ตอนที่แล้วEp.246 - ถลุงหินคริสตัล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.248 - ความสามารถใหม่

Ep.247 - เพิ่มพูนพลังรบ


2/3

Ep.247 - เพิ่มพูนพลังรบ

เมื่อซื้อหินสกิลที่ตัวเองต้องการเรียบร้อยแล้ว

ต่อไปก็ถึงเวลาซื้อหินสกิลของอาจารย์ซู

ตอนนี้ ซูหยุนปิงมีตำแหน่งเป็นรองผู้นำในกองกำลังของเขาแล้ว

อย่างไรก็ตาม ขนาดเธอที่ถูกมองว่าเป็นมหาเศรษฐี และถึงขั้นทุบหม้อข้าวตัวเอง แต่สุดท้ายก็ยังรวบรวมหินคริสตัลขาวมามอบให้แฮังอวี่ได้แค่ 500 ก้อน ... ซึ่งมันไม่เพียงพอที่จะซื้อหินสกิลจู่โจมมุมอับในราคาครึ่งหนึ่งซะด้วยซ้ำ!

ขนาดเธอยังยากจนแบบนี้

เช่นนั้นแล้วหากเป็นคนธรรมดาเข้ามาแลกเปลี่ยนกับพ่อค้าลึกลับ

เกรงว่าพวกเขาคงแทบไม่มีโอกาสได้ใช้ประโยชน์จากโชคในครั้งนี้

หินสกิลของพ่อค้าลึกลับทุกก้อน โดยเฉพาะหินสกิลขั้น 1 เป็นสิ่งที่มนุษย์ต้องการอย่างเร่งด่วน และยิ่งหากนำไปซื้อขายไปในโลกมนุษย์ ราคาแต่ละชิ้นอาจเพิ่มขึ้นถึง 50% !

เพราะกระทั่งคนอย่างซูหยุนปิง

จำนวนสกิลมรดกที่เธอมียังสามารถนับได้ด้วยนิ้วมือเดียว

ปัจจุบันมีคนจำนวนมากที่ไม่มีสกิลมรดกแม้แต่สกิลเดียว

ฮังอวี่จำได้ ว่าซูหยุนปิงต้องการอีกสองสกิลที่ไม่ใช่เทคนิคกักวิญญาณของคนเฝ้าสุสาน และหากมีหินคริสตัลเหลือก็ขอหินสกิลขั้น 2 ที่เป็นมรดกต่อไปของนักมายากล

และต้องขอบอกว่าเธอโชคดีจริงๆ

ที่สองสกิลที่เหลือของคนเฝ้าสุสานอย่าง ‘ซากศพคืนชีพ’ และ ‘ลูกไฟศพพิษ’ นั้นมีอยู่ในคลังสินค้า

มรดกขั้นถัดไปของนักมายากลเรียกว่า ‘นักเล่นกลลวงตา’ และนักเล่นกลลวงตามีสามสกิลมรดกอันได้แก่ ‘หมอกลวงตาอนันต์’ ‘เขตแดนแห่งความเงียบ’ และ ‘สั่นคลอนจิตใจ’

ซึ่งราคาไม่เลวก็จริง แต่เกรงว่าให้ซื้อทั้งหมดคงไม่พอ!

ลูกไฟศพพิษมีราคา :  120 หินคริสตัลขาว

ซากศพคืนชีพมีราคา : 150 หินคริสตัลขาว

สั่นคลอนจิตใจมีราคา : 300 หินคริสตัลขาว

เขตแดนแห่งความเงียบมีราคา : 400 หินคริสตัลขาว

หมอกลวงตาอนันต์มีราคา : 200 หินคริสตัลเขียว

อาจารย์ซูทุบหม้อข้าวแต่สุดท้ายรวบรวมมาได้ 500 หินคริสตัลขาว เอาแค่ซื้อ ‘ลูกไฟศพพิษ’ และ ‘ซากศพคืนชีพ’ ก็ปาเข้าไป 270 หินคริสตัลขาวแล้ว

ส่วนที่เหลืออีก 230 หินคริสตัลขาวใช้ทำอะไรได้บ้าง?

หินสกิลขั้น 2 ที่ราคาถูกสุดในบรรดาทั้งหมดที่เธอต้องการราคาสูงถึง 300 หินคริสตัลขาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสกิลหลักหมอกลวงตาอนันต์มันสูงถึง 200 หินคริสตัลเขียว เงินของซูหยุนปิงไม่เพียงพอ!

ฮังอวี่เดิมวางแผนที่จะเพิ่ม 70 หินคริสตัลขาวให้เพื่อซื้อหินสกิลสั่นคลอนจิตใจ

เนื่องจากสกิลสั่นคลอนจิตใจเป็นสกิลต่อสู้ที่มีประโยชน์มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องสู้กับสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญา มันสามารถสร้างเอฟเฟกต์ผสมผสานระหว่าง ‘สร้างภาพลวงตาให้สับสน + ดาเมจที่แท้จริง’ ได้สองทาง ปรับใช้งานได้อย่างยืดหยุ่น สามารถเพิ่มพลังรบส่วนบุคคลของอาจารย์ซูได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม เมื่อลองคิดดูอีกแง่หนึ่ง

เวลานี้ซูหยุนปิงอยู่ภายใต้การปกป้องของตัวเขา

และสกิลสั่นคลอนจิตใจชัดเจนว่าไม่ได้มีไว้สำหรับสนับสนุนทีม

ซึ่งไหนๆเขาก็ยอมให้ยืมหินคริสตัลแล้ว เช่นนั้นจะดีกว่าไหมหากให้ยืมเพิ่มอีก 100 ก้อน แล้วไปซื้อหินสกิลเขตแดนแห่งความเงียบแทน

เขตแดนแห่งความเงียบคือมรดกของนักเล่นกลลวงตา นอกจากนี้ยังเป็นสกิลขั้นต่อไปของโรงละครแห่งความเงียบที่เป็นมรดกของนักมายากล หากเรียนรู้มัน เอฟเฟกต์ของสกิลทั้งสองจะซ้อนทับกัน และนั่นให้ผลลัพธ์ดีกว่าสกิลขั้น 1 มาก

หากยังไม่เข้าใจ สรุปง่ายๆก็คือ

เอฟเฟกต์ของสกิลโรงละครแห่งความเงียบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของสกิลเขตแดนแห่งความเงียบ!

หากคุณเปิดใช้งานสกิลขั้น 2 ‘เขตแดนแห่งความเงียบ’ จะเท่ากับว่าสกิล ‘โรงละครแห่งความเงียบ’ ถูกเปิดใช้งานไปด้วย จากนั้นทั้งคู่จะเข้าสู่สถานะคูลดาวน์

สกิลนี้มันดียังไงน่ะหรือ?

นี่คือสกิลควบคุมหน่วงเหนี่ยวแบบสนามพลัง + สกิลใบ้แบบภาพรวม

เอฟเฟกต์ของมันอาจไม่รุนแรงเท่าสกิลวาจาต้องห้ามของฉินมู่ที่สามารถใบ้แม้กระทั่งมอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่นได้ชั่วคราว ทว่าวาจาต้องห้ามสามารถใบ้ได้แค่เป้าหมายเดียวเท่านั้น ขณะที่เขตแดนแห่งความเงียบสามารถใบ้ได้ในวงกว้าง

หากซูหยุนปิงเรียนรู้สกิลดังกล่าว

ต่อให้พลังรบส่วนบุคคลจะไม่แข็งแกร่งขึ้นเท่าไหร่นัก

แต่เมื่อต่อสู้แบบทีม มันจะส่งผลต่อพลังรบโดยรวมอย่างแน่นอน

ซื้อมัน!

ฮังอวี่ควักเงินจากกระเป๋าตัวเองจ่ายเพิ่มให้เธอ

เติมเต็มหินคริสตัลที่ขาดไป

เขาไม่เพียงช็อปปิ้งแทนเธอฟรีๆ

แต่ยังจ่ายเงินล่วงหน้าให้มากกว่า 170 หินคริสตัลขาว

แม้หินคริสตัลขาว 170 ก้อนจะเทียบได้แค่เงินค่าขนมในกระเป๋าตังของฮังอวี่

แต่สำหรับหยุนปิงแล้วนี่ถือเป็นบุญคุณก้อนใหญ่

หากเธอชดใช้ไม่ได้ เกรงว่าคงต้องตอบแทนโดยด้วยเสิร์ฟชา ซักผ้า ไม่ก็ทำงานบ้านให้เขา!

หินสกิลที่ต้องการพร้อมแล้ว

ฮังอวี่รู้ดีว่ามีมรดกดีๆอีกมากมาย

อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เงินในมือเขาน้อยไป ตอนนี้คงต้องเอาเท่าที่ได้ก่อน

ฮังอวี่เอ่ยถาม “ผมต้องการซื้อโพชั่นลับแต้มวิญญาณกับไอเท็มที่ช่วยเร่งการวิวัฒนาการของสัตว์วิญญาณ คุณมีขายรึเปล่า?”

“ก็มีอยู่หลายชิ้น”

“แต่จะขอเลือกชิ้นที่คุ้มค่ากับเงินและประสิทธิภาพในปัจจุบันของแขก”

“ข้าขอแนะนำโพชั่นลับแต้มวิญญาณของโทรลล์ชั้นสูงและเม็ดยาสัตว์วิญญาณขาว”

[โพชั่นลับแต้มวิญญาณของโทรลล์ชั้นสูง] โพชั่นเลเวล 8 , สีเขียวคุณภาพกลาง , เพิ่มแต้มวิญญาณทันที 800 แต้ม , ระยะเวลาคูลดาวน์ 12 ชั่วโมง

ราคา 15 หินคริสตัลเขียว

[เม็ดยาสัตว์วิญญาณขาว] เม็ดยาเลเวล 8 , สีขาวคุณภาพสูง , เพิ่มแต้มวิวัฒนาการของสัตว์วิญญาณระดับชั้นยอด 5 แต้มในทันที ระยะเวลาคูลดาวน์ 12 ชั่วโมง

ราคา 20 หินคริสตัลขาว

ทั้งสองจัดเป็นยาในเลเวล 8

นับเป็นของดีอย่างยิ่ง

แต่ราคาค่อนข้างสูงไปบ้าง โดยเฉพาะโพชั่นลับแต้มวิญญาณ

หลังตากไตร่ตรองพักหนึ่ง ฮังอวี่กล่าวว่า “ผมต้องการโพชั่นลับแต้มวิญญาณ 4 ขวด และเม็ดยาสัตว์วิญญาณ 20 เม็ด”

โพชั่นลับ 4 ขวด

สามารถเพิ่มแต้มวิญญาณได้ทั้งสิ้น 3200 แต้ม

นั่นมากพอให้ฮังอวี่ใช้เป็นค่าเรียนรู้และอัพเลเวลสกิลใหม่ของเขา

เม็ดยาสัตว์วิญญาณ 20 เม็ดสามารถเพิ่มแต้มวิวัฒนาการได้ 100 แต้ม ซึ่งหวังเอ๋อมีแต้มวิวัฒนาการที่ต้องการในการยกระดับสู่ระดับเจ้าถิ่นเพียง 140 แต้มเท่านั้น และตอนนี้มันสะสมแต้มวิวัฒนาการได้หลายสิบแต้มแล้ว ด้วยเม็ดยาจำนวนเท่านี้ น่าจะมากพอ

เม็ดยาสัตว์วิญญาณนี้มีประโยชน์สำหรับสัตว์วิญญาณในระดับชั้นยอดเท่านั้น

หลังจากสุนัขยกระดับเป็นเจ้าถิ่น เม็ดยานี้ก็จะไม่ส่งผลใดๆอีก

ถ้ายังเหลือ ฮังอวี่ก็สามารถนำไปใช้กับราชินีมดได้ ถ้าเขามีทุนมากกว่านี้ เขามั่นจะว่าคงซื้อเพิ่มอีก 50 - 80 เพราะอย่างไรเสียราคาเม็ดละ 20 หินคริสตัลขาวไม่ได้แพงมากมายอะไร

20×20 = 400 (หินคริสตัลขาว x จำนวนเม็ดยา)

12×15×4 = 720 (หินคริสตัลขาวที่นำไปสังเคราะห์ x หินคริสตัลเขียวที่ได้จากการสังเคราะห์ x โพชั่นลับ 4 ขวด)

ครั้งนี้ใช้หินคริสตัลขาวได้ทั้งสิ้ว 1,120 ก้อน

แค่ซื้อหินสกิลของตัวเอง หินคริสตัลขาวกว่า 3,000 ก้อนที่ถอนออกจาสมาคมมังกรฟ้าก็ถูกใช้ไปเกินกว่าครึ่งแล้ว บวกกับการใช้จ่ายครั้งนี้ ทำให้เหลือหินคริสตัลขาวอยู่หลักร้อย และหินคริสตัลเทาอีกกว่า 10,000 ก้อนเท่านั้น

หากนำหินคริสตัลเทาไปสังเคราะห์ คำนวณแล้วจะเท่ากับเหลือหินคริสตัลขาวประมาณ 1,500 ก้อน

ถ้างั้นเขาจะใช้หินคริสตัลขาวล็อตสุดท้ายนี้อย่างไร?

สำหรับเรื่องนี้ ฮังอวี่วางแผนเอาไว้แล้ว เขาหันไปพูดกับพ่อค้าลึกลับว่า “ผมต้องการสัญญาอุปการะสีเขียวเลเวล 8 กับคัมภีร์สกิลปิดล้อมแสงศักดิ์สิทธิ์เลเวล 8”

พ่อค้าลึกลับตอบกลับ

“แขกผู้มีเกียรติช่างโชคดี”

“ทั้งสองรายการนี้มีอยู่ในคลังสินค้าพอดี”

[สัญญาอุปการะ] สัญญาเลเวล 8 , สีเขียวคุณภาพสูง , สามารถใช้ทำสัญญากับบุคคลที่ต้องการอุปการะได้ แต่เลเวลของเป้าหมายที่ทำสัญญาต้องไม่มากกว่าเลเวลของผู้ใช้

ราคา 100 หินคริสตัลเขียว

[คัมภีร์ปิดล้อมแสงศักดิ์สิทธิ์] คัมภีร์เลเวล 8 , สีเขียวคุณภาพสูง , สามารถปลดปล่อยสกิลขั้น 2 ‘ปิดล้อมแสงศักดิ์สิทธิ์’ เป็นระยะเวลา 120 วินาที , ใช้งานได้ครั้งเดียว

ราคา 50 หินคริสตัลขาว

ทำไมฮังอวี่ถึงต้องซื้อไอเท็มทั้งสองชิ้นนี้น่ะหรือ?

ชิ้นแรกมีไว้สำหรับเสี่ยวไป๋ ชิ้นหลังมีไว้เพื่อกำจัดลิซ

ฮังเสี่ยวไป๋ติดอยู่ในโลกมนุษย์ตลอดเวลา

แม้พลังรบของเธอจะค่อยๆฟื้นคืนกลับมา แต่อัตราเร็วค่อนข้างเชื่องช้า

หากฮังอวี่สามารถนำเธอกลับสู่โลกวิญญาณได้ มันไม่เพียงเป็นการช่วยเร่งการฟื้นพลังรบของเธอเท่านั้น แต่เธอยังสามารถเป็นผู้ช่วยที่ทรงพลังของเขา ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่เขาได้ในหลายๆด้าน

สัญญาอุปการะ

ชื่อก็ตามความหมาย มันมีไว้ใช้สร้างความสัมพันธ์แบบครอบครัว

ด้วยสัญญานี้ ฮังอวี่สามารถผูกมัดเสี่ยวไป๋ไว้กับตัวเองผ่านสัญญา ต่อจากนี้ไป เธอจะกลายเป็นผู้ติดตามของเขา แม้เสี่ยวไป๋จะถูกเงื่อนไขบางอย่างจำกัดเอาไว้ภายใต้สัญญานี้ แต่สุดท้ายเธอจะได้ประโยชน์จากมันมากกว่า

ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้านายกับผู้ถูกอุปการะนั้นไม่ทรงพลังเท่าสัตว์วิญญาณ

สถานะของสัตว์วิญญาณขึ้นอยู่กับเจ้านายอย่างสิ้นเชิง มันมีมิติสัตว์วิญญาณเป็นของตัวเองก็จริง แต่เมื่อเจ้านายตาย สัตว์วิญญาณก็ต้องตายเช่นกัน

การทำสัญญาอุปการะต้องอยู่ในสภาพเต็มใจเวลาใช้งาน มิฉะนั้นพิธีกรรมอาจล้มเหลว ขณะที่เมื่อสำเร็จผู้อยู่ในอุปการะจะไม่สามารถกระทำการใดที่อาจเป็นการทำร้ายเจ้านายได้ และเลเวลจะไม่สามารถมากกว่าเจ้านาย

สำหรับคัมภีร์สกิล?

เจ้าสิ่งนี้ซื้อมาเป็นพิเศษสำหรับใช้กำจัดลิซ

ฮังอวี่ตั้งใจที่จะพาสุนัขและอาจารย์ซูไปล่าลิซหลังจากกลับบ้าน

ไม่ใช่แค่เพราะเรื่องลิซทำให้เขาขุ่นเคือง แต่เพราะหลังจากกำจัดลิซแล้ว เขาจะได้รับกล่องวิญญาณของมันด้วย

กล่องวิญญาณของลิซมีประโยชน์มากสำหรับฮังอวี่

ฮังอวี่กลัวว่าคัมภีร์ม้วนเดียวจะไม่พอ ดังนั้นซื้อเพิ่มอีกหนึ่งม้วน เพื่อให้มั่นใจว่าลิซจะถูกกักขังจนตาย ไม่เหลือโอกาสให้มันหลบหนี

เอาล่ะ!

ถึงขั้นนี้

ฮังอวี่แทบหมดตัวแล้ว

เขาแลกเปลี่ยนเม็ดยาสัตว์วิญญาณขาวอีกสองสามเม็ด และเหลือค่าธรรมเนียมสำหรับเทเลพอร์ต บวกกับค่าซื้อเสบียงสำหรับตัวเอง ถลุงเงินทั้งหมดที่มีไปภายใน 3 - 4 นาที

ฮังอวี่ก็รู้อยู่หรอกนะว่าเขาค่อนข้างรวย

แต่ดูเหมือนเขายังรวยไม่มากพอ อ๊าาาา!

ก่อนอื่นเขาดื่มโพชั่นลับแต้มวิญญาณ ได้รับ 800 แต้มวิญญาณในทันที

ต่อมาเรียนรู้สกิล ‘จู่โจมมุมอับ’ ‘คลุ้มคลั่งเข้าสังหาร’ และ ‘ศรพริบตา’ ตามลำดับ

เขาตัดสินใจอัพเลเวล ‘ศรซุ่มยิง’ และ ‘ศรพริบตา’ เป็นเลเวล 3 ก่อน เพราะเมื่ออัพจนเต็ม เขาจะได้รับมรดกที่สมบูรณ์ นั่นช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่เอฟเฟกต์ของสกิลทั้งสาม รวมไปถึงช่วยเพิ่มฐานค่าคุณสมบัติด้วย

เมื่อใช้มันกับธนูคำสาปหินที่สร้างเสร็จแล้ว

ความสามารถในการสังหารมอนสเตอร์ของเขาจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า!

ฮังอวี่แทบรอไม่ไหวที่จะลองใช้เอฟเฟกต์ของมัน

เขาตั้งสมาธิ เติมเต็มแต้มวิญญาณอัพเลเวลสกิลทั้งสองอย่างรวดเร็ว พลังงานสายหนึ่งหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายเขา จากนั้นเสียงที่เปี่ยมไปด้วยบารมีก็ดังขึ้นในใจเขา “ได้รับมรดกขั้น 1 ‘นักธนู’”