เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 269
ตอนที่ 269
“พวกเจ้าทั้งหมดสมควรตาย!”
ระดับการบ่มเพาะที่แดนสร้างรากฐานของคนเหล่านี้เดิมทีก็ไม่ได้สูงส่งนัก เมื่อต้องเผชิญหน้ากับมังกรไฟจากทักษะจ้าวมังกรไฟของหลินซวน พวกมันก็ไร้พลังจะต่อต้าน ชีวิตของพวกมันดับลงในกระบวนท่าเดียวเท่านั้น
“เจ้าเด็กเหลือขอ!”
“ทารกน้อย!”
เมื่อฉิงหู่และหวงหาวเห็นว่าหลินซวนปลอดภัยดีก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
หลินซวนทักทายพวกเขาและหันกลับไปรุ่นเยาว์ทั้งหลาย เขาเดินไปด้านหน้าทีละก้าว แต่ละก้าวที่เหยียบย่าง กลิ่นอายบนร่างของเขาก็เพิ่มขึ้นทีละน้อย สะกดข่มเหล่าอัจฉริยะนับพันจนพวกเขาไม่อาจหายใจได้เสียด้วยซ้ำ
“ใครยังต้องการจะโจมตีข้าอีก? ข้ายืนอยู่นี่แล้ว เข้ามาสิ!” หลินซวนกวาดสายตาล้ำลึกไปยังผู้คนเบื้องหน้า และไม่มีผู้ใดทั้งสิ้นที่กล้าพอจะเงยศีรษะขึ้นมา
“พวกเจ้าไม่ต้องการทักษะการบ่มเพาะรึ? มันอยู่ในสมองของข้านี่ เข้ามาและเอาไปให้ได้สิ!”
“ต่อให้พวกเจ้าทั้งหมดจะกลายเป็นศัตรูของข้า แต่ข้าก็จะจัดการพวกเจ้าลงด้วยกำปั้นนี่ในวันนี้!” เสียงของหลินซวนดังราวกับฟ้าคำราม พลังระดับหมุนวนทะเลปราณแผ่ออกมาอย่างคุกคาม
ใครเล่าจะสามารถสยบอัจฉริยะนับพันได้ด้วยตัวคนเดียว? จะมีผู้ใดสามารถกระทำเรื่องนี่น่าอัศจรรย์เช่นนั้นได้?
แต่ถึงอย่างนั้น ผู้คนทั้งหลายก็ยังคงนิ่งเงียบ ถึงจุดหนึ่ง เสียงคืบคลานเข้ามาใกล้ของบางสิ่งก็ดังขึ้นมาจากรอบด้าน คล้ายบางอย่างกำลังมุ่งหน้ามายังพื้นที่บริเวณนี้
“ไม่นะ พวกต้นไม้ปีศาจบ้าคลั่งไปแล้ว”
ใครบางคนกรีดร้อง หลินซวนยืนอยู่กลางอากาศพลางตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ต้นไม้ปีศาจเหล่านี้ถาโถมเข้ามาและทำราวกับว่าพวกมันจะทำลายตัวเองได้ในทุกเวลา
“ด้วยต้นไม้ปีศาจจำนวนมากมายถึงเพียงนี้โจมตีเข้ามาพร้อมกัน พวกเราไม่อาจต้านทานมันได้อย่างแน่นอนต่อให้ร่วมมือกันทั้งหมดก็ตามที” เล่ยหยุนซีใบหน้ามืดมน ยิ่งไปกว่านั้น เหล่ารุ่นเยาว์ทั้งหลายต่างก็มาจากกองกำลังที่แตกต่างกัน การจะร่วมมือกันเป็นไปได้ด้วยหรือ?
