SWO ตอนที่ 52 วิธีใช้แต้มโชคแบบใหม่
“พวกสัตว์อสูรหายไปไหนหมด?”
หลังจากสำรวจพื้นที่สีแดงทั้งหมด โจวเฮาก็ต้องตกตะลึง เขารีบแจ้งผู้บัญชาการจ้าว และคนอื่น ๆ ผ่านช่องสื่อสารทันที
ผู้บัญชาการจ้าวยิ้ม และกล่าว “ผู้อาวุโสโจว บางทีท่านอาจจะไม่รู้ เมื่อราชันอสูรขั้นสูงในพื้นที่รกร้างนอกเมืองเสียชีวิต ราชันอสูรในพื้นที่อื่นจะสัมผัสได้ถึงการตายของมัน และจะค่อย ๆ อพยพออกจากพื้นที่ของตัวเอง”
“ราชันอสูรเหล่านั้นคงสัมผัสได้ถึงการตายของมิงค์เมฆาเจ็ดหาง ดังนั้นพวกมันจึงหลบหนีไปด้วยความตื่นตระหนก!”
โจวเฮาหมดคำพูด “ราชันอสูรพวกนี้จะขี้ขลาดเกินไปแล้ว!”
เสียงหัวเราะของเจิ้นหงดังขึ้นจากช่องสื่อสาร “ผู้อาวุโสโจว ส่วนใหญ่เป็นเพราะความแข็งแกร่งของท่าน ไม่ว่าราชันอสูรตนใดหากพบว่ามิงค์เมฆาเจ็ดหางตายอย่างรวดเร็วคงหวาดกลัวจนวิญญาณหลุดออกจากร่าง!”
"ใช่ สัตว์อสูรระดับราชันล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดไม่ด้อยไปกว่ามนุษย์ พวกมันมีความอ่อนไหวต่ออันตรายอย่างยิ่ง ถ้าแม้แต่สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังอย่างมิงค์เมฆาเจ็ดหางยังถูกจัดการอย่างรวดเร็ว แล้วพวกมันจะเอาที่ไหนไปรอด?” เสียงของเหอเปียวดังขึ้นเช่นกัน
โจวเฮากล่าวอย่างจนปัญญา “น่าเสียดาย ข้ายังอยากจัดการราชันอสูรอีกแท้ ๆ!”
เหอเปียวประจบ “ผู้อาวุโสโจว สำหรับปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธขั้นสูงสุดการจะจัดการราชันอสูรสักตัวไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งไปกว่านั้นเวลาเผชิญหน้ากับมันยังต้องระวังให้มาก แต่ท่านกลับบ่นว่าพวกมันหนีเร็วเกินไปซะอย่างนั้น!”
เสียงปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธคนอื่น ๆ ก็ดังขึ้นเช่นกัน
ขณะที่พวกเขาคุยกัน หัวข้อก็ย้ายไปที่ศพของมิงค์เมฆาเจ็ดหาง
ราวกับรังแตนถูกแหย่ กลุ่มปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธได้เริ่มโต้เถียงกันอย่างดุเดือดในทันที แม้แต่ผู้บัญชาการจ้าวก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
ท้ายที่สุดนี่คือวัตถุดิบจากศพของราชันอสูรขั้นสูง ทุกสิ่งบนตัวมันล้วนมีค่าทั้งสิ้น
โจวเฮาซึ่งพูดไม่ออกทำได้เพียงปิดช่องสื่อสารชั่วคราวเท่านั้น เขาขมวดคิ้ว ขณะยืนอยู่ในป่าโบราณที่เฟื่องฟู
สัตว์อสูรระดับราชันต่างหนีไป เหลือทิ้งไว้เพียงแม่ทัพอสูรไม่กี่ตัวอยู่เบื้องหลัง แต่โจวเฮาไม่คิดสนใจเพราะพวกมันให้แต้มโชคน้อยเกินไปไม่ทันใจเขา
“ช่างเถอะ ตอนนี้ข้าจะหาแมลงเงาก่อน!” เขาส่ายหัวพร้อมถอนหายใจ
ขณะที่เขาเดินทางไปรอบ ๆ พื้นที่รกร้าง ขอบฟ้าเริ่มปรากฏแสง แต่โจวเฮายังไม่พบแมลงเงาเลยแม้แต่ตัวเดียว
“แมลงเงาพวกนี้ยากเกินกว่าจะสัมผัสได้!” โจวเฮารู้สึกหงุดหงิดไม่ใช่น้อย แก่นโลหิต และสัมผัสของเขานั้นเหนือกว่าผู้บัญชาการจ้าว เหอเปียว และปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธที่เหลือ ถึงกระนั้นเขากลับไม่พบแม้แต่ร่องรอยของพวกมัน
เขาเปิดช่องสื่อสาร และถามผู้บัญชาการจ้าวพร้อมกับคนอื่น ๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ของพวกเขา ซึ่งทุกคนต่างส่ายหัว
“ใกล้รุ่งสางแล้ว ระหว่างวันแมลงเงาจะยิ่งพบได้ยากขึ้น ดังนั้นเราค่อยมาลุยต่อคืนนี้เถอะ!” ผู้บัญชาการจ้าวแนะนำ
หากแมลงเงาถูกพบได้ง่าย พวกมันคงถูกมนุษย์กำจัดไปนานแล้ว
ด้วยเหตุนี้ผู้บัญชาการจ้าวจึงเตรียมใจไว้แล้วตั้งแต่เริ่มเสนอแผนทำความสะอาด!
“พวกเจ้ากลับไปก่อนเถอะ ข้าว่าจะลองหาต่ออีกสักครู่!” โจวเฮาไม่เต็มใจยอมแพ้ ท้ายที่สุดเป็นเพราะเขารู้สึกว่าหินแห่งชีวิตจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อสุขภาพของพ่อ
ดวงดาวถอยกลับ ท้องฟ้าค่อย ๆ เปลี่ยนกลายเป็นสีขาว
โจวเฮาที่ค้นหาต่อไปอีกเล็กน้อยยังไม่พบสิ่งที่เขาหา
เขานั่งอยู่บนกิ่งไม้โบราณสูงร้อยเมตร ฆ่างูหลามยักษ์ และครุ่นคิดด้วยคิ้วขมวด
แต่หลังจากคิดไปคิดมาอยู่พักหนึ่ง เขาก็ยังไม่พบเบาะแส
“ช่างเถอะ ใจร้อนไปก็ไม่ได้อะไร ไว้ค่อยมาหาต่อทีหลังก็ได้!” เขายังมีเรียนตอนเช้าจึงไม่สามารถอยู่ในพื้นที่รกร้างต่อได้นานนัก
ระหว่างทางกลับเมือง เขามักจะเปิดหน้าจอเสมือนขึ้นมาดู การได้เห็นแต้มโชค 750,000 แต้มในนั้นทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาก
“เดี๋ยวก่อน… นี่ข้าลืมแต้มโชคไปได้ยังไง!” เขาหยุดกะทันหัน สายตาจับจ้องไปที่หน้าจอเสมือน
แต้มโชคสามารถเพิ่มโชคได้
และโชคมีส่วนสำคัญในการตามหาเงาแมลง
“ข้าจะลองดูว่ามันได้ผลไหม!” หลังจากที่เขามีประสบการณ์เปิดกล่องปริศนาหลายครั้ง เขาก็มั่นใจในพลังของแต้มโชคมาก อย่างไรก็ตามเนื่องจากเขารู้ดีว่าแต้มโชคจะถูกใช้ไปค่อนข้างเร็ว ดังนั้นเขาจึงไม่ค่อยใช้มันในลักษณะอื่นนอกเหนือจากการเปิดกล่อง
“ข้าจะใช้หนึ่งร้อยแต้มก่อน!”
ด้วยความคิด จำนวนแต้มโชคที่เขามีได้ลดลงไป 100 แต้ม
เขากลับไปยังพื้นที่รกร้าง และเริ่มค้นหาอีกครั้งทันที
สิบนาทีต่อมาเขายังไม่เจออะไร
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง โจวเฮาจึงตัดสินใจใช้แต้มโชค 100 แต้มต่อนาที
“ข้าจะทำเช่นนี้อีกครึ่งชั่วโมง เมื่อถึงตอนนั้น ไม่ว่าข้าจะเจอหรือไม่ ข้าจะกลับเมืองทันที!” ขณะครุ่นคิด เขาก็เพิ่มความเร็วขึ้น
ด้วยแต้มที่ถูกระบายออกไปอย่างต่อเนื่อง เขาค้นหาทุกที่ราวกับแมลงวันหัวขาด แต่ทิศทางที่เขาไปนั้นเริ่มขยับไปทางแอเรีย 275 โดยไม่รู้ตัว
ไม่นานหลังจากนั้น ประมาณ 20 นาทีเห็นจะได้
โจวเฮาซึ่งเวลานี้ยืนอยู่ที่ขอบของแอเรีย 275 ดูตกตะลึงเล็กน้อย
“ข้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” เขาพึมพำกับตัวเอง แอเรีย 275 เป็นหลุมศพขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นจากสงครามเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว
สัตว์อสูร แมลง และกระดูกของสัตว์จำนวนมากถูกฝังอยู่ใต้ดิน เช่นเดียวกับซากศพของผู้ฝึกยุทธฝั่งมนุษย์
แต่ตอนนี้มันกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยกระดูก และวัชพืชจำนวนมาก
“หรือแมลงเงาจะซ่อนอยู่ที่นี่?”
จู่ ๆ ความคิดนั้นก็แวบเข้ามาในหัวของเขา หลังจากคิดอย่างรอบคอบแล้ว เขาก็ตระหนักว่ามันมีโอกาสเป็นไปได้!
หลังสงคราม เนื่องจากสัตว์อสูรจำนวนนับไม่ถ้วนได้เสียชีวิตลงทำให้ทั่วทั้งพื้นที่นั้นเต็มไปด้วยพลังโกลาหล ไม่มีสัตว์อสูรใดมาอาศัยอยู่ที่นี่นานกว่าทศวรรษแล้ว ส่วนผู้เชี่ยวชาญของมนุษย์ก็แทบไม่เคยก้าวมาที่นี่ เหตุผลคือพลังโกลาหลที่ไม่เป็นระเบียบจะคอยขัดขวาง และบดบังสัมผัสของพวกเขา
ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ก็ยิ่งพึ่งพาสัมผัสของพวกเขามากขึ้นเท่านั้น
เมื่อคิดได้ดังนั้น โจวเฮาก็ไม่ลังเลอีกต่อไป เขาก้าวไปหนึ่งก้าวและมาถึงใจกลางหลุมขนาดใหญ่ เขาไม่ได้ใช้แก่นโลหิตของเขาเพื่อตรวจสอบรอบข้าง แต่กลับเลือกถล่มพื้นดินโดยรอบแทน..