ตอนที่แล้วCD บทที่ 232 วิธีการอันไร้สาระ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปCD บทที่ 234 บางสิ่งท่าตกใจ

CD บทที่ 233 เปลี่ยนโดยฉับพลัน


ณ เวลา 3 ทุ่ม

ด้านหน้าร้านขายผลไม้ต้าเฟิงบนถนนชุนเฟิงมีรถสีน้ำเงินขับผ่านไปอย่างช้า ๆ และแอ่งน้ำได้กระจายออกเป็นวงกว้าง อากาศเต็มไปด้วยความชื้น รถได้มาจอดอยู่หน้าร้านผลไม้ซึ่งตอนนี้ได้ปิดไปแล้ว

จ้าวหยู่ขอบคุณเหมี่ยวอิงอย่างใจจริง “ขอบคุณหัวหน้าทีมเหมี่ยวมากนะครับ คุณช่างมีน้ำใจจริง ๆ บ้านของฉันอยู่ห่างจากบ้านคุณมากแต่คุณยังอาสาพาฉันมาส่ง ขอบคุณมาก!”

"หุบปากไปเลย!" เหมี่ยวอิงบ่น “คุณเข้ามาในรถของฉันต่อหน้าคนจำนวนมากอย่างนี้ แล้วฉันจะปฏิเสธได้ยังไง!? แล้วคุณจะบอกฉันได้หรือยัง? ถ้ามีอะไรอยากจะพูดก็พูดออกมาเร็ว ๆ”

"ไม่อยากจะเชื่อ!" จ้าวหยู่ยกนิ้วให้เธอ "ใจของเราสื่อกันได้หรือไง หึหึหึ หัวหน้าทีมเหมียว ฉันเอาแต่คิดถึงเรื่องนี้ตอนที่ฉันกินข้าวก่อนหน้านี้แล้ว ใครกันจะเป็นสายลับในสถานีของเรา? ถ้าเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ระดับสูง เราควรทำอย่างไรดี?"

“มันก็เป็นไปได้!” แม้เหมี่ยวอิงจะหงุดหงิดแต่เธอเห็นด้วยกับเขา

“ดังนั้น เพื่อให้แน่ใจว่าแผนของเราไม่มีที่ติ เราไม่สามารถรายงานตามขั้นตอนปกติได้!” แม้ว่าจ้าวหยู่จะไม่ได้ดื่มแต่ใบหน้าของเขาแดงราวกับว่าเขากำลังลุกไหม้ “ฉันคิดดูแล้ว เราต้องจับพวกเขาด้วยความประหลาดใจ!”

"จับพวกเขาด้วยความประหลาดใจ?" เหมี่ยวอิงกระพริบตาและเข้าใจในทันใด “คุณหมายถึงในพิธีมอบรางวัลในวันพรุ่งนี้?”

"ว้าว! น่าทึ่งมาก!" จ้าวหยู่รู้สึกประหลาดใจและยกย่องเธอ “อย่างที่ฉันพูด ใจของเราสื่อถึงกันจริง ๆ คุณควรมาที่บ้านของฉันและเราได้พูดถึงเรื่องนี้อย่างละเอียดดีมั้ย?”

ขณะที่จ้าวหยู่พูด เขาชำเลืองมองเรือนร่างของเหมี่ยวอิงและฮอร์โมนของเขาก็พุ่งพล่าน เมื่อนึกถึงริมฝีปากอันอ่อนนุ่มของเธอ เขาก็อยากกระโจนเข้าไปจูบเธอ

"อืม ก็ได้" ตรงกันข้ามกับที่จ้าวหยู่คาดไว้ เหมี่ยวอิงไม่ปฏิเสธเขา แต่เธอพยักหน้าขณะที่ปลดเข็มขัดนิรภัย

"อะไรนะ?" จ้าวหยู่ไม่คิดว่าเธอจะตอบตกลง มันทำให้เขาแปลกใจ

"คุณมัวทำไรอยู่!?" เหมี่ยวอิงตะโกนใส่จ้าวหยู่ "คุณเป็นสุภาพบุรุษหรือเปล่า? ทำไมคุณไม่มาเปิดประตูให้ฉัน!?"

“อะไรนะ โอ้…” จ้าวหยู่เข้าใจและรีบออกจากรถและปิดประตู เขาเดินไปที่ด้านข้างของเหมี่ยวอิงเพื่อเปิดประตูแต่ประตูไม่ยอมเปิด เมื่อจ้าวหยู่เงยหน้าขึ้นมามอง เขาก็เห็นเหมี่ยวอิงชูนิ้วกลางให้เขาและรีบขับรถออกไป

เมื่อรถขับผ่านอย่างกะทันหันทำให้น้ำขังกระเซ็นใส่ตัวของจ้าวหยู่!

