ตอนที่แล้วDual Cultivation บทที่ 919 ออกจากถ้ำม่วงเยือกแข็ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDual Cultivation บทที่ 921 สิบสองเทพธิดา

(ฟรี) Dual Cultivation บทที่ 920 ออกจากแดนหิมะน้ำแข็ง


สองสามชั่วโมงหลังจากออกจากหุบเขา ซูหยางกับบรรดาหญิงสาวก็สามารถออกจากภูเขาได้อย่างปลอดภัย

และเนื่องจากพวกเขามีลั่วซืออี้คอยปกป้อง จึงไม่จำเป็นต้องใช้เส้นทางลับทำให้พวกเขาสามารถบินตรงผ่านแดนหิมะน้ำแข็งได้อย่างง่ายดาย เหมือนกับแดนหิมะน้ำแข็งเป็นสวนสาธารณะสำหรับพวกเขา

"ข้าสงสัยมาระยะหนึ่งแล้ว ว่าเด็กผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ข้าสามารถบอกได้ว่านางปลอมตัวมา แต่นางไม่มีผนึกตระกูลติดตัว" ลั่วซืออี้ถามขณะที่พวกเขาออกจากแดนหิมะน้ำแข็ง

ซูหยางยิ้มและพูดว่า "ลองเดาดูสิ"

เมื่อเขาบอกนางเกี่ยวกับประสบการณ์ในอีกพิภพ เขาตั้งใจละรายละเอียดเกี่ยวกับเซี่ยวหรงเพื่อทำให้นางประหลาดใจ

ลั่วซืออี้มองไปที่เซี่ยวหรงด้วยสีหน้าครุ่นคิด

หลังจากเงียบไปชั่วขณะ นางก็พูดว่า "นางไม่ใช่มนุษย์ ดังนั้นนางน่าจะเป็นสัตว์อสูร ข้าพบว่ากระแสพลังของนางค่อนข้างคุ้นเคย แต่ข้าจำไม่ได้ว่าที่ไหนที่ข้าเคยรับรู้มาว่านางเป็นสัตว์อสูรประเภทไหน"

"นี่เป็นคำใบ้ นางตัวเล็ก มีความแข็งแกร่งทางจิตวิญญาณเหลือเชื่อ และสามารถค้นหาสมบัติได้อย่างง่ายดาย อา นางเร็วมากด้วยเช่นกัน"

"นางสามารถหาสมบัติได้ด้วยรึ" ลั่วซืออี้เลิกคิ้วขึ้น

มีสัตว์อสูรเพียงไม่กี่ชนิดที่มีความสามารถพิเศษในสวรรค์ศักดิสิทธิ์ทั้งสี่ และส่วนใหญ่มีขนาดเล็ก อย่างไรก็ตาม มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่ทั้งเร็วและมีพลังทางจิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง

"อย่าบอกนะว่านางคือแมวภูต" ลั่วซืออี้เดาอย่างมีหลักการ

ซูหยางหัวเราะแล้วก็พูดว่า "ใกล้เคียง แต่ไม่เสียทั้งหมด"

"อะไรนะ มีอะไรอีกนอกจากแมวภูตที่เร็ว สามารถค้นหาสมบัติ และกระทั่งมีพลังจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งซึ่งเป็นความสามารถพิเศษของพวกนาง"

"แล้วแมวจอมภูตล่ะ"

ลั่วซืออี้หยุดเคลื่อนไหวเมื่อได้ยินดังนั้น และนางก็จ้องไปที่เซี่ยวหรงด้วยตาเบิกกว้างเท่าจานรองถ้วยชา

"แมวจอมภูต บรรพบุรุษของแมวภูต เจ้าเจอสัตว์ร้ายโบราณที่หายากเช่นนี้ได้อย่างไร" นางอุทาน

"เจ้าจำอุปกรณ์มิติที่ข้าให้เจ้าได้หรือไม่ ข้าเจอนางอยู่ข้างใน" เขาพูด

"อะไรนะ เจ้าพบแมวจอมภูตในอุปกรณ์มิติงั้นรี นั่นห่างไกลจากความเป็นไปได้มาก ข้าไม่เชื่อเจ้า"

"ให้ข้าบอกเจ้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อน ข้าเก็บเรื่องนี้ไว้โดยตั้งใจจะทำให้เจ้าประหลาดใจ"

ซูหยางเล่าต่อเกี่ยวกับประสบการณ์ของเขาในอุปกรณ์มิติและวิธีที่เขาพบเซี่ยวหรง

"ไม่น่าเชื่อ… เมื่อมาคิดว่าใครบางคนจากประกาศิตสวรรค์ต้องจบชีวิตลงในพิภพนั้นหลังจากทำสงครามกับเผ่าเทพอาชูร่า แต่นั่นไม่ได้อธิบายว่าทำไมถึงมีแมวจอมภูตในอุปกรณ์มิติของคนผู้นั้น" ลั่วซืออี้กล่าวหลังจากที่ได้ยินเรื่องราว

"ข้าได้แต่เพียงคิดถึงความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียว เซี่ยวหรงเข้าไปในอุปกรณ์มิติและติดอยู่ข้างใน แม้ว่าแมวจอมภูตและแมวภูตสามารถเกิดจากความว่างเปล่าได้ แต่ก็ไม่น่าเป็นไปได้มากที่จะมีพลังวิญญาณภายในอุปกรณ์มิติมากพอที่จะให้กำเนิดแมวภูต อย่าว่าแต่แมวจอมภูต"

"ทำไมเจ้าไม่ถามนางล่ะ"

