793 - ทักษะโบราณของจักรพรรดิกลืนสวรรค์
793 - ทักษะโบราณของจักรพรรดิกลืนสวรรค์
“หากข้าแพ้ข้าจะกลายเป็นมังกรให้เจ้าขี่ แต่หากเจ้าแพ้ก็จะเป็นเพียงอสูรวิญญาณเท่านั้น ข้าไม่ได้หมายความว่าจะขี่เจ้าจริงๆสักหน่อย?”
“ไปลงนรกซะ!” ปรมาจารย์ฉีโกรธเกรี้ยวอย่างแท้จริง
“พรึ่บ”
บนท้องฟ้าฝนดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์กำลังโปรยปราย กลีบดอกใสบริสุทธิ์และกลิ่นหอมไม่มีที่สิ้นสุดทำให้มึนเมา
แต่ทว่าท่ามกลางบรรยากาศที่งดงามเช่นนี้ เทพธิดาผู้เป็นเจ้าของกลีบดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์กลับเต็มไปด้วยไอสังหารที่ไร้สิ้นสุด กลีบดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดนี้มีความคมกล้าเพียงพอจะหั่นร่างกายของมนุษย์ให้แหลกเป็นชิ้นๆ
ในขณะเดียวกันโลกใบเล็กมากมายก็กระจัดกระจายขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมกับกลีบดอกไม้เหล่านั้น
“ทักษะลับสามพันโลก! มันหายไปนานมากแล้ว ทำไมมันจึงปรากฏขึ้นอีกได้”
“นี่เป็นทักษะลับที่หาตัวจับได้ยากของหนานหลิง ด้วยพลังที่น่าสะพรึงกลัวมันไม่มีใครเทียบได้”
“ตามตำนานเล่าขานมาก มันถูกสร้างขึ้นโดยจักรพรรดิสวรรค์หนานหลิง ทักษะลับโบราณนี้มีผู้คนมากมายฝึกฝนและสามารถพัฒนาต่อยอดจนกลายเป็นทักษะใหม่มากมาย”
เย่ฟ่านได้ยินการสนทนาของพวกเขา ตามที่องค์หญิงอวี้เตี่ยกล่าว จักรพรรดิสวรรค์หนานหลิงคือคนคนเดียวกันกับจักรพรรดิกลืนสวรรค์ของตงหวงและเขามีทักษะพิเศษที่ยิ่งใหญ่กว่าผู้ใดในโลก
นี่เป็นศิลปะศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีผู้ใดเทียบและยากที่จะต่อกร เขาไม่เคยคิดเลยว่าปรมาจารย์สาวคนนี้จะได้สืบทอดทักษะนี้มา และดูเหมือนว่านางจะไปถึงขอบเขตของอาณาจักรแปลงมังกรแล้ว
“ในเมื่อเจ้าต้องการต่อสู้ ข้อเสนอของข้าเจ้าคิดอย่างไร?” เย่ฟ่านหลีกเลี่ยงการโจมตีและตะโกนเพื่อรบกวนสมาธิของหญิงสาว
ชุดยาวของปรมาจารย์ฉีกำลังร่ายรำท่ามกลางกลีบดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่ร่วงโรยลงมาราวกับสายฝน นางยืนนิ่งอยู่ตรงกลาง งดงามพิสุทธิ์จนน่าเหลือเชื่อ
“พรึ่บ”
หนึ่งกลีบ หนึ่งโลก สามพันกลีบ สามพันโลก นางทำให้ที่นี่เป็นเหมือนดินแดนแห่งความฝัน ยากที่ผู้คนจะหลุดรอดออกไปได้
เย่ฟ่านทุบกำปั้นและหลบเลี่ยงกลีบดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่อ่อนโยนแต่คมกริบซึ่งพยายามจะหั่นร่างกายของเขาออกเป็นชิ้น แต่ทว่าหนึ่งดอกร่วงโรย อีกดอกบานขึ้น และยังคงเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
ปัง!
“จักรพรรดิสวรรค์หนานหลิงย่อมอยู่ยงคงกระพันในสมัยโบราณและสมัยใหม่ ทุกทักษะศักดิ์สิทธิ์ที่เขาสร้างขึ้นนั้นไม่มีใครเทียบได้ในโลกนี้!”
ทุกคนตกตะลึง วิธีการดังกล่าวเป็นทักษะระดับผู้อมตะโดยเนื้อแท้ มันเป็นการใช้ความงามหั่นศัตรูออกเป็นชิ้นๆ
แต่ทุกคนก็ประหลาดใจมากเช่นกัน เพราะพลังต่อสู้ของเย่ฟ่านนั้นน่ากลัวมาก เขาทำลายทักษะนี้ด้วยการชกเพียงครั้งเดียว จากนั้นเขาก็ก้าวเดินบนความว่างเปล่าและเคลื่อนเข้าหาปรมาจารย์ฉีด้วยรอยยิ้ม
“เปล่าประโยชน์!”
รอยยิ้มของปรมาจารย์สาวเบ่งบาน ผ้าไหมบนตัวของนางพลิ้วไหว ดวงตาเป็นประกายและวิญญาณของผู้คนที่อยู่รอบๆแทบจะเกิดกระเจิง
บูม บูม!
ในขณะนั้นโลกทั้งสามพันใบเริ่มระเบิดเปลวไฟที่ลุกไหม้ท้องฟ้าครอบคลุมเข้าหาร่างกายของเย่ฟ่านอย่างรวดเร็ว
“เดิมพันของเราเจ้าจะว่าอย่างไร?” เย่ฟ่านยังคงยั่วยุไม่หยุดแม้ว่าจะตกอยู่ท่ามกลางเปลวไฟ
“เอาล่ะ ถ้าเจ้าแพ้ ก็มาเป็นม้ามังกรให้ข้าหรือเจ้าจะยอมตาย!”
หญิงงามที่ไม่มีผู้ใดเทียบได้ร่ายรำอยู่บนท้องฟ้า ร่างกายของนางโอบล้อมไปด้วยกลีบดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ และเปลวไฟที่เกิดจากการระเบิดของโลก นางหัวเราะเบาและกล่าวว่า
“หนึ่งดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ หนึ่งโลก หนึ่งพิภพ หนึ่งสวรรค์!”
“ครืน!”
เมื่อดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์บานสะพรั่ง เปลวไฟทั้งหมดก็ผนึกเย่ฟ่านอย่างแน่นหนา
ในตอนนี้เย่ฟ่านเห็นหมอกแห่งความโกลาหลอยู่รอบๆ อย่างชัดเจน นี่คือวิวัฒนาการของโลกใบเล็กที่มีแนวโน้มว่ากำลังจะสมบูรณ์แบบ
“ปัง!”
เย่ฟ่านขยับตัว กลายเป็นลำแสงที่พุ่งเข้าหาจุดอ่อนของเปลวเพลิง ร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วยแสงสีทองโดยเฉพาะฝ่ามือที่สว่างไสว
กำปั้นของเขากระแทกออกไปอย่างต่อเนื่องโดยหมายจะทำลายการปิดล้อมเหล่านี้ให้เร็วที่สุด
“บูม!”
พลังศักดิ์สิทธิ์สั่นสะเทือนโลกทั้งใบ ดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่ผลิบานอย่างงดงามถูกทำลายอย่างรุนแรงและเขตแดนเปลวเพลิงแทบจะแยกออกจากกัน
“เลิกเล่นได้แล้ว!”
เย่ฟ่านแยกท้องฟ้าด้วยมือเปล่า แม้ว่ากลีบดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์จะม้วนพันเข้าหาเขาแต่มันก็ไม่สามารถสร้างอันตรายให้เขาได้เลย
ปัง ปัง ปัง!
ดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์เบ่งบานครั้งแล้วครั้งเล่า โลกเล็กๆนับร้อยรายล้อมรอบเย่ฟ่านและแสงศักดิ์สิทธิ์ก็ส่องสว่างไปทั่วทั้งท้องฟ้า
“แสงนี้มาจากต่างมิติหรือ!?” เย่ฟ่านตกตะลึง
ในเวลานี้เขาไม่ขยับเขยื้อนราวกับยืนอยู่ในโลกอันเงียบสงบ เมื่อเวลาผ่านไปมือของเขาเริ่มถูกผนึกอย่างแน่นหนาอีกครั้ง
“ตึง”
เย่ฟ่านเบื่อที่จะเล่นแล้ว มือของเขาฉีกการปิดล้อมทั้งหมดอย่างง่ายดาย
เด็กหญิงคนนี้เพียงอยู่ในจุดเริ่มต้นของอาณาจักรแปลงมังกร แม้ว่าพรสวรรค์ของนางจะยิ่งใหญ่ แต่ยังเทียบไม่ได้กับบุตรศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกเขาฆ่าก่อนหน้านี้
“ปัง!”
เย่ฟ่านทำลายโลกใบทั้งหนึ่งพันใบอย่างโหดเหี้ยม ในตอนนี้ใบหน้าของเขาไม่มีรอยยิ้มอีกแล้ว
“เจ้ามีทักษะบางอย่างซึ่งเกินความคาดหมายของข้า!” แม้ว่าปรมาจารย์ฉีจะยิ้ม แต่มันเป็นรอยยิ้มที่ขัดตายิ่งกว่าการร้องไห้
“เจ้าจะกลายเป็นสัตว์วิญญาณของข้าหากเจ้าแพ้”
เย่ฟ่านกล่าวดักคออย่างรวดเร็ว ตั้งแต่เริ่มต้นหญิงสาวยังไม่เคยยอมรับว่าหากนางพ่ายแพ้จะทำอะไร ดังนั้นเย่ฟ่านจึงกล่าวบทสรุปให้อย่างเสร็จสรรพ
“บูม!”
ดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดก็ผลิบาน และแสงนิรันดร์ก็กลายเป็นความสว่างไสวของสวรรค์และปฐพีที่ไม่เสื่อมคลาย
ดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์สามพันดอกผลิบานพร้อมกัน พลังแห่งความโกลาหลพุ่งขึ้นกลายเป็นพายุขนาดมหึมา เสื้อคลุมของหญิงสาวโบกสะบัดตามแรงลม แขนหยกของนางขาวและใสราวกับผลึก ทรวดทรงอวบอิ่มงดงามไร้ที่ติ
ในเวลานี้นางเป็นเหมือนเทพธิดาที่ยืนอยู่ในใจกลางของสวรรค์ นี่เป็นหนึ่งในหญิงสาวที่มีพรสวรรค์อย่างยิ่ง หากนางมีอายุมากกว่านี้รับรองว่าจะต้องแข็งแกร่งไม่เป็นรองเหยาซีอย่างแน่นอน
โลกเล็ก ๆ สามพันใบหมุนวนเป็นวงกลม นี่เป็นทักษะการโจมตีศักดิ์สิทธิ์ที่น่าสะพรึงกลัว ร่างศักดิ์สิทธิ์ของนางอยู่ในระดับเดียวกันกับร่างศักดิ์สิทธิ์ขอเย่ฟ่านอย่างไม่ต้องสงสัย
เย่ฟ่านละทิ้งความทระนงตนของตัวเอง สำนักฉีซื่อรวบรวมคนที่โดดเด่นจากห้าภูมิภาคหลักของโลก มีคนที่แข็งแกร่งทุกประเภท ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถประมาทได้
“ปัง ปัง”
เย่ฟ่านกระแทกกำปั้นออกไปอย่างต่อเนื่อง! ศิลปะศักดิ์สิทธิ์ของคู่ต่อสู้นั้นทรงพลังเกินไปดังนั้นเขาควรจะจัดการให้เด็ดขาดอย่างถึงที่สุด
“น่าสนใจ”
ชายร่างสูงพึมพำกับตัวเอง เขาจ้องมองไปที่คนสองคนในสนาม ด้วยความตกตะลึงเล็กน้อย
ทุกคนรู้จักเขา นี่คือวายร้ายที่บุกเข้าประตูภูเขาเป็นคนสุดท้าย ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเขาก็สามารถทำร้ายปรมาจารย์ของสำนักฉีซื่อที่อยู่ในอาณาจักรแปลงมังกรครั้งที่ห้าได้อย่างง่ายดาย
“น่าทึ่ง!”
ตุ๊กตาตัวเล็กที่ดูเหมือนอายุไม่เกินแปดเก้าขวบมีผมเปียชี้ขึ้นสู่ท้องฟ้ากล่าวกับตัวเอง
นี่คือสัตว์ประหลาดตัวตัวน้อยที่บดขยี้ผู้คนมากมายอย่างโหดเหี้ยม เขามีอายุเพียงเก้าขวบแต่กลับสามารถเข้าสู่สำนักฉีซื่อได้อย่างภาคภูมิ ความสำเร็จในอนาคตของเขาจะยิ่งใหญ่แค่ไหนเป็นที่ทราบได้
“ได้เวลายุติแล้ว!”
เมื่อการต่อสู้มาถึงสองพันห้าร้อยกระบวนท่า ฝ่ามือสีทองเย่ฟ่านก็ฝ่าเข้าไปในพายุดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ก่อนจะรวบลำคอที่งดงามของปรมาจารย์ฉีไว้ในมือ
“เจ้า!”
ฉีเจียวสุ่ยหญิงสาวผู้งดงามร่างกายสั่นสะท้าน คำพูดของนางเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรงแต่ไม่สามารถดิ้นรนได้
เย่ฟ่านจับฉีเจียวสุ่ยด้วยแขนข้างเดียวโดยโอบเอวเล็กๆไว้ในอ้อมอก ในขณะที่มืออีกข้างก็บีบอยู่บนจี้หยกรูปหยดน้ำซึ่งห้อยอยู่บนลำคอที่ละเอียดอ่อนนั้น