เมื่อมองดูรถค่อย ๆ หายไป จ้าวหยู่ก็ตกตะลึงแล้วก็หัวเราะออกมา ‘เหมี่ยวเหรินเฟิง เธอน่าสนใจจริง ๆ คอยดูเถอะ ไม่ช้าก็เร็ว เธอจะตกเป็นของของฉัน!!’ เขาคิด

จ้าวหยู่หัวเราะครู่หนึ่งและเจียงต้าเฟิงตะโกนจากด้านบน "เฮ้! เจ้าตำรวจชั่ว! แกทำอะไรที่ส่งเสียงดังกลางดึก! มันรบกวนคนอื่นรู้มั้ย!?"

"ว่าไงนะ!?" จ้าวหยู่ตะโกน ถ้าไม่ใช่เพราะเจียงเสี่ยวเฉิน เขาจะโยนอิฐไปที่หน้าต่างของเจียงต้าเฟิงไปแล้ว!

ทันใดนั้น โทรศัพท์ของจ้าวหยู่ก็ดังขึ้น เขามองและเห็นว่าเป็นหมายเลขที่ไม่รู้จัก เมื่อเขากดรับสาย เขาได้ยินเสียงเหลียวจิงชานดุจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์

“จ้าวหยู่! สมองของเธอมีปัญหาหรือเปล่า!? ทำไมเธอถึงบอกทุกคนเกี่ยวกับอาการป่วยของเขา เธอไม่รู้หรือว่าเฒ่าจินไม่ต้องการให้ใครรู้?”

“ฮึ่ม!” เมื่อจ้าวหยู่ได้ยินว่าเหลียวจิงชานยังคงหลอกเขา ดังนั้นเขาจึงตวาดกลับไปอย่างรวดเร็ว “พวกคุณสองคนสนุกมากใช่มั้ย ที่ได้รวมหัวกันหลอกฉัน บอกฉันว่ามันเป็นมะเร็งกระดูกแต่ที่จริงเป็นแค่โรคข้อเข่าตามวัย

เฒ่าเหลียว ฉันให้เกียรติคุณสองคนมากแต่น่าเสียดายที่คุณไม่ได้ปฏิบัติต่อฉันอย่างที่ฉันทำกับคุณเลย!"

“เออ...” เหลียวจิงชานไม่รู้ว่าจ้าวหยู่ค้นพบความจริงแล้ว เขาได้แต่หัวเราะแห้ง ๆ และกล่าวว่า “จ้าวหยู่ เธอไม่รู้หรือว่าสิ่งที่เฒ่าจินและฉันทำมันเพื่อผลประโยชน์ของคุณเอง ในที่สุด เฒ่าจินก็พบผู้สืบทอดและเขากังวลว่าคุณจะเดินผิดทาง!”

“พวกคุณก็เลยใช้วิธีแกล้งตาย แกล้งป่วยและใช้รถเข็นงั้นเหรอ!?” จ้าวหยู่รู้สึกหงุดหงิด

"ใจเย็น ๆ อย่าโกรธกันเลยนะ!" เหลียวจิงชานกล่าวอย่างจริงจังว่า "จ้าวหยู่เพื่อเป็นการไถ่โทษ ฉันจะบอกอะไรให้เธอรู้อะไรบางอย่าง จากข่าววงในบอกฉันว่า หลิวชางฮูกำลังจะถูกย้าย ส่วนเหมี่ยวอิงจะมาเป็นหัวหน้าแผนกสืบสวนคนต่อไปของสถานีหรงหยางและเฒ่าจินและฉันกำลังพิจารณาแต่งตั้งคุณเป็น หัวหน้าทีม B แต่… ดูที่เธอทำเข้าสิ…”

“ห๊ะ! ทำไมคุณไม่พูดก่อนหน้านี้!?” จ้าวหยู่ถือโทรศัพท์มือถือแน่นและพูดอย่างไร้ยางอายว่า “หัวหน้าเหลียว! ท่านเหลียว! ฮี่ฮี่… วีรบุรุษสูงวัยทั้งสองท่าน ผมจะทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์แบบในฐานะหัวหน้าทีม ฮี่ฮี่ฮี่ ได้โปรดบอกเฒ่าจินด้วยว่าฉันทำเกินไปและจะไปขอโทษด้วยตัวเองในวันอื่น โอ้และสิ่งที่ฉันพูดก่อนหน้านี้ ฉันเพียงแค่ใจร้อนไปเท่านั้นเอง ฮ่าฮ่าฮ่า!”

