STY-ตอนที่ 77 แสดงความไร้เทียมทานให้เห็น!
“หยิ่งยโสยิ่งนัก!”โม่หยุนเฟย รู้สึกโกรธมาก
“ข้าเองก็ต้องการจะเห็น ว่าปรมาจารย์ยุทธ์ผู้อยู่ยงคงกระพันของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ จะคงกระพันตามชื่อของเจ้าหรือไม่!”โม่หยุนเฟย เต็มไปด้วยร่องรอยของความเกลียดชัง ในที่สุด เขาก็ได้พบกับ เย่เฉิน ดังนั้น เขาจึงต้องการระบายความเกลียดชังในใจของเขาทั้งหมดออกมา
ทันใดนั้น ร่างกายของ โม่หยุนเฟย ก็ปกคลุมไปด้วยหมอกสีดำ พลังที่กลอกกลิ้งอยู่บนตัวของเขาได้พลุ่งพล่านทันที
ณ ตอนนี้
แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์
“นี่ได้ยินหรือไม่?ดูเหมือนว่าท่านปรมาจารย์ยุทธ์จะปรากฏตัวออกมาแล้ว!”
ศิษย์บางคนได้รีบมาแจ้งข่าว
“อะไรนะ?ท่านปรมาจารย์ยุทธ์ปรากฏตัวแล้ว?เขามีลักษณะอย่างไร?”
“ข้าเองก็ไม่รู้ เพราะเขานั้นสวมหน้ากาก แต่เขาควรจะหล่อมาก เพราะเสียงของเขายังเด็กมาก!”
…
จากนั้น ข่าวก็แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว
“อะไร?ท่านปรมาจารย์ยุทธ์ปรากฏตัวแล้ว?อีกทั้งเขายังเป็นบุรุษที่งดงามอีกงั้นหรือไม่?”
…
“ท่านปรมาจารย์ยุทธ์ที่กำลังต่อสู้กับโม่หยุนเฟย แท้จริงแล้วเขาเป็นสตรีงั้นหรือไม่?”
…
“อะไรนะ?ท่านปรมาจารย์ยุทธ์ของพวกเราไม่ใช่มนุษย์?”
ข่าวลือได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว แม้ว่ามันจะมีการเบี่ยงเบนไปบ้าง แต่ ศิษย์ทุกคนก็เข้าใจสิ่งนึง
นั่นก็คือ ปรมาจารย์ยุทธ์ของพวกเขาที่ไม่เคยปรากฏตัวขึ้นมาก่อน ในปัจจุบันได้ปรากฏตัวออกมาแล้ว
ในขณะนี้ แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์เต็มไปด้วยความโกลาหล
เหล่าศิษย์ดูเหมือนจะเป็นบ้าไปแล้วในขณะที่พวกเขารีบมุ่งหน้าไปที่ ยอดเขาอวี๋เซียว เพื่อยลโฉมใบหน้าที่แท้จริงของท่านปรมาจารย์ยุทธ์
ดังนั้น เหล่าศิษย์ของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์จึงได้พุ่งไปที่ด้านบนทีละคน
เหล่าศิษย์ของทั้ง 4 ยอดเขา ต่างก็มารวมตัวกันที่ ยอดเขาอวี๋เซียว
แม้ว่า ยอดเขาอวี๋เซียว จะเป็นสถานที่จัดประชุมระหว่างเหล่าศิษย์ แต่ฉากแบบนี้คงไม่มีทางเกิดขึ้น
ทุกคนได้มองขึ้นไปบนท้องฟ้าและพบชายหนุ่มในชุดยาวสีขาวที่สวมหน้ากาก อีกฝ่ายดูเหมือนคุณชายที่ดูสง่างามเป็นอย่างมาก
“เขาคือปรมาจารย์ยุทธ์ของพวกเรางั้นหรือไม่?เหตุใดถึงดูเด็กจัง?”
“เจ้าจะรู้อะไร?ผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งจะสามารถคงความเยาว์ของตนเองไว้ได้ตลอดไป!”
“ว่าแต่ทำไมเขาถึงสวมหน้ากาก?”
“เขาย่อมไม่ต้องการเปิดเผยใบหน้าของตัวเอง ใครจะรู้ความคิดของท่านปรมาจารย์ไม่ใช่สิ่งที่เราสามารถคาดเดาได้!”
ทั่วทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ได้กลายเป็นโกลาหลทันที
เพราะว่าภายในแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ มีหลายครั้งที่ปรมาจารย์ยุทธ์ได้เคลื่อนไหว ดังนั้น ทุกคนในแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์จึงรู้สึกเคารพและบูชาปรมาจารย์ยุทธ์คนนี้!
ในขณะนี้ โม่หยุนเฟย มองไปที่ เย่เฉิน อย่างเย็นชา
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะโด่งดังมากในแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ของเจ้า!”
เย่เฉิน ยิ้มและมองไปที่ โม่หยุนเฟย “เจ้ามาที่นี่เพื่อต่อสู้หรือเพื่อพูด? รีบเร่งมือเร็วเข้า ภรรยาของข้าได้อุ่นเหล้าและรอให้ข้ากลับไปดื่มอยู่!”
เย่เฉิน ไม่ได้กล่าวชื่อ ศิษย์พี่หญิงใหญ่ซู่ชิวหยาของเขา
ทว่าเรื่องนี้มันก็ยังมีมูลความจริงอยู่
เพราะศิษย์พี่หญิงใหญ่ของเขาก็ไม่ต่างไปจากภรรยาของเขาในอนาคต
“อวดดียิ่งนัก มาดูกันว่าวันนี้ข้าจะเชือดเจ้ายังไง!”
ในขณะนี้ โม่หยุนเฟย ได้ถือกระบี่สีดำในมือและฟันไปยังทิศทางของ เย่เฉิน
หมอกสีดำได้พุ่งเข้าหา เย่เฉิน ในทันที
ทว่า เย่เฉิน ก็ได้เอื้อมมือขวาออกมาทันที
ฟุ่บ!
ทันใดนั้น กระบี่ยาวก็ได้ปรากฏขึ้นในมือของเขา
เย่เฉิน ได้ฟันการโจมตีออกไปเล็กน้อย และ หมอกสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนก็ได้สลายหายไปอย่างไร้ร่องรอยต่อหน้าของทุกคน
จากนั้นเขาก็ยกกระบี่ยาวและฟันไปที่ โม่หยุนเฟย
เย่เฉิน ไม่ชอบที่จะเสียเวลาไปกับการต่อสู้
มันก็เหมือนกับการเล่นเกม
หากเขาสามารถกำจัดศัตรูได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว เขาก็จะไม่ใช้กระบวนท่าที่สองอย่างแน่นอน!
ดังนั้น เย่เฉิน จึงได้ใช้เทคนิคกระบี่แท้จริงและควบคุมทันฑ์สายฟ้าจากสวรรค์โดยตรง
เทคนิคนี้สามารถเรียกทันฑ์สายฟ้าสวรรค์เก้าชั้นฟ้าลงมาได้ ดังนั้นมันจึงไม่ควรจะอ่อนแอ
ดังนั้นกระบี่ในมือของเขาจึงเต็มไปด้วยพลังจำนวนมาก
รัศมีพลังปราณกระบี่ได้พุ่งเข้าหา โม่หยุนเฟย
โม่หยุนเฟย ได้หลบปราณกระบี่นี้ในทันที จากนั้น เขาก็มองไปที่ เย่เฉิน ด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา “มีดีแค่นี้เองงั้นเหรอ?เจ้าคิดจะทำร้ายข้าด้วยการโจมตีพรรณนี้?”
เย่เฉิน ไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงแค่รออย่างเงียบ ๆ
เปรี้ยง—
ทันใดนั้นคลื่นพลังสายฟ้าก็ได้ระเบิดท่ามกลางสวรรค์และปฐพี
ท้องฟ้าและปฐพีทั้งหมดต่างกปกคลุมไปด้วยเมฆดำในทันที และ ภายในเมฆดำเหล่านี้ ก็มีสายฟ้าจำนวนมากแล่นผ่าน
เปรี้ยง—
เสียงดังได้ปะทุขึ้นอีกครั้ง
สายฟ้าสีขาวได้ฟาดผ่าลงมา
โดยมันได้กระทบใส่ร่างของ โม่หยุนเฟย อย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้น รัศมีที่ลุกโชติช่วงก็ได้ปรากฏขึ้นบนร่างของ โม่หยุนเฟย
ราวกับว่าร่างกายของเขาได้ถูกเผาไหม้จนเกรียม ผมของเขาได้สลายหายไป และ ทั้งตัวของเขาก็ได้ปล่อยควันสีเขียวออกมา
“นี่เป็นไปได้ยังไง?เจ้าสามารถเรียกทันฑ์สายฟ้ามาได้อย่างไร?”โม่หยุนเฟย มองไปที่ เย่เฉิน ด้วยความตกใจอย่างหาที่เปรียบมิได้
ในขณะนี้ สายฟ้าก็ได้ฟาดผ่าลงมาอีกครั้ง
และมันได้ตกกระทบร่างของ โม่หยุนเฟย เหมือนเดิม
ทันฑ์สายฟ้าครั้งที่ 2
เปรี้ยง!
โม่หยุนเฟย ได้ถูกผ่าอีกครั้ง
เปรี้ยง—
ทันฑ์สายฟ้าครั้งที่ 3…4 และ 5 …
ภัยพิบัติทันฑ์สายฟ้าเหล่านี้ได้ฟาดการโจมตีใส่ โม่หยุนเฟย อย่างต่อเนื่อง
ในขณะนี้ พื้นที่ที่ โม่หยุนเฟย ยืนอยู่ ก็เต็มไปด้วยคลื่นพลังสายฟ้า
โม่หยุนเฟย ที่ยืนอยู่บนท้องฟ้า เขาได้ถูกทันฑ์สายฟ้าฟาดผ่าอย่างต่อเนื่อง และ ไม่มีทางหลบเลี่ยงมันได้เลย
ควันสีเขียวจำนวนมากได้ลอยออกมาจากร่างของเขา
กระทั่งมุมปากยังปรากฏโลหิตไหลออกมา ราวกับว่าร่างกายของเขากำลังปริแตกยังไงยังงั้น
เขาที่ตกอยู่ท่ามกลางภัยพิบัติทันฑ์สายฟ้า ย่อมไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้ ดังนั้น เขาจึงได้พยายามอย่างเต็มที่ในการใช้พลังปราณทั้งหมดเพื่อปกป้องรากวิญญาณและหัวใจของเขา
ในขณะนี้ คนจากนิกายปีศาจทมิฬล้วนตกตะลึง
พวกเขาได้เฝ้าดูประมุขนิกายของพวกเขาตกอยู่ท่ามกลางภัยพิบัติทันฑ์สายฟ้าและฟ้าผ่าอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีหลายคนที่อยากจะเข้าไปช่วยเหลือ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำได้ เพราะแม้แต่ประมุขนิกายของพวกเขายังบาดเจ็บสาหัส ดังนั้นถ้าพวกเขาเข้าไปพวกเขาจะสลายกลายเป็นขี้เถ้าในทันที
“เป็นไปได้ยังไง?เจ้ามีพลังมากขนาดนี้ได้ยังไง?”
“ถ้าข้ารอดไปในวันนี้ ข้าจะกลับมาล้างหนี้แค้นและทำให้เจ้าชดใช้ด้วยชีวิต!”
เย่เฉิน ยิ้มออกมาและตอบกลับ “เจ้าสามารถทำได้ แต่ก็ต้องดูด้วยว่าจะรอดไปได้หรือไม่!”
เย่เฉิน ที่ถือกระบี่ด้วยมือข้างขวาเขาได้จ้องมองไปที่ โม่หยุนเฟย
ในเวลานี้ เขาได้ใช้สองนิ้วของมือซ้ายเคลื่อนไหวไปทางท้องฟ้าและกล่าวออกมา “เทคนิค 13 กระบี่สวรรค์และปฐพี-ทลายเอกภพ!”
การเคลื่อนไหวที่ 13 ทลายเอกภพ
นี่คือเทคนิคกระบี่แรกที่ เย่เฉิน ลงชื่อเข้าใช้และได้รับมันมา
มันทรงพลังเป็นอย่างมากและเป็นวิชากระบี่ที่เย่เฉินชอบมาก
เพราะเมื่อฝึกฝนมันจนถึงขีดสุด มันสามารถ ทลายฟ้าทำลายดินได้!
แม้ว่า เย่เฉิน จะไม่ได้ฝึกมันจนถึงขีดสุด แต่นี่ก็เป็นกระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดของ 13 กระบี่สวรรค์และปฐพี มันย่อมสามารถผ่าทำลาย ประมุขนิกายปีศาจทมิฬโม่หยุนเฟย ได้อย่างง่ายดาย!
เย่เฉิน ไม่ได้ให้โอกาส โม่หยุนเฟย แม้แต่น้อย
เขาได้ฟาดการโจมตีออกไปในทันที
ในขณะนี้ บนท้องฟ้า คลื่นเจตจำนงค์กระบี่ได้รวมตัวกันเป็นกระบี่ขนาดยักษ์ที่ไม่มีใครเทียบได้
กระบี่ขนาดยักษ์นี้ ลักษณะของมันคล้ายกับว่าสามารถทำลายฟ้าดินได้จริง ๆ
ทันใดนั้น เจตจำนงค์กระบี่ก็ตกลงมา
มันได้พุ่งเข้าหา โม่หยุนเฟย ที่ยืนอยู่ท่ามกลางภัยพิบัติทันฑ์สายฟ้า
ปั้ง—
เจตจำนงค์กระบี่นี้ได้ผ่าทะลุกลางลำตัวของ โม่หยุนเฟย
โม่หยุนเฟย ในปัจจุบัน ได้เบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อ
และในพริบตาต่อมา
ร่างกายทั้งหมดของเขาก็เปล่งแสงราวกับว่ากำลังมีอะไรบางอย่างหลุดออกมา
บูม—
เสียงดังสนั่นได้ปะทุขึ้น
ร่างกายของเขาได้ระเบิดทันทีภายใต้เจตจำนงค์กระบี่ที่แข็งแกร่ง
โดยร่างกายทั้งหมดของเขาได้ถูกทำลายโดยการโจมตีของ เย่เฉิน
ในเวลานี้ ผู้คนของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ทั้งหมดต่างก็เงียบลง
เหล่าศิษย์ของนิกายปีศาจทมิฬก็เงียบเช่นเดียวกัน สถานที่ทั้งหมดได้กลายเป็นเงียบสงัด เพราะพวกเขาทั้งหมดได้ตกใจอย่างสุดซึ้งเกี่ยวกับเจตจำนงค์กระบี่ของ เย่เฉิน
“แข็งแกร่ง…แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”
“ท่านปรมาจารย์ยุทธ์คือผู้ไร้เทียมทานอย่างแท้จริง!”
“นี่คือปรมาจารย์ยุทธ์ผู้อยู่ยงคงกระพันของพวกเราใช่หรือไม่?เขาอยู่ยงคงกระพันสมชื่อจริง ๆ!”