ตอนที่แล้วSTY-ตอนที่ 78 ถอนรากถอนโคน!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSTY-ตอนที่ 80 เตรียมลงจากเขา!

STY-ตอนที่ 79 ค่ำคืนของทั้งสามคน!


หน้าอกของศิษย์พี่หญิงใหญ่ซู่ชิวหยาได้แตะโดนที่ใบหน้าของ เย่เฉิน

ในขณะที่ด้านหลังของเขาก็ต้องเผชิญกับหน้าอกที่ไม่ใหญ่และไม่เล็กเกินไปของศิษย์พี่หญิงเจ็ดจ้าวซือเหยา

หน้าอกของศิษย์พี่หญิงเจ็ดไม่ได้ใหญ่มาก แต่เมื่อเทียบกับ 3 ปีก่อนมันถือได้ว่าพัฒนาขึ้นมากทีเดียว

“ศิษย์น้องเล็ก ดื่ม!”

ในเวลานี้ ซู่ชิวหยา ได้ยกจอกเหล้าขึ้นมาและป้อนเข้าไปในปากของ เย่เฉิน

จ้าวซือเหยา รู้สึกเมาเล็กน้อยและเวียนศีรษะ ทำให้นางมาที่ด้านข้างของ เย่เฉิน และ กุมมือของ เย่เฉิน พร้อมกับกดร่างของเขาลงไป

“เย่เฉิน ถึงเวลานอนแล้วงั้นเหรอ?”

เพื่อผลประโยชน์ในการพัฒนาร่างกายของนาง ตั้งแต่เหล่าศิษย์พี่หญิงของ เย่เฉิน จากไป ศิษย์พี่หญิงเจ็ดก็มักจะคลานไปนอนที่เตียงของเขา

นางได้ทำเช่นนี้จนติดเป็นนิสัย

“ศิษย์พี่หญิงเจ็ด นี่มันไม่ดีเลย ศิษย์พี่หญิงใหญ่ก็ยังอยู่ที่นี่?”เย่เฉิน มองไปที่ ศิษย์พี่หญิงเจ็ดจ้าวซือเหยา ด้วยสีหน้าที่ทำอะไรไม่ถูก

ในเวลานี้ จ้าวซือเหยา ได้ยืดตัวและจับมือของเย่เฉิน มาวางไว้บนหน้าอกของนาง “หืม เย่เฉิน เจ้าไม่ชอบข้างั้นเหรอ?หรือว่าพอมีศิษย์พี่หญิงใหญ่แล้วเจ้าก็ไม่ต้องการข้าอีกต่อไป!”

เย่เฉิน มองไปที่ ศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขาอย่างช่วยไม่ได้

“หากข้าไม่ชอบท่าน ข้าจะเต็มใจช่วยท่านไปทำไม?”เย่เฉิน รีบอธิบาย

“เจ้าไม่ต้องการมันงั้นเหรอ?”จ้าวซือเหยา ได้บีบมือของ เย่เฉิน แน่น

ในปัจจุบัน ซู่ชิวหยา ก็มองไปที่เย่เฉินและเผยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมา “เฉินน้อย ในเมื่อศิษย์น้องเจ็ดต้องการ เจ้าก็ตอบสนองนางได้ ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่าเจ้าต้องการจะครอบครองพวกเราทั้งหมดหรอกเหรอ?”

“ศิษย์พี่หญิงใหญ่ นี่ท่าน…”

“เป็นอะไรไป? หรือว่าศิษย์น้องเล็กไม่กล้าทำตอนนี้?”

เย่เฉิน ที่ถูกแกล้งโดยศิษย์พี่หญิงทั้ง 2 คน เปลวไฟในใจของเขาได้ลุกไหม้อย่างดุเดือด

“ใครบอกว่าข้าไม่กล้า?”

เย่เฉิน ได้กระโจนเข้าหาศิษย์พี่หญิงใหญ่ในทันที

พวกเขาได้เล่นสนุกกันทั้งคืน

โดยทั้ง 3 คนที่ดื่มกันทั้งคืน ในที่สุด พวกเขาทั้งหมดก็หลับสนิท

เช้าวันรุ่งขึ้น

บนเตียงของศิษย์พี่หญิงใหญ่ เย่เฉิน กำลังนอนหลับอยู่ตรงกลางพร้อมกับเหล่าศิษย์พี่หญิงในอ้อมแขนของเขา

เย่เฉิน มองไปที่ ศิษย์พี่หญิงเจ็ดที่กำลังนอนอยู่ในอ้อมแขนของเขา และ หัวของนางก็วางอยู่บนไหล่ของเขา

จากนั้นเขาก็มองไปที่ ศิษย์พี่หญิงใหญ่ และ ศิษย์พี่หญิงเจ็ดพร้อมกัน เขาไม่รู้ว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ดูเหมือนว่าเขาจะดื่มมากเกินไปจนหมดสติ

แต่มันไม่น่าจะเกิดขึ้นตอนที่เขากำลังจะเล่นจ้ำจี้กับศิษย์พี่หญิงทั้ง 2 ของเขาหรอกใช่มั้ย?