“…” เหลี่ยวจิงชายถึงกับพูดไม่ออก เขาถ่มน้ำลาย “ฮึ! พลิกลิ้นเก่งจริง ๆ ก่อนหน้านี้ยังโวยวายใส่ฉันอยู่เลยนี่”

จ้าวหยู่กลับไปที่ห้องของเขาในขณะที่วางสาย ใครจะไปรู้ การผจญภัยของคำว่า ‘Zhen’ มันจะปรากฏขึ้นในช่วงสุดท้ายของวันอย่างนี้

‘เยี่ยมไปเลย ฉันกำลังจะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง จากแผนกคดีแช่แข็งมาเป็นหัวหน้าทีมของทีม B? เยี่ยมจริง ๆ ฮี่ฮี่ฮี่…’ เขาคิด

เมื่อจ้าวหยู่ได้ลองมาคิดดูดี ๆ เขาก็ตระหนักว่าเขาเพิ่งเริ่มต้นเส้นทางเท่านั้น

“เนื่องจากฉันได้รับการเลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็ว เพื่อนร่วมงานของฉันจะไม่พอใจไหม หากฉันอยู่ต่อไปอีกสองสามปี ฉันอาจจะได้เป็นหัวหน้าสถานีก็ได้ ฮี่ฮี่ฮี่” เขาพูดกับตัวเอง

จ้าวหยู่ไม่สามารถอาบน้ำได้เนื่องจากบาดแผลบนไหล่ของเขายังไม่หายดี ดังนั้นเขาจึงต้องใช้ฟองน้ำเช็ดตัว เขาถอดเสื้อผ้าในห้องน้ำและมองดูตัวเองในกระจกด้วยอารมณ์ซับซ้อน

ผ่านไปไม่กี่วันก็มีผมงอกขึ้น หวังเฟย หัวหน้าแผนกนิติวิทยาศาสตร์บอกจ้าวหยู่ว่าบาดแผลบนศีรษะของเขาไม่ได้ทำให้รูขุมขนเสียหาย ดังนั้นเมื่อผมขึ้นใหม่ มันก็จะช่วยปกปิดบาดแผลของเขา มีเพียงรอยแผลเป็นบนหน้าผากของเข้าเท่านั้นแต่ก็เป็นอะไรมาก

ส่วนบาดแผลที่ไหล่ที่เขาถูกยิง มันก็ไม่ได้รุนแรงขนาดนั้น แพทย์จึงเย็บเขาด้วยไหมละลายเท่านั้น เขาก็จะฟื้นตัวเต็มที่ในเวลาไม่นาน เขาจะกลายเป็นนักสืบที่กล้าหาญอีกครั้ง!

แม้ว่าคดีลักพาตัวเมียนหลิงจะถูกปิดแต่ก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ซับซ้อนจนทำให้จ้าวหยู่คิดไม่ตก

อย่างเช่น ความโหดร้ายของฆาตกร, เฉิงซานหลี่จอมละโมบ, อาการทางจิตของเกาหยาง, ความบริสุทธิ์ของหนิวเว่ยกวงและเหลียงซือซือผู้ซึ่งถูกคุมขังมาตลอด 26 ปี

คดีนี้มีหลายสิ่งที่ควรค่าแก่การพิจารณา หากคน ๆ หนึ่งปราศจากความเป็นมนุษย์ เต็มไปด้วยศีลธรรมอันเสื่อมโทรมและความปรารถนาที่ไม่มีสิ้นสุด ปลายทางของพวกเขาจะจบลงที่ตรงไหน?

