CD บทที่ 234 บางสิ่งท่าตกใจ
ในขณะที่จ้าวหยู่นอนหลับ เขาก็ตกใจกับฝันร้าย เขาตื่นขึ้นด้วยเหงื่อเย็น เขาฝันร้ายเกี่ยวกับเหมี่ยวอิง
เขาฝันว่าเขาสวมเสื้อคลุมล่องหนและกำลังจะทำอะไรในทางที่ไม่ดีและต้องการจะมีอะไรกับเหมี่ยวอิง ในคราวนี้ เขาได้ถอดเสื้อผ้าของเหมี่ยวอิงแล้วและเปิดเสื้อคลุมล่องหนได้แต่เขาลืมบางอย่างที่สำคัญไป
เสื้อคลุมล่องหนทำงานเพียงหนึ่งนาทีเท่านั้น ก่อนที่เขาจะเริ่มทำอะไร ผลของเสื้อคลุมล่องหนก็หายไป ในท้ายที่สุด เขาถูกเหมี่ยวอิงจับได้และถูกทุบตีจนแทบเป็นเยื่อกระดาษ… จนกระทั่งเขาสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากความฝัน
เมื่อเขารู้ตัวว่ามันเป็นเพียงแค่ความฝัน เขาก็สงบใจได้ในที่สุด
‘เชี่ย! มันน่ากลัวเกินไปแล้ว!’ เขาคิด เขาเช็ดเหงื่อออกแต่ก็ยังมีความกลัวอยู่ในใจ แม้ว่ามันจะเป็นเพียงฝันร้าย แต่เขารู้สึกราวกับว่าเขาทำความผิดบางอย่าง ราวกับว่าเขาควรจะขอโทษเหมี่ยวอิง
มองดูเวลา ตอนนี้ยังเป็นเวลาตีสี่ พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น
จ้าวหยู่นอนหลับสบายเกินไปและไม่ได้ยินแม้แต่คำประกาศของระบบสำหรับการสิ้นสุดการผจญภัย แต่เมื่อเขาดูช่องเก็บของ เขาเห็นกุญแจผีล่องหนอันใหม่วางอยู่
กุญแจผีล่องหนเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมาก ไม่ว่าจะตัวล็อคแบบไหน เขาก็สามารถเปิดมันได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเสียเวลา
จ้าวหยู่เอนหลังนอนลงบนเตียง เขาอยากจะนอนต่อแต่ไม่ว่าจะนอนอย่างไร เขาก็หลับไม่ลง เขาทำได้เพียงลุกขึ้นและจุดบุหรี่เพื่อรับคำทำนายใหม่
หลังจากการไอรุนแรงอีกครั้ง เขาได้คำทำนาย ‘Zhen-Dui’ อีกครั้ง ‘Zhen’ หมายถึงสายฟ้าและ ‘Dui’ หมายถึงทะเลสาบ
อัสนีผ่าลงใจกลางหนองบึง ไร้เสียงแต่รุนแรง ถึงกระนั้นก็ไม่อาจมองเห็นได้
‘‘Zhen-Dui’ อย่างงั้นเหรอ?’
ก่อนหน้านั้น เขาได้รับคำทำนาย ‘Zhen’ ติดต่อกันสามครั้ง จ้าวหยู่คิดว่าเขาจะได้รับข่าวดีเกี่ยวกับสถานะของเขาในวันนี้ ท้ายที่สุดจะมีพิธีมอบรางวัล เป็นไปได้ไหมว่าในระหว่างพิธีมอบรางวัล ทางเบื้องบนจะเลื่อนตำแหน่งเขาให้เป็นหัวหน้าทีม B หรือไม่?
‘ฮึฮึ หลิวชางฮูกำลังจะไป เหมี่ยวอิงกำลังจะเป็นหันหน้าแผนก ถ้าฉันได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นหัวหน้าทีม ถ้างั้น… เหมี่ยวอิงก็เป็นหัวหน้าของฉันไม่ใช่เหรอ?’ จ้าวหยู่คิด
เมื่อนึกย้อนกลับไปที่ร้านอาหารลั่วฉินชาน เหมี่ยวอิงได้อวดความมั่งคั่งของเธออย่างเต็มที่ เธอได้สั่งอาหารหรูทุกประเภท หลายจานเป็นสิ่งที่ไม่มีใครเคยมีโอกาสได้กินมาก่อนและบางจานก็ไม่มีใครเคยได้ยินชื่อมาก่อนด้วย!
นอกจากนี้ แม้ว่าเหมี่ยวอิงเพิ่งจะย้ายมาที่สถานีนี้ แต่น้ำเสียงและนิสัยของเธอก็เป็นมิตรมาก เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนที่ตั้งใจจะเป็นผู้นำ
เมื่อเปรียบเทียบตัวเองกับเธอแล้ว ความสามารถแตกต่างกันอย่างชัดเจน ด้วยเหตุผลนี้เองที่จ้าวหยู่ไม่ได้ต่อสู้กับเธอเลยระหว่างทานอาหารเย็น และเป็นครั้งแรกที่ปล่อยให้เธอกินโดยไม่มีปัญหาใด ๆ
แม้ว่าเขาจะได้ ‘แก้แค้น’ เหมี่ยวอิงที่หลอกเขาแล้วและเขารู้สึกว่าตัวเขาได้ใกล้ชิดเธอมากขึ้น แต่จ้าวหยู่ก็ยังรู้สึกว่าเขาและเหมี่ยวอิงต่างกันเกินไป การออกเดทกับผู้หญิงที่เหมือนฝันซึ่งมีทักษะทั้งทางร่างกายและจิตใจ ดูเหมือนว่าหนทางของเขาจะยังอยู่อีกยาวไกล
แต่จ้าวหยู่เป็นชายที่ไม่รู้จักคำว่า ‘ยอมแพ้’ ถ้าเขาหมายตาในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เขาจะไล่ตามมันไปอย่างไม่ย่อท้อ แม้ว่าสิ่งนั้นมันจะทำให้เขาจะมุ่งหน้าไปสู่ความตาย แม้ว่าจะเป็นกำแพงที่ผ่านไม่ได้ เขาก็จะเป็นคนเดียวที่จะเอาชนะมันให้ได้
“เหมี่ยวอิง คอยดูให้ดี ฉันจะเอาชนะใจเธอได้อย่างแน่นอน… ฮิฮิฮิ” เขาสัญญากับตัวเอง
เนื่องจากดูเหมือนว่าเขาจะนอนไม่หลับ จ้าวหยู่ก็ลุกขึ้นและวิ่งไปรอบ ๆ สวนสาธารณะสองสามรอบ เขารู้สึกว่าในขณะที่เขายังมีเวลา เขาควรจะเสริมความแข็งแกร่งของเขา เมื่อไหล่ของเขาฟื้นแล้ว เขาควรเข้าร่วมชั้นเรียนและเรียนรู้วิธีต่อสู้อย่างเหมาะสม
จ้าวหยู่นึกถึงตอนที่เขาอยู่ในอาคารหรงเทียน ในตอนที่เขาเผชิญกับรปภ. จำนวนมาก รูปแบบการต่อสู้ของเขาทำอะไรไม่ได้เลย ในเวลานั้น เขาต้องการอาวุธที่ทรงพลังมากกว่านี้
ขนาดเหมี่ยวอิงยังเรียนมวยไทยด้วยซ้ำ ถ้าเขาตามไม่ทันเขาจะเผชิญหน้ากับเธอได้อย่างไร? ถ้าพวกเขาแต่งงานกัน เขาจะไม่โดนเธอทุบตีทุกวันเหรอ?
ขณะที่เขาวิ่ง ดวงตะวันก็โผล่พ้นขอบฟ้า คนในสวนก็เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่มองคนในสวนทำกิจกรรมต่าง ๆ จ้าวหยู่ก็นึกถึงสุนัขของเขา ต้าเหิง ขึ้นมา
ต้าเหิงเพิ่งได้รับการผ่าตัดและยังคงพักฟื้นตัว เขาต้องรอกว่าอีกหลายสัปดาห์กว่าที่เขาจะพามันกลับมาได้ นานมากแล้วที่เขาไม่ได้เห็น ‘เชอร์ล็อก โฮล์มส์’ เขาอดคิดถึงมันไม่ได้จริง ๆ บางทีหลังจากที่เขาสอบสวนคดีฆาตกรรมคูปิงเสร็จ เขาจะขับรถไปหาครอบครัวของฮัวฮัวและไปเยี่ยมสุนัขของเขา
…
เวลาเก้าโมงครึ่ง โจวอันดง หัวหน้าสถานีและเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ เดินเข้าไปในห้องประชุม เจ้าหน้าที่แผนกสืบสวนทั้งหมดรอมาสักพักหนึ่งแล้ว ประเด็นหลักของพิธีมอบรางวัลในวันนั้นคือการมอบรางวัลแก่เจ้าหน้าที่ที่มีผลงานยอดเยี่ยมในคดีลักพาตัวเมียนหลิงเป็นเพราะการทำงานหนักของพวกเขาจึงทำให้คดีใหญ่ดังกล่าวได้รับการแก้ไขได้!
สถานีหรงหยางมีส่วนสำคัญที่สุดในคดีนี้ ไม่เพียงแต่ได้รับคำชมจากทางเบื้องบนเท่านั้น แต่สถานีหรงหยางทั้งหมดก็ได้รับความนิยมมากขึ้น มีชื่อเสียงโด่งดังในเขตตำรวจฉินซาน
ในระหว่างการประชุม นอกเหนือจากการยกย่องเจ้าหน้าที่สืบสวนคนอื่น ๆ ทั้งหมด หัวหน้าโจวตั้งใจดันจ้าวหยู่และยกย่องเขาสำหรับการทำงานที่น่าเหลือเชื่อของเขา เขาเรียกจ้าวหยู่ว่าเป็นนักสืบมือฉมัง เป็นแบบอย่างของทีมตำรวจและเหมาะสมแล้วสำหรับรางวัล!
จ้าวหยู่รู้สึกพึงพอใจอย่างมาก เมื่อนึกย้อนกลับไป คนที่หัวหน้าโจวดูถูกที่สุดก็คือจ้าวหยู่ ทว่าหลังจากผ่านไปสองสามวัน หัวหน้าโจวก็ยกย่องเขาอย่างสูงส่ง ทำไมเขาถึงจะไม่มีความสุข?
หลังจากหัวหน้าโจวพูดจบ ก็ถึงคราวของรองหัวหน้าหลัน
รองหัวหน้าหลันเตือนทุกคนถึงอิทธิพลของคดีลักพาตัวเมียนหลิง แม้ว่าคดีจะคลี่คลายแล้วแต่อาจส่งผลกระทบในทางลบ หากพวกเขาไม่จัดการเรื่องนี้ให้ดี มันจะเกิดผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ ดังนั้นเธอจึงเตือนเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทำงานอย่างระมัดระวังและไม่เปิดเผยข้อมูลวงในให้ผู้อื่นรู้
นอกจากนี้ ทุกคนยังต้องใส่ใจกับกิจกรรมของสมาชิกในครอบครัวของเหยื่ออย่างระมัดระวังและพยายามป้องกันไม่ให้พวกเขาทำอะไรที่ไม่เหมาะสม
ในช่วงท้าย รองหัวหน้าหลันได้พูดคุยกับจ้าวหยู่ เธอบอกว่ามีสองสิ่งสำคัญที่เขาต้องเตรียมตัว หนึ่งก็คือข้อความบนโปสเตอร์ของสถานีจะมีพื้นที่พิเศษสำหรับเขา
มีเหตุผลสองประการสำหรับเรื่องนี้ เหตุผลแรกคือเพื่ออธิบายกระบวนการสืบสวนของเขาและอีกเหตุผลหนึ่งคือเพื่อแรงจูงใจให้เจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ
นอกจากนี้ ทางทีวีช่อง ‘Law and Jury’ จะมีรายการพิเศษเกี่ยวกับคดีลักพาตัวเมียนหลิง ในระหว่างนั้น จะมีการสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวกับจ้าวหยู่ เธอขอให้จ้าวหยู่เตรียมได้รับการติดต่อจากแผนกข้อมูลเพื่อฝึกสัมภาษณ์
หลังจากนั้นรองหัวหน้าหลันได้กล่าวสรุปเกี่ยวกับการแจกเงินรางวัล เธอกล่าวว่าแม้ว่าสมาชิกในครอบครัวของคดีลักพาตัวเมียนหลิงจะร่ำรวยมหาศาลและพวกเขาเต็มใจที่จะจ่ายเงินรางวัลสิบล้านหยวนก็ตาม
แต่เมื่อพิจารณาถึงความเจ็บปวดของครอบครัวเหยื่อจากการสูญเสียสมาชิกในครอบครัว ทางตำรวจจึงลงความเห็นว่า ทางตำรวจไม่ควรรับเงินจำนวนมหาศาลนี้ แต่ด้วยทางเหลียงว่านเฉียนและคนอื่น ๆ ยืนกรานจะมอบเงินรางวัล ทางตำรวจจึงต่อรอง ทำให้เงินรางวัลเหลือเป็นสองล้านหยวน
หลังจากปรึกษาหารือกัน เหล่าเบื้องบนตัดสินใจแบ่งรางวัลเป็นส่วน ๆ ตามธรรมเนียมปกติของการแจกรางวัล ตราบใดที่สมาชิกเกี่ยวข้องกับคดีลักพาตัวเมียนหลิง พวกเขาก็จะได้รับรางวัลแต่สำหรับ จ้าวหยู่ที่เสี่ยงชีวิตเพื่อจับคนร้ายและได้รับบาดเจ็บในระหว่างจับกุม คนที่กล้าหาญเช่นเขาจะได้รับรางวัลมากเป็นพิเศษ!
อันที่จริง แม้จะไม่มีการประกาศจากรองหัวหน้าหลัน คนอื่น ๆ ก็พอจะเดาได้เช่นนั้น ทุกคนรู้ว่าคนที่สำคัญที่สุดในการไขคดีลักพาตัวเมียนหลิงคือจ้าวหยู่ เขาจะได้รับเงินจำนวนแปดแสนหยวน มันเหมือนกับถูกลอตเตอรี่
แต่ถึงแม้คนอื่น ๆ จะค่อนข้างอิจฉา พวกเขาก็ต้องให้เครดิตกับจ้าว หยู่ คดีนี้ได้รับการแก้ไขโดยจ้าวหยู่ เขาพบหลักฐานทั้งหมดแล้ว เขาได้ช่วยชีวิตเหลียงซือซือและในท้ายที่สุด เขาก็เป็นคนที่เสียสละตัวเองเพื่อจับฮ่าวเกิง แม้แต่การจับฮานเหวินจวินก็เป็นเพราะจ้าวหยู่ด้วยเช่นกัน
ดังนั้นรางวัลที่ใหญ่ที่สุดควรจะตกเป็นของจ้าวหยู่อย่างไม่ต้องสงสัย
ในขณะเดียวกัน จ้าวหยู่ได้ลุกขึ้นไปทำอะไรบางอย่าง จากนั้นไม่นาน ไฟในห้องประชุมหรี่ลงและโปรเจ็กเตอร์ในห้องก็เปิดขึ้นในทันใด
“เกิดอะไรขึ้น?” รองหัวหน้าหลันยืนขึ้นและต้องการดูว่าเกิดอะไรขึ้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่น ๆ ทั้งหมดต่างมองหน้ากัน พวกเขาเองก็ตกอยู่ในความสับสนอย่างสมบูรณ์
จางเหยาฮุ่ยยืนขึ้นและต้องการเปิดไฟอีกครั้ง ทว่าเขาตระหนักได้ว่าคนที่ปิดไฟนั้นไม่ใช่ใครอื่น คน ๆ นั้นคือจ้าวหยู่!
จ้าวหยู่มองไปที่จางเหยาฮุ่ยเพื่อส่งสัญญาณให้เขานั่งอย่างรวดเร็ว ฝ่ายหลังที่มองอย่างไม่เข้าใจแต่ก็ทำตามแต่โดยดี
ในไม่ช้าโปรเจ็กเตอร์ก็ฉายภาพบางภาพ มันเป็นวิดีโอจากรถของไจ๋หลินหลิน ในตอนแรกไม่มีใครสามารถเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เมื่อหลี่เบ่ยหนีผู้มีตาแหลมคมรู้ว่าคนที่ถูกยัดเข้าไปในท้ายรถนั้นเป็นโฮ่วเมิง ผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมหัวหน้าทีมคู
จากนั้นไม่นาน ห้องประชุมก็ระเบิดด้วยความโกลาหล!