ตอนที่แล้ว788 - ข้ารับใช้ของสำนักฉีซื่อ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป790 - เจ้าเมืองที่หยิ่งทะนงที่สุดในประวัติศาสตร์

789 - คำเตือนของเจ้าเมือง


789 - คำเตือนของเจ้าเมือง

ห่างออกไปไม่ไกลนัก คนรับใช้เหล่านั้นเดินโซเซแทบจะล้มลงกับพื้น

นี่เขาจะกินมันจริงหรือ? มันเป็นสัตว์อสูรล้ำค่าที่มีมูลค่าเก็บเท่าต้นกำเนิดบริสุทธิ์หลายหมื่นจิน คนเหล่านี้จะกินมันเหมือนม้าป่าได้อย่างไร

“เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!”

หลายคนวิ่งหนีโดยไม่หันกลับมามองและไม่ต้องการที่จะอยู่ที่นี่ต่อแม้แต่ลมหายใจเดียว พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาไม่สามารถที่จะเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดเช่นนี้ได้

“กลับไปรายงานนายท่านเถอะ ต้องมีคนจัดการเจ้าบ้านั่นให้สาสม!”

“บ้าเอ้ย เขาทุบตีเราจนเกือบจะตาย กระทั่งจะกินเนื้อม้ามังกรของนายท่านเสียด้วยซ้ำ เขาคงเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่!”

“จะไม่เกิดเรื่องขึ้นหรือ?” ชายชราในทุ่งนาตัวสั่นเพราะกลัวว่าจะเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น

“ไม่มีอะไรหากมีปัญหาให้รีบมาหาข้า ไปกันเถอะทุกคน นำม้ามังกรตัวนี้ไปปรุงอาหาร นี่เป็นอาหารชั้นยอดที่สามารถต่ออายุทุกคนได้หลายปี” เย่ฟ่านพูดด้วยรอยยิ้ม

ในตอนเย็นเงาหลายเงาโผล่ออกมาจากท้องฟ้า หนึ่งในนั้นงดงามเป็นพิเศษ ท่ามกลางแสงอาทิตย์สีแดงที่ร้อนแรง นางร่อนลงมาเหมือนเทพธิดาลึกลับจากเก้าสวรรค์

กระโปรงยาวกำลังร่ายรำตามลม ผ้าไหมสีน้ำเงินกำลังโบกสะบัด และทั้งหมดถูกย้อมด้วยแสงสีทองอ่อนของแสงอาทิย์อัสดง

ในหมู่บ้านโบราณ เด็กกลุ่มหนึ่งมองขึ้นไปบนฟ้าและทุกคนก็ร้องออกมา

“ดูสิ เทพธิดามา!”

“เทพธิดาได้ลงมายังโลกและมาที่หมู่บ้านของเราแล้ว!”

เด็กกลุ่มหนึ่งปรบมือและตะโกน เจ้าเด็กน้ำมูกก็รีบวิ่งไปเรียกเย่ฟ่านออกมาดู

เย่ฟ่านประหลาดใจ เขาไม่ได้คาดคิดว่าองค์หญิงอวี้เตี่ยจะมาที่นี่ในเวลาอันรวดเร็ว เขาไม่ได้พบหน้านางมาครึ่งเดือนแล้ว นางงดงามขึ้นเรื่อยๆ และดูราวกับเทพธิดาที่ห่างไกลจากความเป็นมนุษย์ ข้างๆนางมีบุรุษสองคนและสตรีหนึ่งคน

“ทำไมองค์หญิงถึงมาที่นี่?” เย่ฟ่านถามด้วยรอยยิ้ม เขาไม่รู้จักอีกสามคนที่เหลือ

“ข้ามาดูว่าพี่เย่คุ้นเคยกับชีวิตที่นี่หรือไม่” องค์หญิงอวี้เตี่ยยิ้มสดใส

“ข้าอยู่ที่นี่ได้ และทุกอย่างเรียบร้อยดีขอบคุณองค์หญิงสำหรับ ความกังวลของท่าน” เย่ฟ่านพูดด้วยรอยยิ้ม

“ข้าได้ยินมาว่าพี่เย่กักขังม้ามังกรของปรมาจารย์ฉีไว้ ข้าไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่?”

อวี้เตีjยเป็นหญิงงามลำดับสามของจงโจว ดวงตาของนางเป็นประกาย มีเสน่ห์ที่น่าอัศจรรย์

“ใช่ ข้าจับมันไว้จริงๆ” เย่ฟ่านพยักหน้า

“ตอนนี้มันอยู่ที่ไหน?” องค์หญิงอวี้เตี่ยถาม

“นั่นน่ะเหรอ มันถูกปรุงในหม้อเหล็กใบใหญ่นั่น” เย่ฟ่านขมวดคิ้วและทำท่าทางไม่สนใจ

“อะไรนะ หม้อ?”

“หมายถึงม้ามังกรตัวนั้นถูกปรุงในหม้อเหล็กใบใหญ่นั่นหรือ?”

องค์หญิงอวี้เตี่ยและสหายทั้งสามคนที่อยู่ข้างๆ ล้วนตะลึงงัน พูดอะไรไม่ออก 

“เจ้ากินม้ามังกรจริงๆ?”

หลายคนจ้องเขาเหมือนสัตว์ประหลาด ชายที่อยู่ข้างหน้าปรุงม้ามังกรในหม้อเหล็กขนาดใหญ่ เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นใครบางคนทำเรื่องที่น่าทึ่งเช่นนี้

“นี่เป็นอาหารเสริมปราณที่ยิ่งใหญ่ มันมีสายเลือดมังกรที่แท้จริงอยู่เล็กน้อย พวกเจ้ามาทันเวลาพอดี เชิญองค์หญิงร่วมโต๊ะกับพวกเรา รับเอาช่วงเวลาที่ดีเช่นนี้ร่วมกัน” เย่ฟ่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ก็... เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อกินเนื้อม้ามังกร!” คนข้างๆ รู้สึกว่าชายที่อยู่ข้างหน้าผิดปกติเกินไป

“เราต้องการมาขอให้เจ้าคืนม้ามังกรให้แก่ปรมาจารย์ฉีเพื่อแก้ไขความขุ่นเคือง ไม่เช่นนั้นปรมาจารย์ฉีจะไม่มีวันยอมแน่” องค์หญิงอวี้เตี่ยกล่าว

“ข้าปรุงมันแล้ว อย่างมากที่สุดข้าทำได้แค่ส่งเนื้อตุ๋นนี้กลับไปหนึ่งชามเพื่อที่พวกเขาจะได้ลองชิมดูด้วย” เย่ฟ่านตอบ

“เจ้าเจอปัญหาเข้าแล้วล่ะ ปรมาจารย์ฉีชอบม้ามังกรตัวนั้นมากที่สุด ถ้าเจ้ากินมันไปแบบนี้คงเป็นเรื่องยากที่เขาจะระงับโทสะได้!” ชายอีกคนกล่าวเบาๆ

“เจ้าโทษข้าไม่ได้สำหรับเรื่องนั้น คนพวกนั้นหยาบคายมาก มันเป็นเรื่องยากที่ข้าจะปล่อยวางความแค้นหากไม่ได้กินเนื้อของม้าตัวนี้” เย่ฟ่านไม่สนใจมากนัก

“องค์หญิง เพื่อนของท่าน...ช่างแตกต่างจริงๆ!” หญิงงามอีกคนส่งเสียงกระแอมเบาๆ

“ท่านผู้สูงส่ง ขออภัยที่ข้าเสียมารยาทสอดแทรกการสนทนาของท่าน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับท่านเจ้าเมืองมันเป็นความผิดของเราทั้งหมด”

ลุงของเอ้อโกวเดินกะเผลกเข้ามา เขากลัวว่าจะสร้างปัญหาร้ายแรงให้ท่านเจ้าเมืองจึงพูดว่า

“ม้าตัวนี้ถูกตุ๋นไปแล้ว ข้าจะมอบลาจากครอบครัวของข้าเพื่อชดเชยให้”

องค์หญิงอวี้เตี่ยรู้สึกขบขันและหัวเราะเบาๆ นางได้เห็นลาแก่ถูกล่ามอยู่ไม่ไกล จะให้พามันไปทดแทนม้ามังกรเพื่อไม่ให้ปรมาจารย์ฉีโกรธเคืองนั่นคงจะเป็นไปไม่ได้

“ลืมมันไปเถอะ ข้าไม่สนใจเรื่องนี้แล้ว” สาวงามที่อยู่ข้างๆ แทบจะสบถด้วยความโกรธ

“ข้าซาบซึ้งในความกรุณาของพวกเจ้า ตอนนี้ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นแล้ว เนื้อม้ามังกรกำลังสุกได้ที่ ขอเชิญทุกคนเพลิดเพลินกับมันไปพร้อมกับเรา” เย่ฟ่านเชิญด้วยความจริงใจ

“ข้าไม่กิน ไปกันเถอะ” ชายคนหนึ่งพูดขึ้น

“น่าเสียดาย ข้าบอกได้เลยว่าม้ามังกรตัวนี้เป็นอาหารเสริมปราณที่หาได้ยากยิ่ง ถ้าพลาดแล้วจะเสียใจไปตลอดชีวิต” เย่ฟ่านยังคงโน้มน้าวต่อ

ข้างป่าโบราณมีโต๊ะและเสาหินตั้งอยู่ มันเคยเป็นแท่นบูชาเก่าแก่ ผู้คนในหมู่บ้านเตรียมข้าวของเรียบร้อยแล้ว หม้อใหญ่และชามเล็กก็ถูกยกขึ้น เนื้อตุ๋นส่งกลิ่นหอมฟุ้งทั่วบริเวณ และบนแท่นบูชามีสุราตั้งอยู่หนึ่งไหใหญ่

นอกจากเนื้อม้ามังกรแล้วยังมีลูกแกะย่างอีกกว่าสิบตัว สิ่งนี้เย่ฟ่านนำมาเองทั้งหมด มิฉะนั้นแม้ว่าหมู่บ้านจะเล็กแต่ม้ามังกรตัวเดียวก็ไม่เพียงพอสำหรับคนทั้งหมู่บ้าน

“กินเนื้อม้ามังกร...” กลุ่มเด็กๆร้องตะโกนด้วยความตื่นเต้น

“มาเถิดพี่น้อง ข้าจะให้ของดีแก่ทุกท่าน”

“ชิ้นนี้เป็นแก่นแท้ของเนื้อม้ามังกร ให้พวกเจ้าทุกคนได้ลองลิ้มรสชาติ!”

“นี่คือเอ็นของม้ามังกร มันช่วยบำรุงแก่นปราณ พวกเจ้าทุกคนควรชิมมัน”

เย่ฟ่านคีบเนื้อหลายชิ้นและเป็นไปด้วยความกระตือรือร้น ต้นกระโดงโบราณกำลังแกว่งไกว สุราหมักก็มีกลิ่นหอม หลายคนก็ถูกดึงดูดด้วยกลิ่นอันเย้ายวนนี้โดยไม่รู้ตัว

หลังจากที่ร่วมดื่มสุรากันจนเริ่มเมามายเล็กน้อย เย่ฟ่านก็กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า

“ทุกคนกินเนื้อม้ามังกรด้วยกัน และเมื่อถึงเวลาพวกเจ้าทุกคนต้องช่วยข้า”

จู่ๆ ทั้งสี่คนก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ และชายคนหนึ่งก็พูดว่า

“เจ้าเล่ห์เกินไปแล้ว เจ้าเชิญพวกเรากินเนื้อม้ามังกรและอยากจะลากพวกเราลงโคลนด้วยกันใช่หรือไม่”

“จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร เป็นไปได้หรือที่ข้าจะเป็นคนไร้ยางอายเช่นนี้” เย่ฟ่านพูดอย่างชอบธรรม

“ข้าแค่ต้องการสร้างความบันเทิงให้พวกเจ้า และหากมีข่าวใดๆ เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้จะเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากหากพวกเจ้าแจ้งข้าก่อน”

ชายทั้งสองเป็นผู้คุ้มครองขององค์หญิงอวี้เตี่ยและสตรีอีกคนคือสหายขององค์หญิง แม้ว่านางจะไม่ใช่คนแบบเซียวหมิงหยวนแต่นางก็อดกลอกตาไม่ได้

“มา มา มา ยินดีต้อนรับ กินเนื้อม้ามังกร ดื่มสุราชั้นดี ไม่มีอะไรจะมีความสุขไปกว่านี้อีกแล้วในชีวิต” เย่ฟ่านยังคงรินสุราให้พวกเขา

“ข้าจะต้องบอกเจ้า พี่เย่ควรใส่ใจเมื่อปรมาจารย์ฉีออกจากด่านฝึกฝนข้ารับประกันว่าเขาจะสังหารเจ้าแน่นอน”

“ถูกต้อง เขาเลี้ยงม้าตัวนี้มาหลายร้อยปีมันไม่มีทางที่เขาจะละเว้นเจ้า ทางที่ดีเจ้าควรหลบหนีออกจากที่นี่ซะ”

สหายขององค์หญิงอวี้เตี่ยอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์เรื่องนี้

“เจ้าอาจไม่รู้อะไร ยอดฝีมือหลายคนในสำนักฉีซื่อของเราได้ยินมาว่ามียอดฝีมือปรากฏขึ้นในพื้นที่ของหุบเขา ดังนั้นพวกเขาจึงกระตือรือร้นออกตามหาคนคนนั้น”

เย่ฟ่านแตะคางเมื่อได้ยินข่าวและกล่าวว่า “เมื่อเร็วๆ นี้ข้าเจอปัญหา การฝึกฝนของข้าติดคอขวดและต้องการการต่อสู้อย่างหนักเพื่อทะลุทะลวง

พวกเจ้าก็ช่วยบอกพวกเขาด้วยว่าข้าอยู่ที่นี่ แต่อย่าให้พวกเขาเข้ามาพร้อมกัน เพราะเช่นนั้นข้าคงรับไว้ไม่ได้”

องค์หญิงอวี้เตี่ยมองเขาด้วยความโกรธ ผิวของนางเหมือนหยกที่สวยงาม และดวงตาของนางก็ทำให้ผู้คนที่ถูกต้องมองรู้สึกมึนเมา

“การกระทำของเจ้าในวันนี้สร้างความโกรธแค้นให้ผู้คนมากมาย เจ้าต้องระวังด้วย” หลี่ซินเยว่สหายขององค์หญิงอวี้เตี่ยตักเตือนอีกครั้ง

“เจ้าเมืองลู่เฉิงออกมา!”

ในขณะนั้นก็มีเสียงตะโกนดังมาจากภูเขาที่อยู่ข้างเคียง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด