SWO ตอนที่ 49 โทษที ข้ามาช้าไปหน่อย!
บูม
ผู้บัญชาการจ้าวที่ไม่สามารถหลบได้ทันโดนหางหนึ่งฟาดเข้าใส่ ร่างของเขาบินออกไปราวกับว่าวสายขาด และกระแทกเข้ากับหินที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยเมตร
พัฟ!
ผู้บัญชาการจ้าวกระอักเลือดออกมาขณะที่เกราะบนร่างเขาแตกเป็นเสี่ยง ๆ
แค่การปะทะกันเพียงครั้งเดียวมันกลับทำให้เขาเกือบสูญเสียพลังทั้งหมดไป แต่ตอนนี้เขายังต้องลุกขึ้นเพื่อดึงดูดความสนใจต่อไป
มิฉะนั้นหากมิงค์เมฆาเจ็ดหางหันไปโจมตีเหอเปียว และคนอื่น ๆ ผลลัพธ์จะจบลงอย่างเลวร้าย
ผู้บัญชาการจ้าวหยิบขวดยาออกมาจากกระเป๋ามิติที่ติดอยู่กับชุดเกราะ ก่อนกลืนเข้าไปทั้งหมดรวดเดียว ไม่นานซี่โครงที่หักของเขาก็เริ่มฟื้นตัวทันที
“ทางนี้โว้ย ไอ้ขยะ!”
เขารีบวิ่งออกไปทันที
“ท่านผู้บัญชาการจ้าว!” เหอเปียว และคนที่เหลือตะโกนขึ้นขณะพยายามหนีจากหางของมิงค์เมฆาเจ็ดหางอย่างสิ้นหวัง
ปัง! ปัง!
ร่างกายของผู้บัญชาการจ้าวบินถอยหลังไปอีกครั้งพร้อมกับอาการบาดเจ็บที่ยิ่งมายิ่งรุนแรงขึ้น
เวลานี้ในที่สุดกลุ่มของเจิ้นหง และปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธอีกกลุ่มก็มาถึง เมื่อพวกเขาเห็นสภาพของผู้บัญชาการจ้าว พวกเขาจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยทันทีโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของตนเอง
ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธสามคนร่วมมือกันเพื่อป้องกันหางของมิงค์เมฆาเจ็ดหาง และการโจมตีของมังกรน้ำแข็ง ส่วนเจิ้นหงหยิบเม็ดยาออกมา และป้อนให้กับผู้บัญชาการจ้าวที่เกือบจะหมดสติทันที
“ท่านผู้บัญชาการจ้าว โปรดแข็งใจไว้ ผู้อาวุโสโจวใกล้จะมาถึงแล้ว!” เจิ้นหงตะโกนอย่างเร่งรีบเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บัญชาการจ้าวหมดสติ
ผู้บัญชาการจ้าวหยิบกระบี่ขึ้นมาอย่างทุลักทุเล และฟันเข้าที่ร่างกายของตน เลือดไหลออกมาพร้อมด้วยความเจ็บปวดรุนแรงที่ปลุกเขาให้ตื่น
ผู้บัญชาการจ้าวเบิกตากว้างทันทีขณะอดทนต่อความเจ็บปวดอย่างรุนแรง “จะ เจิ้นหง เราต้องรวมกลุ่มกับเหอเปียว และคนอื่น ๆ โดยเร็วที่สุด เพราะนี่เป็นทางเดียวที่เราจะรอด!”
เจิ้นหงพยักหน้า เขารู้ดีว่ามิงค์เมฆาเจ็ดหางนั้นทรงพลังเพียงใด
"ไปกันเถอะ!"
เขาคำรามเสียงต่ำพร้อมทั้งวิ่งไปทางเหอเปียวโดยมีผู้บัญชาการจ้าวอยู่บนหลัง
ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธอีกสามคนเคลื่อนตัวไปทางเหอเปียวเช่นกัน พร้อมทั้งรับมือกับการโจมตีที่เข้ามาไปด้วย
แม้จะห่างออกไปเพียงสี่ถึงห้าร้อยเมตร แต่ทั้งสี่คนต้องใช้เวลาเกือบ 4 นาทีจนในที่สุดพวกเขาก็กลับมาร่วมกลุ่มกับเหอเปียว และคนอื่น ๆ ได้สำเร็จ
ถึงจุดนี้ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธทั้งแปดที่รวมตัวกันได้สำเร็จได้ร่วมมือกัน และค่อย ๆ ระงับความเย่อหยิ่งของมิงค์เมฆาเจ็ดหางอย่างช้า ๆ
ชี่!
มิงค์เมฆาเจ็ดหางส่งเสียงคำรามแปลก ๆ
คลื่นพลังงานที่มองไม่เห็นกวาดออกไป
ผู้บัญชาการจ้าวที่เห็นดังนั้นรีบตะโกนขึ้นทันที “เป็นการโจมตีทางจิต เปิดใช้งานหน้ากากพลังงาน!”
คลิก
เหอเปียว และคนอื่น ๆ ตอบสนองอย่างรวดเร็ว ตาข่ายพลังงานสีน้ำเงินปรากฏขึ้นบนหน้ากากทันที ทำให้คลื่นพลังงานที่มองไม่เห็นอ่อนลง
ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังรู้สึกเวียนหัว
แคล็ก!
ตอนนั้นเองที่อากาศโดยรอบเริ่มบิดเบี้ยว พร้อมกับแมลงสีดำที่คล้ายกับแมงมุมเริ่มปรากฏออกมาทีละตัว
“นะ… นั่นมันแมลงเงา!!”
เหอเปียว และคนอื่น ๆ ที่เพิ่งหายจากอาการเวียนศีรษะ เมื่อเห็นแมลงคล้ายแมงมุมสีดำเหล่านี้ ใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นซีดเผือด
พลังโจมตีของแมลงเงาอาจไม่สูงก็จริง แต่ความเร็วของพวกมันนั้นเข้าขั้นน่าตกใจ หากแมลงเงาฉวยโอกาสโจมตีขณะที่พวกเขากำลังง่วนอยู่กับการรับมือมิงค์เมฆาเจ็ดหาง การโจมตีของพวกมันจะเปลี่ยนเป็นอันตรายระดับถึงแก่ชีวิตอย่างไม่ต้องสงสัย
กรี๊ซ! กรี๊ซ! กรี๊ซ!
แมลงเงาทั้งหกจู่โจมทันทีหลังจากปรากฏตัว
ขาแมงมุมของพวกมันเป็นราวภาพลวงตา ขณะที่รีบวิ่งเข้ามาในวงล้อมของหางสีขาว ขาแมงมุมที่แหลมคมของพวกมันแทงไปทางเหอเปียว และปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธอีกแปดคน
ฉัวะ!
เหอเปียวและคนอื่น ๆ ไม่สามารถต้านทานได้เลย และทำได้เพียงปล่อยให้แมลงเงาเจาะทะลุเกราะของพวกเขา
“อดทนไว้ทุกคน! อดทนไว้!!”
ผู้บัญชาการจ้าวกัดฟันและยืนขึ้น กระบี่ของเขาตัดขาแมงมุมออกทีละข้าง แต่เนื่องจากมีมากเกินไป หลังจากตัดขาข้างหนึ่งออก อีกข้างก็จะปรากฏขึ้นแทนที่
“อ๊ากก!” เกราะของปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธถูกเจาะทะลุมากกว่าสิบรู เลือดจำนวนมากไหลออกมา เขาคำรามซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยความเจ็บปวดพร้อมทั้งใบหน้าที่บิดเบี้ยว
สถานการณ์ของเหอเปียวไม่ได้ดีกว่ากันนัก กระบี่ในมือของเขาฟันออกไปอย่างบ้าคลั่งขณะตะโกน “ตาย ตายซะ พวกแกทุกตัวจงตายให้ข้าซะ!”
ขณะที่เขาคำราม ร่างของเขาก็ค่อย ๆ หลุดออกจากกลุ่ม
เมื่อผู้บัญชาการจ้าวเห็นสิ่งนี้ เขาจึงตะโกนด้วยความกังวล “เหอเปียว กลับมา!!”
เจิ้นหงที่ตื่นตัวอยู่เสมอสะบัดเชือกอีกเส้นจากเกราะเพื่อมัดตัวเหอเปียว และดึงเขากลับมา
อย่างไรก็ตามขาแมงมุมที่มีอยู่หนาแน่นได้รอโอกาสนี้อยู่แล้ว
เมื่อเห็นว่าขาแมงมุมที่แหลมคมกำลังจะเจาะหมวกของเหอเปียวเพื่อโจวตีหัวของเขา…
ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธคนอื่น ๆ จึงดิ้นรนอย่างสุดกำลังขณะพยายามช่วยเหอเปียว
ผู้บัญชาการจ้าวก็โจมตีไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน
แต่น่าเสียดายที่ขาแมงมุมมีมากเกินไป หนำซ้ำหางสีขาวขนาดใหญ่ก็กำลังรอโจมตีตอนที่พวกเขาเปิดช่องว่างเช่นกัน ระยะห่างสามถึงสี่เมตรระหว่างเหอเปียว และปรมาจารย์คนอื่น ๆ จึงเป็นราวกับคูน้ำที่ข่ามผ่านไม่ได้!
จิ! จิ!
ขาแมงมุมที่แหลมคมระดมแทงอย่างบ้าคลั่งหมายจะเปลี่ยนหมวกให้กลายเป็นตะแกรง
เมื่อเห็นดังนั้น เจิ้นหง และคนอื่น ๆ ถึงกับน้ำตาไหล เพราะพวกเขารู้ว่าเหอเปียวจบสิ้นแล้ว!
บูม!!
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาวิกฤตินี้เอง…
แรงกดดันจากแก่นโลหิตที่รุนแรง และน่าสะพรึงได้กวาดมาแต่ไกล
อากาศโดยรอบแทบหยุดนิ่ง
ขาแมงมุมที่กำลังจะแทงเข้าที่หัวของเหอเปียวหยุดกะทันหันราวกับถูกใครบางคนคว้าไว้
ทันใดนั้นแสงกระบี่ก็ปรากฏขึ้น
หางสีขาวขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบเหอเปียว และคนอื่น ๆ ขาดสะบั้นทันที
โจวเฮาซึ่งสวมชุดเกราะสีแดงปรากฏตัวต่อหน้าผู้บัญชาการจ้าว และคนที่เหลือ
"ขอโทษทีที่มาช้าไปหน่อย.."