แม้ว่าคดีจะจบลงแล้วและอีกไม่นานคนร้ายจะถูกตัดสินจำคุก ความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานที่เหยื่อได้รับก็ยากที่จะลบล้าง เช่นเดียวกับจางอิง ภรรยาของหนิวเว่ยกวงที่สูญเสียสามีอันเป็นที่รักไปและเหลียงซือซือที่สูญเสียวัยเด็กของเธอไป สิ่งเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับพวกเขา พวกเขาควรใช้ชีวิตอย่างปกติสุข

บาปเป็นดั่งมะเร็งร้าย มันไม่มีทางรักษาหายและมีแต่ทำให้เจ็บปวดเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น แต่จะมีใครบ้างที่จะสามารถหาทางสว่างมากำจัดบาปเหล่านั้นแบบที่จ้าวหยู่ทำ

สิ่งนี้ทำให้จ้าวหยู่พึงพอใจมากขึ้นและกลายเป็นคนเสพติดงานสืบสวนไปโดยปริยาย

ในงานเลี้ยงอาหารค่ำก่อนหน้านี้ เหมาเว่ยได้ยินว่าทางสถานีไม่รับเงินของเหลียงว่านเฉียนและของคนอื่น ๆ เพื่อปกป้องภาพลักษณ์ของพวกเขา พวกเขายอมรับเงินรางวัลเพียงสองล้านหยวนเท่านั้น

ตามข่าวจากฝ่ายการเงิน ทางหัวหน้าโจวและคนอื่น ๆ พอใจกับผลงานของจ้าวหยู่เป็นพิเศษ ดังนั้น จ้าวหยู่จะได้รับการจัดสรรเงินรางวัลจำนวนแปดแสนหยวนให้กับเขาโดยตรง เนื่องจากเงินเหล่านี้มาจากการบริจาคของเอกชน เขาจึงไม่ต้องเสียภาษี เมื่อจ้าวหยู่ได้รับมัน เขาสามารถวางเงินดาวน์บ้านของเขาและเป็นเจ้าของบ้านหลังแรกของเขาในฉินชานได้!

ยิ่งไปกว่านั้น จ้าวหยู่มีบทบาทสำคัญในการปิดคดี เงินรางวัลจากทางสถานีห้าแสนหยวนต้องตกเป็นของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย นอกจากนี้ เขาจะได้รับการยกย่องและรางวัลมากมายแน่นอน!

แม้ว่าจะมีความแตกต่างกันมากระหว่างแปดแสนถึงสิบล้าน แต่จ้าวหยู่ก็ไม่ผิดหวัง เขายังมีเงินสดที่นายเถาให้มา เขาจะต้องได้ราคาดีแน่ ๆ ถ้าเขาเปิดประมูล!

จ้าวหยู่มีเป้าหมายเดียวในใจของเขาคือค้นหาความจริงเบื้องหลังการตายของคูปิงและแก้แค้นแทนเธอ

เมื่อจ้าวหยู่นึกถึงคิดถึงคูปิง เขาจะจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างานศพของเธอ เขาเห็นลูก ๆ ของเธอร้องไห้ การเสียชีวิตของคูปิงเป็นเรื่องลึกลับและเขาต้องค้นหาความจริงให้ได้!

จากนั้นเขาก็คิดถึงเหมี่ยวอิงที่ทรงเสน่ห์ หลังจากใช้เวลาร่วมกันสองสามวัน จ้าวหยู่พบว่าตัวเขาชอบเหมี่ยวอิงมากขึ้นไปอีก เขามองย้อนกลับไปตอนที่เขาติดอยู่ในอาคารหรงเทียน เธอมาคนเดียวเพื่อช่วยเขา แม้ว่ามันจะอันตรายมากแค่ไหนก็ตาม มันทำให้เขารู้สึกซาบซึ้งในความเป็นห่วงเป็นใยของเธอ

จ้าวหยู่ทำตัวงี่เง่าเสมอเมื่ออยู่ต่อหน้าเหมี่ยวอิง แต่ทุกครั้งที่เขาเข้าไปใกล้เธอ หัวใจของเขาก็เต้นผิดจังหวะ จิตใจของเขาเต็มไปด้วยเหมี่ยวอิง เขาหลับตาราวกับว่าเขาป่วยเพราะความรัก!

เหมี่ยวอิงฉลาดและกล้าหาญและเธอก็เป็นนักสู้ เธอยังสวย รวยและมีภูมิหลังที่แข็งแกร่ง มันคงจะดีถ้าเขาแต่งงานกับผู้หญิงแบบนั้น

จ้าวหยู่เห็นว่าเขายังมีเสื้อคลุมล่องหนอยู่สามชุด เขามีความคิดที่ชั่วร้ายขึ้นมา

“ฉันสงสัยว่ามีซิปหรือกระดุมบนเสื้อคลุมหรือเปล่า? ฉันควรหาโอกาสใช้มันกับเหมี่ยวอิง ยังไงเธอก็มองไม่เห็นฉันอยู่ดี ถ้าเธอไม่เห็นฉัน… ฉันก็จะ… ฮิฮิฮิ...”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด