ตอนที่แล้ว787 - เมืองโบราณ 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป789 - คำเตือนของเจ้าเมือง

788 - ข้ารับใช้ของสำนักฉีซื่อ


788 - ข้ารับใช้ของสำนักฉีซื่อ

ในทุ่งนาที่อยู่ห่างออกไปหลายลี้มีคนกำลังนั่งร้องไห้ พ่อของเจ้าเด็กน้ำมูกนอนอยู่บนพื้นทั้งร่างเต็มไปด้วยเลือด ดูเหมือนว่าลมหายใจของเขาจะหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ

นอกจากนี้ยังมีชายชราที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสกำลังประคองชายวัยกลางคนที่อยู่บนพื้นด้วยความเศร้าโศก

ชาวบ้านหลายคนรวมตัวกัน พวกเขาโกรธแค้นแต่ไม่กล้าพูดอะไร ในทิศทางตรงกันข้ามมีผู้บ่มเพาะหลายคนที่มีท่าทางหยิ่งยโสยืนมองพวกเขาอย่างเงียบๆ

มีสัตว์อสูรหลายตัวในทุ่งนา หนึ่งในนั้นคือม้ามังกรซึ่งกำลังกินพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้าน

“พวกเจ้ารังแกคนแบบนี้ได้อย่างไร?” ชาวบ้านบางคนอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงร้อง

“แค่สัตว์อสูรกินพืชผลเท่านั้น ข้าจะให้เหรียญเงินแก่เจ้า อย่ารบกวนพวกมัน” คนผู้หนึ่งแค่นเสียงอย่างเย็นชา

“พืชผลคือชีวิตของเรา” ชาวบ้านหลายคนไม่พอใจ

“เสียงดังจริงๆ” ชายคนนั้นหัวเราะเยาะและมองทุกคนอย่างดูถูกเหยียดหยาม

เย่ฟ่านสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าสัตว์อสูรเหล่านั้นไม่ใช่สัตว์อสูรธรรมดา พวกมันเป็นสัตว์พาหนะของผู้บ่มเพาะระดับสูงอย่างแน่นอน

แม้ว่าคนเหล่านี้จะแต่งตัวสวยหรู แต่เมื่อมองแวบแรกพวกเขาก็เป็นเพียงบริวารของคนอื่นซึ่งมีหน้าที่ดูแลสัตว์อสูรเท่านั้น และผู้ที่ครอบครองสัตว์เหล่านี้ย่อมเป็นยอดฝีมือของสำนักฉีซื่ออย่างไม่ต้องสงสัย

สำนักฉีซื่อในภูเขาอมตะอยู่ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก สัตว์อสูรของพวกเขาต้องได้รับการดูแล และมันก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกมันจะออกไปหาอาหารข้างนอก

ในไม่ช้าชาวบ้านคนหนึ่งก็ยืนยันการคาดเดาของเขาและกล่าวว่ามันเป็นสัตว์อสูรจากยอดเขาเซียนที่อยู่ด้านข้าง คนเหล่านี้ปรากฏตัวเกือบทุกวันและลงมืออย่างเด็ดขาดต่อทุกคนที่ต่อต้าน

“ขอโทษชาวบ้านของข้า จ่ายค่าชดเชยการสูญเสียและรีบออกไปจากที่นี่ทันที” เย่ฟ่านกล่าวอย่างเย็นชา

เขานั่งลงที่ด้านข้างของผู้ได้รับบาดเจ็บพร้อมกับหยิบน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ออกมาเล็กน้อย เทใส่ปากของลุงของเอ้อโกวพร้อมกับถ่ายทอดพลังปราณเพื่อรักษากระดูกที่แตกหักของเขา

ชายชราหน้าซีด น้ำตาไหลจากดวงตาที่ขุ่นมัวและเลือดไหลหยดจากมุมปาก เป็นภาพที่น่าสังเวชอย่างยิ่ง

เย่ฟ่านยืนขึ้นและกล่าวว่า “ข้ากำลังคุยกับเจ้า ได้ยินหรือไม่?”

“เจ้าเป็นใคร เจ้าคิดว่าเจ้ายิ่งใหญ่มาจากไหน?” หนึ่งในนั้นเยาะเย้ย และคนอื่นๆ ก็มีความเย่อหยิ่งอย่างยิ่ง

“เจ้าก็เป็นแค่ทาสกลุ่มหนึ่ง ยังกล้ามาสร้างความวุ่นวายที่นี่ เจ้านายของพวกเจ้าเคยสอนมารยาทให้หรือไม่?” เย่ฟ่านตะโกน

“เจ้า...เจ้าเป็นใคร” หลายคนหน้าซีดลง

“ข้าเป็นเจ้าเมืองที่นี่ และทั้งพื้นที่และผู้คนที่นี่อยู่ภายใต้การปกครองของข้า ไม่ว่าใครจะเข้ามาต้องปฏิบัติตามกฎของข้า” เย่ฟ่านกล่าวอย่างเย็นชา

“ฮ่าฮ่า... เป็นแค่เจ้าเมืองแต่กล้าที่จะวางท่ายิ่งใหญ่และรบกวนสัตว์อสูรของเรา ต่อให้มีสิบชีวิตก็คงไม่พอชดใช้” หนึ่งในนั้นหัวเราะ

“ดูเหมือนเจ้าจะไม่รู้คำว่าตายสะกดอย่างไร” เย่ฟ่านพูดจบก็กระแทกฝ่ามือออกไป

ปัง!

คนเหล่านั้นล้มคว่ำลงกับพื้นและไม่สามารถลุกขึ้นได้ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นพวกเขาก็ยังคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว

“เจ้า...กล้าโจมตีพวกเรา? ไม่รู้หรือว่าพวกข้าเป็นใคร?”

“เป็นแค่ข้าทาสไม่ใช่หรือ รีบก้มหัวขอโทษซะ” เย่ฟ่านเยาะเย้ยและกล่าวว่า

“ส่วนมังกรวารีและม้าเหล่านี้จะถูกยึดเพื่อเป็นอาหารของชาวบ้าน หากเจ้านายของพวกเจ้าไม่พอใจก็ให้มาคุยกับเขาโดยตรง”

“เจ้ารู้ผลที่ตามมาของการทำเช่นนี้หรือไม่?”

“น่ากลัวจริง”

เย่ฟ่านเดินไปข้างหน้าพืชผลยังไม่โตเต็มที่และเป็นต้นอ่อนอยู่ ทั้งหมดเสียหายเพราะถูกสัตว์อสูรเหยียบย่ำและกัดกิน นี่เป็นการทำงานอย่างหนักของชาวบ้าน แต่กลับต้องเสียหายเพราะคนที่ไร้ความคิดเหล่านี้

“เจ้าจะทำอะไร?”

“ปัง”

เย่ฟ่านเตะชายคนนั้นกระเด็นออกไปหลายสิบจั้งแล้วตกลงที่นอกไร่

“อ่า...”

“เจ้ากล้าดีอย่างไร ชีวิตเจ้าได้จบไม่สวยแน่!”

“เสียงดังจริงๆ” เย่ฟ่านเดินหน้าเข้าหาคนต่อไป

“อย่า...อย่าเข้ามา เราจะชดเชยความสูญเสียให้” คนพวกนี้ต่างก็ขี้ขลาด เมื่อเห็นผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ปรากฏขึ้นพวกเขาก็เกิดความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด

“เจ้าก็มีความกลัวด้วยหรือ?”

เย่ฟ่านก้าวไปข้างหน้าและเตะชายคนนั้นทันที ความแข็งแกร่งของเขาไม่ใช่เรื่องเล่นๆ คนเหล่านี้เปรียบเสมือนไก่ตัวน้อย ลอยละลิ่วข้ามท้องถนนและตกอยู่บริเวณนอกสวนของชาวบ้าน

แม้ว่าคนเหล่านี้จะเป็นผู้ฝึกตน แต่เนื่องจากพวกเขามีความแข็งแกร่งที่ห่างไกลจากเย่ฟ่านหลายขุม ดังนั้นพวกเขาจึงถูกจัดการอย่างง่ายดาย

สองคนหมดสติทันทีและอีกสี่คนกระดูกหัก พวกเขาคร่ำครวญอย่างน่าเวทนา

ชาวบ้านทั้งหมดต่างก็ตกตะลึง เด็กอายุราวสิบหกสิบเจ็ดปีผู้นี้กลับจัดการคนชั่วอย่างแสนสาหัสได้อย่างง่ายดาย

“พี่ใหญ่แข็งแกร่งมาก”

“พี่ใหญ่จัดการคนเลวหมดแล้ว เจ้าเด็กน้ำมูกหยุดร้องได้แล้ว”

เด็กกลุ่มหนึ่งร้องขึ้น น้ำตาของพวกเขายังไม่แห้ง ทุกคนดูเหมือนลูกแมวตัวน้อย ดูไร้เดียงสาและเต็มไปด้วยความสุข

“อย่าเข้ามา...”

คนเหล่านี้ตกใจกลัว เมื่อเห็นเย่ฟ่านเดินออกจากไร่ ทุกคนตัวสั่นพยายามคลานหนี

“ปัง”

“ปัง”

เย่ฟ่านยกเท้าเตะอย่างดุเดือด เขาไม่เห็นอกเห็นใจคนแบบนี้ เสียงกระดูกหักดังออกมาให้ได้ยินไม่หยุดหย่อนราวกับกำลังฆ่าเป็ดฆ่าไก่ คนเหล่านั้นคร่ำครวญอย่างน่าสังเวช

“เราจะชดใช้ให้”

“เราขออภัยจริงๆ ไว้ชีวิตพวกเราด้วย!”

พวกเขากรีดร้องอย่างสิ้นหวังเพราะกลัวจริงๆว่าเย่ฟ่านจะเตะพวกเขาจนตาย

แต่ก็ยังมีคนกระดูกแข็งอยู่สองคน พวกเขาตะโกนข่มขู่ว่า “เรื่องนี้จะไม่จบลงง่ายๆแน่ เจ้าเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม แม้ว่าเจ้าจะเป็นเจ้าเมือง แต่เจ้าต้องถูกนายท่านของเราลงโทษอย่างสาสม!”

“คิดว่าข้ากลัวเหรอ?”

เย่ฟ่านไม่พูดอะไร แม้แต่ครึ่งเซียนเขาก็ยังฆ่ามาแล้ว นับประสาอะไรกับเจ้านายของคนเหล่านี้

ปัง!

ปัง!

“เจ้า... อ่า…” ตอนนี้ทุกคนตกใจมาก ชายสองคนนอนอยู่บนพื้น ก้มหน้าก้มตารับการโจมตีอย่างขมขื่น

“ได้โปรด ปล่อยพวกเราไปเถอะ”

ยังมีคนที่พอจะฉลาดอยู่บ้าง เขาเริ่มที่จะขอความเห็นใจจากชาวบ้านในทุ่งและรีบกล่าวขอโทษอย่างรวดเร็ว

“ข้าขออภัยทุกท่าน เราผิดเอง เป็นความผิดของเรา ได้โปรดอภัยให้เราด้วย”

ภายใต้การเตะของสัตว์ประหลาดตนนี้ พวกเขาไม่มีร่องรอยของความเย่อหยิ่งอีกต่อไป ทุกคนยอมแพ้และอ้อนวอนอย่างหนักเพราะกลัวว่าจะต้องทิ้งชีวิตตนเองไว้ที่นี่

เมื่อเย่ฟ่านถามคนเหล่านี้ตอบทุกคำที่พวกเขารู้ พวกเขาไม่กล้าปิดบังอะไรเลย คนเหล่านี้ออกมาจากภูเขาเซียนจริงๆ และพวกเขาเป็นผู้ดูแลของสำนักฉีซื่อที่รับผิดชอบในการดูแลสัตว์อสูร

“เจ้าช่างวางท่าโอ่อ่าจริงๆ พวกเจ้าเป็นผู้บ่มเพาะแต่กล้าสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน ยังไม่รีบไสหัวไปอีก!”

ผู้บ่มเพาะนั้นถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่เดินอยู่ในเส้นทางแห่งการเป็นเทพ พวกเขาจะแยกตัวตนออกจากมนุษย์ธรรมดาโดยสมบูรณ์ ดังนั้นการกระทำของคนเหล่านี้จึงถือเป็นการละเลยข้อห้ามและเป็นสิ่งที่น่าละอาย

“ม้ามังกรตัวนั้นทิ้งไว้ให้ข้า...” เย่ฟ่านยืนอยู่บนถนนและพูดอย่างใจเย็น

กลุ่มคนนำสัตว์อสูรออกจากที่นี่และทิ้งม้ามังกรที่มีความแข็งแกร่งไว้ให้เย่ฟ่าน

“ท่านทั้งหลาย คืนนี้ข้าจะให้พวกท่านได้ลิ้มรสเนื้อกันสัตว์อสูร” เย่ฟ่านยิ้ม

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด