานด้วยความเร็วอันไม่น่าเชื่อ!
กับการโจมตีทีเผลอของฮิวจ์ ทำวู่หยานเลิกคิ้ว ก่อนจะเมินเฉยยืนอยู่ที่เดิม ไม่แม้แต่จะหลบ ยืนรอเวทย์ของอีกฝ่าย จนกระทั่งมันมาเกือบถึงวู่หยานจึงเคลื่อนไหว
เขาสะบัดนิ้ว พริบตาต่อมาก็มีเมล็ดทรายจำนวนนับไม่ถ้วนลอยขึ้นจากพื้นดิน จากนั้นพวกมันก็พากันหมุนวนรอบตัววู่หยาน เมื่อใบมีดสายลมเข้ามาปะทะกับทรายเหล็กก็เกิดประกายไฟขึ้น ก่อนจะหายไป
คนที่เห็นฉากนี้ต่างพากันช็อค คลื่นสีดำพวกนี้มันคืออะไร?..........
กับคนบนโลกใบนี้ ย่อมคิดไม่ถึงว่ามันจะเป็นการควบคุมแรงแม่เหล็กไฟฟ้าแน่ คงคิดแค่ว่ามันวิชาหนึ่งของวู่หยาน
การโจมตีของตัวเองเป็นเหมือนก้อนหินที่โยนลงมหาสมุทร ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย ใบหน้าฮิวจ์ยิ่งบิดเบี้ยว โบกคทาในมีอีกครั้ง ส่งคมมีดสายลมทั้ง5ไป ทว่าฮิวจ์ก็ไม่หยุด มือโบกคทาเพื่อสร้างมันอีกรอบ
ฮิวจ์โบกคทาไม่หยุด ส่งคมมีดสายลมไปโจมตีอีกครั้งและอีกครั้ง พวกมันแต่ล่ะอันเมื่อมาปะทะกับคลื่นทรายเหล็กต่างก็สูญสลายหายไปไม่ว่าจะมากี่อันก็ตาม วู่หยานยืนนิ่ง มีเพียงทรายเหล็กที่เคลื่อนไหวป้องกันเวทย์ของอีกฝ่ายจนหมด
เสียงคมมีดสายลมปะทะกับทรายเหล็กดังขึ้นไม่หยุด
ในตอนนี้เอง ทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนจากฝ่ายไหน สายตาที่ใช้มองฮิวจ์ต่างก็กลายเป็นความสงสารหมด
วู่หยานและฮิวจ์ คนหนึ่งป้องกันโดยไม่เคลื่อนไหว กับอีกครั้งที่โจมตีเข้ามาอย่างบ้าคลั่งโดยไม่อาจจะทำอะไรได้เลย เห็นแบบนี้ไม่ว่าใครก็สามารถเห็นจุดจบ
เวลาผ่านไป ความถี่ในการโบกคทาของฮิวจ์ก็ลดน้อยลง พลังเวทย์ที่พลุ่งพล่านอยู่รอบๆตัวก็ค่อยๆลดน้อยลง คมมีดสายลมที่ส่งไปก็น้อยลงๆ จนในที่สุด ฮิวจ์ก็คุกเข่าลงกับพื้นด้วยใบหน้าว่างเปล่าอีกครั้ง
ตอนนี้ เขาได้ใช้พลังเวทย์ไปจนหมดแล้ว.........
ตั้งแต่แรกยันจบ วู่หยานทำแค่ชี้นิ้วออกมากับสะบัดนิ้วไปที่พื้นแล้วก็พูดไม่กี่ประโยค นอกจากนี้ก็ไม่มีแล้ว เขาไม่ได้เคลื่อนไหวเลย รักษาคำพูดตัวเป็นอย่างดีที่ว่า
‘ตราบใดที่แกทำให้ฉันก้าวถอยหลังได้แม้เพียงครึ่งก้าว ชีวิตของฉันเป็นของแก!’
แล้วผลลัพธ์ก็คือ ฝั่งวู่หยานชนะอย่างเด็ดขาด โดยไม่แม้แต่จะขยับเท้าไปไหน!
คลื่นทรายเหล็กได้หายไปแล้ว จากนั้นวู่หยานก็เดินมาตรงหน้าฮิวจ์ที่คุกเข่าด้วยสีหน้าว่างเปล่าแล้วพูดว่า
“ฉันชนะ! ได้โปรดจำให้ขึ้นสมองด้วยนะไอ้คุณชายแห่งตระกูลโลลิ ถึงคำพูดของตัวเองที่ว่า ‘มีสถานะ’ และ ‘พลัง’ น่ะ แล้วก็ไปบอกพวกเพื่อนของแกด้วยว่า ฉัน วู่หยาน คนนี้ คือเพื่อนของ เมอร์ริวลู่ โลลิ!”
“จะเป็นตอนนี้และตลอดไป!!”