แสงแดดยามเช้าได้ปรากฏขึ้น เย่เฉิน ได้ลุกขึ้น และ เพลิดเพลินไปกับแสงแดดแรกอรุณ

เย่เฉิน ได้สร้างนิสัยส่วนตัวขึ้นมา แผนหนึ่งปีในช่วงฤดูใบไม้ผลินั้น คือในตอนเช้า จะเป็นเวลาที่ เย่เฉิน จะต้องฝึกฝน ในเวลานี้ไม่ว่าเขาจะทำอะไรเขาก็จะต้องหยุดลง

เย่เฉิน ได้เหยียดร่างกายของเขาและเริ่มลงชื่อเข้าใช้เพื่อฝึกฝน

“ยืนยันเข้าใช้!”

[ติ๊ง ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ลงชื่อเข้าใช้สำเร็จ คุณได้รับน้ำอมฤตระดับศักดิ์สิทธิ์ น้ำยาฟื้นคืนชีพ!]

[โอสถทิพย์นี้สามารถนำคนตายที่ร่างกายและจิตวิญญาณยังไม่แตกสลายกลับมาได้]

ทันใดนั้น โอสถทิพย์ก็ปรากฏขึ้นในมือของเย่เฉิน

น้ำยาฟื้นคืนชีพ

โอสถทิพย์ที่สามารถนำคนตายกลับมาได้ กล่าวโดยรวมคือโอสถทิพย์ระดับศักดิ์สิทธิ์อันนี้ควรค่าแก่ระดับของมัน

ด้วยโอสถทิพย์วิเศษนี้ มันก็เทียบเท่ากับการที่เขามีวิธีการช่วยชีวิตที่พิเศษ

ตราบใดที่ร่างกายยังไม่พังทลายและจิตวิญญาณยังไม่สลายหายไป การบริโภคโอสถทิพย์อันนี้จะสามารถทำให้ฟื้นคืนชีพจากความตายได้

อย่างไรก็ตาม หากร่างกายและจิตวิญญาณสลายไป แม้จะมีโอสถทิพย์อันนี้ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตได้

ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

เย่เฉิน ได้เตรียมตัวจนพร้อม

เขาได้ลงชื่อเข้าใช้ในทุกสถานที่ของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์หลายครั้งแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น เขายังอายุ 16 ในปีนี้ ถือได้ว่าก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่อย่างเต็มตัว ตราบใดที่เขาไปถึงอาณาจักรก่อตั้งจิตวิญญาณ เขาจะได้รับอนุญาติให้ลงจากเขาไปฝึกฝน

อย่างไรก็ตาม เขาในปัจจุบันกลับมีพลังอยู่ในอาณาจักรทันฑ์สวรรค์แล้ว แต่เขาก็ไม่ได้เปิดเผยเรื่องนี้ให้คนนอกรู้

ดังนั้น เย่เฉิน ในปัจจุบัน เกือบจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ยงคงกระพัน

ดูเหมือนว่าได้เวลาที่เขาจะลงจากเขาแล้ว

นอกจากนี้ ข้อกำหนด 3 ปีระหว่างเขากับศิษย์พี่หญิงของเขาก็ควรจะสำเร็จแล้ว

เย่เฉิน ได้ไปพบแม่ของเขาและปรึกษาเรื่องนี้กับนาง

ลูกชายของนางต้องการลงจากเขาไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เพราะตอนนี้เขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว โดยพื้นฐานแล้ว เซียนหยกอมตะ ก็เห็นด้วย

แน่นอนว่าก่อนหน้านี้ เย่เฉิน ได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับแนวป้องกันของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ เว้นเสียแต่ว่ารูปแบบก่อตัวนี้จะเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลัง เพราะแม้แต่ผู้ที่บุกทะลวงและผ่านอาณาจักรทันฑ์สวรรค์ไปก็ไม่สามารถฝ่าวงล้อมในปัจจุบันได้

ด้วยการปกป้องของแนวป้องกันเหล่านี้ แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ จะปลอดภัยอย่างแน่นอน

อย่างน้อยคนจากเมืองหยุนไท่ ก็ไม่มีใครสามารถทำร้ายแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ได้

หลังจากที่ เย่เฉิน ทำทั้งหมดนี้แล้ว เขาก็รู้สึกสบายใจ เพราะว่าแม่ของเขายังคงรอเขาอยู่ที่นี่

นอกจากนี้เขายังได้เลือกเทคนิคการบ่มเพาะพลังและเทคนิคต่อสู้บางอย่างที่เขาไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งเขาได้ส่งมันให้ เถาลวี่ ไปมอบให้กับประมุขนิกายอวี๋เซียว

สำหรับเทคนิคบ่มเพาะพลังและเทคนิคต่อสู้แล้ว ภายในระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา เขาได้รับมันมาค่อนข้างมาก

ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่ได้ต้องการพวกมันทุกอัน เพราะสำหรับอันที่เขาใช้ไม่ได้ เขาก็จะมอบมันให้กับแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ และ ปล่อยให้ผู้ที่สามารถฝึกฝนได้ ได้ฝึกฝนมัน

แต่ก่อนจะไป เย่เฉิน ได้พาศิษย์พี่หญิงใหญ่และศิษย์พี่หญิงเจ็ดไปคาราวะแม่ของเขาก่อน!

และสิ่งแรกที่ เย่เฉิน อยากจะทำหลังจากลงจากเขาก็คือการล้างแค้นให้กับศิษย์พี่หญิงใหญ่ของเขา!

ดังนั้น เป้าหมายของเขาก็คือเมืองหยุนไท่

เมืองหยุนไท่

เจ็ดตระกูลใหญ่ได้มาประชุมกันอีกครั้ง

เมื่อไม่กี่วันก่อน มีขาวจากแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ที่บอกว่า โม่หยุนเฟย ที่นำกองกำลังของนิกายปีศาจทมิฬบุกโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ จนท้ายที่สุด พวกเขาก็ถูกทำลายโดยแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์

ทีแรกก็ไม่มีใครกล้าเชื่อ

เพราะ โม่หยุนเฟย เป็นผู้เชี่ยวชาญในอาณาจักรทันฑ์สวรรค์แล้ว

และ คนที่แข็งแกร่งที่สุดของ แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ ก็อยู่ที่อาณาจักรเทวะเท่านั้น ดังนั้นใครกันที่เป็นคนฆ่า โม่หยุนเฟย?

นอกจากนี้ แม้ว่า ปรมาจารย์ยุทธ์ของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์จะฝ่าฝันความยากลำบากไปได้ เขาก็ควรจะอยู่ในระยะต้นของอาณาจักรทันฑ์สวรรค์ เต็มที่ก็น่าจะต่อสู้สูสีกับ โม่หยุนเฟย เท่านั้น แต่แล้วนิกายปีศาจทมิฬถูกกวาดล้างไปได้ยังไง?

เซียวเลี่ย ได้ส่งคนไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์เพื่อตรวจสอบในที่สุดเขาก็ได้รับการยืนยันว่าข้อมูลทั้งหมดเป็นความจริง

นิกายปีศาจทมิฬที่บุกโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์พวกเขาได้ถูกกวาดล้างไปทั้งหมด

แม้แต่ ประมุขนิกายปีศาจทมิฬโม่หยุนเฟย ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรทันฑ์สวรรค์ก็ไม่รอด

เซียวเลี่ย ที่นั่งอยู่บนที่นั่งหลักได้พึมพัมออกมา “ข้าแน่ใจว่าทุกคนเองก็น่าจะได้ยินมาว่านิกายปีศาจทมิฬถูกกำจัดไปหมดแล้ว?”

บรรยากาศในตอนนี้ค่อนข้างตึงเครียดมากมันทำให้ทุกคนได้พยักหน้าพร้อมกัน

เซียวเลี่ย ได้ถอนหายใจออกมา “นี่ก็หมายความว่าแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ได้ผลิตผู้เชี่ยวชาญที่ก้าวเข้าสู่อาณาจักรทันฑ์สวรรค์ ณ จุดนี้ แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ จึงได้กลายเป็นนิกายอมตะระดับสูงแล้ว…”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด