(ฟรี) บทที่ 220 ราชันอมตะ อันหราน ปรากฏตัว!
ผลของการต่อสู้ทำให้ฝั่งแดนทมิฬต่างนิ่งเงียบ
เสียงดูถูกและเหยียดหยามเมื่อก่อนหน้านี้ราวกับถูกยัดมันกลับลงไปในคอในทันใด ไม่เหลือแม้แต่ร่องรอย
แต่ในทางฝั่งแดนนิรันดร์ที่ก่อนหน้านี้เงียบสงัดก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นมาสุดเสียง สีหน้าของทุกคนเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น
ผู้โดดเดี่ยวเอาชนะเทียนหวู่ได้อย่างง่ายดาย เหมือนเป็นการตบหน้าฝั่งแดนทมิฬ!
ยิ่งไปกว่านั้น ชัยชนะของศึกครั้งนี้ราวกับเป็นแรงกระตุ้นทำให้เหล่าราชันผู้กำแหงของแดนนิรันดร์มากมายมั่นใจมากขึ้น
กลับกลายเป็นว่าหลายชั่วแสนล้านปีก่อน แดนนิรันดร์เคยมีราชันผู้กำแหงที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ที่แข็งแกร่งราวกับแดนทมิฬเป็นเพียงเด็กน้อย! อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการตายของเทียนหวู่จะทำให้ฝั่งแดนทมิฬต้องเงียบไปชั่วครู่ แต่กลับทำให้พวกมันรู้สึกเดือดพล่านมากกว่าเดิม
ในชั่วพริบตาถัดมา ร่างใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยหมอกดำก็ยืนขึ้นมา!
“เจ้าคนที่ตายไปนานแล้ว คิดจะเป็นผีกลับมาอย่างนั้นรึ?”
ร่างนั้นดูหนาและแข็งแกร่ง แขนขาราวกับเป็นเสาสี่ต้นที่ค้ำท้องฟ้าเอาไว้ได้ ร่างกายดำทมิฬดั่งนิล มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่มีสีแดงบริสุทธิ์
“เทพทมิฬ!”
“หากเทพทมิฬเป็นคนลงมือก็เอาชนะได้อย่างง่ายๆ เป็นแน่!”
เมื่อสัตว์ประหลาดร่างยักษ์เดินออกมา ก็มีเสียงตะโกนชื่นชมและให้กำลังใจมาจากทางฝั่งแดนทมิฬ
มันคือบุคคลที่น่าเกรงขามอย่างยิ่ง ร่างใหญ่โตมโหฬาร ใหญ่เสียจนรู้สึกถึงความกดดันอย่างอธิบายไม่ได้
เทพทมิฬนั้นเป็นสายเลือดที่แข็งแกร่งในแดนทมิฬ แม้จะไม่ดีเท่าสายเลือดของราชันอมตะ แต่ก็ยังเป็นสายเลือดที่ทรงพลังมากอยู่ดี
ทายาทของเผ่าพันธุ์นี้ต่างเรียกได้ว่าไร้เทียมทานเมื่ออยู่ในเขตแดนเดียวกัน
เทพทมิฬตรงหน้านี้เรียกได้ว่าเป็นที่สุด! แข็งแกร่งและทรงพลังยิ่ง กระทั่งเทียนหวู่เมื่อก่อนหน้าก็ไม่มีทางเทียบติด!
พลังในการต่อสู้ของเขาทำให้ฝั่งแดนนิรันดร์หลายคนต้องหวาดกลัว
เทพทมิฬทะยานออกไป งวงของมันกวาดผ่านท้องฟ้า กวาดผ่านทั่วทั้งสิบทิศ ทำให้มิติถล่มลงมา
เทพทมิฬคำรามออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว แขนขาทั้งสี่ข้างนั้นราวกับเป็นเสาที่ค้ำฟ้าดินเอาไว้ มันเหยียบลงบนมิติ ก่อให้เกิดบ่วงขึ้น ภายในบ่วงนั้นนั้น มิติแตกสลาย ความวุ่นวายพุ่งพล่าน และมันกำลังมุ่งหน้าเข้ามา!
“นั่นคือบ่วงเทพกุญชร เขาเอาจริงตั้งแต่แรกเลย!”
“นั่นแหละ ทำลายให้สิ้นซากในครั้งเดียว ดูสิว่ามันจะกล้าป้องกันหรือเปล่า!”
“บ่วงเทพกุญชร ข้าไม่ได้เห็นมากี่ปีแล้วกัน แต่ในตอนนี้ข้าได้เห็นมันแล้วอีกครั้ง อา ถึงพวกแดนนิรันดร์จะตายแต่พวกมันก็ไม่ต้องเสียใจแล้ว!”
ทางฝั่งแดนทมิฬ มีคนที่จดจำวิชานี้ได้และอดหัวเราะออกมาไม่ได้
บ่วงเทพกุญชรนั้นเป็นวิชาที่มีชื่อเสียงของเทพทมิฬ
ครั้งหนึ่ง เขาเคยใช้วิชานี้รวบฟ้าดิน ควบคุมทุกอย่าง และดักจับศัตรูตัวฉกาจของเขาเอาไว้ในนี้ และในที่สุดก็สูญสลายมันจนไม่เหลือแม้แต่สิ่งใด นับตั้งแต่นั้นมา มันก็ทำให้เหล่ารุ่นเดียวกันต้องสั่นสะท้าน!
อย่างไรก็ตาม แม้จะเผชิญหน้ากับการโจมตีอย่างดุดันของเทพทมิฬ แต่ผู้โดดเดี่ยวก็ไม่มีท่าทีตื่นตกใจใดๆ
ในครานี้ เขาเพียงแค่ยกนิ้วขึ้นมา และชี้ไปที่บ่วงเทพกุญชร
ครืน!
เมื่อเขาชี้ออกไป ราวกับว่าเขากลายเป็นเพียงสิ่งเดียวในมิตินี้ สั่นสะเทือนยิ่งใหญ่เหนือทุกสิ่ง
ในตอนนั้น เพียงแค่นิ้วเดียวก็ดึงดูดสายตาของทุกสิ่งมีชีวิต ติดตราประทับลงไปในจิตใจของพวกมันทั้งหมด!
บ่วงเทพกุญชรละลายหายไปอย่างรวดเร็วราวกับหิมะในดวงอาทิตย์ยามตะวันฉาย
จากนั้น นิ้วของเขาก็ยิ่งทรงพลังมากขึ้น และในตอนนี้มันก็ประทับเข้าที่ร่างของเทพทมิฬ ร่างของมันสั่นอย่างรุนแรง และระเบิดออกมาเช่นเทียนหวู่เมื่อก่อนหน้า สลายหายไปในความว่างเปล่า!
สังหารภายในชั่วพริบตา!
ราวกับภาพที่ถูกฉายซ้ำ กระทั่งเทพทมิฬที่อยู่เหนือกว่าเทียนหวู่ก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงชะตากรรมที่ถูกสังหารภายในชั่วพริบตาได้!
"ต่อไป "
ผู้โดดเดี่ยวเอ่ยปาก เสียงของเขาสงบนิ่ง แต่มันกลับก้องไปในหูของเหล่าสิ่งมีชีวิตจากแดนทมิฬทุกตน พวกมันรู้สึกราวกับว่านี่คือเสียงจากนรก!
เทียนหวู่ เทพทมิฬ
สิ่งมีชีวิตที่เรียกได้ว่าเป็นระดับสูงในรุ่นเดียวกับพวกมัน กลับถูกสังหารทิ้งภายในเวลาไม่ถึงชั่วพริบตา
ทำไมเขาจึงแข็งแกร่งเช่นนี้?
ราชันผู้กำแหงจากแดนทมิฬตื่นตกใจ แต่ในตอนนี้ ไม่มีผู้ใดกล้าถอยหลังกลับ มีทางเดียวเท่านั้นคือการเดินหน้าเข้าหาความตาย
หากเทียบกับความตายในสนามรบ กับการกลับไปที่แดนทมิฬพร้อมเสียศักดิ์ศรีแล้วนั้น ความตายถือว่าดีกว่ามาก!
"ต่อไป "
เสียงที่สงบนิ่งและไร้ความปรานีดังขึ้นอีกครา และราชันผู้กำแหงจากแดนทมิฬก็ถูกเขาฆ่าตายอย่างต่อเนื่อง พวกมันต่างถูกตัดหัวอย่างไร้ปรานี เลือดหลั่งนองไปทั่วทรายสีเหลืองย้อมให้กลายเป็นสีแดง
ในด้านของแดนนิรันดร์ ราชันผู้กำแหงหลายคนต่างรับชมด้วยเลือดที่เดือดพล่าน นี่มันอะไรกัน? คนๆ เดียวต่อแดนทมิฬทั้งรุ่น!
หากข่าวนี้ถูกส่งกลับไปที่แดนนิรันดร์ แดนนิรันดร์ทั้งหมดคงจะต้องตกตะลึงอย่างแน่แท้!
แต่น่าเสียดายที่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าผู้สังหารราชันผู้กำแหงมากมายด้วยตัวคนเดียวไม่ใช่คนที่อยู่ในแดนนิรันดร์ในปัจจุบัน แต่เป็นเพียงร่างของราชันผู้กำแหงเมื่อหลายกัปกัลป์มาก่อน
แต่ถึงกระนั้น ก็ยังสร้างความตกใจไปทั่ว
อย่างไรก็ตาม แผนของแดนทมิฬที่จะบุกโจมตีแดนนิรันดร์นั้นก็ไม่สำเร็จ แต่กลับเป็นการทำร้ายตนเองเสียแทน
และทุกสิ่งอย่างก็เกิดมาจากแดนรกร้างแห่งนี้!
ในขณะที่ฝั่งแดนนิรันดร์กำลังตื่นเต้นและมีกำลังใจ กระทั่งสีหน้าของราชาเฉียนยังดูดีขึ้น
โองการราชันอมตะที่ลอยอยู่เหนือหัวของกระทิงทองคำก็ระเบิดออกมาเป็นลำแสงสว่างจ้า!
เฉกเช่นดวงอาทิตย์สีดำทมิฬ ล่องลอยอยู่เหนือเก้าชั้นฟ้า ส่องสว่างไปทั่วทั้งสิบทิศ!
ในขณะเดียวกัน แม่น้ำนิรันดร์ก็เริ่มสั่นสะเทือนเล็กน้อย
“ฮึๆ ราชันเฉียน ข้ามาเพื่อทักทาย”
เสียงที่สงบและเยือกเย็นดังขึ้นมาจากแดนทมิฬด้านหลังแม่น้ำนิรันดร์ ทำให้ราชันเฉียนต้องตกใจ!
“อันหราน....”
ราชันเฉียนรู้ว่าต้นเสียงนั้นมาจากสิ่งมีชีวิตผู้ยิ่งใหญ่ในแดนทมิฬ
ราชันอมตะ อันหราน!