“แล้วอย่างไร? ข้าจะซัดพวกมันทั้งหมดให้กระเด็นไปด้วยหมัดนี้” หวงหาวมิได้เกรงกลัวสิ่งใดแม้แต่น้อย ปราณวิญญาณในร่างของเขาเคลื่อนพร้อมจะปะทุได้ในทุกเวลา
รุ่นเยาว์ทั้งหลายแทบสิ้นสติ ใบหน้าของพวกเขาเผยความกลัวออกมา เหตุการณ์เบื้องหน้าที่ต้นไม้ปีศาจทั้งหลายกำลังพุ่งเข้ามาพร้อมกันนั้นอยู่เหนือสิ่งที่พวกเขาจะสามารถจินตนาการได้
“ส่งดาบของเจ้ามาให้ข้า!”
หลินซวนเคลื่อนไหวพลางฉกดาบเล่มหนึ่งมาจากมือของอัจฉริยะที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก
“อาวุธวิญญาณชั้นยอดระดับมนุษย์ ดาบนี่ไม่เลวเลยทีเดียว” หลินซวนมีสีหน้าดูแคลนเล็กน้อย
หากมิใช่ว่าเขาหวาดกลัวความแข็งแกร่งของหลินซวนแล้ว อัจฉริยะเจ้าของดาบผู้นั้นคงสาปแช่งเขาไปนานแล้ว
อาวุธชิ้นนี้เป็นบรรพบุรุษของตระกูลมอบมันให้แก่เขา โดยปกติแล้วเขาไม่ค่อยยอมใช้มันเท่าใดนัก แต่หลินซวนกลับฉกมันไปอย่างง่ายดายเสียอย่างนั้น
หลินซวนกระโจนออกไปยืนด้านหน้าผู้คนจากนั้นก็พาตนเองเข้าสู่ฝูงต้นไม้ปีศาจจำนวนนับร้อยล้าน เมื่อพวกมันราวร้อยตนมองเห็นเขา พวกมันก็ต้องการจะใช้เถาวัลย์ของตัวเองรัดร่างของเขาเอาไว้ ทว่าคบดาบสีแดงก็สว่างวาบขึ้น และแกนกลางของต้นไม้ปีศาจกว่าร้อยตนก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ ทันใดนั้นเองก็ถูกพลังดึงดูดของหลินซวนกลืนกินเข้าไป
มังกรเพลิงหมุนวนอยู่รอบดาบเล่มนั้น แต่ละครั้งที่เขาฟาดฟัน ต้นไม้ปีศาจนับไม่ถ้วนตกตายลงอย่างง่ายดาย ในเวลาไม่ถึงสามลมหายใจ ซากของต้นไม้ปีศาจกว่าหมื่นตนก็กองกระจัดกระจายอยู่รอบตัวของหลินซวนเสียแล้ว
“อัสนีสวรรค์เก้าชั้นฟ้า จุติ!”
“หนึ่งดัชนี สยบจักรวาล!”
“นัยน์ตาผู้ยิ่งใหญ่ จงเปิด!”
“เก้าอักขระลับ สร้าง!”
“เจ็ดก้าวสวรรค์กลับกลาย เหยียบย่ำ!”
หลินซวนใช้ทักษะระดับสุดยอดทั้งหมดของเขาออกมา อัสนีสวรรค์สีม่วงเติมเต็มท้องนภาก่อนจะผ่าลงมาราวกับเป็นโทษทัณฑ์จากสรวงสวรรค์ สายฟ้าแต่ละเส้นที่ลงมานั้นทำลายต้นไม้ปีศาจไปนับพัน ดัชนีขนาดยักษ์ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า และพวกมันจำนวนมากก็ถูกบดขยี้จนบี้แบน
หลินซวนสะบัดดาบในมือเพื่อเก็บเกี่ยวแกนกลางปีศาจราวกับกำลังตัดผักกาดอย่างไรอย่างนั้น ทุกย่างที่ก้าวเดิน ศัตรูนับไม่ถ้วนถูกทำลาย ไม่ว่าสายตาของเขาจะกวาดผ่านไปบริเวณใด พลังทำลายล้างก็ปะทุขึ้นอย่างรุนแรง ปีศาจต้นไม้นับร้อยล้านตัวตกตายลงด้วยความเร็วที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน
“คนผู้นี้น่าหวั่นเกรงนัก เขาบรรลุสภาวะหมัดสมบูรณ์ได้ตั้งแต่วัยเยาว์ และทักษะดาบของเขาก็สุดยอดยิ่งนัก พลังสายฟ้าที่มีนั้นก็รุนแรงยิ่ง ทว่า... เขาจะสามารถต่อต้านปีศาจเหล่านี้ไปได้นานเท่าใดกัน?” ใครบางคนกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะกล่าวออกมา
เหล่าต้นไม้ปีศาจทั้งหลายต่างเกรี้ยวกราดยิ่ง พวกมันนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าใส่หลินซวน เมื่อเห็นว่าเขาถูกพวกมันล้อมเอาไว้ตรงกลาง พวกมันก็ฟาดเถาวัลย์เข้าใส่เขา แต่เขากลับวาดดาบตอบโต้ จากนั้นบริเวณโดยรอบก็กลายเป็นว่างเปล่าทันทีจากปีศาจทั้งหลายที่ตกตายลง
เมื่อดาบสุดท้ายของหลินซวนจบลง ต้นไม้ปีศาจกว่าร้อยล้านตนก็ถูกเขาสังหารจนสิ้นภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งเค่อ กล่าวได้ว่าในสายตาผู้อื่น เขาคือเทพแห่งการสังหารอย่างแท้จริง
บัดนี้ ร่างของหลินซวนเต็มไปด้วยจิตสังหารเข้มข้น ดวงตาล้ำลึกของเขาคล้ายเทพมรณะจากนรกภูมิ ผู้คนล้วนไม่กล้าแม้แต่จะจ้องมองเขา
มองเห็นซากร่างของปีศาจต้นไม้ทั้งหลายที่ทอดอยู่บนผืนดิน คนทั้งหมดต่างชะงักค้างไปในทันทีราวกับถูกสาปให้กลายเป็นหิน พวกเขาต่างไร้ซึ่งคำพูดใด
ก่อนหน้านี้ไม่นานนัก พวกเขายังกังวลว่าตนเองจะรอดชีวิตได้อย่างไร แต่ชั่วพริบตาถัดมา ปีศาจต้นไม้นับร้อยล้านกลับนอนเป็นซากอยู่เบื้องหน้าพวกเขา ทุกสิ่งราวกับเป็นเพียงฝันไป มันน่าเหลือเชื่อจนเกินที่จะเข้าใจได้
คนเพียงคนเดียวพร้อมกับดาบอีกหนึ่งเล่มสังหารต้นไม้ปีศาจร้อยล้านตน!
หลังจากแดนลึกลับปิดตัวลง หลินซวนย่อมต้องกลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงลือลั่นไปทั่วทั้งทวีปแผ่นฟ้าแห่งนี้
ทันใดนั้นเอง เสียงแตกหักก็ดังขึ้น
ดาบในมือของหลินซวนหักเป็นสองท่อน จากพลังของมังกรไฟและอัสนีสวรรค์ มันทำให้ความทนทานของดาบเล่มนี้ลดลงอย่างต่อเนื่องจนถึงจุดเสียหายอย่างสมบูรณ์เช่นนี้
นี่ทำให้หลินซวนกระแอมไอออกมาอย่างกระอักกระอ่วนและมองไปยังรุ่นเยาว์ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของดาบอย่างอับอาย
“ขออภัยด้วย ข้าทำดาบเจ้าหักเสียแล้ว ข้าจะมอบแหวนมิติวงนี้ให้เป็นการชดใช้” หลินซวนนำแหวนมิติวงหนึ่งออกมาก่อนขว้างมันไปยังมือของรุ่นเยาว์ผู้นั้น
เขารับแหวนมิติด้วยมือที่สั่นเทา อย่างไรก็ดี ฝ่ายตรงข้ามนับว่าเป็นเทพสังหารผู้น่าหวาดกลัว
ต่อให้หลินซวนไม่ชดเชยแก่เขา เขาก็ไม่กล้าจะเอ่ยปากแม้แต่คำเดียว
ด้วยความสงสัย รุ่นเยาว์ผู้นั้นจึงแอบมองสิ่งของที่อยู่ในแหวนมิติอย่างลับๆ และทำได้เพียงกลืนน้ำลายด้วยความตกใจ
เห็ดหลินจืออายุกว่าหมื่นปี ยุทธภัณฑ์วิญญาณระดับหมุนวนทะเลปราณ และเม็ดโอสถที่สามารถเลื่อนระดับชั้นปราณได้หนึ่งชั้น... เฮือก!
สิ่งของแต่ละอย่างมิได้มีค่าด้อยไปกว่าอาวุธระดับมนุษย์แม้แต่น้อย หากรวมมูลค่าของพวกมันทั้งหมดเข้าด้วยกันก็มากเพียงพอจะซื้อหายุทธภัณฑ์วิญญาณระดับปฐพีได้ แต่ของพวกนี้ในสายตาอีกฝ่ายเป็นได้เพียงของชดเชยให้แก่เขาจริงๆ เช่นนั้นหรือ?
“ทั้งหมดเป็นของข้า?” อัจฉริยะผู้นั้นมองไปยังหลินซวนอย่างโง่งม
หลินซวนขมวดคิ้ว และการกระทำนั้นทำให้รุ่นเยาว์เจ้าของดาบรีบหุบปากในทันที มือที่ถือแหวนมิติวงนั้นอยู่สั่นเทา
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร? มันไม่มากพอเช่นนั้นรึ?” หลินซวนเอ่ยถามด้วยความสับสน
ได้ยินเช่นนั้น รุ่นเยาว์ฝ่ายตรงข้ามก็นิ่งค้างไปก่อนจะรีบกล่าวอย่างเร่งร้อน
“ย่อมพอแล้ว ย่อมพอแล้ว”
เพียงพอแล้ว? ของพวกนี้มีค่ามากกว่าชีวิตของมันเองเสียด้วยซ้ำไป
หากเป็นไปได้ เขาย่อมยินดีจะให้หลินซวนทำลายอาวุธตนเองอีกหลายๆ ชิ้นเพื่อได้รับการชดเชยเช่นนี้
เสี่ยวหวงเดินมาด้านข้างของหลินซวนพลางเอ่ยอย่างเยาะเย้ย
“นี่เจ้าใช่ทารกน้อยที่ข้ารู้จักจริงหรือ?”
“จะเป็นใครได้อีกหากไม่ใช่ข้า?” หลินซวนมองกลับไปยังเสี่ยวหวงที่หยอกเย้าเขาอย่างเคืองขุ่นเล็กน้อย
เป่ยเฉินหลานและเล่ยหยุนซีต่างมองหน้ากันและทำได้เพียงยิ้มอย่างขมขื่น
“หวงซวน ทำลายสถิติในชั้นที่สี่ของหอสวรรค์จุติ ได้รับรางวัลเป็นวิธีการบ่มเพาะโบราณ ทักษะจุตินิรันดร์!”
“หวงซวน ทำลายสถิติพิชิตหอสวรรค์จุติชั้นที่สี่ที่รวดเร็วที่สุด ได้รับรางวัลเป็นทักษะดาบโบราณ คมดาบเทพเจ้า!”
“หวงซวน กลายเป็นผู้สร้างสถิติที่รวดเร็วที่สุดของหอสวรรค์จุติ ได้รับรางวัลเป็นทักษะกระบี่โบราณ แสงดาราชั่วพริบตา!”
ก่อนที่ใครจะทันได้มีปฏิกิริยาใด เสียงประกาศว่าหลินซวนทำลายสถิติก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระท้อนก้องไปทั่วทั้งหอสวรรค์จุติ ทำให้ผู้คนทั้งหลายนิ่งค้างไปชั่วครู่ใหญ่
บัดซบ การทำลายสถิติมันง่ายดายถึงเพียงนี้หรืออย่างไรกัน?
ฉิงหู่มองไปยังหลินซวน ทำให้เขาลูบจมูกตัวเองก็ถามขึ้น
“มีอะไรติดหน้าข้าหรือ?”
“สัตว์ประหลาด!”
สีหน้าของหลินซวนมืดครึ้มลงในทันที