ตอนที่แล้ววันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0057
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปวันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0059

วันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0058


บทที่ 22 ทัศนคติที่นักผจญภัยมีต่อยุคสมัย (1)

* * *

ซอจีอาเห็นขบวนไวลด์ฮันต์รีบหักหัวเปลี่ยนทิศ

ไวลด์ฮันต์มิได้พุ่งชนคังซอนฮูโดยตรง แต่พุ่งหลบพร้อมกับหักหัวกลับเป็นรูปตัว U

คังซอนฮูไม่ได้หันไปมองผลลัพธ์ที่ตนสร้างขึ้น

ชายหนุ่มมั่นใจว่าจะเกิดสิ่งใดถัดไป โดยไม่ต้องยืนยันด้วยตาตัวเอง

ในพื้นที่ล่าสัตว์ที่ถูกผูกขาด นักล่ามีสิทธิ์หยิ่งผยอง

ทุกสิ่งเกิดขึ้นเร็วมาก ชนิดที่ถ้าไม่ฉายภาพย้อนหลังก็คงตามไม่ทัน

สัตว์ร้ายสีขาวบริสุทธิ์ห่อหุ้มร่างกายคังซอนฮูพร้อมกับส่งเสียงคำราม ปากของมันกำลังเขมือบโครงกระดูกที่ขี่ม้าโลกันตร์ กรงเล็บแทงทะลวงชุดเกราะรวมถึงหัวใจอันโสมมของอีกฝ่าย

สัตว์ร้ายห่อร่างคังซอนฮูเอาไว้ประหนึ่งอาภรณ์สีขาว ขนาดร่างกายอันใหญ่โต คือสัญลักษณ์ของเจตจำนงที่ต้องการจะปกป้อง

ถ้าร่างกายมหึมาเปรียบดังโล่ กรงเล็บอันคมกริบก็เปรียบดังดาบแห่งผู้ปกครองที่คอยเข่นฆ่าศัตรู

“ฮี่—!”

ม้าโลกันตร์ที่ถูกกระทบกระเทือนอย่างหนัก บิดตัวไปมาขณะล้มลงบนพื้น

เนื่องจากขบวนไวลด์ฮันต์พุ่งใส่ด้วยความเร็วสูง ม้าโลกันตร์ต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะฟื้นฟูตัวเองได้

คำถามก็คือ ทำไมขบวนไวลด์ฮันต์ถึงต้องหลบหน้าคังซอนฮู

ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ผู้นำขบวนถูกเล่นงาน เพราะต่อให้สูญเสียแม่ทัพ แต่เหล่าทหารก็ยังจู่โจมได้อยู่ดี

ศัตรูเป็นแค่มนุษย์คนเดียวไม่ใช่หรือ

แต่ในความเป็นจริง ไวลด์ฮันต์ไม่มีทางเลือกนอกจากเบี่ยงตัวหลบมนุษย์

เพราะภาษาที่อีกฝ่ายเปล่งออกมา คือภาษาแห่งราชัน

ภาษาแห่งราชันคือสัญลักษณ์ของอำนาจ แม้แต่มีชีวิตอันโสมมก็ยังรู้สึกหวาดหวั่นเมื่อต้องเผชิญหน้ากับหลักฐานแห่งอำนาจที่คาดไม่ถึง

นั่นคือสาเหตุที่พวกมันหักเลี้ยวหลบ

และนั่นคือผลลัพธ์ที่คังซอนฮูเล็งเอาไว้

ในท่าวางมือลงบนพื้น ชายหนุ่มเปล่งคำสำหรับเริ่มต้น

“คาห์สkaahz”

ขณะเดียวกัน อักษรรูนที่วาดเตรียมไว้เริ่มส่องแสง

ดอกไม้ไฟพุ่งขึ้นจากทุกทิศ ขนาดของมันเล็กกว่ากำปั้นเล็กน้อย ดูไม่มีพิษมีภัยแต่อย่างใด

ทว่าเมื่อทำปฏิกิริยากับสารประกอบแปรธาตุที่คังซอนฮูติดตั้งไว้ล่วงหน้า เปลวไฟสีฟ้าขนาดมหึมาจึงถือกำเนิด

นี่คือกับดักเปลวไฟพลังศักดิ์สิทธิ์ของคังซอนฮู

“โฮกกกก—!”

ไวลด์ฮันต์ที่กำลังหักเลี้ยวกลับ จำต้องถูกคลอกด้วยเพลิงสีฟ้าอย่างมิอาจเลี่ยง

ขบวนหลักที่ถูกเล่นงานด้วยเพลิงศักดิ์สิทธิ์มีอันต้องเสียหายหนัก เมฆดำที่คอยสนับสนุนถูกแผดเผาจนกระจัดกระจาย ภูตผีนับสิบตนร่วงหล่นลงพื้นและกลิ้งไปมา

“กรร—!”

สัตว์ร้ายสีขาวบริสุทธิ์ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือ

ดาบแห่งผู้ปกครองมีไว้สำหรับสังหารศัตรู เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด เสือขาวร่างยักษ์พุ่งไปยังจุดที่ภูตผีตกพื้นพร้อมกับแทงกรงเล็บออกไป

ขบวนไวลด์ฮันต์ที่หนีรอดไปได้ รีบพุ่งขึ้นฟ้าพร้อมกับหมุนเป็นวงกลม

สิ่งที่ออกจากปากคังซอนฮูคือภาษาแห่งราชันไม่ผิดแน่

แม้จะอับอายเพราะเสียท่าในการจู่โจมแรก แต่เหล่าไวลด์ฮันต์ทราบดี

ว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ราชา

ครั้งที่สองจะไม่ได้ผลอีกแล้ว พวกมันจึงกล้าลงมือเต็มกำลัง

เป้าหมายคือคังซอนฮูอย่างไม่ต้องสงสัย

“…ไวลด์ฮันต์เป็นราวกับภัยธรรมชาติ”

คังซอนฮูพึมพำ

คนเดียวที่ได้ยินคือเอลฟ์อย่างซอจีอา

“พวกมันดูคล้ายกับคลื่น… เซลฟี”

คังซอนฮูกำลังพูดกับเซลฟี

ในสถานการณ์แบบนี้ ยังมีกะจิตกะใจจะพูดคุยอีกหรือ

ซอจีอาพยายามเงี่ยหูฟังบทสนทนา

“การเผชิญหน้ากับธรรมชาติถือเป็นเรื่องโง่เขลา มีแต่คนคิดฆ่าตัวตายที่ทำกัน”

พูดจบ คังซอนฮูถอดกระเป๋าเป้ที่สะพายอยู่

ขบวนไวลด์ฮันต์บนฟ้ากำลังจัดระเบียบทิศทาง เป้าหมายคือคังซอนฮูด้านล่าง

“ถ้าอย่างนั้น… เซลฟี”

「เชิญรับสั่ง」

“รบกวนด้วย”

「หากเป็นความประสงค์ของนายท่าน ข้าก็จะทำ」

“กรร—!”

สัตว์ร้ายสีขาวบริสุทธิ์พุ่งออกไปปะทะขบวนไวลด์ฮันต์แทนคังซอนฮู

ชายหนุ่มหันหลังไปยังทิศทางหนึ่ง ตรงนั้นมีม้าโลกันตร์กำลังแกว่งขาในท่าดิ้นรนเพื่อลุกขึ้นยืน

กระเป๋าห้วงมิติ

กระเป๋าที่มิอาจบรรจุสิ่งที่มีวิญญาณ คังซอนฮูยัดม้าโลกันตร์ตัวดังกล่าวเข้าไป

คล้ายกับฟองอากาศที่ไหลลงท่อน้ำทิ้ง ร่างของม้าโลกันตร์ถูกดูดเข้าไปในกระเป๋าในสภาพบีบอัด

กระเป๋าหล่นลงพื้นดังโครม คังซอนฮูรีบใช้เข่ากดไว้และปิดปากกระเป๋าอย่างแน่นหนา

หลังจากแบกขึ้นหลัง ชายหนุ่มวิ่งกลับไปทางหมู่บ้านด้วยความเร็วสูงสุด

แน่นอนว่าไวลด์ฮันต์ไม่นิ่งดูดาย

[โลหิต สายลม สงคราม ประวัติศาสตร์]

“โฮกกก—!”

ขณะไวลด์ฮันต์พุ่งเข้ามาใกล้ คังซอนฮูชี้แหวนไปทางสัตว์ร้ายสีขาวบริสุทธิ์

วงแหวนเวทปรากฏขึ้นบนขนสัตว์นุ่มๆ

ชายหนุ่มตะโกน

“มาร์คามา ทูมาร์ค มาห์เทรีmarlkaama to marlk mha teri”

เปลวไฟสีฟ้าขนาดมหึมาที่ลุกไหม้อยู่ทั่วบริเวณ ถูกออกคำสั่งให้มารวมตัวกันที่สัตว์ร้าย

ไม่นานหลังจากนั้น สัตว์ร้ายที่ห่อหุ้มด้วยเพลิงศักดิ์สิทธิ์ พุ่งประจัญบานใส่ไวลด์ฮันต์อย่างฮึกเหิม

คังซอนฮูโยนตัวเองผ่านบาเรียป้องกันและกลับเข้ามาในหมู่บ้ายอย่างปลอดภัย

“…”

ลิลี่และซอจีอาต่างจ้องมองชายหนุ่ม

คังซอนฮูปัดกางเกงที่สกปรกพลางก้มมองกระเป๋าที่โยนลงบนพื้น

ซอจีอาเริ่มเข้าใจเรื่องราว

ตั้งแต่แรกแล้ว คังซอนฮูมิได้ออกไปเผชิญหน้ากับไวลด์ฮันต์ตามลำพังเพราะต้องการอวดพลัง อีกฝ่ายไม่ใช่ไอ้โง่ที่คิดจะฆ่าตัวตายอย่างไร้เหตุผล

เป้าหมายเดียวของคังซอนฮูคือสัตว์ขี่ และเมื่อบรรลุจุดประสงค์ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องสิ้นเปลืองพลังงาน

ชายคนนี้คือนักล่า ไม่ใช่นักสู้

“น่าเสียดาย ฉันอยากจะจับสักสองตัว แต่แค่นี้ก็พอแล้ว”

“บ้าบิ่นจริงๆ”

เป็นคำนิยามสั้นๆ จากซอจีอา

* * *

ฉากการต่อสู้ระหว่างไวลด์ฮันต์กับเสือขาว ไม่ว่าจะมองมุมใดก็น่าทึ่ง

จนกระทั่งเวลาผ่านไป อุนเดราปรากฏตัวอีกครั้ง ขบวนไวลด์ฮันต์รีบบินหายไปจากเส้นขอบฟ้า

ศพที่นอนเกลื่อนกลาดบนพื้นค่อยๆ ระเหยท่ามกลางแสงศักดิ์สิทธิ์

เมื่อหันกลับไปมอง ไม่เหลือผู้คนอยู่ชมเหตุการณ์แม้แต่คนเดียว

ฉันอยากรู้ว่าชาวบ้านจะตอบสนองต่อไวลด์ฮันต์อย่างไร น่าเสียดายที่ไม่ได้เห็น

ก็เข้าใจได้ ในช่วงเวลาที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต คงไม่มีใครกล้าเอาชีวิตตัวเองมาเสี่ยง

ลงเอยด้วย เหลือแค่ฉัน ซอจีอา และลิลี่

เมื่อทุกสิ่งจบลง ฉันต้องพัวพันกับ OWIC อีกสักพัก

แน่นอนว่าไม่ใช่เหตุผลด้านที่แย่

“…พวกเราไม่รู้จริงๆ ว่าควรตอบแทนคุณยังไง”

จองจีฮุนสารภาพตามตรง แต่สีหน้าของเขาดูสดใสมาก

“ตอบแทนสินะ… พูดตามตรง ฉันไม่ได้คาดหวังตั้งแต่แรกแล้ว”

เป็นความรู้สึกจากใจจริง

ฉันแค่ไม่อยากเห็นผู้ป่วยในโรงพยาบาลต้องตาย และไม่อยากเห็นหมู่บ้านถูกทำลาย

เพราะนั่นคงไม่ส่งผลดีต่อฉันสักเท่าไร

“ถึงอย่างนั้น ถ้าต้องการสิ่งใดก็แจ้งมาได้เลยครับ พวกเราจะพยายามอย่างเต็มที่”

“สิ่งที่ฉันต้องการ… หืม…”

นึกออกอยู่หนึ่งเรื่อง

จริงๆ จะทำเองก็ได้ แต่ไม่ค่อยมีเวลา เลยไม่ได้ทำสักที

“ช่วยขยายสำนักงานของฉันให้กว้างขึ้นอีกนิดได้ไหม เอาเป็นตึกสองชั้น”

จองจีฮุนพยักหน้า

“สบายมากครับ ไม่ใช่ข้อเรียกร้องที่ยากเลยสักนิด ตอบแทนแค่นี้จะพอจริงๆ หรือ?”

“ใช่ พอแล้ว”

เพราะถึงยังไง จองจีฮุนก็จะคอยทำตามที่ฉันบอกทุกเรื่องอยู่ดี

ไม่จำเป็นต้องฝืนกินคำโตให้หมดในคราวเดียว

ได้ต่อเติมสำนักงานกิลด์ก็ไม่เลว

ก็อย่างที่บอกไป ฉันไม่ได้หวังอะไรตั้งแต่แรก

ก้มมองบาเรียกระจกที่กลับไปเป็นแผ่นสามเหลี่ยมเล็กๆ อีกครั้ง ตามด้วยกล่าว

“…ทำไมนายถึงไม่ขอซื้อมัน?”

“ครับ?”

“ทุกครั้งที่ฉันมีของแปลกๆ พวกนายมักจะติดต่อขอซื้อไม่ใช่หรือ นึกว่าจะทำแบบเดิม”

จองจีฮุนตอบพลางจ้องบาเรียกระจกในมือฉัน

“…อันที่จริงก็มีการถกเถียงกันภายใน ว่าถ้ามีบาเรียกระจกนั่น บริษัทจะทำได้อีกหลายเรื่อง แถมยังมีคุณค่ามากต่องานวิจัย”

“แล้วทำไมถึงไม่พูดอะไรเลย”

จองจีฮุนยิ้มเคอะเขิน

“พวกเราได้ข้อสรุปว่า… บริษัทคงไม่มีปัญญาแลกเปลี่ยนด้วยสิ่งของที่มีมูลค่าเท่าเทียมกัน”

ฉันไม่เคยคิดถึงประเด็นนี้มาก่อน และพอมาคิดดูก็จริง

หลังจากจองจีฮุนกลับไป ซอจีอาเดินมาหาฉัน

“เธอดูเหนื่อยๆ นะ”

“หลังจากเจอเรื่องที่น่าตกใจหลายๆ ครั้งติดต่อกัน ข้านอนไม่ค่อยหลับ”

ซอจีอาครุ่นคิดสักพัก คล้ายกับกำลังนึกทบทวนเหตุการณ์ขณะฉันเผชิญหน้ากับไวลด์ฮันต์

“…เจ้าทำได้ยังไง”

ซอจีอาถาม

“ทำอะไร”

“เจ้าใช้ภาษาแห่งราชันกับไวลด์ฮันต์… ไปเรียนภาษาแห่งราชันมาจากไหน”

“ภาษาแห่งราชัน…”

ถ้าจำไม่ผิด ลิลี่ก็เคยพูดแบบเดียวกัน

ดูเหมือนว่าจะเป็นภาษาที่แตกต่างจากรูน

แต่พูดตามตรง ฉันก็ไม่รู้รายละเอียดเหมือนกัน

“ฉันแค่บังเอิญเรียนรู้ว่า ถ้าพูดออกไปแบบนั้น พวกไวลด์ฮันต์จะตกใจไปพักหนึ่ง”

“…แค่นี้? เจ้าพูดออกไปโดยที่ไม่รู้ว่าทำไมพวกมันถึงตกใจ?”

“ใช่”

“คำนั้นแปลว่าอะไร”

“ไม่รู้”

ซอจีอาจ้องฉันด้วยสีหน้าที่ยากจะบรรยาย ราวกับรอฟังคำอธิบายเพิ่มเติม

“จำเป็นต้องรู้เหตุผลด้วยหรือ แค่ฉันรู้ว่าทำยังไง ผลลัพธ์เป็นยังไง และมั่นใจว่าผลลัพธ์จะช่วยเหลือฉัน แค่นั้นก็พอแล้วนี่”

“…เจ้ารู้ไหมว่าทำไมสปริกแกนกับไวลด์ฮันต์ถึงสู้กัน”

“ไม่รู้”

“…เจ้าไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้เหตุผล รู้แค่ผลลัพธ์ของการกระทำ… ใช่ไหม?”

“ไม่ได้แปลว่าฉันไม่อยากรู้ แต่สำหรับฉัน การค้นหาคำตอบต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานความจริง”

ซอจีอาแสยะยิ้ม

“…ก็เหมาะกับนักล่าดี”

ฉันยักไหล่

อันที่จริง ฉันไม่รู้เลยว่านักล่าคืออะไร ลิลี่บอกว่าเห็นมันจากตัวฉัน

สรุปแล้วคืออะไรกันแน่

แต่ช่างเถอะ เรื่องนั้นไม่สำคัญ

ประเด็นสำคัญในตอนนี้ก็คือ

“…ในนี้มีม้าโลกันตร์ใช่ไหม”

ลิลี่ก้าวเข้ามาพร้อมกับชี้ไปทางกระเป๋า

เธอพยายามยกกระเป๋าขึ้น แต่มันหนักมาก

ไม่สิ แค่บรรยายว่าหนักคงไม่เหมาะ ต้องมีพละกำลังระดับช้างสารเท่านั้นถึงจะยกไหว

ก็สมเหตุสมผลแล้ว เพราะกระเป๋าจะลดทอนน้ำหนักได้แค่หนึ่งในสาม

ลิลี่จ้องฉันพลางกล่าวด้วยใบหน้าซีดเซียว

“เจ้ามีความคิดนี้ตั้งแต่ตอนไหน”

“…หลังจากรู้ว่าไวลด์ฮันต์เป็นสิ่งไร้วิญญาณ และรู้ว่ากระเป๋าใบนี้ไม่สามารถบรรจุสิ่งมีชีวิต”

ฉันทดลองมาหมดแล้ว

ขอบเขตระหว่างมีชีวิตและไม่มีชีวิต

กฎเกณฑ์ในการจำแนก

“ฉันได้เบาะแสจากเซลฟี บางที สิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิต อาจจำแนกได้ด้วยวิญญาณ”

“…”

ซอจีอาจ้องกระเป๋าและถาม

“แล้วเจ้าจะทำยังไงต่อ ทันทีที่มันออกมาจากกระเป๋า แสงของอุนเดราจะแผดเผาจนหายไป”

ใช่แล้ว

แต่ไหนแต่ไร ไวลด์ฮันต์คือสิ่งที่จะปรากฏตัวเฉพาะในยามที่อุนเดราถูกบดบัง

เพราะในช่วงเวลาดังกล่าว อุนเดราจะมิอาจฉายแสงศักดิ์สิทธิ์ลงมาบนโลกในยามค่ำคืน

เช่นนั้นแล้ว ฉันควรทำยังไง?

“…เซลฟี”

「นายท่านเชิญรับสั่ง」

“เตรียมผ่าตัด”

ลิลี่และซอจีอามองหน้ากัน

เป็นบรรยากาศที่ทั้งสองไม่เข้าใจบทสนทนา แต่สำหรับฉันกับเซลฟี พวกเราเคยปรึกษากันมาก่อน จึงไม่ต้องอธิบายให้ยืดเยื้อ

“ลิลี่”

“อื้อ”

“สปริกแกนคือภูตที่สามารถสร้างและบงการชีวิตใช่ไหม”

“ใช่”

“ถ้าอย่างนั้น ในเมื่อเตรียมภาชนะไว้พร้อมแล้ว การบรรจุวิญญาณลงไปก็ไม่น่าจะยากใช่ไหม”

“…”

อันที่จริง ฉันเคยทดลองและยืนยันเรื่องนี้แล้ว

แผนการก็คือ ฉีดวิญญาณเข้าไปในม้าโลกันตร์

และวิญญาณที่จะโอนถ่าย ย่อมต้องเป็นวิญญาณเสือขาวที่กำลังยืนอยู่ข้างๆ

______________________

ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร พุธ เสาร์ และอาทิตย์ (3/4)

ติดตามผลงานของผู้แปล และนิยายทุกตอนได้ที่เพจเฟสบุค:

https://www.facebook.com/bjknovel/

หรือพิมพ์ค้นหา: bjknovel

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด