บทที่ 743 จากดีกลายเป็นดี(ตอนฟรี)
บทที่ 743 จากดีกลายเป็นดี
“ดังนั้น การวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียในการโปรโมตผลิตภัณฑ์ในช่วงแรกของเราจึงไม่ถูกต้องสินะ!” จี้เฟิงพยักหน้าและกล่าวอย่างครุ่นคิด
“ใช่แล้ว!” หยางเต๋อจ้าวผู้ซึ่งไม่ได้พูดอะไรตั้งแต่ต้น อดไม่ได้ที่จะพ่นลมหายใจและกล่าวว่า “ผู้ชายคนนั้นไม่รู้สถานการณ์จริงๆของเรา เขาเห็นแต่จุดที่พีคที่สุดของเราเท่านั้น เขาไม่รู้ว่าโรงงานของเราในช่วงแรกเป็นยังไง... ไอ้พวกที่เรียกตัวเองว่าผู้เชี่ยวชาญนี่ เอาจริงๆ พวกเขาเป็นพวกว่างที่ไม่มีอะไรทำเลยมานั่งวิเคราะห์คนอื่น แถมยังวิเคราะห์โดยที่ไม่รู้จริงอีก!”
“ฮ่าๆๆ!” จี้เฟิงอดหัวเราะไม่ได้ “แต่เขาดูเหมือนผู้เชี่ยวชาญจริงๆเลยนะ ... คนที่ไม่มีประสบการณ์แบบผมนี่คงถูกหลอกได้ง่ายๆเลย!”
“พูดกันตามตรง ไอ้พวกที่เรียกตัวเองว่าผู้เชี่ยวชาญเนี่ย มักจะโผล่มาในตอนท้ายของโชว์ทุกทีเลย ทุกอย่างแสดงเสร็จหมดแล้ว จะพูดอะไรก็ได้แล้วนี่ถูกมั้ย? อย่างไอ้หมอนี่ ก็ออกมาเตือนบริษัทอื่นๆที่ต้องการจะคัดลอกวิธีการโปรโมตของโรงงานเราไปใช้ โดยมีเขาคอยให้คำปรึกษา จากนั้นเขาก็แค่รอบริษัทเหล่านั้นโทรหาเขา และขอให้เขาไปทำงานเป็นที่ปรึกษาเพื่อช่วยบริษัทเหล่านั้นกำหนดกลยุทธ์อื่นๆ! สุดท้าย ก็ใช้เรื่องของเราเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เข้าตัวเองไปเต็มๆ!” ฮั่นจงพูดอย่างดูถูก เขาหัวเราะอีกครั้งและพูดหยอกล้อจี้เฟิงว่า “อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หายากที่สุด คือคนอย่างบอสของเรา บอสใหญ่ที่มีความคิดที่จะเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆเลย! ฮ่าๆๆ”
“ไปตายซะ!” จี้เฟิงด่าด้วยรอยยิ้ม
ซูหยวนเม้มปากและหัวเราะเบาๆ หยางเต๋อจ้าวก็หัวเราะเช่นกัน
“บอสคะ ว่าด้วยเรื่องของการตลาด คำจำกัดความง่ายๆก็คือความพยายามที่จะขายของให้คนอื่น เพียงแค่ว่าจะใช้วิธีไหนที่จะขายให้ได้เร็วที่สุดและขายให้ได้มากกว่าคนอื่น!” ซูหยวนกลัวว่าในอนาคตจี้เฟิงอาจจะถูกหลอก ดังนั้นเธอจึงกล่าวอย่างใจเย็นว่า “ตราบใดที่คุณคิดวิธีนี้ได้ มันก็คือการตลาดที่ประสบความสำเร็จแล้วค่ะ ส่วนพวกผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้น บางคนอาจเชื่อถือได้ แต่บางคนก็เชื่อถือไม่ได้ มันแล้วแต่กรณีด้วย เราต้องพิจารณาจากสถานการณ์จริงของเราเป็นหลัก!”
“มีเหตุผล คุณพูดได้ดีมากเลย!” จี้เฟิงพยักหน้าและพูดอย่างเห็นด้วย
“จริงๆไม่ใช่แค่นั้นนะคะบอส ถึงคุณอาจไม่ค่อยมีประสบการณ์ในด้านนี้ แต่นั่นไม่สำคัญหรอกค่ะ มันสำคัญที่ว่าเราใส่ใจที่จะเรียนรู้หรือเปล่า และฉันก็มั่นใจว่าคุณจะสั่งสมประสบการณ์ได้มากกว่านี้อย่างแน่นอน!” ซูหยวนกล่าวเสริม “เพียงแค่ว่าเราอย่ารีบร้อนจนเกินไป ไม่อย่างนั้นมันก็ง่ายที่จะผิดพลาด!”
จี้เฟิงพยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่ต้องห่วง ถ้าผมไม่ใส่ใจ ผมจะเชิญคุณมาที่นี่เหรอ? อะไรที่ผมไม่รู้ ผมก็จะถามคุณว่าถูกหรือผิด แต่ถ้าคุณไม่รู้ เราก็มาศึกษาเรียนรู้ไปด้วยกัน และก้าวหน้าไปด้วยกัน!”
พวกเขายิ้มและหัวเราะออกมาพร้อมๆกัน แต่ในขณะเดียวกัน ซูหยวนและหยางเต๋อจ้าวพยักหน้าอย่างลับๆอยู่ในใจ ทัศนคติที่มีต่อการเรียนรู้ของจี้เฟิงทำให้พวกเขารู้สึกพอใจและรู้สึกชื่นชมอย่างมาก
โดยทั่วไปแล้ว ในวัยอย่างจี้เฟิง หากเขาได้สร้างอาชีพด้วยมือของเขาเองตั้งแต่อายุขนาดนี้ แถมยังประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มันจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เขาจะรู้สึกทะนงตัวอยู่บ้าง มันอาจทำให้เขาคิดว่าเขาเจ๋งเขาเก่งที่สุด หรืออาจจะคิดว่าไม่มีใครสามารถเทียบกับเขาได้อีกแล้ว และเป็นไปได้น้อยมากที่จะมีความคิดที่อยากจะเรียนรู้ต่อไปแบบนี้
และข้อเท็จจริงก็พิสูจน์แล้วว่า ผู้ที่เริ่มมีชื่อเสียงหรือประสบความสำเร็จทางด้านธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อย มีน้อยมากที่หน้าที่การงานของพวกเขาจะคงอยู่ได้เป็นระยะเวลานาน โดยทั่วไปไม่นานไปกว่าห้าปีและส่วนใหญ่จะล้มเหลวภายในสองสามปีเท่านั้น คนเหล่านี้เป็นเพียงพายุลูกใหญ่ที่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรงในช่วงแรก แต่หลังจากนั้นก็เป็นเพียงคลื่นลูกเล็กหรืออาจหายไปเลยอย่างไรร่องรอย
ทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับทัศนคติของพวกเขาเป็นอย่างมาก
แต่ความสามารถในการเริ่มต้นธุรกิจได้ตั้งแต่อายุยังน้อย แสดงให้เห็นว่าคนเหล่านั้นไม่ได้แย่และมีสมองเพียงพออย่างแน่นอน
เพียงแต่ปัญหาอยู่ในขั้นตอนที่ประสบความสำเร็จแล้ว พวกเขามักจะภาคภูมิใจและหยิ่งผยอง และไม่ถ่อมตัวที่จะเรียนรู้อีกต่อไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ได้เป็นเจ้านายเต็มตัว ความรู้สึกยอดเยี่ยมในการกุมอำนาจทำให้พวกเขาสูญเสียความเป็นตัวเองไปในทันที...
แต่จี้เฟิงนั้นแตกต่างไปจากคนเหล่านั้นอย่างสิ้นเชิง
ในตอนที่คังหยวนสลิมมิ่งพาวเดอร์ล้มเหลวกับการโปรโมต ซูหยวนและคนอื่นๆไม่เห็นความเศร้าหรือหมดหวังปรากฏอยู่บนใบหน้าของจี้เฟิงเลย ใบหน้าของเขายังคงประดับด้วยรอยยิ้มที่สงบและมั่นคง ในทุกๆวัน เข้าร่วมกับซูหยวนและคนอื่นๆ เพื่อศึกษาวิธีโปรโมตผงลดน้ำหนักคังหยวน เขามีพลังบวกและคิดที่จะต่อสู้อย่างเต็มที่ ความพ่ายแพ้สองครั้งติดไม่ได้ทำให้เขาสูญเสียจิตวิญญาณที่จะต่อสู้เลย!
แต่เมื่อคังหยวนสลิมมิ่งพาวเดอร์ได้รับความนิยมไปทั่วบ้านทั่วเมือง และคนทั่วประเทศก็รับรู้ถึงการมีอยู่ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้ จี้เฟิงก็เริ่มศึกษาอย่างถ่อมตนอีกครั้ง ทัศนคตินี้เพียงอย่างเดียวสามารถทำให้ซูหยวนและคนอื่นๆ คาดการณ์ภาพในอนาคตได้ว่าพวกเขาได้มีเจ้านายที่มองการณ์ไกลและควบคุมสถานการณ์โดยรวมได้ดี และโรงงานเซียวแห่งนี้จะมีแต่ดีขึ้นเรื่อยๆเท่านั้น!
เว้นเสียแต่ว่า.... วันหนึ่งจี้เฟิงจะกลายเป็นคนเย่อหยิ่งและอวดดีไม่ฟังใคร!
แต่อย่างน้อยในตอนนี้เขาก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น
นี่คือสิ่งที่ซูหยวนและหยางเต๋อจ้าวรู้สึกชื่นชม และจุดนี้ก็เป็นเพียงหนึ่งในข้อดีของจี้เฟิงเท่านั้น
“จัดไปค่ะบอส!” ซูหยวนยิ้ม แต่เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เธอจึงพูดว่า “บอสคะ ฉันมีเรื่องจะขอให้คุณช่วยตัดสินใจ!” ซูหยวนหยิบเอกสารบางอย่างออกจากกระเป๋าของเธอออกมา “นี่คือรายงานการประเมินของบริษัทยาฉางเหอ เป็นการสำรวจที่ฉันกับพนักงานในโรงงานลงพื้นที่และจัดทำขึ้นมาเอง... ในความคิดของฉัน ด้วยความแข็งแกร่งและช่องทางการขายในปัจจุบันของบริษัทยาฉางเหอ อย่างมากที่สุด บริษัทยาฉางเหอสามารถทำหน้าที่เป็นตัวแทนทั่วไปในส่วนภูมิภาคเจียงโจวเท่านั้น แต่ไม่สามารถทำหน้าที่เป็นตัวแทนทั่วไปของทั่วประเทศได้!”
“คุณสำรวจและทำการประเมินตั้งแต่เมื่อไหร่?” จี้เฟิงตกใจ
“ซักพักแล้วล่ะค่ะ!” ซูหยวนพยักหน้า
จี้เฟิงอดหัวเราะไม่ได้และพูดว่า “ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักของคุณ แต่ผมเชื่อว่าบริษัทยาฉางเหอจะส่งเสริมให้ผลิตภัณฑ์ของเราอย่างเต็มที่และทำให้มันไปไกลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้!”
“บอสคะ งานนี้ไม่ใช่ของเด็กเล่นนะคะ! ถ้าตัดสินจากกระแสนิยมของคังหยวนสลิมมิ่งพาวเดอร์เพียงอย่างเดียว ถ้าใครอยากจะชนะการประมูลซื้อสิทธิ์ตัวแทนในเจียงโจว อย่างน้อยก็ต้องมี 10 ล้านหรือมากกว่านั้น ซึ่งนี่เป็นเพียงการประมาณการคร่าวๆเท่านั้น!” ซูหยวนพูดอย่างรวดเร็ว “แล้วถ้าเป็นทั่วประเทศล่ะ? มันเป็นตัวเลขที่มากมายจนเราไม่กล้าที่จะคิดคำนวณในตอนนี้เลยด้วยซ้ำ นอกจากนี้ผู้ที่ได้รับอำนาจจากหน่วยงาน จะเกี่ยวข้องกับการขายผงลดน้ำหนักคังหยวนในอนาคตด้วย บอสต้องพิจารณาให้รอบคอบนะคะ!”
“แน่นอน ผมรู้!”
จี้เฟิงพยักหน้า และกล่าวว่าเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับค่าธรรมเนียนของตัวแทนในภาคเอกชนแล้ว และเขาก็ได้อ่านหนังสือหลายต่อหลายเล่มในห้องสมุดของมหาวิทยาลัย
แต่ในมุมมองของจี้เฟิง ค่าธรรมเนียนจากตัวแทนไม่ใช่ปัญหา แม้ว่าการทำงานกับคนนอกจะไม่ได้แตกต่างกัน ยังไงพวกเขาก็เป็นหุ้นส่วน แต่เซียวฉางเหอไม่ใช่คนอื่น จี้เฟิงจึงรู้สึกว่าเขาสามารถให้สิทธิ์แก่เซียวฉางเหอก่อน แล้วค่อยให้เขาจ่ายค่าธรรมเนียมหน่วยงานให้กับโรงงานเซียว หลังจากที่บริษัทยาฉางเหอทำเงินได้ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
จี้เฟิงแสดงความคิดเห็นของเขาในทันที แต่เพราะซูหยวนและหยางเต๋อจ้าวไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเซียวฉางเหอเป็นอย่างไร จี้เฟิงเลยพูดอย่างคลุมเครือว่าเซียวฉางเหอเป็นญาติของเขา และเป็นบุคคลที่เชื่อถือได้
“บอสคะ ถ้าตามที่คุณพูด เรื่องค่าธรรมเนียนตัวแทนมันเป็นเพียงปัญหาเล็กๆ แต่การสนับสนุนคังหยวนสลิมมิ่งพาวเดอร์ในอนาคตล่ะ?” ซูหยวนถาม “ฉันมีความเข้าใจอยู่ในระดับนึงเกี่ยวกับช่องทางการขายและจุดแข็งของบริษัทยาฉางเหอ แต่พูดกันตรงๆ แค่ภายในเจียงโจว ช่องทางของบริษัทยาฉางเหอก็แทบจะรับมือไม่ได้แล้ว... แล้วการขายในส่วนอื่นๆของประเทศล่ะ?”
“ใช่แล้วประธานจี้ เรื่องนี้มันไม่ใช่แค่จ่ายค่าธรรมเนียนของตัวแทนได้แล้วทุกอย่างจะเรียบร้อย” หยางเต๋อจ้าวกล่าวต่อไปว่า “ในหมู่พวกเขา หากคุณต้องการให้สิทธิ์แก่บริษัทไหน คุณต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนจริงๆ และอย่างที่คุณซูบอก ช่องทางการขายในเจียงโจวของบริษัทยาฉางเหอไม่เพียงพอสำหรับคังหยวนสลิมมิ่งพาวเดอร์ของเรา เพราะต่อให้มันดังแค่ไหนแต่บุกตลาดไม่ได้ก็เปล่าประโยชน์ การเข้ายึดตลาดในระยะแรกนั้นเกี่ยวข้องโดยตรงกับการพัฒนาโรงงานยาของเราในอนาคต!”
จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยคิดถึงเรื่องเหล่านี้ แต่ในสายตาของเขา เขามองว่าบริษัทยาฉางเหอก็เทียบเท่ากับร้านแฟรนไชส์ และลูกค้าคนอื่นๆ ก็เทียบเท่ากับผู้ที่มาซื้อของที่ร้าน ดังนั้นวิธีการโปรโมตผ่านช่องทางต่างๆ วิธีการขนส่งและปัญหาอื่นๆ ก็ควรอยู่ที่ลูกค้าเหล่านั้น พวกเขาจะต้องหาวิธีและทำมันอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม หลังจากฟังที่ซูหยวนและหยางเต๋อจ้าวพูด จี้เฟิงก็พบว่าเขายังคิดได้ไม่ละเอียดถี่ถ้วนพอ ใบยุคของคุณภาพและบริการที่รวดเร็วนี้ ถ้าบริษัทยาฉางเหอไม่สามารถตามความเร็วของการขยายชื่อเสียงในผลิตภัณฑ์ผงลดน้ำหนักคังหยวนได้ ก็เกรงว่าจะมีสถานการณ์ที่ยอดขายและชื่อเสียงไม่สอดคล้องกันอย่างมาก
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จี้เฟิงก็เงยหน้าขึ้นและถามว่า “แล้วพวกคุณคิดว่าควรทำอย่างไร?”
“จริงๆแล้วมันง่ายมาก เนื่องจากบอสต้องการจะดูแลบริษัทยาฉางเหอ มันไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพียงแค่เราให้สิทธิแก่บริษัทยาฉางเหอแค่ในเจียงโจว ส่วนเรื่องค่าธรรมเนียมตัวแทน เราก็จัดการอย่างที่บอสพูดเมื่อกี้ได้เลย... ส่วนที่อื่นๆในประเทศจีน สำหรับสิทธิ์ของหน่วยงานระดับภูมิภาค อันดับแรก เราก็พิจารณาเป็นรายๆไป จากนั้นจึงดูช่องทางและจุดแข็งที่ครอบคลุมของคนเหล่านี้ จากนั้นค่อยตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้ายว่าจะให้สิทธิ์แก่หน่วยงานไหน!”
“แล้วคุณวางแผนจะแบ่งภูมิภาคอย่างไร ตามจังหวัดเหรอ?” จี้เฟิงถาม
“ใช่ค่ะ นี่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดแล้ว ตัวแทนทุกคนจะพยายามปกป้องสิทธิ์และผลประโยชน์ของตนเอง พวกเขาจะรับรองได้ว่าราคาตลาดจะไม่เกิดความสับสนและไม่ข้ามช่องทางกันและกัน... ควบคู่ไปกับการดูแลของเรา ฉันเชื่อว่าการโปรโมตคังหยวนสลิมมิ่งพาวเดอร์จะต้องราบรื่นและแพร่กระจายไปทั่วประเทศได้อย่างรวดเร็ว!” ซูหยวนกล่าวอย่างมั่นใจ
หลังจากฝึกฝนมาระยะหนึ่ง นิสัยที่มักจะประนีประนอมของเธอได้พัฒนาขึ้นในขณะที่ดูแลจัดการโรงงานเซียว ตอนนี้มันได้หายไปอย่างสมบูรณ์ และแทนที่ด้วยความสามารถและความมั่นใจในตนเอง ออร่าของเธอเต็มไปด้วยความน่าเกรงขามและมีเสน่ห์!
“งั้นก็ทำตามที่เธอพูดเถอะ!” จี้เฟิงพยักหน้าทันที “ก่อนหน้านี้ผมไม่ได้คิดให้รอบคอบ ซูหยวน ลุงหยาง ต้องขอบคุณพวกคุณสองคนมากเลยนะ ไม่อย่างนั้นผมคงได้ทำผิดพลาดอีกครั้งแน่ และในอนาคต ผมก็อยากให้โรงงานเซียวของเราเป็นอย่างนี้ต่อไป อาศัยความพยายามและร่วมกันเพื่อพัฒนาโรงงานเซียวของเรา!”
“ได้เลยค่ะ บอสไม่ต้องเป็นห่วง เราจะไม่ยอมให้โรงงานเซียวพังลงอย่างแน่นอน เพราะนั่นเท่ากับว่าพวกเราต้องตกงาน แล้วใครจะจ่ายค่าแรงพวกเราล่ะคะ!” ซูหยวนหัวเราะคิกคัก
หยางเต๋อจ้าวพยักหน้าและยิ้ม แต่ในใจเขารู้สึกซาบซึ้งในทัศนคติที่ดีของจี้เฟิงมาก น้อยคนนักที่จะเป็นอย่างจี้เฟิง
คนสมัยนี้ โดยเฉพาะคนหนุ่มสาว เมื่อพวกเขาประสบความสำเร็จ แม้ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อย พวกเขาก็จะมั่นใจในตัวเองจนมากเกินไปในทันที และไม่รับฟังความคิดเห็นของคนอื่น ไม่ต้องพูดถึงความคิดเห็นที่แตกต่างกับตัวเอง
แต่จี้เฟิงนั้นแตกต่างออกไป เขาไม่อายที่จะเปิดเผยข้อบกพร่องของตัวเองเลย เขาชอบที่จะเรียนรู้และก็มีทัศนคติเชิงบวก.... ตราบใดที่มันดี เขาจะรับฟังอย่างตั้งใจ และเมื่อเป็นความคิดเห็นที่แตกต่าง เขาจะจริงจังและโต้เถียงด้วยเหตุผล...
และเมื่อได้บุคคลเช่นนี้มาควบคุมโรงงานผลิตยา แล้วเหตุใดจึงจะไม่มีอนาคตที่สดใสสำหรับโรงงานแห่งนี้?!
...จบบทที่ 743~❤️