"ข้าถามแล้ว แต่นางจำอะไรไม่ได้"

"อย่างงั้นรึ… ถ้าเช่นนั้นเจ้าอาจพานางมาไปหาคนที่เจ้าก็รู้ว่าใคร และให้นางตรวจสอบเซี่ยวหรง" ลั่วซืออี้แนะนำ

ซูหยางยิ้มและพูดว่า "ข้ามีแผนจะพาเซี่ยวหรงไปหานางอยู่แล้ว"

"ใครรึ" เซี่ยวหรงถามด้วยความสงสัย

"เอาเป็นว่านางเชี่ยวชาญเรื่องแมวภูตและของประเภทนี้" เขาพูด

"เจ้าจะรู้เมื่อเจ้าเห็นนาง"

เซี่ยวหรงพยักหน้า

หนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้น พวกเขาก็ออกจากแดนหิมะน้ำแข็งและมาถึงเมืองที่ใกล้ที่สุด

"ข้าจะพบเจ้าภายหลัง ซู—เซี่ยวหยาง" ลั่วซืออี้พูดกับเขา

"ใช่ อีกสองสามวันเจอกัน"

จากนั้นซูหยางก็ไปที่วังเยือกแข็งพร้อมกับเซี่ยวหรง ขณะที่ลั่วซืออี้ไปที่ค่ายกลเคลื่อนย้าย

##รอเพื่อนนักอ่านอยู่ที่ www.thai-novel.com หรือ mynovel.co นะคะ

ผู้คนที่ทำงานกับค่ายกลข้ามมิติตกใจเมื่อเห็นลั่วซืออี้

"ค-คารวะ ธิดาเซียนลั่ว"

ทุกคนทักทายนาง

ผู้คนที่รอต่อแถวก็ทักทายนางก่อนที่พวกเขาจะเปิดเส้นทางให้นาง ปล่อยให้นางไปก่อน

"พาข้าไปที่นคราศักดิ์สิทธิ์" นางพูด

"ขอรับ"

พนักงานเริ่มทำงานกับค่ายกลข้ามมิติทันที

สองสามนาทีให้หลัง พวกเขาก็เสร็จ

จากนั้นลั่วซืออี้ก็ชำระค่าธรรมเนียมก่อนจะเข้าค่ายกลข้ามมิติ

เมื่อออกจากค่ายกลข้ามมิติในอีกด้านหนึ่ง ลั่วซืออี้ก็ดึงยานสมบัติบินของนางและเริ่มเดินทางไปที่ค่ายกลข้ามมิติอื่น ค่ายกลที่จะพานางไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์

เมื่อนางไปถึงประตูมิติ ผู้คนที่ทำงานอยู่ที่นั่นก็ก้มหัวและคำนับนาง

"ยินดีต้อนรับกลับมา ธิดาเซียนลั่ว" พวกเขาพูดกับนาง

ลั่วซืออี้ไม่ได้พูดอะไรและเข้าไปในประตูมิติหลังจากนั้น ไปถึงแดนศักดิ์สิทธิ์

ที่แดนศักดิ์สิทธิ์ ลั่วซืออี้ใช้ยานสมบัติบินของนางอีกครั้ง กลับไปที่นิกายอย่างรวดเร็ว

"ยินดีต้อนรับกลับมา เจ้านิกาย" ศิษย์ที่นั่นทักทายนาง

"ข้ากลับมาแล้ว"

จากนั้นลั่วซืออี้ก็กลับไปยังที่พักของตนเอง ก่อนนำป้ายหยกสื่อสารออกมาและเรียกทุกคนจากตระกูลซูภายในนิกาย แม้กระทั่งผู้ที่ไม่ได้อยู่ในนิกาย

คนแรกที่ปรากฏตัวคือหวังหยุนชวน

"พี่สาวซืออี้ ยินดีต้อนรับกลับมา" หวังหยุนชวนพูดกับนาง

"ข้ากลับมาแล้ว" นางตอบด้วยรอยยิ้ม

แม้จะพยายามทำหน้าตาเฉยเมย ไม่ให้เปิดเผยอะไรกับอีกฝ่ายจนกว่าทุกคนจะมารวมกัน ลั่วซืออี้ก็อดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นหวังหยุนชวน เพราะนางสามารถจินตนาการถึงปฏิกิริยาของอีกฝ่ายได้เมื่อนางเปิดเผยข่าวแก่อีกฝ่ายและคนอื่นๆ

"ดูเหมือนว่าเจ้าจะอารมณ์ดีนะ เจ้ายินดีที่จะบอกข้าว่ามีข่าวอะไรในตอนนี้" หวังหยุนชวนถามนาง

"อดทนไว้ น้องหยุนซวน นี่คือสิ่งที่พวกเจ้าทุกคนควรได้รับร่วมกัน"

"ทุกคน เจ้าเรียกพี่สาวน้องสาวคนอื่นมาด้วยงั้นรึ นี่คงจะสำคัญพอควร"

ลั่วซืออี้พยักหน้า

"ตอนนี้ข้าอยากรู้จริงๆ…" หวังหยุนชวนยิ้ม

สามวันให้หลัง หญิง 12 คน 12 เทพธิดาสุดสวยก็ได้มารวมตัวกันในที่พักของลั่วซืออี้

PS: วันนี้สามตอน (จริงแล้ว เอาตอนของเมื่อวานมาลงวันนี้ อิอิ ถ้าอยากได้ 4 ตอนก็บอกนะครับ หุหุ)

5 1 โหวต
Article Rating
4 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด