บทที่ 6 การสื่อสารระหว่างโลกเสมือนจริงกับโลกความจริง
บทที่ 6 การสื่อสารระหว่างโลกเสมือนจริงกับโลกความจริง
.
“คู่มือสำหรับผู้เริ่มต้น: ขอแสดงความยินดีกับการเป็นเกษตรกร มาเริ่มปลูกพืชต่างๆกันเถอะ ไปที่ [ร้านค้า] เพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์ หลังจากซื้อแล้ว ให้เปิด [กระเป๋าเป้สะพายหลัง] จากนั้นก็ปลูกเมล็ดพันธุ์ใน [แปลงปลูก] / หน้าถัดไป /”
ในกล่องข้อความแสดงให้เห็นปุ่มร้านค้า ปุ่มกระเป๋าเป้ และพื้นที่เพาะปลูก
“มันก็เหมือนกับXXฟาร์มนั่นแหล่ะ!” หลังจากอ่านข้อความ หลี่ซวนก็คลิกไปที่หน้าถัดไป
“คู่มือสำหรับผู้เริ่มต้น: หากคุณมีเมล็ดพันธุ์พืชในโลกความจริง ตราบเท่าที่คุณมีระดับเพียงพอ คุณสามารถนำมาปลูกใน [แปลงปลูก] ได้เช่นกัน ให้ใส่เมล็ดพันธุ์ลงในเทอร์มินัล คลิกที่ข้อความแจ้งเตือน จากนั้นก็เปิด [กระเป๋าเป้] แล้วปลูกเมล็ดพันธุ์พืชใน [แปลงปลูก] / ก่อนหน้า/ ถัดไป /”
ในกล่องข้อความ ยังมีสิ่งเล็กน้อยที่อธิบายไม่ได้ และรูปลักษณ์ของพื้นที่เพาะปลูก
หลี่ซวนตกตะลึงกับคำแนะนำนี้
เมล็ดพืชสามารถปลูกในคอมพิวเตอร์ได้ด้วยเหรอ? นี่มันเรื่องตลกระดับนานาชาติอะไรกัน?
หลี่ซวนอ่านมันซ้ำแล้วซ้ำอีก จนแน่ใจว่าข้อความเหล่านั้นไม่ใช่เกิดเพราะเขาตาพร่ามัว และมันคือเนื้อหาของการแลกเปลี่ยนวัสดุระหว่างโลกเสมือนจริงกับโลกความจริงอย่างแท้จริง
แต่มันสามารถสื่อสารระหว่างโลกเสมือนจริงกับโลกความจริงได้ด้วยเหรอ?
เป็นไปไม่ได้!
หากวัตถุจริงสามารถใส่ลงไปในเกมเสมือนจริงได้ มนุษย์จะต้องเผชิญกับอันตรายหรือโอกาสอะไรบ้าง?
ไม่รู้!
และหลี่ซวนก็ไม่อยากรู้ด้วย สิ่งที่เขาอยากรู้ตอนนี้ก็คือ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ มันเกิดจากปัญหาส่วนตัวของเขาหรือว่าเกิดเพราะเหตุผลบางอย่าง?
อย่างแรกคือฟังก์ชั่นเมาส์บนมือซ้าย จากนั้นก็เกมฟาร์มที่อธิบายไม่ได้ในคอมพิวเตอร์ แล้วก็เป็นการสื่อสารระหว่างโลกเสมือนจริงกับโลกความจริง และเหตุการณ์ประหลาดที่จะตามมา…
ทำไมสิ่งนี้ถึงเกิดขึ้น? หลี่ซวนอย่างรู้จริงๆ และต้องการแก้ไขมัน!
ด้วยความจริงที่ว่ามือซ้ายของเขาสามารถควบคุมตัวชี้เมาส์ได้อย่างแม่นยำ หลี่ซวนได้ขจัดความเป็นไปได้ของไวรัสและแฮ็กเกอร์ออกไป และก่อนหน้านี้เขาก็ได้ตัดปัญหาเรื่องสภาพจิตใจของเขาออกไปแล้ว และสิ่งที่เหลือก็เป็นสาเหตุจากเทคโนโลยีที่โลกไม่รู้จัก
แต่สามารถใส่วัตถุจริงลงไปในวัตถุเสมือนจริงได้ด้วย? ถ้าอย่างนั้นก็สามารถนำสิ่งของเสมือนจริงมาสู่โลกความจริงได้ด้วยน่ะสิ?
เทคโนโลยีนี้น่าตกใจจริงๆ มันเกินกว่าที่มนุษย์จะรับรู้ได้ ซึ่งทำให้หลี่ซวนต้องสงสัยกับสภาพจิตใจของตัวเองอีกครั้ง
หลังจากหลับตาปรับลมหายใจอยู่ชั่วครู่ หลี่ซวนก็นั่งตัวตรงอีกครั้ง และทิ้งปัญหานี้ไว้ชั่วคราว แล้วศึกษาเกมฟาร์มต่อไปเพื่อดูว่าจะมีข้อมูลมีค่าอะไรบ้างหรือไม่
“คู่มือสำหรับผู้เริ่มต้น: เมล็ดพันธุ์ในเกมได้รับการดัดแปลงพันธุกรรมและปลูกบนพื้นที่เพาะปลูกพิเศษ เพื่อให้พืชผลเหล่านี้ใช้เวลาในการเจริญเติบโตที่สั้นมาก จากเมล็ดจนถึงครบกำหนดใช้เวลาเพียงไม่กี่วันหรือน้อยกว่าในโลกความจริง แม้ว่าเมล็ดพืชที่ปลูกบนพื้นที่เพาะปลูกพิเศษจะไม่มีอัตราการเจริญเติบโต แต่จงเลือกอย่างระมัดระวัง! / ก่อนหน้า / ถัดไป /”
หลี่ซวนที่ไม่ได้รับข้อมูลสำคัญใดๆ ก็คลิกที่หน้าถัดไปโดยตรง
“คู่มือสำหรับผู้เริ่มต้น: พืชผลต้องใช้เวลาเติบโต 2-3 ชั่วโมงหรือหลายวัน และไม่จำเป็นต้องดูแลระหว่างนั้น หลังจากที่พืชผลสุกแล้ว อย่าลืม [เก็บเกี่ยว] เข้า [โกดัง] แล้วขายพืชผลในโกดังเพื่อรับเหรียญทอง / ก่อนหน้า / ถัดไป /”
คำแนะนำเครื่องมือยังแสดงรูปมือสำหรับการเก็บเกี่ยว ตลอดจนถึงรูปลักษณ์ของโกดังด้วย
หน้าถัดไป
“คำแนะนำสำหรับผู้เริ่มต้น: หากคุณ [รับ] เข้า [โกดัง] ไม่ทัน เพื่อนของคุณจะขโมยมันได้ และเพื่อนแต่ละคนสามารถรับ 10% ของผลผลิตที่เหลือของคุณจนกว่าจะเก็บหมด! คุณยังสามารถไปที่ฟาร์มของเพื่อนคุณ เพื่อเลือกขโมยพืชผลที่สุกแล้วของอีกฝ่าย! / ก่อนหน้า / ถัดไป /”
จากนั้นก็ ‘ถัดไป’ อีก…
ดวงตาของหลี่ซวนเป็นประกาย “ได้เลย!”
“คู่มือสำหรับผู้เริ่มต้น: หลังจาก [รับ] พืชผลเข้า [โกดัง] แล้ว คุณยังสามารถเลือก [นำออก] พืชผลสู่โลกความจริงเพื่อลิ้มรสได้ /ก่อนหน้า / ถัดไป/”
ในกล่องข้อความ แสดงลักษณะหน้าโกดังและปุ่ม ‘นำออก’ ให้เห็นด้วย
หลังจากเรียกดูเพื่อยืนยัน 5-6 ครั้ง หลี่ซวนก็ยืนยันได้ว่าที่เขาได้อ่านไปเป็นความจริง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้คลิกหน้าถัดไป
เขากลัว!
หลี่ซวนเป็นคนมีเหตุผล และเหตุผลของเขาได้บอกกับตัวเองว่า ไม่ว่าจะเป็นมือที่กลายเป็นเมาส์ หรือการแลกเปลี่ยนเสมือนจริงกับความจริง มันเป็นไปไม่ได้ที่จะปรากฏในความเป็นจริง
นั่นเป็นเหตุผลที่เขากลัว เขากังวลว่าการถูกปัญหากระแทกอย่างหนักเมื่อคืนนี้ อาจทำให้เขาเกิดอาการประสาทหลอน
หากเป็นอาการประสาทหลอนก็จำเป็นต้องไปพบจิตแพทย์เพื่อทำการรักษา
แต่ถ้าไม่ใช่ภาพหลอนล่ะ?
หลี่ซวนตั้งสมมติฐานโดยสันนิษฐานว่าสิ่งที่เขาเห็นและได้ยินในเวลานี้เป็นเรื่องจริง และเกมฟาร์มนี้ก็ไม่ใช่เรื่องตลก
ดังนั้น…
นี่เป็นโอกาสที่ดีอย่างแน่นอน!
แม้ว่าหลี่ซวนจะยังไม่ได้วางแผนอย่างเป็นระบบในใจ แต่การสื่อสารระหว่างโลกเสมือนจริงกับโลกความจริงเพียงอย่างเดียวก็เป็นเทคโนโลยีที่น่ากลัว ซึ่งไม่สามารถอธิบายได้
แต่จะพิสูจน์ได้อย่างไรว่านี่ไม่ใช่อาการประสาทหลอนของเขา?
หลี่ซวนกำลังมีปัญหา
แล้วที่เฉินเหว่ยปินโทรมาหานั้นเป็นเรื่องจริงใช่ไหม?
แต่ใครจะสามารถแน่ใจได้ว่าเนื้อหาของการโทรนั้นจะไม่ใช่ประสาทหลอนทางหู? รวมถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นทั้งหมดอาจเป็นภาพหลอน และแม้แต่ขั้นตอนการไปพบจิตแพทย์ก็อาจเป็นจินตนาการของตัวเขาเองด้วย บางทีตอนนี้เขาอาจกำลังนอนอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชเพื่อรักษาตัวอยู่ก็ได้
สวรรค์! สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถหาคำตอบได้เลย!
ลำบากแล้วล่ะสิ!
หลังจากดิ้นรนอยู่เป็นเวลานาน ในที่สุดหลี่ซวนก็หยิบโทรศัพท์มือถือเลียนแบบมือสองโทรไปหาเฉินเหว่ยปินเพื่อนสนิทของเขา
“ฮัลโหล? ซวนจื่อ? เป็นไปได้ไหมว่าฟาร์มแปลงสุดท้ายของฉันเปิดได้แล้ว และนายกำลังนำข่าวดีมาบอกฉัน?” เสียงที่ตื่นเต้นเล็กน้อยของเฉินเหว่นปินดังมาจากปลายสาย
“ไม่ใช่!” หลี่ซวนตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ “อาปิน ตอบคำถามของฉันหน่อย”
“เฮ้อ!” เฉินเหว่ยปินถอนหายใจและพูดว่า “ฉันก็ว่าแล้ว… งั้นมาคุยกันเถอะ! นายมีปัญหาอะไร?”
“นายเชื่อไหมว่าโลกนี้มีมนุษย์ต่างดาว?” หลี่ซวนไม่ได้อธิบายสถานการณ์โดยตรง เพราะหากสิ่งที่เขาพบมันไม่ใช่ภาพลวงตา ก็ไม่ควรให้มีบุคคลที่สองได้ล่วงรู้สิ่งนี้ แม้จะเป็นเพื่อนสนิทก็ตาม
“มนุษย์ต่างดาว? ทำไมนายถึงได้ถามแบบนี้?”
“อย่าเพิ่งถาม ตอบคำถามของฉันก่อน!”
“มนุษย์ต่างดาว…” ปลายสายครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ “เชื่อ แน่นอนฉันเชื่อ! ฉันมักเพ้อฝันว่าถ้าสักวันหนึ่งฉันเจอกับมนุษย์ต่างดาวมันจะดีแค่ไหน! ยังไง? ซวนจื่อ อย่าบอกนะว่านายเจอมนุษย์ต่างดาว!”
“ถ้าฉันบอกว่า ฉันเห็นมนุษย์ต่างดาว นายจะเชื่อไหม?” หลี่ซวนถามกลับ
“ไร้สาระ! ไม่มีทาง? นายจะเจอได้ไง? พวกเขาสอนนายเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ากว่าโลกหลายพันปีหรือหลายหมื่นปีไหม? หรือว่าพวกเขาเปลี่ยนนายให้เป็นนักรบในอนาคต?” มีการพูดเกินจริงมากมายจากทางปลายสาย
“นายเชื่อจริงเหรอ?” หลี่ซวนถามต่อ
“…” ปลายสายเงียบไปชั่วครู่ แล้วถามด้วยน้ำเสียงที่เบามาก “ซวนจื่อ! นาย…เจอมนุษย์ต่างดาวจริงเหรอ? ฉันเชื่อ! บอกฉันเกี่ยวกับสถานการณ์ของนายหน่อย ถ้านายต้องการฉัน ฉันจะรีบกลับทันทีเลย”
“ฉันจะบอกให้ฟัง เมื่อคืนนี้ฉันไม่เพียงแต่จะสูญเสียความรักไปเท่านั้น พ่อของฉันยังไปขายเลือดเพราะค่าเล่าเรียนของน้องชายสองคนของฉัน พอกลับถึงบ้านเขาก็เป็นลม ดังนั้นเมื่อคืนฉันจึงกินเหล้าจนเมามาก! ฉันตื่นขึ้นตอนที่นายโทรหาฉันเมื่อเช้า จากนั้นฉันก็ทำความสะอาดบ้าน! แล้วฉันก็ไปเจอมนุษย์ต่างดาวบนดาดฟ้า นายว่าฉันกำลังมีอาการประสาทหลอนใช่ไหม?” หลี่ซวนถาม
“ประสาทหลอน? นาย …ซวนจื่อฉันจะบอกให้ฟังนะ!” ปลายสายตื่นตระหนก “นายกำลังอยู่ในสภาวะไม่มั่นใจตัวเองอย่างมาก! แต่ฉันบอกได้เลยว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น! แม้ว่าฟ้าจะถล่มลงมา นายก็ไม่สามารถมีอาการประสาทหลอนที่น่ากลัวแบบนี้ได้ อย่าว่าแต่แค่การอกหักเล็กๆน้อยๆแบบนี้!”
หลังจากเงียบไปสักพัก เฉินเหว่ยปินก็ถามกลับว่า “ขอถามหน่อย! เมื่อวานที่นายซื้อเหล้ามากินเพราะนายนอนไม่หลับแล้วอยากให้หลับเร็วขึ้นใช่ไหม?”
“เอ่อ…ใช่!”
“งั้นฉันจะถามต่อ หลังจากตื่นนอนวันนี้ นายได้ลบทุกอย่างเกี่ยวกับ เฉินเสวี่ย (หิมะอรุณ) แล้วใช่ไหม? และโทรกลับบ้านสอบถามสถานการณ์แล้วใช่ไหม? แล้วนายทำความสะอาดบ้านอย่างเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?”
‘เฉินเสวี่ย’ ที่เฉินเหว่ยปินกล่าวถึง คือแฟนเก่าที่โหดร้ายของหลี่ซวน
“ใช่!” หลี่ซวนขมวดคิ้วราวกับรู้ว่าเฉินเหว่ยปินจะพูดอะไร
“ใช่ไหมล่ะ! คนบ้าจะทำเรื่องพวกนี้ได้ยังไง? จากสิ่งที่ฉันรู้เกี่ยวกับนาย! อย่าบอกว่ามันเกิดเพราะการถูกบอกเลิก อย่างนายต่อให้ถูกบอกเลิก 8 ครั้ง 10 ครั้ง ก็ไม่มีปัญหา! ไม่ต้องพูดถึงปัญหาเรื่องเงินของบ้านนายที่สามารถแก้ไขได้ และต่อให้แก้ไขไม่ได้ สำหรับนายมันก็ไม่เป็นปัญหาเช่นกัน!” ปลายสายพูดอย่างมั่นใจ “ส่วนเรื่องประสาทหลอนอะไรนั่น? หยุดอำฉันได้แล้ว! หากนายเสียสติ ในโลกนี้ก็คงมีน้อยคนที่เป็นปกติ! เอาล่ะ! หยุดพูดเรื่องพวกนี้ได้แล้ว! ตอนนี้บอกฉันมา ว่ามนุษย์ต่างดาวมีลักษณะยังไง? นายเห็นจานบินไหม? มันมาจอดบนดาดฟ้าหรือเปล่า? นายได้เจรจากับมันไหม?”
“ฉันเข้าใจแล้ว!” หลีซวนที่อยู่ปลายสายอีกด้านยิ้ม
“ฮัลโหล? ฮัลโหล! ซวนจื่อ…ซวนจื่อ บ้าเอ๊ย…”
.